ตอนที่13 ไม่ยอมปล่อย

1482 Words
“ลีลามันดีจนลืมไม่ลงเลยเหรอ ถึงอยากไปหาแต่มัน” “กัปตันพูดอะไรคะ? หยาบคายที่สุด” “อยากเป็นดาราหนังโป๊ขนาดนั้นเลยเหรอ” สิ้นเสียงกระซิบเบา ชายตัวโตก็เดินกลับไปทางเดิมทิ้งให้สาวน้อยยืนอึ้งตกใจกับคำพูดเมื่อครู่ “พระพาย เป็นอะไรหรือเปล่า พี่เพลิงเขาพูดอะไร?” “ปะ เปล่า มะ ไม่มีอะไร จุ๊บแจงกลับไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” “เธอไม่เป็นไรแน่นะ?” “อืม ^^” ใบหน้าหวานฝืนยิ้ม แม้ความจริงหน้าของเธอชาจนแทบไม่มีความรู้สึก สาวน้อยบอกลาเพื่อนก่อนจะรีบเดินตามชายตัวโตไปที่ลานจอดรถหน้าตึก แม้ไม่เต็มใจแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบีบให้เธอต้องยอมทำตามที่เขาต้องการ “ หมายความว่ายังไงคะ?” เสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ “ก็หมายความตามนั้น เข้าใจยากตรงไหน?” “ทำแบบนี้ทำไม?” ริมฝีปากสีชมพูสั่นระริก หยดน้ำใสไหลผ่านสองแก้มขาว ดวงตากลมหวานบัดนี้ถูกม่านน้ำตาบกบังไปจนหมด ชายตัวโตเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมเรียบเฉย สายตาไร้อารมณ์มีเงาของคนตัวเล็กสะท้อนอยู่ภายใน นิ้วชี้ช้อนปลายคางเล็กให้เชิดขึ้น หัวแม่มือปาดน้ำตาออกจากสองแก้มขาวอย่างแผ่วเบา “ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้หลุดออกไป มันก็ต้องมีอะไรมาแลก” “แลก!?” “มาเป็นผู้หญิงของฉัน” ใบหน้าคมยกยิ้มเดินกลับเข้าไปนั่งรอในรถ แต่เพียงไม่ถึงนาทีคนตัวเล็กก็เปิดประตูรถเข้ามานั่งเบาะข้างคนขับ “ไม่ค่ะ?” ใบหน้าคมก้มโน้มเข้าใกล้จนแผ่นหลังเล็กแนบติดเบาะ พร้อมเบี่ยงหน้าหลบหลับตาปี๋ “หันกลับมา” เสียงกระซิบระยะใกล้ ลมหายใจอุ่นกระทบแก้มยิ่งกระตุ้นหัวใจของสาวน้อยเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าเล็กค่อยๆ หันกลับมาตามคำสั่ง แต่ลมหายใจที่กระทบผิวยังอยู่ที่เดิมไม่ได้รู้สึกห่างออกไปเลยแม้แต่น้อย อุ๊บ!! อืมม~~ ทันทีที่ได้โอกาส ริมฝีปากหนาก็กดทับบดขยี้ชิงจูบหวานด้วยความกระหาย ก่อนจะแทรกปลายลิ้นควานหารสหวานในโพรงปากเล็ก ยิ่งพยายามปฏิเสธผลักไสชายตัวโตก็ยิ่งกดจูบรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ เมื่อไม่สามารถต่อต้าน เธอจึงปล่อยให้เขาทำอย่างตามใจแต่ยังไม่ทันสิ้นความคิด ความรู้สึกบนต้นขาก็ทำให้สาวน้อยได้สติ หมับ!! มือเล็กจับมือที่กำลังลูบเข้ามาในกระโปร่งเอาไว้พร้อมกับส่งเสียอู้อี้ในลำคอ “อ่ะ! อย่า!” ใบหน้าคมผละจูบ ซุกไซ้ลำคอเล็กกดจูบลงมาจนถึงเนินอกขาว โดยไม่สนใจเสียงหวานที่กำลังเอ่ยปากห้ามไม่หยุดปาก “มันผิดกฎไม่ใช่เหรอคะ กัปตันพูดเองหนิว่าห้ามคนในทีมคบกัน” คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มชะงัก ผละหน้าออกมาจากร่องอกขาวกลับมานั่งที่ของตัวเองถอนหายใจเสียงดังเหลือบมองคนตัวเล็กด้วยความไม่พอใจ “ก็อย่าให้คนอื่นรู้สิ เธอเป็นผู้จัดการ ส่วนฉันเป็นกัปตันทีม?” “แล้วคลิปที่ว่า?” “ก็อยู่ที่พฤติกรรมของเธอ ว่าจะทำถูกใจฉันแค่ไหน” สิ้นคำรถหรูก็เคลื่อนที่ออกไปด้วยความเร็ว @โรงพยาบาลเอกชน ห้องพักส่วนตัวมีป้ายแขวนหน้าประตูไว้ว่า ‘VIP ห้ามรบกวน’ แต่กลับมีเสียงหัวเราะพูดคุยเสียงรอดออกมาจากภายในห้อง แกร็ก! “เสียงดังออกไปถึงข้างนอก พวกมึงคิดว่าโรงพยาบาลเป็นสนามฟุตบอลหรือไง?” ประตูห้องเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงบ่น ทำให้คนที่อยู่ภายในห้องหันมองพร้อมหุบปากเงียบ ขุนเขา: “เป็นอะไรของมึง มาถึงก็บ่นเป็นคนแก่เลย” ซัน: “นั้นดิ” “อ้าว พระพายก็มาด้วยเหรอครับ คิดถึงพี่ใช่ไหมล?” คนป่วยบนเตียงเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ทันทีที่เห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากด้านหลังของร่างกำยำที่ยืนบังจนมิด “สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน พี่คิมหันต์เป็นยังไงบ้างคะ วิ่งลงจากเตียงได้หรือยัง” เสียงหวานหยอกเย้าก่อนจะเดินเข้าไปยืนใกล้ๆพร้อมยื่นกระเช้าให้คนป่วย “เห็นหน้าพระพายพี่ก็หายดีแล้วล่ะครับ” “ถ้าหายแล้วก็ลงจากเตียงไปซ้อม” “โห้ ไอ้เพลิง กูเจ็บขนาดนี้มึงยังจะให้กูไปซ้อมอีกเหรอ?” “แล้วหมาตัวไหนบอกว่าหายแล้ว” คิมหันต์ถอนหายใจยาว ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความเบื่อหน่าย แต่สายตายังมองหน้าสาวน้อยข้างเตียงไม่ยอมล่ะ “นี้ก็เย็นแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอกลับก่อนนะครับ” หนึ่งในสมาชิกทีมบอกกล่าวรุ่นพี่และคนป่วย ก่อนจะค่อยๆทยอยเดินกลับออกไปจากห้องจนเกือบหมด “พระพาย กลับพร้อมกันไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ทันทีที่ได้ยินคำถามจากหนุ่มหน้าตี๋ สี่หนุ่มเพื่อนสนิทก็ถึงกลับหันไปมองเป็นตาเดียว “พวกพี่มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “มึงกลับไปเถอะ เดี๋ยวพระพายกูไปส่งเอง” “พระพายว่า พระพายกลับพร้อมพี่ตั้มเลยดีกว่าค่ะ พอดีนัดกับคุณพ่อคุณแม่ไว้แล้ว” เสียงหายใจพ่นแรง ใบหน้านิ่งเฉยทว่าสายตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศในห้องเริ่มอึดอัดราวกับมีหมองควันกระจายอยู่เต็มห้อง “พี่ตั้มกับพระพายเราเป็นเพื่อนบ้านกันค่ะ” “ฮ่า ๆ พี่ก็ว่าแล้ว ทางเดียวกันนี้เอง” ขุนเขาหัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนอากาศก่อนหน้า เพื่อให้ทุกคนผ่อนคลาย “กลับดีๆนะครับ น้องพระพายพรุ่งนี้มาเยี่ยมพี่ไหมนะ” “ได้ค่ะ พี่คิมหันต์ ไปนะคะพี่ๆ” สาวน้อยยิ้มหวานเดินตามชายตัวสูงออกไปจากห้องด้วยความโล่งอก แต่ยังไม่ทันหายใจเต็มปอดหนุ่มสาวทั้งสองคนก็ต้องหยุดชะงัก พระพาย! เสียงเรียก ทำให้สาวน้อยถึงกับขนหัวลุกไม่กล้าหันกลับไปมอง “พี่เพลิง มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “กูมีเรื่องต้องคุยกับพระพาย มึงกลับไปก่อน” “เอาไว้ค่อยโทรคุยนะคะ พี่ตั้มเรารีบไปกันเถอะคะเดี๋ยวกลับถึงบ้านช้าพ่อกับแม่จะเป็นห่วง” สิ้นคำมือเล็กก็จูงมือชายหนุ่มเดินหันหลังกลับไป “ไม่ได้!” น้ำเสียงเข้มแสดงอำนาจให้คนทั้งสองรับรู้ ซึ่งก็ทำให้ทั้งคู่หยุดแล้วหันกลับมา “ขอโทษนะครับ ที่นี่ไม่ใช่มหาลัย ไม่ใช่สนามฟุตบอลแล้วก็ไม่ใช่เวลาซ้อม ดังนั้นพี่ไม่มีอำนาจสั่งให้พระพายอยู่ต่อ” “หึ เหรอ? ลองถามเธอดูสิว่ากูสั่งได้หรือเปล่า?” ตั้มหันมองคนตัวเล็กข้างกายขณะที่มือยังจับกันแน่นไม่ยอมปล่อย แต่เมื่อเห็นท่าทีลังเลของหญิงสาวก็ทำให้ความมั่นใจที่เคยเริ่มเจือจาง กลัวคำตอบจากปากคนตัวเล็ก “พี่ตั้ม ลงไปรอพระพายข้างล่างก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวพระพายรีบตามลงไป” “แต่..” “นะคะ เดี๋ยวพระพายรีบตามไป” “ก็ได้ครับ” ตั้มยอมลงไปรอข้างล่างตามคำขอ ทิ้งให้สาวน้อยเผชิญหน้ากับชายตัวโตเพียงลำพัก “มีเรื่องอะไรคะ?” “อยากรีบกลับไปเอากันขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือชู้อย่างฉัน จะสู้ผัวอย่างมันไม่ได้จริงๆ” “ทำไมคิดได้แต่เรื่องแบบนี้?” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ขณะที่อีกฝ่ายก็กัดฟันกรามแน่น มองมาที่เธอด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เช่นกัน “ถ้ามันเห็นว่าฉันเอากับเธอท่าไหนบ้าง อยากรู้ไหมว่ามันจะทำหน้ายังไง? หึ” เสียงเค้นขำในลำคอ มุมปากหนาแสยะยิ้ม คำพูดและการกระทำของเขาเป็นดั่งคำสาป กักขังเธอเอาไว้ไม่ให้ออกไปจากหลุมพรางนี้ได้ มือเล็กกำหมัดแน่นด้วยความรู้สึกโกรธ สำหรับเธอ คำว่าสุภาพบุรุษมันไม่เคยปรากฏอยู่บนตัวของเขาเลยมาตั้งแต่ต้น “เลือกเอาว่าจะกลับไปกับมัน หรือจะให้ฉันไปส่ง” ชายตัวโตเดินกลับเข้าไปในห้อง ปล่อยให้สาวน้อยได้ใช้เวลาความคิดทบทวนกับตัวเองอีกครั้ง ..ภายในห้อง ขุนเขา: “มึงแน่ใจเหรอว่าลงไปเอาของที่รถ ทำไมไปไวมาไวจังวะ” “กูไม่ชอบทำอะไรยืดเยื้อ มันน่ารำคาญ” ภาคิน: “แล้วลงไปเอาอะไร?” “โทรศัพท์” ซัน: “เจอไหม?” “อืม เจอ” ทุกสายตาจ้องมาที่ชายตัวโตทันทีที่ได้ยินคำตอบ “มองเชี่ยอะไรวะ?” คิมหันต์: “โทรศัพท์มึงอยู่นี่” คิมหันต์เหลือบมองโทรศัพท์มือถือแบรนด์หรูบนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนผู้เป็นเจ้าของจะรีบเดินปรี่เข้ามาหยิบมันยัดใส่กระเป๋ากางเกงเงียบๆ ท่ามกลางสายตาของกลุ่มเพื่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD