ภาคินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูเปลี่ยนไปของมธุรดาเล็กน้อย สงสัยว่าเธอมีแผนการณ์อะไรบางอย่างถึงได้มาทำแบบนี้เพราะจากนิสัยที่ได้ยินมาคร่าวๆหญิงสาวคนนี้เป็นพวกอินโทรเวิร์ตไม่สนโลก...หรือว่าอาจจะเป็นแค่ข่าวลือ
"ไม่ว่าคุณจะมีแผนการณ์อะไรอยู่อย่ามาทำแบบนี้ผมไม่ชอบ เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวควรแยกแยะ ผู้หญิงที่มาเป็นภรรยาผมต้องไม่ใช่คนที่ทำให้ผมต้องเสียลูกค้าไป"
เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มใบหน้าเย็นชา แต่..มธุรดาชอบ อะไรที่เขาเกลียดนั่นแหล่ะคือสิ่งที่เธอต้องการ
"ต่อให้ผู้หญิงพวกนั้นหวังอะไรจากคุณ คุณก็จะประเคนให้งั้นเหรอคะ?"
โต้เถียงด้วยนัยน์ตาดื้อรั้น
"บอกคุณแล้วไงแอนนี่เรื่องระหว่างเรามันเป็นแค่ธุรกิจ ..อ้อ แล้วอย่าคิดว่าผมจะหย่าง่ายๆผมเสียกับคุณไปหลายร้อยล้านบาทเพียงเพื่อทำให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจ คนอย่างผมไม่มีวันที่จะไม่เอาคืน"เหมือนจะรู้ทันแต่ก็ไม่ คงจะมั่นใจในความหล่อของตัวเองมากมาย
มธุรดาแค่นยิ้มในลำคอ
'ก็หวังว่าคุณจะอดทนมากพอก็แล้วกันค่ะคุณภาคิน'
"ไม่รู้แหล่ะ แอนนี่ไม่ยอมให้คุณกับผู้หญิงคนไหนใกล้ชิดกันทั้งนั้น คุณบอกว่าเรื่องของเราเป็นแค่ธุรกิจ แต่แอนนี่ไม่ได้คิดแค่นั้น คุณคือสามีแอนนี่ และแอนนี่มันพวกหวงของซะด้วย"
ทำแก้มป่องยกมือขึ้นกอดอกแสดงอาการโกรธและไม่ยอมออกไป
"ผู้หญิงที่เกิดในตระกูลผู้ดีตีนแดงอย่างคุณ น่าจะรู้ดีว่าไม่ควรทำตัวโง่ๆไร้ค่า"
ปากจัดนักนะ ผู้ชายบ้าอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย มธุรดาด่าเขาปาวๆในใจ ให้ตายเถอะ อยากจะตะโกนออกไปว่าฉันอยากจะหย่ากับคุณวันละล้านๆรอบ
"ผมจะเข้าประชุมยาว"
พูดพรางลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทมาใส่พร้อมกับจัดแจงชุดให้ดูเรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประชุมใหญ่
"แอนนี่จะรอ..."
"ไม่เข้าใจเหรอว่าผมไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวาย กลับไปรอที่บ้าน"
ภาคินรู้สึกปวดหัวเหนื่อยใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้กับคำที่คุณแม่เอามาบอกเล่าไม่ได้เหมือนกันสักนิด ดูเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปที่พบเจอได้ในผับในบาร์ วุ่นวาย ขี้หึง แบบนี้เขาไม่ชอบเอาเสียเลย
"ผมบอกให้คุณกลับบ้าน นี่คือคำสั่ง"
"ไม่!"
"ว่างมากใช่มั้ย?"
"แค่มาทำหน้าที่เมีย แอนนี่ผิดตรงไหน?"
เชิ่ดหน้าใส่อย่างคนดื้อดึง ภาคินรู้สึกโมโหจนควันออกหู
"ดี ทำหน้าที่เมียใช่มั้ย?"
ไม่ทันได้ตั้งตัว เอวบางถูกเขารวบเข้าไปกอด สองมือแข็งแกร่งประคองใบหน้าของเธอไว้ก่อนจะลงโทษด้วยการบดขยี้จูบลงมา มธุรดาเบิกตาโพลงอย่างไม่ได้ทันได้ตั้งตัว
จูบแรกของเธอ ไม่นะ!
หญิงสาวพยายามดีดดิ้นทว่าไม่อาจหลุดพ้นไปจากพันธนาการของเขาได้ จูบเอาแต่ใจทวีความลึกล้ำเข้ามาเรื่อยๆ รุนแรงแต่เร่าร้อน จากนั้นปลายลิ้นร้อนก็ดุนดันสอดแทรกเข้ามาพัวพันสำรวจในโพรงปากอย่างดูดดื่ม
ในที่สุดมธุรดาก็เผลอเคลิบเคลิ้มตอบรับจูบของเขาอย่างไม่ประสีประสา ร่างกายสั่นเทิ้มในขณะที่ถูกริมฝีปากของเขาแนบประกบเธอรู้สึกว่ากำลังจะขาดใจตาย
เกือบหลายนาทีกว่าเขาจะถอนจูบออกมาปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
"แค่จูบยังทำไม่เป็นแต่อยากจะมาทำหน้าที่เมีย"
ภาคินรู้สึกว่าเขาเข้าใจไม่ผิดว่ามธุรดาไม่ประสีประสาเรื่องจูบสักนิด แต่ยังทำเป็นอวดเก่งใส่เขาทั้งๆที่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
"ไม่ใช่ซะหน่อย....ก็แค่จูบใครบ้างจะไม่เคย"
รีบแก้ตัวเพราะกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเป็นจูบแรก...
แต่เมื่อได้สติก็รู้สึกอับอายมากกว่าจะนึกโกรธ เพราะเธอเองที่เป็นคนหาเรื่องและอีกอย่างผัวจูบเมียมันเป็นเรื่องปกติ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เธอจะต้องโกรธมั้ง
"อยากจะได้มากกว่านี้ให้บอกกันตรงๆ"
เขาแสยะยิ้มใส่เธออย่างร้ายกาจ มธุรดาได้แต่ท่องในใจให้สะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ไม่ให้เผลอไปตบหน้าเขาแรงๆเข้า
"อืม...จูบเมื่อครู่ แอนนี่ว่ามันยังไม่ถึงใจแอนนี่เลยค่ะ มันเอ่อ...ธรรมดาไป"
ทำหน้าเยาะหยันดูถูกเขากลับบ้าง ภาคินรู้สึกมีโทสะขึ้นมาทันทีเมื่อถูกหญิงสาวพูดสบประมาทออกมาแบบนั้น ในหัวของเขาเหมือนมีเสียงขาดผึง ก่อนที่จะตวัดร่างเพรียวเข้ามาในอ้อมกอดอีกรอบ
คราวนี้ตั้งใจจะทำมากกว่าเดิมเพื่อสั่งสอนให้เธอรู้ว่าอย่ามาทำอวดดีใส่เขา
ทว่า
ก๊อก! ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นซะก่อนที่มธุรดาจะโดนเขารังแกอีกครั้ง ภาคินรีบคลายอ้อมกอดออกอย่างอัตโนมัติ
แกร่ก! ประตูห้องถูกเปิดออกโดยเลขาฯหน้าห้อง
"ท่านรองคะ ห้องประชุมพร้อมแล้วค่ะ"
"เข้าไปนั่งรอกันก่อน"
"ค่ะ.."
พาฝันปรายตามองมาที่มธุรดานิดหน่อยก่อนจะถอยร่นออกไป ไม่รู้เพราะอะไรมธุรดาถึงได้รู้สึกว่ายัยเลขาฯคนนี้ไม่ชอบเธอ
"ผมต้องเข้าประชุม"
"เลขาคนนั้นคู่ขาคุณเหรอ?"
คิดอะไรก็ถามออกไปเลย ทำไมมธุรดาต้องเก็บและอดทนเอาไว้ในใจด้วย ก็ตอนนี้เธอกำลังรับบทเป็นเมียหลวงหึงโหดอยู่หนิ่
"สมองของคุณหมกมุ่นเกินไปแล้วแอนนี่"
ภาคินถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ขนาดว่าแต่งงานกันได้แค่อาทิตย์แรกนะ ถ้าอยู่นานไปเขาไม่ต้องอึดอัดมากกว่านี้เหรอ จะมีวิธีไหนที่ทำให้หล่อนเลิกบ้าซะที
"ก็แอนนี่หวงคุณ"
บอกออกไปตรงๆ ก่อนจะส่งสายตาละห้อยเดินเข้ามาเกาะแขนเขาอย่างเว้าวอน ภาคินรู้สึกวูบไหวเล็กน้อย แต่ก็ปรับอารมณ์กลับมาได้ปกติ
"ผมจะให้ลุงเจิมคนขับรถมารับ"
"ไม่"
"อย่าดื้อนะแอนนี่ ไม่งั้นผมจะไม่ลงโทษคุณแค่จูบ"
มธุรดาเลิ่กลั่กกับคำขู่ของเขาที่เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ขู่ ถ้าถูกจูบซ้ำตอนนี้เธอคงเป็นลมคาอกเขาแน่ แล้วเขาก็จะจับได้ว่าเธอไม่ได้เจนจัดเรื่องแบบนี้ มธุรดาอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอผ่านผู้ชายมานักต่อนัก อยากให้เขารังเกียจเหมือนที่เธอรู้สึกรังเกียจขยะแขยงกับความคิดของเขาที่มองเธอเป็นเพียงสิ่งของขาดทุนหรือกำไรเท่านั้น
เธอเกลียดเขา เกลียดคนชื่อภาคินตรงหน้าเธอตอนนี้ อยากจะหย่าแล้วออกไปใช้ชีวิตเป็นของตัวเองอย่างที่ใจต้องการเสียที
"แอนนี่ไม่ได้กลัวคุณหรอกนะคะ แต่แอนนี่นึกได้ว่าแอนนี่มีธุระ"
"เหรอ?"
ภาคินกรอกตาใส่อย่างไม่ได้นึกเชื่อ
"ค่ะ งั้น...ไปนะคะ"
พูดจบก็ก้มหยิบกระเป๋าสะพายข้างออกไปทันที ทิ้งให้คนร่างสูงโปร่งยืนส่ายหน้าด้วยความระอาปนความหนักอกหนักใจ ให้ตายเถอะเขาได้ผู้หญิงแบบไหนมาเป็นเมียกันแน่ ทำไมรู้สึกว่าไม่คุ้มกับเงินและทรัพย์สินที่เป็นค่าสินสอดมูลค่าหลายร้อยล้านเลยสักนิด ภาคินได้แต่คิดไปถอนหายใจไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า