สองวันมานี้นาตาชาไม่ได้ไปเที่ยวบาร์โฮสต์อีกเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะเธอไม่อยากเจอโนเนมอีก และอีกส่วนหนึ่งเธอเริ่มรู้สึกเบื่อกับการถูกรายล้อมด้วย ผู้หญิงอย่างนาตาชาถ้าเบื่ออะไรก็ตัดทิ้งได้ง่าย ๆ เธอเอาเวลาที่เหลือไปเยี่ยมเหล่าลูก ๆ ของเธอที่เธอรับอุปการะไว้ในกรุงเทพ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเด็กผู้ชายเสียส่วนใหญ่
“บลู” นาตาชาเอ่ยเรียกลูกบุญธรรมของเธอที่กำลังนั่งมองกล้องราคาแพงในมืออยู่
“ครับ?”
“เป็นอะไร”
“คือ...ผมเกรงใจครับนาตาชา กล้องราคาแรงไป” เด็กหนุ่มทำท่าเกรงใจสุด ๆ
“อืม...ถ้าฉันบอกว่าไม่แพง เธอก็เชื่อเถอะ” นาตาชามองไปรอบ ๆ ร้านที่ขายอุปกรณ์กล้องด้วยสายตาสนอกสนใจ
“คือ...” เด็กหนุ่มยังดูไม่ค่อยสบายใจอยู่
“เธอก็เอาไปทำงานหาเงินสิ” นาตาชาหันไปเด็กหนุ่ม
“ครับ...”
“เธอชอบถ่ายรูป ฉันเลยซื้อให้นะบลู ฉันอุปการะเธอแค่เรียนมหาลัยเท่านั้น ต่อไปเธอก็ต้องหาเงินเอง ลูกฉันทุกคนต้องมีอาชีพที่มั่นคง นี่คือสิ่งที่ฉันคิดเอาไว้”
“ครับนาตาชา”
“ถ้าเกรงใจก็หาเงินจากมันให้เยอะ ๆ สิ”
นาตาชายิ้ม ก่อนจะควักบัตรเครดิตยื่นให้เจ้าของร้านที่มองเธอด้วยแววตาเป็นประกาย
“ขอบคุณมากครับนาตาชา” บลูเอ่ย
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้มาบ่อย ๆ คราวนี้คงอยู่ไม่นานด้วย” นาตาชาวางแผนจะไปพักผ่อนที่ฮาวายก่อนกลับ เพราะเธอไม่ได้ไปทะเลนานมากแล้ว
“เหรอครับ”
“อื้ม ...ซื้อของแล้วไปกินข้าวเย็นกันเถอะ” นาตาชายิ้ม
การได้เห็นลูก ๆ ของเธอมีความสุขทำให้เธอรู้สึกดีกว่าการไปช้อปปิ้งเสียอีก โชคดีที่เด็ก ๆ เป็นเด็กดีทุกคน ลูก ๆ ของนาตาชาเป็นเด็กที่ค่อนข้างประหยัดและขยันเป็นทุนเดิม พวกเขาไม่เคยรีดเร้นเงินจากเธอ มีแต่เกรงใจเธอเสียมากกว่า
นาตาชาได้เห็นเกรดของพวกลูก ๆ ได้เห็นว่าเด็ก ๆ ที่เมื่อก่อนไร้ความหวังในการมีอนาคต เริ่มมีความฝันที่อยากจะทำ และมองเห็นอนาคตที่สดใสมากขึ้น เด็ก ๆ ที่นาตาชารับอุปการะไม่ได้มาจากศูนย์อะไรทั้งนั้น แต่เป็นเด็ก ๆ ที่เธอบังเอิญเจอเสียเป็นส่วนใหญ่ เธออยากให้เด็กพวกนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาตัวเองได้ หากเงินที่เธอมีจะพอช่วยเหลือพวกเขาได้ เธอก็ยิ่งกว่ายินดี
“นาตาชา” บลูเรียกเธอระหว่างกำลังกินอาหารเย็นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
“หืม” นาตาชาเลิกคิ้วมองเด็กหนุ่ม
“ผมว่า...คุณไปไหนมาไหนกับคนรถคุณดีกว่านะครับ” บลูเตือนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อืม...ฉันเรียนวิชาป้องกันตัวมานะบลู เธอก็รู้” นาตาชาซดน้ำซุปร้อน ๆ ลงคออย่างสบายใจ
“คุณรู้ใช่มั้ยครับว่ามีคนตามคุณอยู่”
“อืม...” หญิงสาวไม่ยี่หระ เธอซดน้ำซุปรสชาติดีลงคออย่างไม่สนใจ
“แล้วทำไมยังใจเย็นอยู่ครับ” บลูเริ่มร้อนใจ เขาสงสัยตั้งแต่พวกเขาออกจากห้างสรรพสินค้าแรกมาห้างสรรพสินค้าที่สอง
“เรื่องปกติน่ะบลู อาจจะเป็นคนของพ่อฉันก็ได้” นาตาชายิ้ม
“พ่อคุณจะตามคุณทำไมครับ” บลูตักอาหารทาน แต่คำพูดก็ยังสงสัยไม่หาย
“ฉันกับพ่อนาน ๆ จะเจอกันที พ่อกับแม่ต้องเดินทางไปดูธุรกิจหลายประเทศน่ะ ปีนึงก็เจอกันสองสามครั้งเอง” นาตาชาเล่าให้บลูฟัง
“อ้อ...”
“อย่าคิดมากเลย รีบกินเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งที่หอเอง”
นาตาชาชักชวนให้เด็กหนุ่มทานอาหารตรงหน้า อันที่จริงเธอรู้สึกตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่ามีบางคนตามเธอมา เลยไม่ใช้ให้ชายชาติขับรถให้เพราะอยากจะดูท่าทีของอีกฝ่ายว่าจะทำยังไง
“นาตาชา ยังไงคุณก็เป็นผู้หญิงนะ สู้แรงผู้ชายไม่ได้หรอกครับ” บลูยังคงพูดด้วยความเป็นห่วง
“ก็รอดูก็ได้นะ” นาตาชายิ้มเย็นให้เด็กหนุ่ม
หลังจากทานข้าวเสร็จ นาตาชาก็นั่งรถไฟฟ้าไปพร้อมกับบลู เมื่อถึงหอพักของเด็กชาย เธอก็ขอเขาขึ้นไปข้างบนเพื่อดูหอพักใหม่ที่เธอเพิ่งให้เงินเขามาเช่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากกว่าหอเดิม
“เข้ามาก่อนสิครับ” บลูเปิดประตูแล้วชวนนาตาชาเข้ามา
“อืม...สะอาดดีจัง”
นาตาชามองห้องของบลูด้วยความชื่นชม บลูเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปมาก และมีพรสวรรค์ที่น่าสนับสนุน แต่เด็กหนุ่มดันเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์การอาหาร เธอเลยอยากสนับสนุนให้เขาทำในสิ่งที่ชอบไปด้วย
“นาตาชา วันนี้พักที่นี่ก็ได้นะครับ นี่ก็จะค่ำแล้ว” บลูมองออกไปนอกหน้าต่าง ในใจยังคิดถึงผู้ชายที่ตามสะกดรอยแม่บุญธรรมของเขาด้วยความกังวล
“ไม่ได้หรอก ถ้าค้างที่นี่ หมอนั่นก็จะคิดว่าฉันเป็นคนไม่จริง” นาตาชาเปิดผ้าม่านตรงหน้าต่างห้องแล้วมองทอดลงไปด้านล่าง แววตาสุกใส แฝงไปด้วยความสงสัยปนตื่นเต้น
“คุณจะทำไงต่อครับ”
“จะจับหมอนั่นให้ได้คามือฉันเองนี่แหละ” หญิงสาวยิ้มอย่างเป็นต่อ อันที่จริงนาตาชาชื่นชอบการใช้กำลังทุกประเภท เพียงแต่เธอไม่ค่อยได้มีโอกาสงัดมันออกมาใช้บ่อยนัก หญิงสาวปิดม่านตรงหน้าตาของบลู แล้วหันมาหาลูกบุญธรรมของเธอ
"ฉันกลับละบลู ขาดเหลืออะไรก็ส่งข้อความมานะ” นาตาชายิ้ม
“คุณจะอยู่ที่ไทยอีกกี่วันครับ” บลูถาม
“ไม่เกิน 3 วันหรอก ฉันจะไปที่อื่นต่อ”
“งั้นเดี๋ยวถ้านาตาชาถึงโรงแรมแล้วส่งข้อความมาบอกผมด้วยนะ” บลูยังย้ำกับแม่บุญธรรมถึงความเป็นห่วงที่เขามีต่อเธอ
“ได้สิ ตั้งใจเรียนนะ ดูแลตัวเองด้วย”
นาตาชาดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอดเบา ๆ เป็นการบอกลา ก่อนจะออกจากห้องลงมาด้านล่าง ตอนนี้หัวของนาตาชามีแต่เรื่องของชายปริศนาที่ตามเธอมา และการตามสืบเธอต้องจบลงวันนี้!!