บทที่ 8

1936 Words
คะนึงนิจยกมือเรียกแก้วและผู้หญิงร่างผอมสูงอีกคนที่เดินตามกันมา เพื่อให้ทั้งคู่เห็นว่าเธอนั่งรออยู่แล้วในร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยข้างห้างสรรพสินค้าใหญ่ใกล้บ้าน บรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ มีเสียงเพลงแจ๊สคลอเบา ๆ ชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย “พี่นิจ สวัสดีค่ะ” แก้วเอ่ยอย่างร่าเริงก่อนจะแนะนำหญิงสาวที่มาด้วย “นี่ คุณอ้อค่ะ เจ้าของโปรเจกต์ที่แก้วส่งเอกสารให้พี่นิจพิจารณาเมื่อวันก่อน” คะนึงนิจลุกขึ้นเล็กน้อย พลางยื่นมือไปจับมือหญิงสาวอีกคนด้วยรอยยิ้มสุภาพ “สวัสดีค่ะ คุณอ้อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ดิฉันคะนึงนิจ เรียกว่านิจเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” “สวัสดีค่ะ คุณนิจ ดิฉันอัจมา หรือเรียกสั้น ๆ ว่าอ้อก็ได้ค่ะ ยินดีมากเลยค่ะที่ได้มีโอกาสมาพบกันในวันนี้” “เช่นกันค่ะ” คะนึงนิจตอบด้วยรอยยิ้มบางที่แฝงความเป็นกันเองแต่ยังคงความสุภาพ เมื่อพนักงานนำกาแฟและของว่างสามชุดมาวางบนโต๊ะ บทสนทนาระหว่างทั้งสามก็เริ่มต้นขึ้นจากเรื่องทั่ว ๆ ไป ก่อนจะค่อย ๆ ลึกลงสู่หัวข้อธุรกิจที่เป็นประเด็นหลักของการพบกันในวันนี้ คะนึงนิจเปิดเอกสารที่เตรียมไว้ พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม “จากข้อมูลการตลาดที่คุณอ้อส่งมา นิจเห็นว่ามีการเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มลิปทินต์กับลิปบาล์ม อยากทราบว่าทำไมถึงมองว่าสินค้ากลุ่มนี้ยังมีโอกาสทำตลาดได้คะ เพราะเท่าที่นิจหาข้อมูลดู คู่แข่งในตลาดมีอยู่ไม่น้อยเลย แบรนด์ใหม่ของเราจะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างไร” อัจมายิ้มอย่างมั่นใจ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่มั่นใจ “ลิปทินต์กับลิปบาล์มเป็นเพียงตัวอย่างที่อ้อนำเสนอในเอกสารค่ะ โรงงานของอ้อมีทีม R&D ที่เก็บข้อมูลตลาดไว้ค่อนข้างแน่น เราพบว่า เทรนด์ของผู้บริโภคในตอนนี้ โดยเฉพาะสาว ๆ วัยทำงานและนักศึกษา หันมาใส่ใจส่วนผสมมากขึ้น หลายคนหลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีสารปรอทหรือสีสังเคราะห์จัดจ้าน” เธอหยุดจิบกาแฟเล็กน้อยก่อนอธิบายต่อด้วยแววตาเปล่งประกาย “ลิปทินต์สูตรที่เราพัฒนาขึ้นจะให้สัมผัสโกลวี่แบบธรรมชาติ มีส่วนผสมบำรุงริมฝีปากจากสารสกัดธรรมชาติ ปลอดสารปรอท และยังมีโทนอัพเซรั่มที่ช่วยให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีตลอดวัน นอกจากนี้ อ้อยังวางแผนจะจ้างนักออกแบบผลิตภัณฑ์มาช่วยออกแบบแพ็กเกจให้เรียบหรูและพกพาง่าย รับรองว่าถูกใจกลุ่มเป้าหมายแน่นอนค่ะ” คะนึงนิจพยักหน้าช้า ๆ พลางจดบันทึกลงในแท็บเล็ตอย่างตั้งใจ เธอซักถามรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม ทั้งด้านการตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และแนวทางการวางแผนระยะยาว จนกระทั่งมาถึงประเด็นสำคัญเรื่องการลงทุนร่วมกัน “ในส่วนของการลงทุน…” คะนึงนิจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชัดเจน “นิจเห็นว่า คุณอ้อเสนอให้จัดตั้งบริษัทโดยมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 100 หุ้น หุ้นละหนึ่งแสนบาท” เธอหยุดมองเอกสารในมือเล็กน้อย ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตาคู่สนทนา “ณ ตอนนี้ คุณอ้อถือเงินลงทุนไว้ 4 ล้านบาท ส่วนแก้วจะร่วมลงทุนอีก 2 ล้าน ที่เหลืออีก 4 ล้าน นิจกำลังพิจารณาอยากร่วมลงทุนด้วย” หญิงสาวเว้นจังหวะให้คำพูดไหลเรียบ ก่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงสุขุม “ในส่วนของสิทธิของผู้ถือหุ้นแต่ละฝ่าย คุณอ้อมีแนวคิดไว้อย่างไรบ้างคะ” น้ำเสียงของคะนึงนิจไม่แข็งกร้าว หากแต่หนักแน่นแสดงความสนใจอย่างจริงจัง “สิทธิของผู้ถือหุ้นจะอิงตามจำนวนหุ้นที่ถือไว้ค่ะ” อ้ออธิบายอย่างชัดเจน “คุณนิจลงทุนสี่ล้าน อ้อก็สี่ล้าน เท่ากับว่าเรามีสิทธิ์ออกเสียงเท่ากัน ส่วนแก้ว...” เธอหันไปยิ้มบางให้ “อ้อขอพูดตรง ๆ นะคะ แก้วจะเป็นผู้ถือหุ้นเสียงข้างน้อย ส่วนเรื่องการแบ่งผลกำไรจะยึดตามสัดส่วนหุ้นของแต่ละฝ่ายค่ะ” แก้วพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ไม่เป็นไรเลยค่ะ คุณอ้อ แก้วดีใจด้วยซ้ำที่คุณอ้อไว้วางใจให้ร่วมถือหุ้นด้วย” เธอเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงมั่นใจขึ้น “ตามความเห็นของแก้ว ตลาดเครื่องสำอางในประเทศเรายังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ตอนนี้ผู้บริโภคเริ่มเปิดใจกับแบรนด์ใหม่ ๆ มากขึ้น พวกเขาไม่ได้มีความภักดีต่อยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งตลอดไป ถ้ามีสินค้าที่คุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่าย และตอบโจทย์จริง ผู้บริโภคก็พร้อมจะเปลี่ยนค่ะ” แก้วหยุดเล็กน้อย ก่อนส่งยิ้มให้ทั้งสองคน “เพราะอย่างนั้น แก้วเลยตัดสินใจ ว่าจะแชร์ความเสี่ยงและร่วมลงทุนไปด้วยเต็มตัว” “ขอบคุณมากนะคะ คุณแก้ว” อ้อยิ้มกว้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยินดี “อ้อรู้สึกดีใจจริง ๆ ค่ะ ที่เราจะได้เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกัน แล้วในส่วนของงานประจำที่คุณแก้วทำอยู่จะมีปัญหาอะไรไหมคะ” “ในส่วนงานประจำที่ทำอยู่ตอนนี้ แก้วตัดสินใจจะลาออกค่ะ เพราะไม่อยากให้เกิดประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ธุรกิจของบริษัทที่แก้วทำอยู่กับบริษัทที่เรากำลังจะตั้ง มันดูจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่บ้างค่ะ” แก้วพูดอย่างเรียบง่ายแต่หนักแน่น ก่อนจะเสริมด้วยรอยยิ้มบาง “อีกอย่าง แก้วก็อยากพักผ่อน เตรียมตัวมีลูกด้วยค่ะ” อ้อยิ้มรับอย่างเข้าใจ แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเห็นใจ “ถ้าอย่างนั้น คุณแก้วเข้ามาช่วยทำในส่วนที่ถนัดได้เลยนะคะ ไม่ต้องหักโหมมากก็ได้ค่ะ” เธอพูดอย่างอ่อนโยนแต่มั่นใจ “อ้อคิดว่าประสบการณ์ที่เคยเปิดบริษัทมาก่อน น่าจะช่วยให้พวกเรารับมือกับงานสารพัดที่จะถาโถมเข้ามาหลังจากเริ่มตั้งบริษัทได้แน่นอนค่ะ” อ้อหัวเราะเบา ๆ ก่อนพูดต่อ “ส่วนเรื่องพนักงาน อ้อเริ่มติดต่อไว้บ้างแล้วค่ะ บางคนมีประสบการณ์ตรงและน่าสนใจ ช่วงก่อนตั้งบริษัท เราค่อยนัดสัมภาษณ์และตัดสินใจร่วมกันอีกทีก็ได้ค่ะ” แก้วพยักหน้า ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตั้งใจใหม่ “ดีเลยค่ะ แก้วจะได้ช่วยดูรายละเอียดในส่วนที่เกี่ยวกับงานออกแบบกับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วย” อ้อหันไปทางคะนึงนิจอย่างสุภาพ “แล้วในส่วนของคุณนิจล่ะคะ ไม่ทราบว่าคิดเห็นเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้อย่างไรบ้าง” คะนึงนิจวางแท็บเล็ตลงก่อนเงยหน้าขึ้นตอบด้วยรอยยิ้มบาง น้ำเสียงใสกระจ่าง “นิจค่อนข้างสนใจที่จะร่วมลงทุนด้วยค่ะ แต่ขอเวลาหารือกับทางบ้านอีกสักหน่อยนะคะ ยังไง นิจจะรีบให้คำตอบภายในวันมะรืนนี้แน่นอนค่ะ” “ได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหา อีกสักสองสามวันก็ได้ค่ะ” อ้อตอบรับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “อ้อเข้าใจดีค่ะ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาไตร่ตรองให้รอบคอบ ในช่วงนี้ อ้อก็มีเตรียมงานไว้บางส่วนบ้างแล้วค่ะ” หุ้นส่วนอนาคตทั้งสามต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานเพื่อสร้างความสนิทสนม บรรยากาศบนโต๊ะเต็มไปด้วยความเป็นมิตรและความคาดหวังที่อบอุ่น … คะนึงนิจก้มตัวลง บรรจงหอมหน้าผากลูกชายตัวน้อยที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง กลิ่นหอมแป้งเด็กบางเบาของลูกน้อยทำให้หัวใจของเธออ่อนโยนลงทุกครั้งที่ได้สัมผัส เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่วันนี้ไม่ได้กล่อมลูกหลับด้วยตัวเองเหมือนทุกคืน คะนึงนิจขยับผ้าห่มคลุมกายลูกชายให้เรียบร้อย ก่อนจะตรวจดูทุกอย่างรอบเตียงอีกครั้ง เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย เธอจึงค่อย ๆ เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ ในห้องอีกมุมหนึ่งของบ้าน ภูวินทร์กำลังนั่งทำงานอยู่หลังโต๊ะทำงาน ขณะที่คะนึงนิจกลับเข้าห้องนอนใหญ่ เธอนั่งลงหน้ากระจก เช็ดเครื่องสำอางออกอย่างเงียบ ๆ ทว่าแววตาเธอกลับเหม่อลอย ความคิดวกวนกลับไปยังการพูดคุยเรื่องการลงทุนกับแก้วและคุณอ้อในวันนี้ จากประสบการณ์ในชาติก่อน เธอมั่นใจว่าโปรเจกต์นี้มีศักยภาพ และเธอมีความสามารถพอจะร่วมสร้างธุรกิจนี้ให้เติบโตได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง...ความกังวลบางอย่างก็ยังแผ่วอยู่ในใจ คุณอ้อ หุ้นส่วนผู้ผลิตและเจ้าของโรงงานเครื่องสำอาง เป็นคนที่มากประสบการณ์ บริษัทของเธอผลิตสินค้าให้หลาย แบรนด์ในตลาด ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงในเวลาเดียวกัน คะนึงนิจรู้ดีว่า หากตัดสินใจร่วมลงทุน เธอจำเป็นต้อง ตกลงให้แน่ชัดกับหุ้นส่วนทั้งหมดตั้งแต่ต้นว่า ทรัพยากรของบริษัทใหม่ที่กำลังจะก่อตั้งขึ้นนี้ จะไม่ถูกนำไปใช้กับธุรกิจส่วนตัวของตนเองไม่ว่าทางใด ๆ นอกจากนี้ เธอยังนึกถึงรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญเวลาพูดคุยกัน แต่ในความเป็นจริง...รายละเอียดเล็กน้อยเหล่านั้นอาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแบ่งหน้าที่ การบริหารงาน หรือแม้แต่ “อำนาจในการตัดสินใจ” ของแต่ละฝ่าย เธอถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะสบตาตัวเองในกระจก หญิงสาวในนั้นดูนิ่งสงบ หากในแววตากลับมีประกายของความมุ่งมั่น เธอรู้ดีว่านี่คือเวลาที่ต้องก้าวไปข้างหน้า ด้วยแรงใจของตัวเอง คะนึงนิจอ่านเอกสารและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจที่จะลงทุนอยู่ครู่ใหญ่ หลังปิดแท็บเล็ต เธอหันไปหยิบหนังสือเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกน้อย เปิดอ่านอย่างตั้งใจราวกับอยากเติมเต็มบทบาทของตนในทุกด้าน คืนนี้เธอเข้านอนเพื่อพักผ่อนและเติมพลัง ก่อนจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่อย่างสดใส โดยไม่รอภูวินทร์ แม้ในใจยังคงมีความกังวลต่อเรื่องที่จันทร์รวีทำงานอยู่ในบริษัทของชายผู้เป็นสามี แต่ท้ายที่สุด เธอก็เลือกจะปล่อยวาง และเตรียมใจเผชิญกับทุกสิ่งอย่างมั่นคง … ภูวินทร์นั่งนิ่งอยู่บนเตียง เหม่อมองใบหน้าของภรรยาที่นอนหลับอยู่ข้างกาย หญิงสาวหลับสนิท ใบหน้าละมุนดูสงบอย่างน่าอิจฉา แววตาของเขามีน้ำตาเอ่อขึ้นเล็กน้อย ความรู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งเอ่อล้นในอก...ดีใจที่ได้มีโอกาสอยู่กับภรรยาและลูกชายที่รักอีกครั้ง เขาเพียงมองเธออยู่เงียบ ๆ ไม่กล้าเอื้อมมือไปแตะต้องใบหน้าที่คิดถึงเหลือเกิน เกรงว่าเพียงสัมผัสเดียว จะทำให้เธอตื่นจากนิทรา ภูวินทร์มองเธอเนิ่นนาน ความคิดมากมายไหลวนอยู่ในหัว เขาจำได้ดีว่า เคยทำให้เธอต้องเสียน้ำตา เคยปล่อยมือจากคนที่รักที่สุดไปเพราะความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่ในค่ำคืนนี้...เมื่อได้เห็นเธอนอนอยู่ตรงหน้า ความอบอุ่นที่ห่างหายไปนานก็ไหลกลับเข้ามาในหัวใจอย่างช้า ๆ เขายกมือขึ้นอย่างลังเล ก่อนจะหยุดกลางอากาศ “ขอโทษนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว คำพูดที่อยากเอ่ยมาตลอดนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่อดีต กลับได้ออกมาจากใจเพียงในยามที่เธอหลับสนิท ไม่อาจได้ยิน ภูวินทร์หลุบตาลง ปล่อยให้น้ำตาหยดหนึ่งไหลซึมข้างแก้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD