ขนมที่ซื้อไว้

1788 Words
♪ ♬ ♫〜 เสียงดนตรีดังก้องเป็นจังหวะสลับกับแสงไฟหลากสีสาดส่องไปมายามเมื่อดนตรีดังขึ้น เหล่าผีเสื้อราตรีมากมายกำลังโยกย้ายส่ายเอวไปมาตามจังหวะดนตรี ค่ำคืนนี้ผู้คนมากมายต่างปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาตักตวงความสุขจากเสียงดนตรีและเครื่องดื่มย้อมใจที่ผับแห่งนี้เปิดให้บริการ “ตายแล้วลืมไปเลยว่าต้องไปไหว้เจ้าที่ก่อน” เสียงหญิงวัยกลางคนใบหน้ายังสวยไม่สร่างเอ่ยขึ้นก่อนจะวางเอกสารในมือลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องครัว “ปกติกลับมาถึงแล้ววันต่อมาก็ไปไหว้เลย นี่ผ่านมาสองวันแล้วทำไมถึงลืมได้ล่ะเนี่ย” ร่างบางบ่นอุบเมื่อนึกถึงศาลเจ้าที่ประจำผับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าตัวเชื่อว่าทำให้กิจการนั้นรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้ “เอาไปไหว้ตอนดึกคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” เสียงหวานพึมพำขณะเตรียมของไหว้ไปด้วย เมื่อสองวันก่อนคุณนายไอยรากลับเมืองไทยมาดูกิจการและบ้านช่องที่ซื้อเอาไว้อย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา หากแต่ปีนี้มีลูกสาวคนเล็กติดตามมาด้วย ต่างจากทุกปีที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้จะกลับมาพร้อมลูกชายคนโต วันนี้คุณนายไอยราพาลูก ๆ เข้ามาตรวจความเรียบร้อยในผับเป็นวันแรกหลังจากพักผ่อนกันพอควรแล้ว อีกอย่างวันนี้ยังเป็นวันแรกที่ลูกสาวคนเล็กของบ้านได้รับอนุญาตให้เที่ยวในผับแห่งนี้ได้เพราะเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว ส่วนลูกชายคนโตนั้นมาบ่อยเพราะช่วยแม่ทำงานอยู่ก่อนแล้ว คุณนายไอยรามักจะอธิษฐานขอให้เจ้าที่ประจำผับนั้นช่วยดูแลลูกค้าและผับให้ทุกคืนก่อนจะล้มตัวนอน หากปีไหนยอดขายพุ่งและทุกอย่างผ่านไปด้วยดีตามคำขอคุณนายจะหาของมาไหว้ศาลเจ้าทุกครั้งที่กลับมาเมืองไทย ปีนี้ก็เช่นกัน... “ไออุ่นอยู่ไหนลูก” เสียงหวานของผู้เป็นแม่เรียกหาลูกสาวคนเล็กพลางกวาดสายตาไปรอบห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นห้องส่วนตัวที่ตั้งอยู่ชั้นบนของผับ คืนนี้สามแม่ลูกจะค้างที่นี่เพราะตอนเช้ามีประชุมกับผู้จัดการและพนักงานบัญชีของผับ “ไออุ่นลูก ไออุ่น” “มาแล้วค่ะมาแล้ว” เสียงคนตัวเล็กขานรับขณะเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างบางในชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำรัดรูปสั้นเหนือหน้าขาสะบัดขาเรียวบนรองเท้าส้นเข็มสูงปรี๊ดเข้ามาหาผู้เป็นแม่ จากเด็กสาวตัวน้อยในวันนั้นบัดนี้คุณหนูไออุ่นโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว... “ไออุ่นหนูเอาของไหว้ไปตั้งศาลเจ้าที่ข้างนอกหน่อยสิลูก” ผู้เป็นแม่หันไปบอกลูกสาวขณะจัดแจงของไหว้ใส่ถาดไปด้วย "ทำไมแม่ชอบเอาเหล้าแพง ๆ เอาของดี ๆ ไปตั้งศาลตลอดเลยล่ะคะ เสียดายของแย่" คนไม่เชื่อเรื่องผีหรือเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอ่ยถาม สาวนักเรียนนอกอย่างไออุ่นแทบไม่สนใจเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ กลับคิดว่ามันไร้สาระและสิ้นเปลืองอีกด้วย "แม่บอกให้เอาไปตั้งก็เอาไปตั้งเหอะน่า ไอ้เด็กคนนี้เมื่อไหร่จะเลิกสงสัยสักทีนะ" เพราะทุกครั้งที่ผู้เป็นแม่จัดเครื่องเซ่นไหว้ไปให้ศาลเจ้าที่ ผู้เป็นลูกสาวก็มักจะถามและห้ามอยู่ทุกครั้งตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ก็ไม่เคยขัดแม่ได้เลยสักครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผู้เป็นแม่ให้ลูกสาวเอาของไหว้ไปตั้งศาล "เดี๋ยวจะกินให้หมดนี่เลยคอยดู" เสียงหวานพึมพำขณะถือของไหว้ออกไปด้านนอกโดยมีผู้เป็นแม่ยืนมองตามแผ่นหลังเล็ก “ไปไหนน่ะน้องไอ” เสียงทุ้มของผู้เป็นพี่ชายเอ่ยถามน้องสาวเมื่อเดินสวนกันพอดี “แม่ให้น้องไอเอาของในถาดไปตั้งหน้าศาลค่ะ พี่อคินเอาไปตั้งแทนน้องไอหน่อยสิคะน้องไอไม่อยากไป” น้องสาวคนเล็กออดอ้อนคนเป็นพี่ “แม่ใช้ใครคนนั้นก็ไปสิคะ งอแงแบบนี้นัดเพื่อนมาผับแล้วอยากรีบออกไปเจอปะเนี่ย” ผู้เป็นพี่ชายถามอย่างรู้ทัน วันนี้เป็นวันเกิดของน้องสาวคนสวย ผู้เป็นพี่รู้มาว่าน้องสาวคนนี้นัดเพื่อนที่อยู่เมืองไทยให้มาเจอกันที่ผับคืนนี้ “ใช่ค่ะ น้องไอไม่อยากถือถาดลงไปเดี๋ยวเพื่อนเห็นแล้วจะโดนแซว” สาวนักเรียนนอกอย่างเธอถือของไปไหว้ศาลเจ้าที่เพื่อนคงขำกันน่าดู “รีบไปได้แล้ว” ผู้เป็นพี่ว่า “แล้วคืนนี้ก็อย่าดื่มเยอะนะรู้ไหม ดื่มวันแรกเลือกตัวเบา ๆ ก็พอ” “รับทราบค่ะท่านพี่” ผู้เป็นน้องสาวรับคำพลางย่อตัวในท่าถอนสายบัวหยอกล้อพี่ชายก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป วันนี้ไออุ่นได้รับอนุญาตให้เที่ยวผับเป็นครั้งแรก โดยเริ่มจากผับของตัวเองก่อนและนอกจากนั้นยังได้รับอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกในวันเกิดด้วย แม้ว่าจะไปเป็นสาวนักเรียนนอกตั้งแต่ห้าขวบ แต่เพราะความน่ารักและขี้เล่นของเธอจึงทำให้มีเพื่อนที่คบกันตั้งแต่สมัยอนุบาลหมีน้อยในเมืองไทยติดต่อกันอยู่ วันนี้สาว ๆ จึงนัดเจอกันพร้อมฉลองวันเกิดครบรอบยี่สิบปีไปในตัว ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบทางเดินไม่ใกล้ไม่ไกลจากลานจอดรถข้างผับ เรือนร่างอรชรของสาวน้อนวัยยี่สิบปีบริบูรณ์เดินถือถาดของไหว้มาวางบนแท่นตั้งของไหว้ข้างศาลเจ้าที่ มือเรียวเก็บของไหว้เก่าลงทิ้งถังขยะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้านักก่อนจะจุดธูปเทียนที่แม่เตรียมไว้ให้ปักลงกระถางน้อยอย่างเบามือ “น้องเขาโตเป็นสาวขนาดนี้เลยเหรอนาวา” เสียงหวานของดวงวิญญาณสาวเอ่ยถามเพื่อนที่นั่งเล่นบนหลังคารถยนต์ข้างกัน ดวงตาคู่สวยจ้องมองเรือนร่างสาวน้อยเจ้าของใบหน้าหวานด้วยความสนอกสนใจ “มึงก็ถามอะไรโง่ ๆ นะอีลิน ผ่านมาสิบห้าปีแล้วมึงจะให้น้องเขาตัวเท่าหัวเข่ามึงหรือไง” เสียงทุ้มเย็นยะเยือกหันไปเอ่ยกับเพื่อนสาวก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของเรือนร่างอรชรต่อ “น่ารักกว่าตอนเด็กอีก” ไพลินว่า “แต่ทำไมจากสาวหวานเปลี่ยนมาเป็นสาวเปรี้ยวได้เนี่ย ดูแต่งตัวเข้าสิ น่าตีก้นจริง ๆ เล้ย” ดวงวิญญาณสาวพูดต่อ “มาเที่ยวผับมึงจะให้น้องเขาสวมเสื้อโค้ชมาหรือไง ถามอะไรโง่ ๆ แล้วนี่มันยุคไหนแล้ว ทีสมัยก่อนผู้หญิงไม่ใส่เสื้อยังไม่เห็นมีใครว่าโป๊เลย” นาวาว่าให้เพื่อนสาวเมื่อนึกถึงยุคที่ผ่านมาก่อนแล้ว วูบ ~ “นี่เหรอเด็กคนนั้น” เสียงทุ้มเย็นยะเยือกของคนมาใหม่เอ่ยถามบริวารทั้งสอง ก่อนหน้านี้เหมันต์ออกมาแล้วแต่เขาลืมหยิบบางอย่างมาด้วยเลยกลับเข้าไปในศาลแล้วออกมาใหม่ “ใช่ค่ะท่านเหมันต์ คนนี้แหละน้องไออุ่นลูกสาวคุณนายไอรยาเจ้าของผับ” ไพลินตอบผู้เป็นนาย “ทำไมแต่งตัวแบบนี้” เสียงทุ้มว่า “ก็น้องเขามาเที่ยวผับนี่ครับ ท่านเหมันต์ก็ถามอะไร...” นาวารีบท้วงก่อนจะเงียบไปในประโยคสุดท้ายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือดวงวิญญาณอาวุโส “แกจะว่าท่านเหมันต์โง่ไม่ได้นะไอ้นาวา เดี๋ยวโดนผนึกวิญญาณร้อยชาติได้ตายห่ากันพอดี” ไพลินกระซิบกระซาบกับเพื่อนรักก่อนจะหันไปมองนกมองไม้ทำไม่รู้ไม่ชี้เมื่อผู้อาวุโสหันมามองพวกเขา “ว่าแต่ท่านเหมันต์ถืออะไรมาด้วยน่ะ อย่าบอกนะครับว่าเป็นขนมที่ซื้อเอาไว้เมื่อสิบห้าปีก่อน” นาวาเลิกคิ้วถามเมื่อนึกขึ้นได้ เขาเปิดตู้เย็นในศาลเจ้าที่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็เห็นว่ามีขนมถุงใหญ่ที่ใครบางคนแช่ไว้ในช่องฟรีซ ผ่านมาสิบห้าปีแล้วเขาก็ยังเห็นมันวางอยู่ที่เดิม “อือ” คำตอบของเจ้าที่แกร่งทำเอาบริวารทั้งสองถึงกับต้องหันไปมองหน้ากัน “เดี๋ยวค่ะท่านเหมันต์ อย่าบอกนะคะว่าจะเอาขนมไปให้น้องน่ะ” ไพลินรีบยกมือห้าม “อือ กูเก็บไว้นานแล้วมันรกศาล” คำตอบของคนหน้านิ่งทำเอาบริวารสาวต้องตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ ไปหนึ่งทีด้วยคาดไม่ถึงว่าเจ้านายตัวเองจะ...หึ้ย! “ตอนนี้น้องเขาโตแล้วเขาไม่กินขนมหรอกค่ะ อีกอย่างผ่านมานานขนาดนั้นมันหมดอายุไปแล้วล่ะค่ะ” บริวารสาวพูดต่อ “แต่ส่วนผสมมันมีสารกันบูดนะ” ผู้อาวุโสเถียง “ใส่สารกันบูดมันก็มีวันหมดอายุค่ะ” ไพลินกระแทกเสียงใส่ผู้เป็นนายก่อนจะส่ายหัวไปมา เธอไม่คิดว่าเหมันต์จะเอาแต่นั่งทำสมาธิจนไม่สนใจโลกภายนอกถึงขนาดที่ว่าอ่อนหัดกับเรื่องแบบนี้ “อีกอย่างท่านเหมันต์เอาของแห้งไปแช่ฟรีซแบบนั้นมันคงเน่าตั้งแต่สามวันแรกแล้วล่ะค่ะ มันชื้นจนราขึ้นไปแล้วมั้ง” บริวารสาวว่าต่อ “แล้วขนมอันนี้ตอนนี้มันก็เปลี่ยนแพ็คเก็จไปแล้วด้วยครับ ถ้าเอาไปให้น้องเขา น้องคงแปลกใจกันพอดี” นาวาเสริมทัพ เพราะตอนนี้ขนมยี่ห้อนี่มันเปลี่ยนห่อบรรจุภัณฑ์และเปลี่ยนราคาไปแล้ว “เก็บขนมไว้ให้เขาตั้งแต่เด็กยันโตเป็นสาว นี่ท่านเหมันต์ไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขาใช่ไหมคะ ท่านแก่กว่าเป็นพันปีเลยนะ” เป็นไพลินที่ถามขึ้น “...” ดวงตาคมกริบของเจ้าที่แกร่งตวัดมองบริวารสาวอย่างไม่ชอบใจนักเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนจะก้มลงมองถุงขนมในมือตัวเองต่อโดยไม่ได้เถียงกลับ “แต่เอาฟรีซไว้มันก็น่าจะยืดอายุ...” “พอเลยค่ะท่านเหมันต์! / มันกินไม่ได้แล้วครับ! มันเป็นเห็ดไปแล้ว!” สองบริวารรีบปรามเจ้าที่อาวุโสที่ยังไม่เลิกพูดถึงขนมในมือตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD