ลองของ

1310 Words
ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายสีดำของคนที่กำลังเทเครื่องดื่มใส่แก้วบนแท่นวางของไหว้ดังขึ้น มือเรียววางขวดเครื่องดื่มสีสวยลงข้างแก้วก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมา “ฮัลโหล” เสียงหวานทักทายปลายสายทันทีที่กดรับ [แกอยู่ไหน ตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว] น้ำเสียงร้อนรนของเพื่อนสาวลูกครึ่งไทยอเมริกันเอ่ยขึ้น แคทเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันที่เมืองนอกและขอตามมาเที่ยวเมืองไทยด้วย “ฉันทำธุระให้แม่อยู่ลานจอดรถ อีกสักพักจะเข้าไป ว่าแต่แกมีเรื่องอะไรถ้าด่วนก็พูดมาเลย” [เมื่อกี้เอลลี่โทรมาบอกว่าแกไม่รับสาย นางมีข่าวแฟนแกควงผู้หญิงเข้าโรงแรมมาบอก ตอนนี้เอลลี่กำลังตามดูมันอยู่ห่าง ๆ นางถ่ายรูปส่งมาให้ฉันด้วยนะกลัวแกไม่เชื่อ] “...ฉันถือของออกมาข้างนอกน่ะเลยรับสายไม่ทัน ว่าแต่เอลเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นชัดไหม” คนตัวเล็กถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนลงขณะค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างเสาต้นใหญ่ของศาลเจ้าที่ “ใช่คนเดียวกับที่บอกว่าไม่มีอะไรหรือเปล่า” เพราะก่อนจะกลับไทยไออุ่นระแคะระคายเรื่องแฟนหนุ่มกับสาวอื่นก่อนแล้วจนมีปากเสียงกัน ทำให้เธอขอตามแม่กลับมาพักใจที่เมืองไทย [ฉันดูในรูปถ่ายที่เอลลี่ส่งมาก็คิดว่า… ก็คิดว่าใช่แหละแก] “...” [แกตัดใจจากไอ้บ้านั่นเถอะยัยไอ เริ่มต้นใหม่ที่เมืองไทยไม่ต้องกลับไปหามันแล้ว] “...” [นี่แกฟังฉันอยู่ปะเนี่ย] “อือยังฟังอยู่ ขอโทษพวกแกด้วยนะที่ฉันไม่เคยเชื่อพวกแกเลย” [เออช่างเถอะฉันเข้าใจ ความรักมันก็ทำให้คนตาบอดแบบนี้แหละ ช่วงนี้แกกับมันมีปัญหาเรื่องนี้ถี่เกินไปแล้วฉันว่าแกเลิกกับมันเถอะ] “อืม… งั้นฉันทำธุระให้แม่ต่อก่อนแล้วจะเข้าไปนะ ว่าแต่แกกับเพื่อนคนอื่นของฉันเข้ากันได้ดีใช่ไหม” [ทางนี้สบายมากแก เพื่อนคนไทยของแกน่ารักมาก เดี๋ยวพวกฉันไปเต้นรอนะ] “อืม ๆ” มือเรียวเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าตามเดิมก่อนจะซบหน้าลงบนหัวเข่าเล็ก วงแขนเรียวกอดรอบเข่าตัวเองเอาไว้ขณะที่ดวงตาคู่สวยหลับลงช้า ๆ พลางนึกถึงคำพูดของเพื่อนรัก “คราวนี้ก็ตัดใจจริง ๆ ได้สักทีนะ...” เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอกับแฟนหนุ่มมีปัญหากันเรื่องมือที่สาม แต่ทุกครั้งไม่มีหลักฐานเลยทำให้เธอยังเชื่อใจเขาและคิดว่าเพื่อน ๆ สร้างข่าวลือขึ้นมาเพราะไม่ชอบแฟนหนุ่มของเธอ “เพิ่งมีแฟนคนแรกก็จะอกหักซะแล้ว...” เสียงหวานพูดต่อ ความรักครั้งนี้เพิ่งจะผลิบานได้ไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำแต่ก็โรยราเสียแล้ว “แต่ก่อนจะยุ่งกับคนอื่นทำไมไม่โทรมาบอกเลิกก่อนล่ะ ไอ้เฮงซวยเอ๊ย! คิดจะสวมเขาฉันไปถึงเมื่อไหร่กัน!” ใบหน้าหวานผละออกจากหัวเข่าเล็กก่อนจะลุกขึ้นหันไปมองศาลเจ้าที่หลังน้อยตรงหน้า มือเรียวสองข้างกำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงคำหวานที่เคยโป้ปดเธอมาเกือบสามเดือน ‘ตกลงน้องเขาอกหักจริงป่าววะลิน ไม่เห็นจะร้องไห้ฟูมฟายเลย’ เสียงทุ้มเย็นยะเยือกของบริวารหนุ่มกระซิบถามเพื่อนสาวที่นั่งมองดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ ด้วยกัน ‘บางทีน้องเขาอาจจะร้องมาเยอะแล้วก็ได้นะนาวา แกลองเพ่งจิตดูสิเผื่อจะเห็นความหลังของน้องเขา’ ‘ไม่อะเปลืองแต้มบุญ ได้ข่าวยังไงมาเล่าให้กูฟังด้วยนะ ต้องกลับเข้าข้างในแล้ว’ เสียงทุ้มว่าก่อนจะหายวับไปดูแลผู้คนในผับต่อเพราะเขาออกมาข้างนอกนานเกินไปแล้ว ‘งั้นลินขอตามนาวาไปนะคะท่านเหมันต์ ข้างในคืนนี้คนเยอะไอ้นาวาคนเดียวไม่น่าจะดูแลทั่วถึง’ เสียงหวานของบริวารสาวเอ่ยบอกผู้เป็นนายที่ยืนอยู่ข้างศาลเจ้าที่ ‘อือ’ สิ้นเสียงของผู้อาวุโสดวงวิญญาณสาวก็หายวับเข้าไปในผับตามเพื่อนชายไป ด้านนอกตอนนี้มีเพียงร่างเล็กของสาวน้อยที่ยืนกำหมัดแน่นอยู่หน้าศาลโดยมีเจ้าที่แกร่งยืนมองอยู่ “ศาลนี้ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่านะ...” เสียงหวานเอ่ยกับศาลเจ้าที่หลังน้อยตรงหน้า “ถ้าจริงอย่างที่แม่บอกงั้นน้องไอขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ” ปากว่าส่วนมือเรียวสองข้างก็ประนมขึ้นแนบอกไปด้วย “น้องไอขอให้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นเป็นสังคัง” ‘แค่ก! แค่ก!’ เจ้าที่แกร่งถึงกับสำลักเครื่องดื่มที่ตัวเองกำลังกระดกลงคอจนหน้าดำหน้าแดง มือใหญ่วางแก้วเครื่องดื่มไว้หน้าแท่นตามเดิมก่อนจะหายวับไป “สะเสียงใครน่ะ!” เสียงหวานร้องถามเมื่อได้ยินคล้ายกับว่ามีคนมาไอแถวนี้ หากแต่มองดูรอบ ๆ แล้วก็ไม่พบว่ามีใคร “หูฟาดเหรอ...” ร่างเล็กพึมพำก่อนจะหันกลับมาจดจ่ออยู่กับศาลเจ้าที่เบื้องหน้าตามเดิม “โอเคค่ะ น้องไอจะขอใหม่ล่ะนะ” ดวงตาคู่สวยหลับลงช้า ๆ ก่อนจะพูดประโยชน์ถัดไปเมื่อตั้งสติได้ “ขอให้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นมันเป็นสังคัง เป็นเยอะ ๆ แล้วก็เป็นวันนี้เลย ยิ่งเกาก็ยิ่งคัน ขอให้เกาจนปวดฉี่ เอาให้ฉี่ราดอั้นไม่ไหวไปเลย ขอให้ผู้หญิงคนนั้นรับมันไม่ได้แล้วก็ทิ้งมันไปด้วย” คนเจ้าคิดเจ้าแค้นพูดจบก็ลืมตาขึ้นมองศาลเจ้าที่หลังน้อยต่อ “ยัยเด็กบ้าเอ๊ย ทำไมถึงเป็นคนอันตรายขนาดนี้ล่ะ ใครจะไปให้อะไรแบบนี้กับเธอกันมันเป็นบาป แถมยังขอเยอะแยะไปหมด” คนที่หายวับกลับเข้ามาในศาลเอ่ยขึ้นขณะยืนมองภาพคนด้านนอกอยู่ระเบียงศาล “ถ้าท่านเจ้าที่ทำให้สิ่งที่น้องไอขอเป็นจริงได้ภายในคืนนี้ น้องไอจะเอาเหล้าที่ดีกว่านี้ แพงกว่านี้มาถวายค่ะ” คนด้านนอกพูดต่อโดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของศาลยืนบ่นให้เธออยู่ด้านใน “หึ ของแบบนั้นฉันกินจนเบื่อแล้ว อย่ามาหลอกให้ผีเจ้าที่ชั้นสูงอย่างฉันทำบาปเสียให้ยากเลยยัยเด็กอันตราย” คนในศาลพูด “วันนี้เป็นวันเกิดน้องไอนะ หลังเที่ยงคืนนี้ไปน้องไอก็ยี่สิบปีบริบูรณ์แล้ว ท่านเจ้าที่ใจดี๊ใจดีช่วยทำให้สิ่งที่น้องไอขอเป็นจริงได้ไหมคะ คิดซะว่าเป็นของขวัญวันเกิดน้องไอนะคะ” ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบ ๆ ใส่ศาลเจ้าที่หลังน้อยพรางออดอ้อนไปด้วย ทำราวกับว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านั้นคือคนปกติ “อืม… แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้บาปอะไรมากมายหรอก ถ้าจะให้ก็ให้ได้แค่นิดหน่อยนั่นแหละ” เจ้าที่แกร่งพึมพำพลางกอดอกทำท่าครุ่นคิดไปด้วยเมื่อได้ยินแบบนั้น “ถ้าท่านเจ้าที่ทำให้น้องไอสมหวังน้องไอคงเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้โดยไม่ติดขัดอะไร น้องไอจะเลิกกับผู้ชายคนนั้น” “งั้นก็ให้สมหวังไปทุกอย่างตามที่ขอมาแล้วกัน คิดดูดี ๆ แล้วมันก็ไม่เป็นบาปอะไร” เสียงทุ้มว่าต่อก่อนจะหลับตาลงพร้อมบริกรรมคาถาบทหนึ่ง ในใจนึกถึงคำขอของคนนอกศาลทำให้คำขอนั้นเป็นจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD