bc

สัตว์เลี้ยงของแม่ทัพปีศาจ

book_age18+
164
ติดตาม
1.1K
อ่าน
จบสุข
เดินทางข้ามเวลา
เย่อหยิ่ง
องค์หญิง
ราชนิกุล/ชั้นสูง
ดราม่า
ชายจีบหญิง
friends with benefits
like
intro-logo
คำนิยม

เฉินอวี้หรานตั้งใจจบชีวิตอันบัดซบตัวเอง แต่กลับลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในร่างขององค์หญิงตัวประกอบ

ในนิยาย และสวรรค์ก็ซ้ำเติมไม่หยุด ด้วยการถูกจับไปเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่ทัพปีศาจ! ซึ่งแม่ทัพหนุ่มผู้

นั้นก็คือหานเซ่อ บุคคลผู้ฉาวโฉ่ในเรื่องกาม ตัวละครในนิยายที่มีบทสองหน้ากระดาษเท่านั้น ทว่า

หลังจากได้สัมผัสถึงตัวตนของเขาแล้ว กลับมีบางอย่างดึงดูดให้เข้าไปค้นหา

แต่ปัญหามันอยู่ที่ช่วงเวลาต่างหาก! ในเมื่อนิยายเดินทางมาถึงตอนจบแล้ว ชีวิตใหม่ของเธอกลับเพิ่ง

เริ่มต้นขึ้น มีเพียงการอยู่รอดเท่านั้นจึงจะค้นหาความจริงได้ว่าเหตุใดเธอถึงเข้ามาอยู่ที่นี่ ทว่าอย่างไรก็

ตาม การรับมือกับเจ้านายสุดหื่นในแต่ละวันนั้น มันไม่ง่ายเลยสักนิด!

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอน1
“ฮืออออออ พี่สาว... ข้ากลัว...” เด็กหญิงและเด็กชายที่ถูกจับมาในฐานะทาสเชลยสงคราม ต่างเข้ามากอดหญิงสาวร่างผอมบางปานจะหักที่นั่งอยู่ในอีกมุมหนึ่งของกองฟาง “ข้าก็กลัวเหมือนกัน” เสียงหวานของหญิงสาวผู้โอบกอดเด็กน้อยเอ่ยปลอบ ทว่าใบหน้าหวานเปื้อนดินนั้นกลับระบายไปด้วยรอยยิ้มอ่อนแรง “พี่สาว ท่านกลัว แต่ทำไมถึงได้ยิ้มล่ะ” เด็กชายถามอย่างไม่เข้าใจนัก “เพราะข้ากลัวว่าเมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว ข้าอาจจะไม่มีกำลังมากพอจนยิ้มให้พวกเจ้าได้น่ะสิ” “ฮือออออ ท่านอย่าพูดอะไรน่ากลัวเช่นนั้น พวกข้าเหลือแค่ท่านเท่านั้นนะ” เฉินอวี้หรานขยับยิ้มอย่างอ่อนแรง สามวันแล้ว นับตั้งแต่เธอทะลุเข้ามาอยู่ในตอนจบของนิยายเรื่อง ยอดดวงใจขององค์รัชทายาท นิยายรักย้อนยุคที่เธอเคยอ่านในร้านหนังสือก่อนจะต้องออกมาเจอโลกความจริงที่แสนโหดร้าย ใช่... โลกความจริงมันโหดร้าย ตั้งแต่ถูกแฟนที่คบมาสิบปีทิ้งไปพร้อมกับทิ้งหนี้ก้อนโตเอาไว้ให้ ถูกบริษัทโกงค่าลิขสิทธิ์หนังสือ และถูกไล่ออกจากคอนโดจนไม่มีที่ซุกหัวนอน อะไรมันจะเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้ เพราะเส้นทางนั้นมืดมิดจนเกินไป อีกทั้งร่างกายและจิตใจยังอ่อนล้าเกินกว่าจะก้าวเดินต่อ เธอจึงตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองบนสะพานแม่น้ำสายหลัก เผื่อว่าดวงวิญญาณของเธอจะเดินทางไปยังภพภูมิที่ดีกว่านี้ แต่ใครจะไปคิดกันเล่าว่านอกจากสวรรค์จะไม่นำพาแล้ว ยังลงโทษด้วยการส่งเธอมาเผชิญหน้ากับความโหดร้ายชนิดที่อยากตายอีกรอบด้วยซ้ำ วิญญาณของเธอเข้ามาอยู่ในร่างขององค์หญิงปลายแถวเฉินอวี้หราน องค์หญิงอายุสิบแปดปี ซึ่งเป็นตัวประกอบที่ดันมีชื่อเหมือนกับเธอ อีกทั้งยังเขียนด้วยตัวอักษรตัวเดียวกันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ทว่าเท่าที่จำได้ เรื่องราวในนิยายนั้นจบลงที่แม่ทัพสาวไป๋รั่วกับองค์รัชทายาทเซียวเหยาครองรักกันหลังจากนำกองทัพไปพิชิตอาณาจักรเฉิน ซึ่งตอนนี้เรื่องราวในนิยายก็ มาถึงบทจบแล้วเป็นที่เรียบร้อย และเฉินอวี้หราน องค์หญิงตัวประกอบที่สวมรอยเป็นคนเร่ร่อนถูกต้อนเป็นทาสเชลยศึก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีชะตาชีวิตเช่นไรต่อไป เพราะเป็นตัวประกอบที่มีบทเพียงแค่หนึ่งบรรทัด คือ... “หนีออกจากวัง” เท่านั้นเอง ซึ่งมันทำให้เธอถึงกับมืดแปดด้านที่ต้องมาอยู่ในร่างนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของเฉินอวี้หรานก็ช่างบอบบางอ่อนแอจนน่าหงุดหงิดเสียเหลือเกิน ถึงแม้ว่าจะพอประทังชีวิตอยู่ได้ด้วยก้อนแป้งที่มีคนโยนให้กินเหมือนสัตว์ แต่ดูเหมือนว่าชีวิตในชาตินี้คงจะมีเวลาเหลืออยู่ได้อีกไม่นานเท่าไหร่ ยอมแพ้อีกสักรอบคงจะไม่เป็นไร “พี่สาว ท่านไม่สบายหรือ” เด็กชายตัวน้อยเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง พร้อมกับยกมือเปื้อนคราบสกปรกขึ้นมาแตะใบหน้าของเธอ ก่อนที่ดวงตากลมของเด็กน้อยจะโตขึ้น “หน้าท่านร้อนมากเลย!” ริมฝีปากบางยกยิ้ม จากนั้นจึงค่อย ๆ ลูบผมเด็กน้อยอย่างเอ็นดู “ข้าไม่เป็นไร มาเถอะ ถึงเวลาเข้านอนแล้ว ข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” เริ่มเล่าเพียงไม่กี่นาที ด้วยน้ำเสียงแสนหวานเป็นพิเศษของเฉินอวี้หราน ทำให้เด็กน้อยรอบกายล้มตัวนอนลงด้วยสีหน้าผ่อนคลาย สามคืนแล้วที่ต้องเดินทาง โชคดีที่กองทัพหลวงมักจะหยุดพักแรมในตอนกลางคืน เพื่อที่องค์รัชทายาทกับแม่ทัพสาวจะได้พลอดรักกันอย่างสุขใจ ก่อนจะไปเข้าพิธีมงคลสมรสที่เมืองหลวง เป็นอันปิดฉากตอนจบของนิยายรักอย่างสวยงาม ในขณะที่พวกเขากำลังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่เฉินอวี้หรานคนนี้คงต้องตายก่อนจะเดินทางถึงเมืองหลวงเป็นแน่ แต่ก่อนตายก็ขอให้ได้พักผ่อนบ้างเถอะ เดินมาทั้งวันได้กินแค่ก้อนแป้งก้อนเดียว... แขนเล็กบางเหยียดออกพร้อมกับหาวออกมาอย่างสุดกลั้น ดวงตาอัญมณีสีอำพัน ซึ่งเป็นสีพิเศษของราชวงศ์เฉินก้มมองเด็กน้อยทั้งหลายอย่างเอ็นดู นับตั้งแต่เดินทางมา ก็มีเพียงแค่การเล่านิทานเท่านั้นที่สามารถทำให้เด็ก ๆ หายหวาดกลัวได้ อย่างน้อยที่สุด มันก็ทำให้พวกเขาได้นอนหลับฝันหวานอย่างผ่อนคลายก่อนจะต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเผชิญหน้ากับโลกความจริงอันแสนโหดร้ายนี้ และเธอก็ควรจะนอนบ้างเช่นกัน ทว่าก่อนที่เธอจะได้เอนหลังพิงลงกับกองฟาง อยู่ ๆ ก็มีทหารมากมายเข้ามาล้อมกลุ่มของเธอเอาไว้ พร้อมกับชี้นิ้วมาที่เธอ และกระซิบกระซาบกันราวกับได้รับคำสั่งบางอย่างมา “จับมัน” ทหารที่สวมชุดดูดีกว่าใครออกคำสั่ง จากนั้นทหารอีกสองนายจึงเข้ามาหิ้วปีกเธอให้ลุกขึ้น และมัดมือของเธอเอาไว้ การกระทำรุนแรงของพวกเขาทำให้เด็กน้อยทั้งหลายตื่นขึ้นทันที “อย่านะ!” เฉินอวี้หรานหวีดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อถูกกระชากให้เดินไป “พี่สาว!” “ไอ้เด็กพวกนี้! เดี๋ยวก็ฆ่าทิ้งเสียให้หมด” ทหารคนหนึ่งตะคอกเสียงเหี้ยมพร้อมกับชักดาบออกจากฝัก “ไม่นะ อย่าทำพวกเขา ข้ายอมแล้ว” เธอรีบห้ามอย่างยอมจำนน “พี่สาว ฮืออออ” เฉินอวี้หรานหันกลับมามองเด็กน้อยด้วยสายตาอ่อนแรง ถึงกระนั้นก็ยังส่งยิ้มให้ แสร้งว่าไร้กังวล “พวกเจ้านอนเสียเถอะ เดี๋ยวข้ากลับมา” เด็กน้อยผู้รู้ความได้แต่พยักหน้าทำตามคำสั่งของหญิงสาว เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่สามารถต่อต้านได้หากยังต้องการมีชีวิตอยู่ต่อ เพียงแต่ว่าชีวิตของพี่สาวผู้นั้นจะเป็นเช่นใดต่อไปเล่า ทาสหญิงส่วนใหญ่ในกองทัพต่างถูกกระทำไม่ต่างจากเดรัจฉาน พวกมันทั้งบังคับ ข่มขู่ หากไม่ยอมทำตามก็จะเข่นฆ่าตามอำเภอใจ ทว่าเฉินอวี้หรานกลับสามารถหลบหลีกมาได้ถึงสามวันก็เพราะกลิ่นกายโสมมเหม็นเน่า อีกทั้งยังมีคราบสกปรกเปรอะเปื้อนไปทั้งร่างกาย ทำให้ชายฉกรรจ์เหล่านั้นไม่อยากเข้าใกล้ ทว่าเวลานี้ดวงชะตาของเธอกลับใกล้จะขาดลงเสียแล้ว เธอไม่กลัวหากต้องตายเป็นครั้งที่สอง แต่เธอกลัวการถูกทรมานเป็นที่สุด โดยเฉพาะในเมื่อมีสถานะเป็นเชื้อพระวงศ์ที่เหลือรอดอยู่ “นังนี่ตัวเหม็นเป็นบ้า ทำไมท่านแม่ทัพถึงต้องการตัวมัน” ท่านแม่ทัพ? หานเซ่อคนนั้นน่ะหรือ “เรื่องของแม่ทัพ เจ้าอย่าพูดมาก” เฉินอวี้หรานฟังบทสนทนาที่พูดถึงแม่ทัพหานเซ่อเงียบ ๆ ตามบทแล้วเขาเป็นชายหนุ่มผู้เก่งกาจ แต่เพราะปมบางอย่าง ทำให้กลายเป็นผู้มักมากในกาม แม้ในยามกลางวันจะเป็นถึงแม่ทัพผู้น่าเกรงขาม แต่ในยามกลางคืนกลับห้อมล้อมไปด้วยหญิงงามที่มาคอยปรนนิบัติ นับว่านิยายสร้างตัวละครตัวนี้มาเพื่อเชิดชูความเป็นสุภาพบุรุษขององค์รัชทายาทที่เป็น “พระเอก” โดยแท้ ว่าแต่... ทำไมหานเซ่อถึงต้องการตัวเธอด้วยเล่า หรือว่าเขารู้แล้วว่าเธอคือใคร! กระโจมของท่านแม่ทัพนั้นอยู่ไกลออกไปเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ทว่าเสียงที่ได้ยินนั้น กลับมีแต่เสียงครวญครางของหญิงสาว... อา... แต่เธอสกปรกขนาดนี้ เขาคงไม่เอาเธอไปย่ำยีหรอกกระมัง ก็คงรู้แล้วว่าเธอคือผู้ใดถึงได้เรียกมาฆ่าสินะ สายเลือดสุดท้ายที่เหลือรอด มันไม่มีอยู่จริงในสงคราม “ท่านแม่ทัพหานเซ่อขอรับ ข้านำนางมาให้ท่านแล้ว” ทหารคนหนึ่งพูดเสียงดัง ทว่าเสียงตอบกลับมานั้นกลับเป็นเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ทำเอาคนได้ยินอดหัวใจเต้นแรงไม่ได้ รวมถึงหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้ากระโจมด้วย “ให้นางเข้ามา” เสียงทุ้มต่ำออกคำสั่ง ทหารทั้งสองมองหน้ากันอย่างลังเล ก่อนจะลากเธอให้เดินมาข้างหน้า แล้วผลักเธอเข้าไปในกระโจม ร่างเล็กบางล้มคว่ำลงกับพื้นด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือน้อยเต็มทน ก่อนจะค่อย ๆ ยันตัวขึ้นอย่างไม่ค่อยถนัดนัก เพราะว่ามือทั้งสองถูกมัดอยู่ หญิงสาวสะดุ้งเมื่อเห็นเงาดำทะมึนทาบทับร่างของตน ใบหน้าเปื้อนคราบสกปรกก้มลงจนเกือบติดพื้นด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่ดวงตากลมโตสีอำพันจะเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคคำถามของคนตรงหน้า “เจ้าน่ะหรือ นักเล่านิทาน”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1.4K
bc

อ้อนรักพ่อผัว

read
6.8K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
12.2K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
11.0K
bc

ไฟรักซาตาน

read
53.9K
bc

ปราบพยศรักยัยรุ่นพี่

read
1.2K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.4K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook