ตอนที่ 1 : หอหมื่นเมฆา

1156 คำ
ตอนที่ 1 หอหมื่นเมฆา บนถนนอันคราคร่ำไปด้วยผู้คนในเขตเมืองกุยเปียวแคว้นต้าซุย ที่ด้านหน้าทางสามแพร่งใหญ่เป็นที่ตั้งของหอหมื่นเมฆา หอหมื่นเมฆาแห่งเมืองกุยเปียวเป็นอาคารสูงสามชั้นทำจากไม้หอมสีดำหายาก ด้านในประดับโคมไฟแก้วเนื้อดีที่ส่องแสงสว่างราวกับกลางวัน นานเกือบร้อยปี...กว่าที่หอหมื่นเมฆาจะมีเทียบเชิญขอคำทำนาย บัดนี้ที่เรือนปีกตะวันตก ‘กั้วซู’ ผู้หยั่งรู้ฟ้าดินกำลังตักตวงเสพกลิ่นไอราคะอย่างเพลิดเพลิน ยิ่งได้ฟังเสียงร้องขณะร่วมบทรักของสตรียิ่งพาให้อารมณ์เบิกบาน เขาเร่งเร้าแก่นกายเบื้องล่างตนเองหนักหน่วง สุดทางสวาทจ่ออยู่สุดปลายแก่นกายอยู่รำไร...พลันรับรู้ถึงร่องราคะสตรีนางนี้หดเกร็งบีบรัดท่อนเอ็นใหญ่ของเขา ร่างโปร่งพลันถอนแก่นกายออกจากร่องสวาทกระทันหัน ก่อนจับพลิกร่างบางให้หันหลังท่อนขาอ่อนยวบถูกแยกออกจากกัน ไม่นานนักท่อนเอ็นเขียวปูดโปนกระแทกสวนเข้าร่องสวาทฉ่ำเยิ้มอีกครั้ง ติ่งกระสันต์สตรีนางนั้นถูไถเอากับขอบโต๊ะจนบั้นเอวกระตุกถี่ ร่องสวรรค์หลั่งน้ำหวานฉ่ำเยิ้ม “...ก้วยเปียว....เอานางออกไป...” น้ำเสียงเยือกเย็นออกคำสั่งให้ผู้รับใช้ที่ด้านนอกเข้ามาเก็บซากดวงจิตสตรีนางนี้ออกไป เมื่อสูญเสียดวงจิตพิสุทธิ์จากร่างแล้วสตรีเหล่านี้กลายเป็นเพียงซากดวงจิต ไม่คู่ควรให้ระลึกถึงอีกทั้งพวกนางยังมีอายุขัยสั้นลงจากการถูกกระทำเช่นนี้ ผู้แลหอหมื่นเมฆาเมืองกุยเปียวเป็นชายร่างสูงวัยกลางคน ผิวเนื้อสีเข้มดวงหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม ....ทุกคนที่นี่เรียกขานเขาว่า...ก้วยเปียว... ‘ก้วยเปียว’ คือคำเรียกขานผู้เป็นทาสรับใช้ของเผ่าจิ้งจอกเมฆาสวรรค์ กิจการหอหมื่นเมฆามีทั้งโรงน้ำชา โรงพนัน ไปจนถึงหอนางโลม สิ่งใดเป็นที่มอมเมาผู้คนให้หลงมัวเมาได้ เป็นต้องมองหาเจอในหอหมื่นเมฆา น้อยคนนักที่จะล่วงรู้ว่าหอหมื่นเมฆาแห่งนี้ มีนักทำนายดวงชะตาอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยพื้นที่ด้านหลังหอสูงสีดำสนิท เป็นที่พำนักของบุรุษผู้มีใบหน้างดงามล้ำลึก ‘ซียี่’ นามองค์ชายผู้สูงศักดิ์แห่งเผ่าจิ้งจอกเมฆาสวรรค์ นับตั้งแต่มหาเทพฝูซีกับมหาเทพหนี่วาห์สร้างมนุษย์ขึ้นมา....รวมระยะเวลาถึงตอนนี้ก็ร่วมสามพันปี ....ซียี่...องค์ชายแห่งเผ่าจิ้งจอกเมฆาเช่นเขานับตั้งแต่ย่างเท้าออกจากหุบเขาสงบสันติที่พำนักก็ผ่านไปเกือบเก้าร้อยปี โลกมนุษย์ยามนี้...แผ่นดินเต็มไปด้วยการศึกสงคราม เหล่ามนุษย์แบ่งชนชั้นกันด้วยสิ่งที่เรียกว่าเงินตรา ทายาทแห่งเผ่าจิ้งจองเมฆาเช่นเขา...หากไม่เพราะต้องการดวงจิตพิสุทธิ์จากมนุษย์ไปบำเพ็ญเพียร มีหรือจะยอมลงมาอยู่ในแดนมนุษย์โสมมเช่นนี้ ผู้สืบทอดแห่งเผ่าจิ้งจอกเมฆาเช่นซียี่กลับไม่นิยมชมชอบมนุษย์เท่าใดนัก...โดยเฉพาะกับสตรี ‘ช่างน่ารังเกียจและโสมม’ นั่นคือคำพูดที่ซียี่เคยเอ่ยไว้กับหนี่วาห์....ผู้ใดจะรู้ภายหลังซียี่ลงมาที่แดนมนุษย์ได้ไม่กี่ร้อยปี ทั้งหนี่วาห์กับฝูซีต่างสละตนเข้าสู่สังสารวัฏ นิรันดร์ไปหมดแล้ว “ซียี่ขอรับ...มีขบวนเดินทางส่งเทียบเชิญเข้าพบขอรับ” ก้วยเปียวโค้งร่างคำนับพร้อมเอ่ยถ้อยคำให้ร่างสูงศักดิ์ด้านในรับรู้ “มีเทียบเชิญ?” น้ำเสียงเยือกเย็นเพียงประหลาดใจ นานเท่าใดแล้วที่ไม่ได้รับเทียบเชิญ...หนึ่งร้อยปีพอดีเห็นจะได้ “รับรองนางที่เรือนปีกตะวันตก” “ขอรับ” เนิ่นนานกว่าร้อยปีที่ซียี่ไม่ได้รับเทียบเชิญขอคำทำนายดวงตาลุ่มลึกพลันเปล่งประกาย หลายร้อยปีมานี้แดนมนุษย์ช่างสกปรกโสมมมากขึ้นเรื่อยๆ จนก้วยเปียวทั้งหลายที่เขาส่งออกไป กว่าจะหาสตรีที่มีดวงจิตพิสุทธิ์มาได้...หนนี้ซียี่รอคอยกว่าร้อยปีทีเดียว สัตว์เทพที่ถือกำเนิดจากพิภพเช่นเขา บนแดนสวรรค์ยามนี้มีเหลือน้อยเต็มทน เผ่าจิ้งจอกเมฆาเป็นจิ้งจอกสีนิลดำสนิทไม่เหมือนเผ่าจิ้งจอกสวรรค์อื่นๆ คนของเผ่าจิ้งจอกเมฆาสวรรค์ ไม่อาจสืบทอดทายาทผ่านการเสพสมหากแต่เกิดจากการแบ่งดวงจิต กาลก่อนหากไม่เพราะ ‘เป้ยจี’ จิ้งจอกเมฆาหญิงนางหนึ่งยอมแบ่งดวงจิตตนเอง ช่วยหนี่วาห์ส่งร่างมนุษย์ลงมายังพิภพเบื้องล่างสำเร็จ จนนางต้องสังเวยดวงจิตไป เช่นนี้...เหล่าจิ้งจองเมฆาสีนิลจึงมีพันธะผูกติดกับดวงจิตมนุษย์ทั้งหลายจำต้องเสพไอวิญญาณ เพื่อเก็บดวงจิตพิสุทธิ์บำเพ็ญเพียรต่อชีวิตตน นับตั้งแต่จำแลงกายลงมาจากแดนสวรรค์ ซียี่เลือกเอาเมืองกุยเปียวเป็นที่พำนัก ที่นี่ไม่ร้อนไม่หนาวทั้งยังรายล้อมไปด้วยลำน้ำใหญ่สามสาย คล้ายวิมานเทียนหยกของเขาที่หุบเขาสงบสันติ “เสี่ยวเอ้อ...กั้วซูผู้หยั่งรู้ฟ้าดินของพวกท่านเมื่อใดถึงจะให้เข้าพบหรือ?” น้ำเสียงใสกังวานจากสตรีร่างเล็กเอ่ยถาม “แม่นางโปรดเรียกข้าว่าก้วยเปียวเถอะขอรับกั้วซูเพียงบอกให้ต้อนรับแม่นางที่เรือนปีกตะวันตกขอรับ” “เรื่องอื่น...กั้วซูไม่ได้สั่งไว้ขอรับ” ก้วยเปียวผู้มีใบหน้าใสกระจ่างเอ่ยถ้อยคำนอบน้อม “เช่นนั้น...คนของข้าที่ด้านนอก?” สตรีนางนั้นเพียงเก็บงำความร้อนรุ่มในใจเอาไว้ ....เฉาเหวินจี..... นางยอมมาเยือนหอหมื่นเมฆาครั้งนี้ก็เพื่อเอาคำทำนายดวงชะตา ให้กับพี่สาวของนาง “แม่นางท่านนี้...กั้วซูให้เชิญท่านด้านในขอรับ” ก้วยเปียวโค้งตัวทั้งยังผายมือเชิญเฉาเหวินจีอย่างนอบน้อมยิ่งนัก เฉาเหวินจีเดินตามเข้ามายังห้องกั้นด้านหลังเมื่อมาถึงร่างบางถึงกับชะงักปลายเท้า เบื้องหน้านางปรากฏบุรุษร่างโปร่งบาง ใบหน้าเรียวงามจนแทบไม่อาจแยกออกว่าเป็นบุรุษหรือสตรี ดวงตาสีดำลุ่มลึกริมฝีปากสีแดงสดตัดกันกับผิวเนื้อขาวสว่าง ที่กลางหว่างคิ้วงดงามนั้นประดับด้วยแต้มชาดลายเมฆมงคลสีแดงเพลิง ดูราวกับจะพุ่งทะยานออกมาได้ บุรุษงดงามผู้นั้นนั่งเอนกายอยู่บนเตียงยกพื้นปูด้วยเบาะนุ่ม เบื้องหน้ามีเพียงตะเกียงแก้วเจียระไนเนื้อดีให้แสงส่องสว่าง ---------------------------------------------------- หากชื่นชอบโปรดกดติดตาม เป็นกำลังใจให้นักเขียนได้นะคะ รักนักอ่านมาก 'เสี่ยวเกอเกอ'
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม