ตอนที่ 2
หว่านเอ๋อร์
ที่นี่คือเชิงเขาสวินหยางเมื่อข้ามเขาลูกนี้ไปก็จะถึงเมืองกุยเปียว
ร่างผอมบางของสตรีใบ้นามว่า ‘หว่านเอ๋อร์’ ดั้นด้นเดินทางมาเพียงลำพัง
ดรุณีน้อยผู้นี้เดินทางดั้นด้นข้ามภูเขาเพื่อมาขอคำทำนายจากกั้วซูผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน
นางมาจากหมู่บ้านอันห่างไกล นักพรตท่านหนึ่งชี้ทางแก่นางให้มาขอคำทำนายหยั่งรู้ฟ้าดินถึงเมืองกุยเปียว
หว่านเอ๋อร์อาศัยอยู่กับมารดาสองคน นานครั้งบิดาของนางถึงจะมาเยือนหมู่บ้านอันห่างไกลสักหนหนึ่ง
บ้านของหว่านเอ๋อร์กับมารดาอยู่ห่างไกลจากละแวกหมู่บ้านอื่น เช่นนี้เด็กหญิงจึงเติบโตมาแต่เพียงลำพังกับมารดา
หว่านเอ๋อร์จึงเป็นสตรีไม่รู้หนังสือไม่มีความรู้ศิลปวิทยาอย่างที่สตรีชั้นสูงในเมืองนิยมกัน
ถึงกระนั้นสตรีใบ้ผู้นี้กลับมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดรู้จักคิดอ่านเพื่อมารดากับตนเอง
วันหนึ่งบิดาของหว่านเอ๋อร์พามารดาของนางออกจากบ้านไป
เนิ่นนานเกือบเดือนยังไม่เห็นวี่แววว่าบิดาจะพามารดากลับมา
หว่านเอ๋อร์ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับบิดาว่าเป็นใครมาจากไหน มารดานั้นไม่เคยพูดสิ่งใดให้นางฟัง
ทุกวันมารดาของหว่านเอ๋อร์จะนั่งเหม่อมองไปยังชายป่าลึกราวกับเฝ้ารอการมาเยือนของใครสักคน
เมื่อมารดาจากไปนางรู้แต่เพียงนางไร้ที่พึ่งแท้จริง ได้แต่อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยนางอยากรู้ความเป็นไปของมารดา
ไม่นานนักมีนักพรตชราผู้หนึ่งมาขออาศัยหลบฝนกลางป่าที่บ้านหว่านเอ๋อร์
เป็นนักพรตผู้น้ีชี้ทางให้นางมาขอคำทำนายกับกั้วซูผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน
....หอหมื่นเมฆา....เมืองกุยเปียว....
หว่านเอ๋อร์ท่องจำชื่อนี้จนขึ้นใจ นางเอ่ยวาจาออกมาไม่ได้แต่หูยังคงได้ยิน
หนทางอีกไม่นับว่าไกล เมื่อเทียบกับหลายวันที่นางรอนแรมอยู่กลางป่าเขา
‘ข้าหว่านเอ๋อร์....ขอให้ได้พบเจอกับกั้วซูผู้หยั่งรู้ฟ้าดินสักครั้ง’
ที่เขาสวินหยางนี้ต้นไม้ใบหญ้าสวยงามร่มรื่น ป่าที่นี่สวยกว่าที่บ้านของนางมากนัก
หว่านเอ๋อร์เดินทางด้วยความเบิกบานใจเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ
สองข้างทางไม่มีสัตว์ร้ายโผล่ออกมาให้เห็น จะมีก็แต่เพียงนกน้อยกับไก่ป่าตัวอ้วนกลมโผล่ออกมาบ้างเป็นระยะ
ด้านหน้ามีลำธารไหลเย็นหว่านเอ๋อร์แหงนมองท้องฟ้า
ดวงตะวันเลยผ่านกลางศีรษะไปมากแล้วดูท่าคืนนี้นางต้องพักเอาแรงที่ริมลำธาร
หว่านเอ๋อร์เลือกเอาใต้ต้นไม่ใหญ่เป็นที่พักของนางคืนนี้ สัมภาระของนางมีเพียงเสื้อผ้าติดกายชุดเดียว
ร่างบางถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ก่อนเดินลงไปในธารน้ำใสสะอาดเบื้องหน้า ดวงหน้างดงามใสสะอาดผิวขาวสว่าง
โดยเฉพาะดวงตาของหว่านเอ๋อร์ใสกระจ่างดั่งรวมเอาแสงดาวบนฟ้าไว้ในดวงตา
นางเป็นโฉมงามที่เปล่งประกายงดงามอย่างไร้สิ่งแต่งเติม
แสงตะวันใกล้ลาลับยอดไม้ยามที่ร่างงามของหว่านเอ๋อร์เดินขึ้นมาจากธารน้ำ
เสื้อตัวในอันเปื่อยยุ่ยถูกห่มบนร่างลวกๆ เสื้อผ้าที่เหลือถูกนางหอบเอาไปซักล้างที่ลำธาร
เรือนร่างวับแวมภายใต้ผ้าเก่านั้นกลับตรึงสายตาซียี่ให้จับจ้องอยู่แต่นาง
ซียี่ผู้สูงส่งเช่นเขารับรู้ถึงคำขอของนางตั้งแต่แรกเดินทาง
วันนี้ซียี่อารมณ์ดีนักจึงยอมออกจากหอหมื่นเมฆามารับนางด้วยตัวเอง
ซียี่ในร่างจิ้งจอกเมฆาสีดำตัวใหญ่เฝ้ามองการกระทำของสตรร่างน้อยผู้นี้เงียบเชียบ
ผิวเนื้อนางผอมบางมากหากแต่ใบหน้างามล้ำกับดวงจิตใสสะอาดของนาง ขับเน้นให้ดรุณีน้อยผู้นี้ดูสูงส่ง
หว่านเอ๋อร์กางเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้วไว้กับกิ่งไม้ใหญ่ จากนั้นร่างน้อยจึงล้มตัวลงนอนหนุนรากไม้หลับไปอย่างง่ายๆ
ยามบ่ายนางกินรากไม้กับใบไม้บางส่วนไปแล้วยามนี้จึงยังไม่หิวนัก เอาไว้วันพรุ่งนี้ค่อยหาปลาจากในลำธารประทังหิว
รอจนร่างบางเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว จิ้งจอกเมฆาสีนิลตัวสูงใหญ่จึงออกจากที่กำบังกายเดินตรงเข้ามาหานาง
ซียี่นั่งลงข้างเรือนกายขาวผ่อง พวงหางทั้งเก้าโอบรอบร่างบางให้ความอบอุ่นแก่นาง
ใบหน้าเล็กจ้อยนั้นอยู่ห่างจากดวงตาคมวาวสีเงินแค่คืบ กลิ่นลมหายใจหอมสะอาดลอยมากระทบจมูก
นางไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่? ซียี่เพ่งมองใบหน้าสตรีผู้นี้อีกครั้ง...เช่นนี้เองเรือนกายนางจึงมีกลิ่นหอมสะอาดทั่วตัว
ร่างจิ้งจอกขนสีดำฟุบใบหน้าลงเคียงข้าง ปิดเปลือกตาส่งดวงจิตตนเองเข้าสู่ห้วงฝันของนางเช่นกัน
ในห้วงฝันอันสดชื่นของหว่านเอ๋อร์....นางกำลังนอนเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียว กลิ่นดอกไม้หอมกรุ่นฟุ้งกระจายอยู่ทั่วตัว
ท้องฟ้าเบื้องบนทอประกายสีรุ้งงดงามก้อนเมฆสีสันต่างๆ ลอยละล่องอยู่ใกล้จนฝ่ามือนางเอื้อมไปคว้าจับได้
“....เจ้าชื่ออะไร?....”
ซียี่ในร่างบุรุษของกั้วซูเอ่ยถาม
ร่างสูงโปร่งของเขามาปรากฏข้างกายนางตั้งแต่ยามใดไม่อาจทราบได้
“...หว่านเอ๋อร์...”
น้ำเสียงใสกังวานเอ่ยตอบ รอยยิ้มสดใสพลันปรากฏบนใบหน้างามล้ำ
ดวงตาใสกระจ่างทอประกายระยิบระยับ
----------------------------------------------------
หากชื่นชอบโปรดกดติดตาม
เป็นกำลังใจให้นักเขียนได้นะคะ
รักนักอ่านมาก 'เสี่ยวเกอเกอ'