ตูม...... จึก
" อ๊ากกกกกก"
" หึหึหึ เหลือมึงคนเดียวสินะไอ้บัง" แคทที่ฆ่ากองทัพของอาระบาร์ตายกันหมดทุกคนจนเธอเดินทางมาถึงฐานทัพของเจ้าของเรื่องราวและก็ตัวปัญหาอย่างไอ้อาระบาร์ อาระบาร์เมื่อเห็นคนที่จัดการคนของเขาตายเป็นภูเขาเหลากา อาบังก็ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวจะสามารถฆ่าคนของเขาได้เป็นกองทัพ
" มึงอีนังสารเลวกูจะฆ่ามึง / ย๊ากกกกกกก" อาระบาร์ ที่ตั้งสติได้ด้วยความโกรธที่มีต่อเด็กสาวตรงหน้าแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกรอย่างอาระบาร์ก็ถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมา วิ่งเข้าหาแคทเพื้อหมายจะเอาชีวิต แคทที่ยืนแสยะยิ้มอยู่ ด้วยความที่เธอศึกษาการต่อสู้และกลยุทธ์ของไอ้อาบังนี้มาเป็นอย่างดีเธอรู้ว่า มันจะเข้ามาแบบไหน แคทเธอก็เหวี่ยงตัวหลบการโจมตีของอาระบาร์ได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับปักมีดเข้าทึ่หลังของมันทันทึด้วยความไวแสง
จึก
" อ๊ากกกกกก"
" หึหึหึ คิดจะฆ่ากูเหรอ ไปเรียนมาใหม่เถอะไอ้บังมึงกับกูกระดูกมันคนระเบอร์กันว่ะ" แคทที่หน้าเต็มไปด้วยเลือดเธอแสยะยิ้มมุมปากพร้อมกับพูดกับไอ้อาระบาร์ด้วยเสียงเหี้ยมเกรียมว่า เธอกับมันกระดูกมันคนระเบอร์ อาระบาร์ที่โดนลูบคมแบบนั้น ด้วยความโกรธ โมโห แล้วก็รู้สึกเสียหน้าทึ่โดนผู้หญิงทำร้าย อาระบาร์รู้สึกว่าถ้าเขารอดไปได้ก็ไม่มีทางสู้หน้าใครได้เพราะลูกน้องของเขาถูกฆ่าตายโดยผู้หญิง พออาระบาร์คิดได้แบบนั้นเขาก็จัดการจุดฉนวนระเบิดที่เอาติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อพร้อมตายในทุกขณะ ทันที แคททึ่เห็นแบบนั้นก็ทำท่าจะกระโดดหลบ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเพราะระเบิดพลีชีพที่ถูกดัดแปลงเพื้อให้ใช้งานง่ายและเร็วของอาร์บาร์ มันได้ระเบิดขึ้นทำลายล้างทุกอย่างที่อยู่ในบริเวณนั้นจนพินาศฉิบหายในทันที
" อ๊ากกกกกกกกกก"
ตูม........ บึ้มๆ บึ้มๆ
" แคททททททททท" เสียงทึ่เรียกชื่อของลูกน้องเป็นครั้งสุดท้ายของอาเธอร์ ร้องเรียกลูกน้องอแกมาเสียงหลงก่อนสัญญาณจะตัดไป
ด้านกระทิเด็กกำพร้า
" อีกระทิ อีขี้เหร่ อีผ้าขี้หริว อีลูกไม่มีพ่อแม่ อีเด็กเลี้ยงควาย / นี้แนะ นี้แนะ ฮ่าๆฮ่าๆฮ่าๆ" เสียงของกลุ่มเด็กชายแล้วก็เด็กผู้หญิงที่แกล้งเด็กสาวหัวฟู แต่งตัวมอมแมม อย่างกระทิ พวกมันทั้งเอาไม้ไล่ตี บางวันก็แกล้งเอามดแดงมาใส่ผมเธอเพราะผมเธอมันยุ่งพันกันอย่างกับรังนก บางวันพวกมันก็ไล่ตีทำร้ายเธอ จนเด็กสาววิ่งร้องไห้หนีเพื้อเอาตัวรอด ด้วยความที่เธอยากจนอีกทั้งเธอยังเป็นเด็กกำพร้า นั้นเลยทำให้ใครก็ไม่สนใจแล้วก็ไม่ยื่นมือมาช่วยเธอเลย กระทิที่อยู่ตัวคนเดียวเพราะพ่อกับแม่เป็นไข้ป่าตายเธอก็เลยต้องวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ หรือไม่บางวันเธอก็ไม่ไปเรียน เพราะทนคนแกล้งไม่ไหว
" อย่าทำฉันเลย ฉันเจ็บแล้ว โอ๊ย... โอ๊ย.... โอ๊ย... เจ็บ เจ็บ / ว๊ายยยยยย" โครม..... ระหว่างที่กระทิวิ่งหนีพวกเด็กเกเรอยู่นั้นปากของเธอก็ตะโกนบอกพวกมันว่าอย่าทำเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ๆได้ผลมิหนำซ้ำพวกมันยังไล่ตีเธอหนักกว่าเดิมอีก แต่ระหว่างที่กระทิกำลัง
วิ่งหนีอยู่นั้น ด้วยความที่เด็กเกเรพวกนั้นต้อนเธอให้วิ่งมาทางนี้ เป็นทางที่ถนนขาดเพราะเมื่อหลายวันก่อนฝนตกหนักจนทำให้ที่นี้เป็นทางขาดแล้วก็เป็นทางที่กำนันประกาศแล้วว่าอันตราย ด้วยความที่ไม่ทันที่กระทิไม่ทันระวังเธอเลยตกลงไปที่หลุมนั้นทันที
“ ว๊ายยยยยยยยย “ ปึก ร่างบางเนื้อตัวมอมแมมร่วงล่นลงไปในหลุมขนาดใหญ่ พวกเด็กเกเรที่ไล่ต้อนเธอมาพอพวกมันเห็นแบบนั้นต่างก็พากันตกใจเพราะเสียงของ กระทิได้เงียบไป
“ อีกระทิ อีกระทิ เห้ยเอาไงดีว่ะอีบ้านั้นมันเงียบไปแล้ว พวกเราจะโดนตำรวจจับไหมว่าเนี่ย “ เสียงของเด็กหนุ่มที่เรียกกระทิ ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในหลุมไม่ส่งเสียงออกมานั้นเลยทำให้พวกเด็กเปรตทั้งหญิงและก็ชายต่างก๋ตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ เอายังไงดีถ้ามีคนมาเห็นว่าพวกเราทำมันตาย เรื่องใหญ่แน่ ไปกันเถอะ “ เด็กสาวออกความเห็น เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นต่างก็เห็นด้วยก่อนจะเดินหนีออกมาจาที่เกิดเหตุปล่อยให้ร่างบางที่ผอมโซเหลือแต่กระดูกนอนอยู่ภายในหลุมเพียงรำพัง เรื่องที่เกิดขึ้นช่างดูหน้าเวทนาเป็นอย่างมาก แม่กับพ่อที่มาตายหนีจาก ปล่อยให้เด็กสาวคนนี้สูชีวิตอยู่เพียงลำพัง เธอทั้งโดนแกล้ง โดนทำร้าย และก็โดนเอาเปรียบ สารพัดจนถึงวันนี้วันที่เธอต้องมาตายอย่างหน้าอนาถ
เวลาต่อมา
“ อ๊ะ อ๊ะ โอ๊ย…..โอ๊ย…..เจ็บ เจ็บ แรงระเบิดมันแรงจนฉันมาตกที่หลุมเลยเหรอว่ะเนี่ย “ แคท เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็ต้องร้องโดอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวดเหมือนกับว่าร่างจะแหลกสลาย แล้วอีกอย่างเธอรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเธอไม่ค่อยมีแรง เหมือนกับว่าไม่ได้กินอะไรมานานหลายวัน
“ ทะ ทะ ทำไม ทำไม ฉันถึงได้แขนเล็กขนาดนี้เนี่ย แล้วรอยสักของฉันไปไหน “ แคท เธอจับร่างของตัวเองเพื่อตรวจดูว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า แต่พอเธอเห็นแขนของตัวเองที่ผอมแห้งแล้วยิ่งไปกว่านั้นคือรอยสักก็ไม่มีเลยแม้แต่รอยแข็มแทง เมื่อแคทเห็นแบบนั้นเธอก็ตกใจมาก เธอเอามือลูบคำที่แขน ที่ตัวเพื่อดูว่าร่างกายของเธอแปลกไป และยิ่งหนักไปกว่านั้นอีกนั้นก็คือเธอผมสั่น อยู่ในชุดนักเรียน ม.ต้น ผอมแห้งแรงน้อย เธอเอามือคำที่หน้าของตัวเองด้วยความตกใจ พอเธอตั้งสติได้เธอรู้ได้ทันทีว่าที่เธอมาอยู่ที่นี้มันไม่ใช่ตัวเธอแต่เธอมาอยู่ในร่างของใครก็ไม่รู้
“ เหี้ย…….นี้ฉันมาอยู่ในร่างของใครว่ะเนี่ย ทำไมถึงได้ผอมแห้งแรงน้อยมากขนาดนี้ “ แคท ที่เอามือลูบที่หน้าที่ตัวของตัวเองเธฮรู้แล้วละว่าตัวเองได้ตายแล้ววิญญาณของเธอก็มาอยู่ในร่างของเด็สาวที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ระหว่างที่เธอคุ้นคิดแล้วก็ช๊อกอยู่นั้น อยู่ๆภาพความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างก็ผุดเข้ามาในหัวของเธอ เป็นฉากๆ ทำให้แคทรู้ได้ทันทีว่ายัยเด็กเจ้าของร่างนี้เป็นใคร อยู่ที่ไหน แล้วชีวิตของเธอก็อาภัพมาแค่ไหน เมื่อแคท รู้แบบนั้นแล้ว เธอก็ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีเด็กที่ไหนอาภัพมากขนาดนี้
“ หายตายสิ ให้ฉันมาเกิดใหม่ทั้งที่ทำไม ไม่ให้ฉันไปเกิดเป็นเจ้าหญิงที่มีคนใช้หอมล้อม ตอนนอนก็มีคนปูที่นอนให้ ตื่นมากมีคนทำอาหารให้ อยากจะบ้าตายจริงๆตอนเป็นอีแคท ชีวิตก็ลำบากพอแล้ว ไม่เคยกินอิ่มนอนหลับเลย พอจะให้กูมาเกิดใหม่ก็ให้กูมาเกิดเป็นเด็กสาวอาภัพเนี่ยนะ สวรรค์แม่งโคตรรำเอียงเลยว่ะ “ แคท เธอลุกขึ้นยืนแลวก็เอามือปัดๆที่ตัวเพื่อให้ดินโครนหลุดออกมาจากตัวเธอ จากนั้นเธอก็กระโดดขึ้นมาจากหลุมอย่างง่ายดาย ทั้งที่หลุมนั้นโคตรลึกเลยแท้ๆ แต่ด้วยความที่แคทเป็นนักฆ่ารับจ้างร่างกายของเธอ มันแข็แรง แข็งแกร่งอย่างกับหินผา ด้วยทักษะของเธอที่ติดตัวมานาน ไม่ว่าเธอจะอยู่ในร่างของเด็กที่ขาดสารอาหาร ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้หรอก นั้นเลยทำมให้ตอนนี้ร่างบางผอมแห้ง ของเด็กสาวที่ชื่อกระทิ ขึ้นมายืนปัดฝุ่นอยู่บนปากหลุม ด้วยท่าทางที่สง่างามผิดจากเมื่อครั้งที่ผ่านมา
บ้านไม้หลังเล็ก
“ นี้บ้านฉันเหรอว่ะเนี่ย “ แคท เธอพาร่างบางของเจ้าของร่างเดินมาที่บ้านที่อยู่ในความทรงจำของเจ้าของร่าง พอแคทเดินมาถึงเธอก็ต้องตกใจอ้าปากค้างเพราะบ้านหลังนี้ทั้งเก่า ทั้งโทรม และก็ลกเต็มไปด้วยหญ้าและก็ต้นไม้ บ้านหลังนี้ถ้าดูเผินๆแล้วนึกว่าเป็นบ้านร้างผีสิง ก็ว่าได้ แคทเธอก็เลยตื่นตกใจกับบ้านที่เธอต้องมาอยู่
“ เอาว่ะ อย่างน้อยก็ดีกว่าที่ ที่แกเคยนอนตอนทำภารกิจแหละว่ะอีแคท “ แคท เธอพูดกับตัวเองเบาๆอย่างยอมรับความจริง ด้วยความที่เธอเป็นทหารรับจ้าง ที่ของเธอที่นอนจริงๆส่วนมาจะเป็นสนามรบมากกว่าห้องนอนแคบๆของเธอ ที่เธอเช่าเอาไว้เพื่อเก็บของเฉยๆ นั้นก็เลยทำให้เธอไม่ค่อยจะอะไรมาก แต่ที่เธอตกใจนั้นเป็นเพราะเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะทะลุมิติมาอยู่ในร่างของเด็กสาวที่อาภัพ ชีวิตหน้าหดหู่ แทนที่เธอจะไปอยู่ในร่างของเจ้าหญิง หรือว่าฮ่องเฮาเหมือนในซีรี่ย์จีที่เธอเคยดูแท้ๆ แต่กลับกัน เธอต้องมาอยู่ในร่างนี้ แทน นั้นมันก็เลยทำให้แคทอดที่จะน้อยใจไม่ได้
เช้าวันต่อมา
“ เมื่อวานเห็นพวกไอ้หาญ อีจำปา อีมะลิ มันวิ่งไล่อีกระทิไปทางถนนขาด ไม่รู้ว่าป่านนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง ผู้ใหญ่ช่วยไปดูอีกระทิที่บ้านหน่อยสิ ไม่ใช่มันตายแล้ว รึ “ หญิงสูงวัยเดินเข้ามาบ้านผู้ใหญ่บ้าน เพื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ด้วยความเป็นห่วงในตัวเด็กสาวที่โดนเด็กพวกนั้นทำร้ายร่างกาย แล้วก็จิตรใจ อยู่ตลอดเวลา แต่พอเธอเห็นพวกเด็กเปรตวิ่งไล่กระทิไปทางที่ ทางการสั่งห้ามไปเพราะอันตราย นั้นก็เลยทำให้ป้าปริก ถึงกับรู้สึเป็นห่วงกระทิขึ้นมาทันที ผู้ใหญ่บ้านที่นั่งกินข้าวอยู่พอได้ยินแบบนั้นก็เดินมาที่หัวกระไดบ้านก่อนจะพูดออกมาว่า
“ เอ้า อีปริกมึงทำไมไม่ไปดูเองละว่ะ แค่เด็กมันเล่นกันมึงจะไปห่วงอะไรมันนักหนา มันก็เล่นกันแบบนี้ประจำไม่ใช่เหรอว่ะ อีห่านี้ คนแดกข้าวอยู่มึงไม่แหกตาดูรึไง “ ผู้ใหญ่หิน ผู้ใหย่บ้านของบ้านท่าแพร เมื่อโดนรบกวนเวลาทานอาหาร ก็รู้สึกหัวเสีย ก็เลยเดินออกมาด่าป้าปริกไปยกหนึ่ง ด้วยความที่หนึ่งในนั้นเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านด้วยเช่นกันที่เกรงกระทิ นั้นก็เลยทำให้ผู้ใหญ่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะเขาไม่เห็นค่าของนังเด็กกระทินั้น
“ เอ้อ. ไม่เป็นไรถ้าอีกระทิมันเป็นอะไรไปหนึ่งในนั้นก็มีลูกผู้ใหญ่อยู่ด้วยแหละ ฮึ “ ป้าปริก ที่โดนด่าสาด ด้วยความไม่พอใจเธอก็ด่าสาดไปเช่นเดียวกันแต่ ด้วยความโกรธแล้วก็อยากจะตอกย้ำกับผู้ใหญ่บ้านว่า ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่แค่ เด็กสามคนนั้นหรอกนะที่เดือดร้อน เพราะที่จะเดือดร้อนจริงๆคือไอ้ แห้ว ลูกของผู้ใหญ่บ้านนั้นแหละ ผู้ใหญ่บ้านที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก แต่ก็อ้าปากด่าไม่ทันเพราะ ยายปริกเดินออกมาจากลานบ้านของแกก่อน
ผลึบ
“ ไอ้แห้ว อยู่ที่ไหนละแม่มึงเรียกมันมาหาฉันสิ ฉันจะเผนกระบาลมันสักหน่อย ไอ้ห่านี้สร้างแต่เรื่องจริงๆเลย ถ้าเกิดอีกะทิมันเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆอย่างที่อีปริกพูด ไอ้แห้วมึงโดนกูแน่ๆ ฮือออออ “ ผู้ใหญ่บ้านฝาดผ้าขาวม้าลงบนโต๊ะ ด้วยความหัวเสีย แล้วก็บอกให้เมียไปเรียกลูกชายมาหาตน เพื่อที่จะด่าเร่องที่ชอบไปยุ่งไปแกล้ง นังเด็กนั้น ยายกลิ่นผู้เป็นเมียพอได้ยินแบบนั้นก็รีบไปตามลูกชายมาหาสามีของเธอในทันที