EP 3
...“สกาวเดือน”...
ฉันมองหน้าคุณกันต์ เขามาขอโทษฉัน ในความรู้สึกของฉันตอนนี้ ฉันคิดตามที่ไอรินบอก คนที่รักฉันจริงๆก็คือครอบครัว
“คุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันไม่คู่ควรกับคุณหรอกอดีตของฉันอาจจะเลวร้ายแต่ปัจจุบันฉันไม่ทำร้ายใครแน่นอน ฉันเลือกไม่ได้ เลือกที่จะลบอดีตก็ไม่ได้”ฉันหันหน้าหนีคุณกันและบอกให้เขากลับไป
“ฉันมาขอโทษเธอแล้วนะ เธอไม่รับเองก็แล้วแต่ เพราะว่าฉันไม่เคยง้อใครอยู่แล้ว”สิ้นสุดคำพูดของเขา เขาก็เดินออกไปจากห้องฉันอยากจะโดดลงจากเตียงและวิ่งไปกอดเขาไว้ บอกให้เขาอยู่กับฉัน แต่ฉันก็หักห้ามใจตนเองได้ ได้เพียงแต่บอกกับตนเองว่าปล่อยเขาไป ให้ไปมีชีวิตที่ดี
เมื่อคุณกันต์ออกไปได้ไม่นาน พี่ชายของฉันก็ได้เข้ามา ฉันพยักหน้าให้กับเขาทั้งสองคนและบอกว่าโอเคไอรินยิ้มให้กับฉัน
“เก่งมาก สู้ๆนะเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”เมื่อเวลาเดินผ่านไปหลายชั่วโมง จนฉันได้ออกจากโรงพยาบาล ในตอนนี้ก็ครบ 3 วันแล้ว ที่ฉันนอนโรงพยาบาล จิตใจของฉันเข้มแข็งขึ้น เพราะว่ามีไอรินคอยอยู่ข้างๆ และคอยปลอบใจ พูดให้ฉันเข้มแข็งตลอด ฉันรู้แล้วทำไมไอรินถึงผ่านอุปสรรคและปัญหาหลายๆอย่างมาได้ก็เพราะว่าเธอเป็นคนที่เก่งและเข้มแข็งแบบนี้นี่เอง
“สกาวเดือนขอไปหาแม่นวลนะ ไอรินกับเฮียกลับไปก่อนเลยเดี๋ยวน้องแนนจะรอ”
“ฝากบอกแม่นวลด้วยนะเดี๋ยวไอรินจะไปเยี่ยมแต่วันนี้ไอรินรู้สึกเพลียจริงๆ”ไอรินเธอตั้งท้องลูกคนที่ 2
“เดี๋ยวเราบอกให้นะกลับไปนอนพักผ่อนขอบคุณมากๆที่มาดูแลเรา”ฉันนั่งรถแท็กซี่มาที่โรงพัก และเข้าเยี่ยมแม่นวลเมื่อฉันก้าวขาเข้าไปแค่นั้นแหละ ฉันได้ยินเสียงสะอื้นและเสียงร้องไห้ก่อน
“ฮื่อๆคุณหนู”แม่นวลจะเรียกฉันว่าคุณหนูตลอดเขาไม่ได้เรียกฉันว่าลูก
“สวัสดีค่ะ”ฉันเองก็กั้นความรู้สึกของฉันหน่อยไม่ไหวเหมือนกัน ฉันไปจับมือแม่นวลที่เขากำเหล็กห้องขังอยู่พร้อมกับร้องไห้
“ใครทำอะไรคุณหนูคะ ทำไมคุณหนูถึงร้องไห้”
“ฮื่อๆสกาวเดือนคิดถึงแม่นวล”
“ไม่จริงคุณหนูกำลังโกหกฉัน ทำอะไรคุณหนูคะ คุณหนูบอกกับฉันมานะ”แม่นวลใช้มือทั้งสองข้างจับเข้ามาที่ใบหน้าของฉันเขาถามฉันด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรจริงๆจ๊ะ แม่นวลเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”
“แม่สบายดีฮึ้ก! แล้วคุณหนูล่ะคะสบายดีไหม ทำไมถึงผอมจังเลยแล้วแขนไปโดนอะไรมาคะ”ตรงช่วงแขนพับของฉันยังมีสำลีและผ้าก๊อซแปะอยู่ เพราะว่าเพิ่งถอดสายน้ำเกลือแม่นวลช่างสังเกตจริงๆ
“สกาวเดือนพึ่งออกจากโรงพยาบาลจ๊ะสกาวเดือนไม่ค่อยสบาย”
“โถ่!!คุณหนูเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลแล้วจะมาหามวลทำไมคะ ทำไมไม่กลับบ้านไปพักผ่อน”
“สกาวเดือนคิดถึงแม่นวลนี้จ๊ะ”
“ขอบคุณนะที่คิดถึงแม่!”ฉันไม่ได้เล่าอะไรให้กับแม่นวลฟังหรอก แค่บอกว่าฉันไม่สบาย และหลังจากนั้นฉันก็คุยกับแม่นวลหลายๆอย่าง ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น แล้วรู้สึกดีขึ้น ก่อนที่จะหมดเวลาเยี่ยม หลังจากนั้นฉันให้คนขับแท็กซี่พาไปวัด ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ปล่อยนกปล่อยปลา ก็ทำให้จิตใจของฉันนั้นดีขึ้นกว่าเดิม
ปึก!! ฉันเดินมาที่ร่มไม้ ซึ่งมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นแต่ฉันกำลังมองทางด้านหลังจึงทำให้ฉันนั้นเดินไปชนกับใครก็ไม่รู้ เขาประคองฉันไว้ เพื่อไม่ให้ฉันล้มลงกับพื้นในตอนแรกฉันตกใจมากๆเลยนะ คิดว่าตัวเองจะล้มไม่เป็นท่าเสียแล้ว
“คุณครับ”ฉันกำลังจ้องมองหน้าผู้ชายคนนี้คนที่เขาโอบกอดฉันไว้ ไม่ให้ล้มแต่จู่ๆเขานั้นเรียกฉัน จนทำให้ฉันสะดุ้งฉันเลยรีบดีดตนเองออกจากอ้อมแขนของเขา
“ขอโทษนะคะ”
“ผมต่างหากครับ ที่ต้องขอโทษคุณผมเดินชนคุณนะเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“อ้าวไปง่ายๆแบบนี้เลยหรอ”
“ก็คุณเป็นคนบอกเองนี่ว่าคุณเป็นคนเดินชนฉัน ฉันก็ขอโทษคุณไปแล้วไงคะ”
“คุณต่างหากที่เป็นคนเดินชมผม ผมแค่พูดไม่ให้เสียมารยาทไปอย่างนั้นแหละ”
“นี่คุณ!! ”
“ซุ่มซ่ามสวยเสียเปล่า”ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงปากร้ายจังนะ
“ค่ะ! ถึงแม้ว่าคุณจะว่าฉันซุ่มซ่ามแต่อย่างน้อยคุณก็ว่าฉันสวยขอตัวก่อนนะคะ”
“ผมพูดเล่นต่างหากครับ ผมไม่ได้ชมว่าคุณสวยเลยมโนไปเองหรือเปล่า”ฉันมองหน้าผู้ชายคนนี้ แล้วก็รู้สึกขำคือ จู่ๆเขาก็มาเถียงกับฉันซะอย่างนั้น ในตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ ที่ช่วยประคองฉันไว้ แต่ในตอนนี้ฉันรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วสิเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ปากร้ายซะแล้ว
“ชิ้”ฉันเดินหันหลังให้กับผู้ชายคนนี้ ถึงถ้าพูดกันต่ออีกคงจะได้ทะเลาะกับเขาในวัดแน่นอน
“เดี๋ยวสิ่ป้าจะรีบไปไหน”ฉันหยุดเดินแล้วหันกลับหลังไปมองผู้ชายปากร้ายเธอเรียกฉันว่าป้า
“นี่คุณ! คุณจะเรียกฉันว่าป้าไม่ได้นะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้น”
“แก่สิ่! ฮ่าๆแก่มากด้วย”
“เชอะ! ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว”
“โอ๋ๆ ผมหยอกเล่นน่า”
“แต่ฉันไม่ตลก”
“ขอโทษได้ไหมล่ะ”
“ไม่!”
“ฮ่าๆ”