ตอนที่ 4.1 รุกหนัก

1366 คำ
ตอนที่ 4 รุกหนัก เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราว ๆ หนึ่งชั่วโมง พะแพงที่ยืนอยู่หน้าระเบียงก็มองเห็นรถรางของพายุที่แล่นขึ้นมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านพักอีกครั้ง แม้ว่าจะค่อนข้างสายไปเสียหน่อย แต่ก็ยังพอมีแสงแดดอ่อน ๆ ที่ทาบทับไปกับไร่ชาเป็นสีทองสดใส พร้อมกับร่างสูงโปร่งของพายุที่ก้าวลงมาจากรถพร้อมรอยยิ้มที่สดใส “ถึงจะสายไปสักหน่อย แต่ถ้าไปตอนนี้ก็ยังทันได้เห็นชาวบ้านเก็บยอดชายามเช้ากันอยู่นะครับ” ทันทีที่พะแพงได้ยินแบบนั้น ดวงตากลมโตก็เปล่งประกายระยิบระยับทันที “จริงเหรอคะ! งั้นไปเลยค่ะหนูอยากเห็นมาก ๆ เพียงพอ!!” หญิงสาวพูดกับชายหนุ่มจบก็หันไปตะโกนเรียกเพื่อน เพียงพอเดินออกจากบ้านพักมาช้า ๆ ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ เมื่อเห็นหน้าของพายุ แม้จะไม่ชอบใจผู้ชายคนนี้เท่าไหร่นักแต่ก็ยอมตามใจเพื่อนอยู่ดี สุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องเดินลงไปยืนข้างรถรางก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งอย่างตื่นเต้น "เก็บชากันมั้ยเพียงพอ ยอดอ่อน ๆ หอม ๆ ค่อย ๆ เด็ดทีละยอด ละยอด งื้อ!~" "จ้า ๆ เอาที่เจ้าแม่ชาเขียวเลิฟเว่อร์ว่าเลยจ้า" หลังจากสิ้นสุดบทสนทนานั้นทั้งรถก็เงียบไปครู่ใหญ่ ๆ แต่เพียงไม่นานรถรางก็เคลื่อนลงมาตามทางคดเคี้ยว จนถึงไร่ชาขนาดใหญ่ที่พายุจัดสรรไว้เป็นโซนท่องเที่ยวโดยเฉพาะ พะแพงลงจากรถมองไปด้านในก็เห็นคนงานจำนวนหนึ่งกำลังก้มเก็บยอดอ่อนด้วยท่าทางคล่องแคล่ว แสงแดดยามเช้าส่องกระทบหยดน้ำค้างบนใบชาเป็นประกายระยิบระยับราวกับว่าไร่ชาแห่งนี้กำลังเปล่งแสง "เดี๋ยวทั้งสองคนเดินตามพี่มานะ" พูดจบพายุก็เดินนำพาทั้งสองสาวอ้อมมาด้านหน้าของโฮมสเตย์ที่ทั้งสองมาเมื่อเช้า พะแพงกวาดตามองที่นี่อีกครั้งอย่างตั้งใจ ปรายตามองถัดไปไม่ไกลก็เห็นว่ามีป้ายไม้แกะสลักว่า ‘เช่าชุดพื้นเมือง’ เธอมองเข้าไปด้านในก็เห็นว่ามีห้องเล็ก ๆ ที่จัดแต่งสีสันสดใสและประดับไปด้วยชุดม้ง ชุดกะเหรี่ยง ชุดพื้นเมืองแขวนเรียงรายจนสะดุดตา “เพียงพอ.. ชุดพวกนั้นน่ารักจัง ฉันอยากลองใส่อะ” พะแพงหันมาหาเพื่อนพร้อมกับท่าทางตื่นเต้นจนตาโต เพียงพอเองก็หันมองไปตามที่เพื่อนชี้ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้หญิงสาว “ก็ดูสวยดีนะ.. เอาสิ” เมื่อพายุได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคุยกันเข้า ชายหนุ่มก็พาทั้งคู่เดินเข้าไปที่ร้าน ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานที่ดูแลที่นี่ “พี่แป้งร่ำครับ.. ฝากพี่ช่วยดูแลทั้งสองคนให้ด้วยนะครับ จัดให้เต็มที่ ทั้งสองคนเป็น VVIP ของไร่ ค่าใช้จ่ายผมจัดการเอง” เมื่อได้ยินแบบนั้นเพียงพอก็รีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน ก่อนจะหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “ไม่เป็นไรค่ะ แค่เสื้อผ้าพวกเราเช่าเองก็ได้ ไม่อยากให้เรื่องพวกนี้มากลายเป็นบุญคุณในอนาคตสักเท่าไหร่” เพราะเธอยังคงคิดว่าการกระทำของผู้ชายคนนี้ไม่บริสุทธิ์ และการที่เขาให้ที่พักและพาเก็บชาที่เป็นคอร์สท่องเที่ยวของไร่มันก็มากพอแล้ว หากยังดูแลเรื่องอื่นอีกเกรงว่ามันจะเยอะเกินไป แต่ความคิดเหล่านี้กลับไม่มีในหัวของพะแพงเลยสักนิด เธอกลับโน้มใบหน้ามากระซิบห้ามไว้ด้วยน้ำเสียงไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่ “เขาอยากเป็นป๋าเป็นเสี่ยสายเปย์อะไรก็ช่างเขาเถอะ เราไม่ได้ร้องขอ หากว่าเพียงพอกลัวว่าเขาจะมีลำเลิกบุญคุณทีหลัง เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงนะ.. เพราะว่า.. เอ่อ มันเรียกอะไรนะ ที่ดาราเขาชอบใช้กันอะ” “หือ” “ก็ไอ้คำสวย ๆ นั่นไง เวลาที่เขาให้ของเพราะความรักความหน้ามืดตามัวโดยที่เราไม่ได้ขออะ” “ให้เพราะเสน่หาเหรอ” “เออใช่! คำนี้แหละ! เพราะเขาให้เพราะเสน่หา เราไม่ผิด!” เพียงพอได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อีกครั้ง ก่อนจะยอมตามน้ำแบบไม่สบอารมณ์นัก “แพงได้แล้ว..อุ๊ย! ชุดที่ถืออยู่นั่นเหมาะกับเพียงพอมากเลย” “ชุดนี้เหรอ” เธอถามพลางยกชุดนั้นขึ้นให้พะแพงดูอีกครั้ง หญิงสาวก็พยักหน้ารัว ๆ “งั้นเอาชุดนี้ละกัน” ในที่สุดหลังจากทั้งสองเดินเลือกชุดที่ตัวเองชอบได้แล้วพนักงานก็พาทั้งคู่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ใช้เวลาเพียงไม่นาน ทั้งสองสาวก็พากันเดินออกมาด้วยท่าทางที่เรียกว่าอารมณ์มาก ๆ พะแพงเลือกสวมชุดสาวม้งสีสันสดใส ปักลายเสื้อละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์ แม้จะดูเหมือนเป็นชุดลายธรรมดาทั่ว ๆ ไปที่ใคร ๆ ก็สวมกัน แต่พออยู่บนร่างกายของเธอแล้วมันกลับดูโดดเด่นจนพนักงานสาว ๆ เองยังเผลอมองตาค้าง “สวยมากเลยค่ะคุณลูกค้า” “จริงเหรอคะ.. ขอบคุณนะคะ แพงชอบชุดนี้จัง” เธอพูดไปพลางหมุนซ้ายหมุนขวามองกระจกไป ก่อนจะเดินตามพนักงานไปนั่งหน้ากระจก เธอช่วยถักเปียใหญ่ ๆ ทั้งสองข้างให้พะแพงจนเรียบร้อย ก่อนจะสวมหมวกม้งประดับลูกปัดเงินกรุ๊งกริ๊งเข้าชุด พร้อมกับแต่งหน้าอ่อน ๆ ให้เข้ากัน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเธอจึงก้าวออกมาจากร้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะกวาดสายตาหาเจ้าของไร่ก็เห็นพายุที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก เขากำลังยืนคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ด้วยท่าทางเคร่งเครียด ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เขานั้นหันมามองเธอพอดี สายตาของชายหนุ่มจับจ้องอยู่ที่พะแพงเพียงอย่างไม่ปกปิด เขายกยิ้มบาง ๆ อย่างพึงพอใจขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะกดวางสายนิ่ง ๆ “โอ้โห! นี่มันนางสาวหรือว่านางฟ้าครับเนี่ย” แม้จะดูเป็นคำเห่ย ๆ แต่ก็ทำให้พะแพงหน้าแดงจัดจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แม้ในใจจะเตือนตัวเองเสมอว่าผู้ชายคนนี้อาจไม่จริงใจ แต่เพราะเธอไม่เคยถูกชมอย่างจริงจังแบบนี้มาก่อน เลยทำให้เธอเผลอใจพองโตขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะมีเสียงกระแอมเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง “มุกเก่ามากบ่งบอกอายุเลยนะคะ” เพียงพอที่ยืนอยู่ด้านหลังอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้จนต้องเดินเข้ามาเอ่ยแทรก ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่ป้ายหน้าร้านแล้วหันไปเอ่ยถามอีกครั้ง “ที่นี่มีช่างภาพถ่ายรูปให้ด้วยเหรอคะ” “มีครับ เดี๋ยวพี่เรียกมาให้” เขายกมือส่งสัญญาณไปอีกทางหนึ่ง ก็มีชายหนุ่มในชุดพื้นเมืองเดินเข้ามารีบ ๆ เพียงพอมองใบหน้าคมเข้มที่มีกล้องตัวใหญ่สะพายอยู่ที่คอนิ่ง ๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่านี่คงเป็นช่างภาพมือดีประจำไร่ชา “เดี๋ยววันนี้เราไปถ่ายรูปสองสาวกับพี่นะ ถ่ายได้เลยเต็มที่” พายุสั่งเสียงทุ้มพร้อมกับยักคิ้วส่งให้เขาเบา ๆ “อ่อ.. ได้ครับ” หลังจากนั้นไม่นานทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปในไร่ชาด้วยกัน บรรยากาศที่นี่แม้ว่าจะผ่านมาถึงเวลาแปดโมงกว่าแล้ว แต่ยังคงอบอวลด้วยไอหมอกขาวหนาทึบราวกับเพิ่งรุ่งสาง อากาศเย็นจนลมหายใจกลายเป็นควันบาง ๆ ทิวทัศน์สุดสายตาเต็มไปด้วยแถวต้นชาเรียงรายลดหลั่นตามกันไปเป็นชั้น ๆ ราวกับเป็นพรมสีเขียวอ่อนที่คลุมทั้งภูเขา “อยากลองเก็บใบชาเองไหมครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม