ตอนที่2เหตุแห่งความแค้น

1809 คำ
“แกนอนห้องนี้ก็แล้วกัน อยู่ติดกันกับห้องนังใบบัว” ประนอมพาเด็กสาวมายังเรือนคนรับใช้ หลังจากที่นายของบ้านสั่งให้เธอคอยดูแลนังเด็กนี่ ประนอมรับใช้บ้านหลังนี้มาเกือบสี่สิบปีเธอรับรู้เรื่องราวของบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี ความแค้นของคุณผู้หญิงนั้นประนอมก็รับรู้ด้วยเช่นกันว่ามันมากมายมหาศาลแค่ไหน มากขึ้นขนาดเวลาผ่านไปสามสิบกว่าปี ก็ยังไม่ลืม... “ค่ะคุณป้า” มีที่ซุกหัวนอนวันนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ภริตากวาดสายตามองห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ สภาพภายในห้องใหม่เอี่ยมราวกับไม่เคยมีผู้ใดเข้ามาอาศัยเลย อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่ภริตาจะต้องระเห็จไปอยู่ข้างนอกนะ... “เรียกฉันคุณประนอม ฉันไม่นับญาติกับคนอย่างแกหรอก ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าป้า...นี่! อีบัวมึงก็ช่วยดูอีเด็กนี่หน่อยก็แล้วกัน สอนมันอย่างที่ฉันเคยสอนแก” “ได้ค่ะคุณประนอม” “ดี! อย่าปล่อยให้มันไปเดินเพ่นพ่านที่ตึกใหญ่ล่ะ รอจนฉันจะมาสั่งเท่านั้น” ประนอมไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงท่านจะลงมือแก้แค้นเอาคืนแม่ของอีนังเด็กนี่ยังไง...อ่อ...ไม่ใช่แค่แม่ของนังเด็กนี่คนเดียวสิ...คนที่สำคัญที่สุดก็คือคุณท่านกษิดิศประมุขของบ้านต้นเหตุความแค้นของคนทั้งสาม สายตาของประนอมจ้องมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอ ‘นี่มันนังนรีรัตน์ชัดๆ เหมือนจนน่าตกใจ ถ้าบอกว่าเป็นมันประนอมยังเชื่อเลย’ “ค่ะคุณประนอม” ใบบัวสาวใช้วัยสามสิบปีเศษรับคำสั่งจากหัวหน้าคนรับใช้ ใบบัวรับใช้บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เธออายุได้สิบแปดปี วัยของเธอตอนนั้นก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเด็กคนนี้แต่ต่างตรงรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณของเด็กคนนี้ที่มีความงดงามและสะดุดตายิ่งนัก ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้เข้ามาเป็นเครื่องมือแก้แค้นของคุณหญิงท่านกันนะ “เธอเอาของเข้าไปเก็บ ห้องของพี่อยู่ติดกับห้องของเรา ถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกพี่ได้นะ...อ่อ...พี่ชื่อใบบัวนะ เรียกพี่บัวก็ได้” ใบบัวบอกเด็กสาวหลังจากที่รับคำสั่งจากหัวหน้าแม่บ้านให้ดูแลเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้ “ค่ะพี่บัว...เอ่อ...หนูชื่ออันน์ค่ะพี่” “อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ยังเรียนหนังสืออยู่ไหม แล้วไปไงมาไงถึงได้มาขออยู่บ้านหลังนี้ล่ะ” “อันน์อายุสิบแปดแล้วค่ะพี่บัว พึ่งเรียนจบ*มอหกค่ะพี่ คงไม่ได้เรียนต่อแล้วค่ะ อันน์เหลือตัวคนเดียว คุณยายบอกให้อันน์มาที่บ้านหลังนี้ท่านบอกว่าจะมีคนช่วยค่ะ” “อ่าว...แล้วเราไม่รู้เรื่องราวของแม่เราเหรอ...อันน์ หนูไม่รู้สึกว่ามันแปลกบ้างเหรอ ว่าทำไมคุณหญิงท่านถึงรับเราง่ายๆ ปกติการที่คุณท่านจะรับใครเข้ามาอยู่ในบ้านล่ะก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณท่านมากเลยนะ” “อันน์ไม่ทราบหรอกค่ะพี่ แค่วันนี้อันน์มีที่ซุกหัวนอนก็พอแล้วค่ะ ส่วนเรื่องทำงานอันน์ทำได้ทุกอย่างนะคะพี่” “พี่เห็นว่าหน้าตาเรา ไม่เหมาะที่จะมาเป็นคนใช้เลย แล้วถ้าคุณ...เอ่อ...คุณ...” ใบบัวพลันนึกถึงใครบางคนที่เป็นอันตรายต่อเด็กคนนี้แน่นอนถ้าเห็นหน้าของเด็กสาวล่ะก็ ‘คุณบุรินทร์คือน้องชายของคุณหญิงกนกจันทร์ ผู้ชายที่อันตรายที่สุด...และเด็กคนนี้จะต้องเจออย่างแน่นอน’ “มีอะไรเหรอคะพี่บัว” ยังมีอะไรที่น่ากลัวกว่าความจนอีกเหรอ ภริตาเจอมาทุกรูปแบบแล้ว ความลำบากที่สุดในการดำรงชีวิตของเธอนั้นก็คือการหาเงินเพื่อมาประทังชีวิต ภริตาทำงานมาตั้งแต่เล็กจนโต เธอทำทุกอย่างจริงๆ “บ้านกีรติเมธานนท์ไม่ได้มีแค่คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายเท่านั้นนะอันน์” “พี่บัวจะหมายถึงอะไรคะ จะเตือนอะไรอันน์คะ” “อย่างแรกที่อันน์ต้องรู้คือตอนนี้คุณกษิดิศท่านป่วยเป็นอัมพฤกษ์มาเกือบสองปีแล้ว และคนที่เป็นประมุขของบ้านในตอนนี้ ก็คือคุณ ‘กรวิชญ์’ น้องชายของคุณกษิดิศ แต่ว่า...คุณผู้หญิงก็เข้ามาจัดการทุกอย่างแทนคุณกรวิชญ์เรียบร้อยแล้ว” “เอ่อ...พี่ช่วยเล่าให้อันน์เข้าใจหน่อยได้มั้ยคะ คุณกรวิชญ์เกี่ยวยังไงเหรอคะ แล้วอันน์จะต้องทำตัวยังไงกับใครบ้างคะ” “คุณกรวิชญ์คือน้องชายคุณกษิดิศ น้องชายที่อายุห่างกันมาก อันน์อาจจะคิดว่าคุณกรวิชญ์อายุเยอะแน่ๆ เลย จริงๆ ไม่ใช่หรอก คุณกรวิชญ์...อืม...เรียกคุณคินทร์ก็แล้วกันนะ” “ค่ะพี่บัว...” “คุณคินทร์เธออายุ 35 ปี ยังหนุ่มและหล่อมากนะ และที่สำคัญคุณคินทร์ยังโสดไม่มีครอบครัวเลยนะ” “อันนี้...อันน์จำเป็นต้องรู้ด้วยใช่มั้ยคะพี่บัว” “จำเป็นสิ...เพราะวันหนึ่งอาจจะมีผู้หญิงมาอาละวาดกับอันน์ก็ได้นะ เพราะตามหึงหวงคุณคินทร์ โดยเฉพาะคุณมารีน” “มันก็ไม่เกี่ยวกับอันน์อยู่ดีค่ะพี่บัว” “เกี่ยวสิ...ทำไมจะไม่เกี่ยว...ถ้าอันน์สวยน้อยกว่านี้สักหน่อยก็คงจะไม่เป็นไรหรอกนะ แต่นี่อันน์เป็นคนสวยมาก พี่เชื่อว่าถ้าคุณคินทร์ หรือ คุณบุรินทร์เห็นอันน์ล่ะก็...จะต้องชอบอันน์แน่ๆ เลย อีกอย่างแม่พวกสาวๆ ของคุณทั้งสอง ถ้าเห็นอันน์เข้า ก็คงจะต้องตามหึงหวงกันยกใหญ่แน่เลย” “คุณบุรินทร์เป็นใครเหรอคะ” “เป็นน้องชายคุณหญิงกนกจันทร์ อายุ 45 ปีแล้ว คนนี้อันน์ต้องคอยหลบเลยนะ” “ค่ะพี่บัว” “คุณบุรินทร์เป็นคนเจ้าชู้มาก เด็กสาวใช้ที่บ้านหลังนี้ ยังโดน...เอ่อ...คุณบุรินทร์จัดการเลย อันน์ต้องระวังด้วยนะ ขนาดเด็กรับใช้คนนั้นไม่สวยเท่าอันน์ยังโดนเลย” “พี่บัวพอจะมีรูปมั้ยคะ อันน์เจอเขา อันน์จะได้หลบค่ะพี่” หนีกับความยากจน ภริตาก็ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกหรือนี่ “มี...เดี๋ยวพี่จะให้ดู เอาเป็นว่านอกจากคุณสองคนนี่แล้ว ก็มีคุณหนูอีกสามคน คือลูกของคุณหญิงกนกจันทร์นะ คนแรกเป็นผู้ชายอายุ 32 ปี ชื่อคุณกิตติภพ หรือคุณกิต รายนี้ไม่น่าเป็นห่วงหรอกพวกศิลปินมักจะไม่ยุ่งกับใคร คนที่สองชื่อคุณกิตติธัชหรือคุณธันน์...อืม...คนนี้ก็ไม่น่าเป็นห่วงเหมือนกัน แต่พี่ก็ไม่รู้นะ เพราะคุณธันน์เธอเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยอยู่บ้านสักเท่าไหร่ พอๆ กับคุณกิตแหละ ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิง น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับอันน์นะ คุณหนูกรภัทร์หรือคุณหนูภัทร์ อายุ 18นะ” “สรุปบ้านหลังนี้มีทั้งหมด 7 คนใช่มั้ยคะพี่บัว” “ถูกต้อง...คุณหญิงมีลูก 3 คน คือคุณกิต คุณธันน์ และคุณหนูภัทร์ ส่วน คุณคินทร์เป็นน้องชายคุณกษิดิศ และคุณบุรินทร์เป็นน้องชายคุณหญิงกนกจันทร์” “แล้วคุณๆ อยู่บ้านหลังนี้หมดเลยเหรอคะพี่บัว” “ใช่...แต่จะมีคุณกิตเพียงคนเดียวที่จะเข้าบ้านปีละประมาณสองครั้งมั้ง อันน์อย่าเรียกที่นี่ว่าบ้านเลย เรียกคฤหาสน์ดีกว่า ดูสิหลังใหญ่โตมาก มีห้องนอนเกือบ20ห้อง อันน์รู้มั้ยว่าคนรับใช้ รวมคนสวน คนขับรถทั้งหมดมี 15 คน...อืม...ถ้าเราเพิ่มเข้ามา ก็น่าจะ 16 คนแหละ” “ทำไมเยอะขนาดนี้คะพี่บัว” “คนรวยไง ก็ต้องมีคนคอยรับใช้เยอะอยู่แล้ว อันน์อยู่ไปก็จะรู้เองแหละ” “งั้น อันน์ขอนอนอยู่ห้องเดียวกับพี่บัวได้มั้ยคะ” พอได้ยินเรื่องที่พี่ใบบัวเล่ามันก็ทำให้ภริตาเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันใด เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอเรื่องแบบนั้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าระวังตัวไว้ก็คงจะดี “ห้องพี่กับอันน์ติดกันนะ ไม่มีอะไรหรอก ความจริงห้องนี่มันก็เป็นที่ซุกหัวนอนเท่านั้น ส่วนห้องกินข้าวก็เป็นห้องครัวที่ตึกส่วนกลางสำหรับคนใช้ต่างหาก อันน์ไม่ต้องกลัวหรอกนะ มีพี่อยู่ คอยตามติดพี่ก็แล้วกัน” “ค่ะพี่บัว...อันน์ต้องขอบคุณพี่มากๆ เลยนะคะ” “ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง...เอ่อ...มีเรื่องหนึ่งที่พี่จะเตือนอันน์นะ” “เรื่องอะไรคะพี่บัว” “อันดับแรก ตอนนี้คุณท่านยังไม่ได้มอบหมายงานให้เราทำส่วนไหนใช่มั้ย” “ใช่ค่ะพี่บัว คุณท่านบอกแค่ให้อันน์มาเป็นคนรับใช้ค่ะ” “งั้น อันน์ก็อยู่เรือนคนใช้ไปก่อนนะ ช่วยแม่ครัวทำกับข้าวอยู่แถวนี้ไปก่อน อย่าไปเดินเพ่นพ่านที่ตึกใหญ่เด็ดขาดนะ ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากคุณท่านหรือว่าคุณประนอม” “ค่ะพี่บัว” “อีกอย่าง อย่าพึ่งออกไปนอกบ้านนะ เพราะเราเองยังไม่ได้รับคำสั่งอะไรให้อยู่หรือทำงานในตำแหน่งไหน...อืม...บางที พี่คิดว่าเราอาจจะได้ไปดูแลคุณท่านกษิดิศนะ” “ท่านป่วยเหรอคะ” “ใช่ ท่านเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้ นั่งวีลแชร์แต่คุณท่านไม่ยอมออกไปไหนเลย คุณท่านคงคิดว่าตัวเองหมดหวังที่จะกลับมาเดินได้อีกแล้วมั้ง ความจริงถ้าคุณท่านจริงจังกับการทำกายภาพบำบัด พี่ว่าคุณท่านก็น่าจะเดินได้นะ ท่านอายุแค่ 58 เอง แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร ทำให้คุณท่านเก็บตัวแต่อยู่ในห้อง ไม่ยอมออกมาเลยนะ” “แล้วลูกของคุณท่านไม่ดูแลเหรอคะพี่บัว” “อืม...ไม่รู้จะบอกยังไง มีอีกอย่างที่อันน์ควรจะรู้นะ...ครอบครัวนี้ เป็นอะไรที่แปลกกันมากๆ คนภายนอกนั้นดูก็เหมือนว่าครอบครัวปกติทั่วไป แต่อันที่จริงแล้วคุณในบ้านหลังนี้ ต่างคนก็ทำเหมือนไม่รู้จักกัน พ่อ แม่ ลูก น้องชายไปคนละทาง เหมือนไม่ใช่ญาติกันงั้นแหละ...อันน์อยู่ไปก็จะรู้เองนะ” “ค่ะพี่บัว” ภริตาไม่รู้ว่าตัวเองจะโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ เมื่อได้ยินในสิ่งที่พี่ใบบัวเล่ามา อย่าบอกนะว่าภริตาหนีเสือแล้วต้องมาเจอกับจระเข้อีก... .........................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม