บทนำ

928 คำ
บทนำ “วันนี้ตอนที่ลงไปให้อาหาร นายก็อย่าลืมเช็กร่างกายของพี่เบิ้มด้วยล่ะ เผื่อเขาจะไม่สบาย” “พูดอย่างกับว่าหมอนั่นป่วยง่ายอย่างนั้นแหละ” “ก็ไม่แน่นะ บางทีวันนี้พี่เบิ้มของเราอาจจะป่วยก็ได้” “งั้นผมก็ภาวนาขอให้มันอย่าเป็นแบบนั้นก็แล้วกันนะครับ ไม่อย่างนั้นศูนย์ของเราคงวุ่นวายน่าดู” เยลตอบเพื่อนร่วมงานทั้งรอยยิ้มสดใส เมื่อเขาคิดว่าการที่กระเบนลูกรักของศาสตราจารย์หลุยส์ผู้เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งที่นี่เจ็บป่วย มันไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไรนัก เพราะถ้ามันถึงคราวนั้นจริง ๆ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้คงจะโกลาหลน่าดู “ฮ่า ๆ ฉันก็พูดไปเรื่อยนั่นแหละ ใครจะอยากให้กระเบนตัวใหญ่นั่นเจ็บป่วยกัน” อีกฝ่ายเอ่ยกลับมาพลางกลั้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอแล้วค่อยพูดต่อ “ส่วนนายก็รีบไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว เพราะวันนี้พวกเรามีอะไรให้ต้องทำตั้งหลายอย่างเลยนะ” “เข้าใจแล้วครับ” เยลขานรับกลับไป จากนั้นเขาก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง เพื่อเปลี่ยนไปใส่ชุดดำน้ำพร้อมสวมอุปกรณ์เซฟตี้ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นถุงมือแม่เหล็ก อุปกรณ์ควบคุมการลอยตัว นาฬิกาดำน้ำและอุปกรณ์ที่เขาจำเป็นจะต้องใช้ต่อกับถังอากาศด้วยความชำนาญ หลังวันนี้มันเป็นวันที่เยลจะต้องลงไปให้อาหารเหล่าปลากระเบนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ที่นี่ โดยหน้าที่หลัก ๆ ของเยล คือเขาจะต้องคอยให้อาหารปลาในอควาเรียม คอยสังเกตอาการเจ็บป่วย จับตาดูพฤติกรรมที่อาจต่างไปจากเดิมของพวกมันและทำความสะอาดแท็งก์น้ำด้วย ซึ่งเยลก็ทำงานอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้มาได้เกือบสองปีแล้ว เนื่องจากมันเป็นหนึ่งในวิธีใช้ทุนของเขา หลังเขาได้รับทุนการศึกษาต่อปริญญาโทให้มาเรียนต่อวิทยาศาสตร์ทางทะเลถึงต่างประเทศด้วยเงินทุนของศาสตราจารย์หลุยส์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งอควาเรียมทางทะเลแห่งนี้ “ขอบคุณครับ” เยลกล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมงานของตัวเองเสียงแผ่ว เมื่ออีกฝ่ายได้ยื่นถังอาหารมาให้กัน ขณะที่เขากำลังหย่อนตัวลงน้ำ ตู้ม! เมื่อร่างกายและสภาพจิตใจของเขาพร้อมแล้ว เยลก็ทิ้งตัวลงไปยังแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึงหกเมตรทันที เขาใช้เวลาตั้งหลักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เยลจะค่อย ๆ แหวกว่ายตรงไปยังฝูงปลากระเบนหลากหลายสายพันธุ์ที่กำลังรอให้เขามาให้อาหารอยู่ โดยอาหารที่เยลนำมาให้พวกมันนั้น ก็จะมีพวกหอยทั้งหลายแหล่ และปลาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นพอดีปากของพวกมันคละ ๆ กันไป ทันทีที่เขาแหวกว่ายไปถึงจุดที่เขามักจะให้อาหารอยู่เป็นประจำ เยลก็ไม่รอช้า เขารีบจัดการใช้ที่คีบหนีบอาหารและป้อนที่ปากของพวกมันทีละตัว เพื่อแข่งกับเวลาที่มีอยู่แค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น เวลาเดียวกันเขาก็คอยสังเกตพฤติกรรมของพวกมันไปด้วย เพื่อที่เขาจะได้รายงานให้สัตวแพทย์ได้รู้ต่อไป แล้วพี่เบิ้มหายไปไหนล่ะเนี่ย? เพราะท่ามกลางเหล่าฝูงกระเบนทั้งหลายที่มาห้อมล้อมเขา มันกลับมีตัวหนึ่งที่หายไปจากฝูง เยลจึงเริ่มมองหามันทั้งอาการกระวนกระวาย เนื่องจากเขากลัวว่ามันกำลังเจ็บป่วย จนไม่สามารถว่ายมาขออาหารจากเขาได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ทั้งเขาและเพื่อนร่วมงานต่างเรียกมันว่าพี่เบิ้มยักษ์ใหญ่ของที่นี่นั้น นั่นก็เพราะมันมีขนาดตัวที่ใหญ่พอ ๆ กับปลากระเบนราหู ทว่ามันกลับไม่ได้อยู่ในวงศ์ตระกูลนี้ เนื่องจากพี่เบิ้มเป็นกระเบนที่ถูกทำการดัดแปลงพันธุกรรมโดยศาสตราจารย์หลุยส์ เพราะอย่างนั้นมันจึงกลายเป็นลูกรักของผู้ก่อตั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่เยลกำลังมองหาพี่เบิ้มด้วยความกังวลใจอยู่นั้น จู่ ๆ เยลก็รู้สึกว่าทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขามันมืดลงกะทันหัน และเมื่อเยลได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าตัวเองกำลังถูกปลากระเบนตัวยักษ์ที่เขากำลังหาตัวอยู่แกล้งเข้าให้แล้ว หลังมันมักจะแกล้งเขาด้วยการแอบว่ายมาจากทางด้านหลังแล้วใช้ครีบโอบร่างเขาเอาไว้ ไม่ให้เยลสามารถมองเห็นสิ่งรอบตัวได้ชั่วขณะ โดยพฤติกรรมที่เขาจะต้องตอบโต้กลับไปให้มันนั้น ก็คือการใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดดันตรงช่วงกลางลำตัวของมันออกไปจนสุดแขน รวมไปถึงครั้งนี้ด้วย กินเข้าไปเยอะ ๆ เลย จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกันอีก เยลคิดในใจ หลังเขาสามารถผลักไสกระเบนตัวยักษ์ออกให้ห่างตัวได้สำเร็จแล้ว ซึ่งพอเขาเห็นว่าพี่เบิ้มมีท่าทีปกติไม่ได้เจ็บป่วยอะไร มิหนำซ้ำมันยังอารมณ์ดี มีอารมณ์มาแกล้งเขาอีกต่างหาก เยลก็จัดการคีบอาหารใส่ปากของมันเป็นมือระวิง เพื่อให้พี่เบิ้มแห่งอควาเรียมที่มีขนาดตัวใหญ่มโหฬาร แต่กลับใจดีและไม่มีนิสัยก้าวร้าวกับผู้ดูแลอย่างเขาหยุดกลั่นแกล้งกันเสียที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม