บท 1

1161 คำ
“วันนี้ซีแอตเป็นยังไงบ้าง สุขภาพแข็งแรงดีหรือเปล่า?” “วันนี้ก็เหมือนเดิมแหละครับ หมายถึงไอ้นิสัยขี้แกล้งของเขาน่ะ” ขณะที่เยลกำลังยืนกรอกข้อมูลลงใส่ตารางตามหน้าที่ของตัวเองอยู่หน้าตู้กระจก เขาก็หันหน้าไปพูดกับสัตวแพทย์ประจำที่นี่ไปด้วย เมื่อมันเป็นอีกครั้งที่มีคนมาพูดถึงพี่เบิ้มหรือซีแอตกับเขา เพราะหน้าที่หลัก ๆ ที่เยลต้องรับผิดชอบเป็นเสียส่วนใหญ่ ก็คือการดูแลพวกปลากระเบนที่อยู่ในศูนย์แห่งนี้ “ให้เขาได้แกล้งหน่อยเถอะ นายก็รู้นี่ว่าเขาเป็นกระเบนขี้เหงาจะตาย” “ครับ เพราะบางทีผมเองก็รู้สึกสงสารเขาเหมือนกัน” เยลตอบกลับไปพร้อมเงยหน้ามองตู้กระจกตรงหน้าตัวเองที่ตอนนี้กำลังมีกระเบนยักษ์คอยว่ายมาด้อม ๆ มอง ๆ เขากับสัตวแพทย์อยู่ คล้ายกับมันรู้ว่าตัวเองกำลังถูกมนุษย์อย่างเขาพูดถึง “บางทีผมก็สงสัยนะครับว่าทำไมศาสตราจารย์หลุยส์ถึงไม่ยอมหาเพื่อนให้มัน” ระหว่างที่ดวงตากลมโตของเขากำลังมองกระเบนยักษ์ที่มาเสนอหน้าทั้งที่ไม่ได้ร้องขอ เยลก็ถามสัตวแพทย์ที่ยืนอยู่ข้างกันไปด้วย เพราะอีกฝ่ายทำงานอยู่ที่นี่มาเกือบสิบปีแล้ว ขณะที่เขามีอายุงานแค่สองปีเท่านั้น “อาจเพราะศาสตราจารย์หลุยส์ไม่คิดว่าครั้งนี้มันจะสำเร็จแหละมั้ง” “...” “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ต่อให้ศาสตราจารย์หลุยส์จะยังไม่มีความคิดเรื่องการหาเพื่อนให้มัน แต่เขาก็รักมันมากเลยนะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พยายามแวะมาที่นี่บ่อย ๆ ทุกครั้งที่มีเวลาว่างหรอก” อีกฝ่ายตอบกลับมา ซึ่งเยลก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น เพราะเขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าซีแอตเป็นลูกรักของผู้ก่อตั้ง โดยคำว่าซีแอตที่เป็นชื่อเรียกจริง ๆ ของกระเบนตัวใหญ่ที่เป็นจุดขายของที่นี่นั้น มันก็ได้มาจากคำว่าซีแอตเทิลหนึ่งในเมืองท่าทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐ เยลได้ยินมาว่าศาสตราจารย์เก็บมันได้ตอนที่เขาไปสำรวจทะเล เขานำซีแอตกลับมาเลี้ยงที่ศูนย์วิจัยของตัวเอง และนำมาปรับปรุงพันธุกรรมจนมันมีวิวัฒนาการต่างจากกระเบนทั่ว ๆ ไป ซีแอตเป็นกระเบนใหญ่ที่มีขนาดตัวใหญ่เท่า ๆ กับกระเบนแมนตาหรือที่เรียกกันว่ากระเบนราหู มันมีขนาดตัวใกล้เคียงกับกระเบนสายพันธุ์นี้ ทว่าในบางครั้งยามที่เยลลงน้ำเพื่อไปให้อาหาร แล้วเจอมันเข้า เขากลับรู้สึกว่ามันมีขนาดตัวใหญ่กว่ากระเบนสายพันธุ์นี้ด้วยซ้ำ เพราะงั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากกระเบนสายพันธุ์อื่น ๆ ที่อยู่ในแท็งก์เดียวกันจะไม่ยอมเล่นกับมัน เพราะกลัวจะถูกจับกิน โดยซีแอตก็เป็นปลากระเบนที่มีสีดำทึบ มันไม่มีลวดลายอะไรทั้งนั้น จนในบางครั้งหากผู้ดูแลไม่เพ่งสายตาคอยสังเกตมันยามที่มันว่ายมาหา มันก็จะเหมือนเป็นแค่เงากระเบนตัวใหญ่เท่านั้น ซึ่งผู้ดูแลก็อาจจะหัวใจวายได้หากครีบของมันมาสัมผัสตัวในระยะประชิด แต่จุดที่ทำให้มันพิเศษกว่ากระเบนราหูจนไม่สามารถเรียกว่าฝาแฝดกันได้ก็คือพิษของมัน ซีแอตเป็นกระเบนที่มีพิษอันตรายร้ายแรง พิษของมันสามารถคร่าชีวิตสัตว์น้ำที่มีขนาดตัวใหญ่กว่ามันได้ถึงห้าเท่า ต่างจากกระเบนแมนตาที่ไม่มีพิษ เพราะพวกมันไม่มีเงี่ยงที่หาง แม้มันจะเป็นอย่างนั้น แต่ท่ามกลางความอันตรายของมัน ซีแอตก็ยังมีจุดที่พิเศษที่ต่างจากกระเบนตัวอื่นคือความใจดีและขี้เล่นของมัน นอกเหนือจากนั้นมันยังมีความเฉลียวฉลาดด้วย ซึ่งก็อาจเป็นผลพวงมาจากการตัดต่อพันธุกรรมของศาสตราจารย์หลุยส์ มันกลายเป็นขวัญใจของเด็ก ๆ และเป็นดาวเด่นของอควาเรียมตั้งแต่วันแรกที่มันถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ เมื่อศาสตราจารย์หลุยส์ตัดสินใจเกษียณอายุมัน และให้มันมาพักผ่อนอยู่ที่นี่แทน หลังมันคอยช่วยงานวิจัยของศาสตราจารย์หลุยส์มาเกือบสิบปีเห็นจะได้ ซีแอตมักจะสร้างความประทับใจให้กับเด็ก ๆ ที่แวะเวียนมาทัศนศึกษาอยู่ที่นี่ด้วยการว่ายตีลังกากลับหัวเป็นประจำ และถ้าวันไหนที่เด็กแวะมาหามันเยอะ บางครั้งมันก็จะนึกคึกทำปากรูปร่างแปลก ๆ ให้เด็ก ๆ ได้หัวเราะกันด้วย ซึ่งความใจดีและขี้เล่นของมันก็ทำให้เหล่าเด็ก ๆ รวมไปถึงเยลที่เป็นคนดูแลแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันเป็นสัตว์น้ำอันตราย “อะไรกัน... นี่ใจคอจะคอยมาถ้ำมองแบบนี้ทั้งวันเลยเหรอ” เมื่อเยลจัดการกรอกข้อมูลปลากระเบนทุกตัวจนครบหมดแล้ว เขาก็ต้องพูดขึ้นเบา ๆ หลังเยลเห็นว่าจนถึงตอนนี้พี่เบิ้มประจำแท็งก์ยักษ์ก็ยังคงว่ายโฉบไปโฉบมาอยู่ที่หน้าเขา คล้ายกับมันต้องการให้เยลมองเห็นมัน “หรือว่าหิวอีกแล้ว? แต่ว่าเมื่อวานก็กินอาหารไปแล้วนี่” เยลเอ่ยทั้งคิ้วขมวดพลางหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมา ตั้งใจจะถ่ายรูปมันไปอวดเพื่อนของเขาที่อยู่ไทย เพราะเพื่อนของเยลเป็นหนึ่งในแฟนคลับของซีแอต เธอมักจะคอยดูคลิปน่ารัก ๆ ของมันผ่านเว็บของอควาเรียมเป็นประจำ “นี่... ช่วยทำปากดี ๆ หน่อยสิ” เยลบอกสัตว์น้ำที่อยู่ในตู้ให้หยุดทำปากแปลก ๆ ทั้งที่เขาเองก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้มันจะมีความเฉลียวฉลาดแค่ไหน แต่ยังไงมันก็ไม่มีทางที่ซีแอตจะฟังภาษามนุษย์ออกอยู่ดี เพราะถ้ามันฟังภาษามนุษย์ออก เห็นทีนี่คงไม่ใช่สัตว์น้ำที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์แล้ว แต่มันน่าจะเป็นตัวประหลาดในท้องทะเลเสียมากกว่า ซึ่งพอเยลจับจังหวะปากของมันได้แล้ว เขาก็รีบกดจับภาพของมันแล้วส่งไปให้เพื่อนสนิททันที โดยหลังจากที่เยลถ่ายรูปของมันเสร็จ เขาก็เก็บโทรศัพท์ลงใส่กางเกงและเคาะตู้กระจกหนาที่ถูกสั่งทำพิเศษให้กับอควาเรียมแห่งนี้อยู่สองสามที เพื่อส่งสัญญาณบอกกระเบนตัวยักษ์ในตู้ว่าเขาจะต้องไปทำงานอื่นต่อแล้ว เยลไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมายืนเล่นกับมันทั้งวัน ต่อให้พี่เบิ้มขวัญใจเด็ก ๆ อยากจะเล่นกับเขามากแค่ไหนก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม