bc

รัก(ไม่)ร้าย นายไบค์เกอร์

book_age16+
702
ติดตาม
3.5K
อ่าน
แต่งงานตามสัญญา
จบสุข
เย่อหยิ่ง
แบดบอย
มาเฟีย
หวาน
ชายจีบหญิง
นักสืบ
วิทยาลัย
การสร้างอาณาจักร
assistant
like
intro-logo
คำนิยม

เพราะถูกคู่แข่งในสนามเล่นไม่ซื่อจนต้องกลายเป็นคนแพ้ในเกมส์นั้น เขาเลยตัดสินใจแก้แค้นด้วยการแย่งแฟนคู่แข่ง "แฟนของศัตรูคือคู่นอนของเรา" ความแค้นที่มีในวันนั้นทำให้เขาตัดสินใจทำแบบนี้ และฟ้าดินก็ช่างเป็นใจ เมื่อแฟนของศัตรูคือลูกคนใช้ที่บ้านเขา

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
แชมป์ 1/2
แชมป์... "ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขหกขึ้นมานำหน้าผู้เข้าแข่งขันทุกคนแล้วนะครับตอนนี้ แน่นอนว่าเราทุกคนรู้จักเขาดี คนคนนี้เขาคือแชมป์นักบิดที่ไม่ว่าลงแข่งสนามไหนก็จะได้ชัยชนะเป็นที่หนึ่งมาตลอด คุณแชมป์ครับ!" เสียงคนที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การแข่งขันข้างสนามใกล้ๆกับเส้นชัยที่ผมกำลังจะไปถึงพูดใส่ไมโครโฟนเสียงดังกึกก้องไปทั่ว   "กรี๊ดด! กรี๊ดด!"   "เฮ้! เฮ!"   "แชมป์สู้ๆ! แชมป์สู้ๆ!" เสียงโห่ร้องเสียงเชียร์ผมข้างขอบสนามดังขึ้นเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทั้งป้ายไฟและธงเชียร์หมายเลขของผมแกว่งไปมาขณะที่ผมเร่งความเร็วพุ่งไปหาเส้นชัยตรงหน้า   เอี๊ยดด!! "เฮ! เฮ!" เสียงเบรคของรถคู่ใจคันโตที่ผมคร่อมอยู่ดังขึ้นเมื่อถึงเส้นชัย ตามมาด้วยเสียงเฮโห่ร้องยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ของผมแน่นอนว่ามันคือเรื่องปกติที่คนอย่างผมจะได้เข้าสู่เส้นชัยและเป็นอันดับหนึ่งในทุกการแข่งขัน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่เคยประมาทคู่แข่งของตัวเอง วันนี้อาจเป็นวันของเราแต่วันหน้าอาจไม่ใช่และทุกการแข่งขันที่หนึ่งก็อาจไม่ใช่ของผมเสมอไป   กรี๊ด! กรี๊ด! เสียงกรีดร้องของสาวๆที่มาทำหน้าที่ในสนามและเข้ามาดูการแข่งขันดังขึ้นๆเมื่อผมถอดหมวกกันน็อคออกขณะที่ยังคร่อมรถคู่ใจคันโตของผมอยู่ แน่นอนว่าผมได้ยินจนชินแล้วล่ะและสิ่งที่ผมทำก็คือหันไปส่งยิ้มพร้อมกับโบกมือให้พวกเธอ   "กรี๊ด!/อร๊ายยย!"   "แชมป์!/อร๊ายหล่อ!"    "หล่ออะแก!" เสียงที่ดังกึกก้องทั่วทั้งสนามยังคงดังขึ้นเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ยิ่งผมเดินไปรับถ้วยรางวัลและชูขึ้นพร้อมกับหันไปมองทุกคนในสนามด้วยแล้วเสียงโฮ่ร้องยินดีก็ยังดังขึ้นไปอีกเรื่อยๆ   ผมไม่เคยมองว่าตัวเองเก่งหรือเหนือกว่าใคร ที่ผมเป็นได้ทุกวันนี้ก็เพราะจากการฝึกซ้อมและประสบการณ์ในสนามล้วนๆ อีกทั้งคอยรับฟังคำแนะนำ ชี้แนะจากรุ่นพี่หรือรุ่นน้องที่เขามีประสบการณ์มากกว่า   "แชมป์! แชมป์! แชมป์!"   "เบอร์หก! เบอร์หก! เบอร์หก!"   ถ้าถามว่าทำไมผมถึงเลือกใช้เลขหกเป็นหมายเลขประจำตัวผม นั่นก็เพราะว่าเลขหกน่ะไม่ว่ามันจะล้มหรือลุกมันก็ยังมีค่าเสมอ ถ้ามันลุกมันก็คือเลขหกแต่ถ้ามันล้มมันก็คือเลขเก้าและไม่ว่ามันจะล้มไปข้างหน้าหรือว่าล้มไปข้างหลังมันก็ยังมีค่าในตัวมันเองเสมอ . . . แปะ! "ยินดีด้วยนะมึง" เสียงเพื่อนร่วมสนามแข่งที่สวมชุดนักแข่งเหมือนกันกับผมเดินมาตบไหล่ผมพร้อมกับส่งยิ้มแสดงความยินดีให้มันคือไอ้โป้ง   "ขอบใจมากมึง" ผมตอบกลับพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้คนตรงหน้า   "มึงแมร่งแข่งกี่ที่กี่สนามก็ที่หนึ่งตลอดเลย มีของดีหรือเคล็ดลับอะไรดีๆก็บอกกูบ้างนะ กูเองก็อยากเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกสักครั้งในชีวิตเหมือนกัน" เพื่อนอีกคนที่เราแข่งด้วยกันเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับพูดขึ้นยิ้มๆ ในสนามเราคือคู่แข่งแต่นอกสนามเราคือเพื่อนคือคนรู้จักที่คอยทักทายกันเวลาพบเจอในงานต่างๆหรือแม้กระทั่งไปออกทริปท่องเที่ยวด้วยกัน คนนี้คือไอ้ตี๋เพื่อนไม่ค่อยซี้ของผมเองแต่เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆเวลาที่ผมกลับมาเมืองไทย   "พวกมึงก็ซ้อมบ่อยๆดิวะไม่ใช่เอาเวลาไปคั่วหญิง" ผมตอบยิ้มๆ   "เออแชมป์ กูได้ข่าวว่ามึงจะเลิกแข่งรถเหรอวะทำไมวะ" ไอ้โป้งเพื่อนคนแรกที่เดินเข้ามาทักผมพูดขึ้นบ้างขณะที่เรากำลังเดินเข้าไปพักในห้องพักนักแข่ง   "จริงดิ" เพื่อนอีกคนไอ้ตี๋ถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง    "ทำไมกูไม่รู้เลยวะ เชี้ยโป้งมึงเอาข่าวมาจากไหนเนี่ย" ไอ้ตี๋หันไปถามไอ้โป้งต่อ   "เออจริง แต่หลังจากที่กูเอาแชมป์ในสนามใหญ่รอบที่จะมาถึงนี้ให้ได้ก่อนนะ" ผมตอบ   "โห่แชมป์มึงได้อยู่แล้วแหละ / เออจริง" เพื่อนผมสองคนพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติ   "ไม่แน่หรอกมึงเพราะรอบนี้มีคนเก่งๆเยอะเลยแถมยังมีเซียนนักบิดอีกตั้งหลายคนที่ประสบการณ์ในสนามเยอะกว่ากูแล้วก็เคยเป็นแชมป์สนามใหญ่ในหลายๆประเทศด้วย" ผมหันไปบอก   "ก็สูสีนี่หว่ากูว่ามึงทำได้ " ไอ้โป้งพูดพลางหันหน้ามามองผม   "ใช่ เพราะถ้าให้พวกกูไปพวกกูคงหลุดออกจากวงตั้งแต่เริ่มสตาร์ทอะมึง" ไอ้ตี๋หันไปคุยกับไอ้โป้งต่อ   "แต่กูก็ไม่เข้าใจว่ะ ทำไมมึงถึงไม่แข่งต่อวะมึงรักการแข่งไม่เหรอ ทำไมอยากหยุดหรือว่ามึงมีแฟนแล้วแฟนมึงห้าม" ไอ้ตี๋ถามขึ้นพร้อมกับทำหน้างงด้วยกันทั้งคู่   "ไม่รู้สิ สงสัยกูเบื่อมั้ง" ผมตอบติดตลก   "หรือว่ามึงจะหลีกทางให้คนอื่นๆในสนามเพราะข่าวลืออีกข่าวที่บอกว่านักแข่งหลายคนเริ่มหมดกำลังใจเวลาที่มึงลงแข่งด้วย เพราะรู้ว่าไม่มีทางได้ที่หนึ่งแน่ๆถ้าสนามนั้นมีมึงลง" ไอ้โป้งที่ถามเรื่องข่าวการเลิกแข่งของผมถามต่ออีก ไอ้นี่มันเป็นนักข่าวหรือไงวะรู้ดีไปหมด   "ไม่ใช่เรื่องนั้นโว้ย" ผมรีบเถียง   "แต่กูว่าใช่" ไอ้โป้งเถียงกลับพลางหรี่ตามองจับผิดผม   "เออๆ กูบอกความจริงกับพวกมึงก็ได้ว่าทำไมกูถึงจะเลิกแข่ง" ผมพูดอย่างยอมแพ้เพราะไม่อยากให้พวกมันคิดอะไรไปเอง ไหนๆก็จะเลิกแข่งอยู่แล้วบอกๆพวกมันไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก อีกอย่างผมก็กลัวว่าพวกมันจะคิดเหมือนคนอื่นด้วยเรื่องที่ว่าไม่มีทางชนะผมน่ะ   "คือกูเป็นเบาหวานว่ะ เป็นมานานแล้วล่ะแต่กูไม่ได้บอกใคร" ผมพูดพลางมองหน้าพวกมันไปด้วยแต่หน้าตาพวกมันตอนนี้เหมือนคนกำลังนั่งฟังเรื่องตลกอยู่ ทำไมวะ?   "ไอ้ห่าจะหาเรื่องมาโกหกก็ให้มันเนียนๆหน่อยดิวะ อยู่ๆมาบอกพวกกูว่าเป็นเบาหวานแล้วจะเลิกแข่งมึงบ้าปะเนี่ย" ไอ้ตี๋พูดอย่างไม่เชื่อก่อนจะส่ายหัวไปมา   "เชี้ยตี๋กูไม่ได้โกหกกูพูดจริงๆ" ผมเถียงมันกลับ   "งั้นถ้ามึงเป็นเบาหวานจริงๆแล้วทำไมมึงต้องเลิกแข่งด้วยวะ เกี่ยวอะไรกับเบาหวานมึงไม่ได้เป็นอัมพาตสักหน่อยจะเลิกแข่งหาหอกอะไร" ไอ้โป้งถามบ้าง   "กูเป็นเบาหวานขั้นรุนแรงน่ะมึง ไม่มีโอกาสหายถ้าแข่งต่อไปกูอาจจะตายในสนามก็ได้เพราะหลังๆมานี้กูอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่" ผมตอบพวกมัน   "หนักขนาดนั้นเลยเหรอวะกูไม่เห็นเคยได้ยินเลย" ไอ้โป้งถามต่อ   "เออดิ นี่กูก็ต้อพกอินซูลินไว้ฉีดเองตลอดเวลาเลยนะมึง" ผมพูดต่อ   "เหี้ยแชมป์! ถึงกับต้องพกอินซูลินไว้ฉีดเองแมร่งไม่ปกติแล้วนะโว้ย แล้วแบบนี้มึงจะลงแข่งรอบหน้าได้เหรอวะเดี๋ยวก็ตายห่ากันพอดีหรอก" ไอ้ตี๋พูดด้วยความตกใจ   "ทำไมวะมึง มันอันตรายขนาดนั้นเลยเหรอ" ไอ้โป้งหันไปถามไอ้ตี๋อย่างสงสัย   "เออดิตอนที่ป๊ากูตายอะก็เพราะม๊ากูหาอินซูลินไม่เจอแล้วก็ฉีดให้ป๊าไม่ทัน พอตามหมอมาก็ไม่ทันแล้วมึง ตัวป๊ากูนี่ซีดไปหมดแถมยังมีเหงื่อชุ่มทั้งตัวด้วยนะพูดแล้วภาพยังติดตากูอยู่เลย " ไอ้ตี๋พูดบ้าง ทำเอาผมพลอยรู้สึกไม่ดีไปด้วยก็ใครจะอยากตายล่ะถูกมั้ย   "แล้วนี่มึงต้องฉีดไปตลอดชีวิตแล้วก็วันละสี่ห้าเข็มเหมือนป๊ากูปะ" ไอ้ตี๋ถามต่อ   "ก็ประมาณนั้นแหละมึงแต่กูเพิ่งเริ่มใช้อินซูลินได้แค่ไม่กี่เดือนน่ะ แต่ก็คงต้องใช้มันตลอดชีวิตเหมือนป๊ามึงนั่นแหละ" ผมตอบมัน   "เออช่างแมร่งเหอะมึง อีกแค่สนามเดียวเดี๋ยวมึงก็เลิกแข่งแล้วกูรู้ว่ามึงทำได้ กูว่าวันนี้เราไปดื่มกันดีมั้ยวะนานๆทีจะได้เจอกัน" ไอ้โป้งที่นั่งฟังได้สักพักพูดขัดขึ้น   "แต่ไอ้แชมป์มันจะแดกได้เหรอวะมันเป็นเบาหวานนะ" ไอ้ตี๋รีบขัด   "งั้นมึงไปแดกน้ำเปล่าแล้วก็กับแกล้มโอเคมั้ยแชมป์ นานๆทีแมร่งจะได้เจอกันมันก็ต้องสังสรรค์กันหน่อยดิ" ไอ้โป้งยังไม่หยุดความพยายาม   "เออจริงด้วย ยิ่งมึงอะตัวดีเลยไอ้แชมป์ชอบหายหัวไปเป็นเดือนๆไม่ก็เป็นปีโผล่มาแต่ละทีก็แค่ตอนมีงานแข่งรถเพราะฉะนั้นวันนี้มึงห้ามปฎิเสธ" ไอ้ตี๋ที่ตอนแรกไม่เห็นด้วยตอนนี้กลับเปลี่ยนแผนซะงั้น   "เออก็ได้ๆ แต่กูดื่มเยอะไม่ได้นะมึงเดี๋ยวตายห่าก่อนแข่ง" ผมบอกพวกมัน   "เออๆงั้นไปที่ผับนี้เลยมึงได้ข่าวว่าเป็นผับเจ้าของสนามที่เราแข่งอยู่ด้วย เมียเขาแมร่งอย่างแจ่ม" ไอ้โป้งพูดด้วยท่าทางหื่นๆของมันพลางส่งโลเคชั่นของผับที่จะไปเข้าในแอพพลิเคชั่นไลน์ให้พวกผม ความจริงผับนี้ผมรู้จักดีเลยแหละแต่ไม่บอกพวกมันดีกว่า   "เค งั้นผับเปิดแล้วเจอกัน"   "เคเพื่อน"   "เชี้ยแชมป์อย่าลืมพกยาไปด้วยนะมึง เดี๋ยวตายห่ากลางผับกูช่วยอะไรมึงไม่ได้นะ" ไอ้ตี๋ตะโกนบอกผมขณะที่เรากำลังแยกกัน   "เออกูรู้แล้วน่า"            

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.4K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.6K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
2.1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
16.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

หยุดหัวใจไม่รักดี

read
4.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook