bc

I'm Casnova สยบหัวใจนายคาสโนวา

book_age18+
1.5K
ติดตาม
7.8K
อ่าน
love-triangle
แต่งงานตามสัญญา
ครอบครัว
จบสุข
มีชู้
ใช้กำลัง
คู่ต่างขั้ว
รักเพื่อน
คลุมถุงชน
เพลย์บอย
เย่อหยิ่ง
พ่อเลี้ยง
มาเฟีย
ผู้สืบทอด
ดราม่า
โศกนาฏกรรม
หวาน
ชายจีบหญิง
ตึงเครียด
วิทยาลัย
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
การโกหก
polygamy
addiction
like
intro-logo
คำนิยม

“เฮ้อ! เสร็จงานสักที เหนื่อยไหมเวลาออกงาน” คนที่เข้ามานั่งประจำที่คนขับถอนหายใจบ่นออกมาเบาๆ แล้วก็หันมาถามฉัน

“เหนื่อยปั้นหน้าค่ะ พี่ก็รู้ว่าสังคมใส่หน้ากากมันทำให้เหนื่อยแค่ไหน” ฉันตอบเขาด้วยความเบื่อ แสดงความเบื่อออกมาทั้งสีหน้าและน้ำเสียงนั่นแหละ

“อื้ม พี่ว่าใครๆ ก็เบื่อแต่ก็ยังยินดีที่จะใส่อยู่ดี เราว่าไหม” เขาพยักหน้าเห็นด้วยแล้วก็เห็นมามองหน้าฉันเหมือนจะขอความคิดเห็นด้วยรอยยิ้ม

“คงใช่มั้งคะ” งานปาร์ตี้พวกนี้เป็นงานที่เกี่ยวกับธุรกิจ ฉันรู้ว่าเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ของคนในงานโคตรเบื่อกับการที่ต้องมาสวมหน้ากากเข้าหากันเพื่อผลประโยชน์ เบื่อแต่สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะสวมหน้ากากเข้าหากันเหมือนเดิม

“ยิ่งเป็นเราทั้งคู่ก็คงยิ่งเบื่อ” เขาพูดอีกครั้ง ยังไม่ออกรถหรอก ยังจอดอยู่ที่เดิมเพื่อคุยกัน คุยในเรื่องที่คุยมาหลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้สักที

“ใครๆ ก็เบื่องานแบบนี้ทั้งนั้นล่ะค่ะ” ฉันตอบเรียบๆ ไม่มีใครสนุกหรอกกับงานสังคมสวมหน้ากาก ถ้าไปปาร์ตี้กับเพื่อนก็ว่าไปอย่าง

“แต่พี่ว่าเราเบื่อกว่าใครๆ” พี่วายุพูดออกมาแล้วก็ยิ้มเหมือนคนรู้ทัน

“แล้วจะยังไงดีคะ” ฉันถามนิ่งๆ พร้อมกับมองหน้าเขาเพื่อขอความเห็นตาแทบไม่กระพริบ

“เราว่ายังไงล่ะครับ” เขาถามพร้อมรอยยิ้มแต่ฉันไม่ได้ยิ้มตอบ

“ควีนว่าก่อนควีนกลับอังกฤษ...เราควรถอนหมั้นกันให้เร็วที่สุดค่ะพี่วายุ”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
EP : 1
“คู่หมั้นเธอนี่ยิ่งมองยิ่งหล่อเนอะควีน” “อื้ม” ฉันพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มรับคำชมของเพื่อนด้วยความยินดี ...ยินดีมากๆ “พี่ว่าเป็นคู่สร้างคู่สมมาก เรียนจบแล้วคงมีข่าวดีเลยใช่ไหมจ้ะน้องควีน” พี่แอรีส หนึ่งในสาวสวยที่เป็นลูกนักธุรกิจใหญ่แล้วก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับพี่วายุเอ่ยถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่แอรีส” ฉันตอบพร้อมรอยยิ้มให้กับคำถามยอดฮิตที่ฉันมักจะโดนถามอยู่เสมอ และคำตอบของฉันก็เป็นคำตอบที่ฉันมักจะใช้ตอบอยู่เสมอเช่นกัน “อ้าว ทำไมล่ะจ้ะ หมั้นกันมาพักใหญ่แล้วนะ พี่ว่าวายุรอเข้าหอไม่ไหวแล้วล่ะรีบๆ แต่งเถอะปีหน้าก็เรียนจบแล้วนี่ ถ้าเป็นพี่นะเตรียมงานแต่งไว้รอแล้ว” พี่แอรีสถามแล้วก็ยิ้มปนหัวเราะออกมา “เผื่อควีนเรียนต่อค่ะ ยังไม่แน่ใจ” ฉันตอบเท่าที่ตอบได้ เรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาบอกรายละเอียดให้ใครฟัง “ไม่ต้องเรียนหรอก พี่ว่าวายุพร้อมแต่งมากแล้ว เห็นไหมเดินมาหาคู่หมั้นคนสวยแล้วนั่น” พี่แอรีสพยักพะเยิดหน้าไปอีกฝั่งที่มีผู้ชายตัวสูงที่ฉันมั่นใจว่าเขาคือหนึ่งในผู้ชายไม่กี่คนที่ดูดีกว่ามากในงานนี้กำลังเดินมาทางกลุ่มของพวกเราที่ยืนคุยกันอยู่ “ให้น้องควีนห่างไม่ได้เลยนะวายุ” พี่วายุเดินมาถึงพี่แอรีสก็เอ่ยคำแซว “ฮ่าๆๆ ครับ” พี่วายุเดินเข้ามาหยุดที่วงสนทนาแล้วก็พยักหน้ายิ้มรับ จากนั้นเขาก็หันมาหาฉันด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่อบอุ่นบนใบหน้า “หิวไหมครับ” เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ถามฉันทำให้สาวๆ ที่อยู่ตรงนี้พากันยิ้มเขิน แต่ก็มีบ้างที่มีสายตาของความหมั่นไส้ “นิดหน่อยค่ะ” ฉันยิ้มแล้วตอบเขาเบาๆ ความจริงไม่ได้หิวหรอกแต่ตอบว่าหิวนี่ล่ะถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะฉันเริ่มเบื่อบทสนทนาในวงสนทนาตรงนี้ “โอเคครับ ถ้างั้นพี่จะขอตัวพาควีนไปหาอะไรทานแล้วก็ไปเจอเพื่อนพี่ก่อนนะครับ” พอฉันปฏิเสธเขาก็หันไปบอกสาวๆ ที่ยืนสนทนากัน ไม่มีใครห้ามหรอกค่ะ มีแต่ยิ้มตามมารยาทแล้วฉันกับพี่วายุก็พากันเดินออกมา “เราอยากทานอะไรครับ” หลังจากที่พี่วายุพาฉันเดินออกมาจากกลุ่มของลูกสาวนักธุรกิจดังทั้งหลายเขาก็หันมาถามแต่ฉันส่ายหน้าตอบเบาๆ “พี่ก็รู้ว่าควีนไม่ได้หิว” ฉันตอบเขาแต่เราก็เดินไปที่ซุ้มอาหารอยู่ดีเพราะต่างก็รู้ดีว่าสาวๆ พวกนั้นต้องมีบ้างล่ะที่ยังมีบางคนมองตาม หรืออาจจะหลายคนด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าพอเราทั้งคู่เดินออกมาก็คงมีบทสนทนาเกี่ยวกับเราสองคนทันที เป็นสังคมที่ใครหันหลังให้ก็โดนพูดถึงซึ่งสำหรับฉันมันมันอะไรที่น่าเบื่อมาก “ทานนี่แล้วกันนะครับ ไม่หนักท้องดี” พี่วายุยิ้มแล้วก็หยิบอาหารที่เป็นปาร์ตี้ค็อกเทลชิ้นเล็กๆ ใส่จานให้ฉันสองสามชิ้น “ขอบคุณค่ะ” ฉันรับมาถือไว้แต่ยังไม่กินหรอกค่ะ ถืออาหารแล้วเราสองคนก็เดินไปหาเพื่อนๆ ของเขา คนในกลุ่มพี่เขาฉันรู้จักค่ะแต่ไม่ค่อยได้สนิทมากเท่าไหร่ มีพี่คูเปอร์กับพี่ฟาโรห์แล้วก็แฟนของพี่เขาทั้งสองคน เดินเข้าไปฉันก็ทักทายแล้วก็ทำความร็จักแฟนพี่เขาทั้งสองคน “ดีใจที่ได้เจอน้องควีนนะจ้ะ” พี่พริกหวานเป็นคนเอ่ยทักทายฉัน แล้วพี่แป้งหอมก็ทักทายอีกคน “พวกพี่เคยเห็นแต่ในรูป ไม่เคยเจอตัวจริงสักที ตัวจริงกับในรูปสวยไม่ต่างกันเลย ดีใจที่ได้เจอนะคะ” “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะพี่พริกหวานพี่แป้งหอม” ฉันยิ้มให้พี่คนสวยตรงหน้าทั้งสองคนที่ฉันไม่เคย สวยมากเลยค่ะ สวยท่าทางดูเป็นธรรมชาติไม่ปั้นแต่ง รอยยิ้มก็เป็นรอยยิ้มจริงใจ มากกว่าการยิ้มให้กันตามมารยาทในสังคม แค่ได้ยินประโยคแรกจากพี่ๆ เขาฉันก็รู้ว่าพี่สองคนนี้ต้องนิสัยดีและน่ารักมากแน่ๆ ไม่งั้นคงมัดใจพี่คูเปอร์กับพี่ฟาโรห์ไม่ได้หรอก “จ้า แล้วนี่กลับมาไทยนานไหมจ้ะ” พี่พริกหวานคนถามอีกครั้ง พี่เขาก็ถามเรื่องส่วนตัวเหมือนกันนะคะแต่กลับไม่ทำให้ฉันอึดอัดเหมือนตอนที่อยู่ในวงทนสนาของพวกลูกสาวนักธุรกิจเมื่อกี้เลยสักนิดเดียว “สองเดือนค่ะ แล้วก็กลับไปเรียนต่อ” ฉันไม่ได้เรียนที่เมืองไทยค่ะ ฉันเรียนอยู่ที่อังกฤษเลยไม่ค่อยสนิทกับใครที่เมืองไทย ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมก็เลยกลับมาไทย “จ้า เอาไว้ว่างๆ เราไปเที่ยวกันนะ หรือถ้าน้องควีนเหงาก็ติดต่อพวกพี่มาได้เลย” พี่แป้งหอมเป็นคนเอ่ยขึ้น สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มใจดีเลยค่ะ “ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฉันยิ้มให้พี่ทั้งสองคน ไมได้ยิ้มตามมารยาทเหมือนที่ยิ้มให้คนอื่นๆ ในงาน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ทำให้ฉันถูกชะตะกับพี่ทั้งสองคนนี้ อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มจริงใจที่ฉันสัมผัสได้ตั้งแต่แรกมั้งคะ จากนั้นเราก็คุยอะไรกันต่อสามคนเพราะพี่วายุกับพี่คูเปอร์ พี่ฟาโรห์เพื่อนของเขากำลังยืนคุยกันอยู่ แต่แค่แป๊บเดียวก็พากันแยกไปหาที่นั่งเพราะพี่พริกหวานท้องอยู่ ท้องโตใกล้คลอดแล้วด้วย “พี่เบื่องานพวกนี้มาก~” เราคุยกันจนเริ่มสนิทใจพี่พริกหวานก็พูดขึ้น “ควีนก็เบื่อค่ะ เบื่อมาก~” ท่าทางจะเจอคอเดียวกันฉันก็เลยบอกความในใจบ้าง หลังจากนั้นเราสามคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกันแล้วก็ชวนกันคุยเรื่องต่างๆ จนรู้สึกสนิทใจ -เวลาต่อมา- “เฮ้อ! เสร็จงานสักที เหนื่อยไหมเวลาออกงาน” คนที่เข้ามานั่งประจำที่คนขับถอนหายใจบ่นออกมาเบาๆ แล้วก็หันมาถามฉัน “เหนื่อยปั้นหน้าค่ะ พี่ก็รู้ว่าสังคมใส่หน้ากากมันทำให้เหนื่อยแค่ไหน” ฉันตอบเขาด้วยความเบื่อ แสดงความเบื่อออกมาทั้งสีหน้าและน้ำเสียงนั่นแหละ “อื้ม พี่ว่าใครๆ ก็เบื่อแต่ก็ยังยินดีที่จะใส่อยู่ดี เราว่าไหม” เขาพยักหน้าเห็นด้วยแล้วก็เห็นมามองหน้าฉันเหมือนจะขอความคิดเห็นด้วยรอยยิ้ม “คงใช่มั้งคะ” งานปาร์ตี้พวกนี้เป็นงานที่เกี่ยวกับธุรกิจ ฉันรู้ว่าเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ของคนในงานโคตรเบื่อกับการที่ต้องมาสวมหน้ากากเข้าหากันเพื่อผลประโยชน์ เบื่อแต่สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะสวมหน้ากากเข้าหากันเหมือนเดิม “ยิ่งเป็นเราทั้งคู่ก็คงยิ่งเบื่อ” เขาพูดอีกครั้ง ยังไม่ออกรถหรอก ยังจอดอยู่ที่เดิมเพื่อคุยกัน คุยในเรื่องที่คุยมาหลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้สักที “ใครๆ ก็เบื่องานแบบนี้ทั้งนั้นล่ะค่ะ” ฉันตอบเรียบๆ ไม่มีใครสนุกหรอกกับงานสังคมสวมหน้ากาก ถ้าไปปาร์ตี้กับเพื่อนก็ว่าไปอย่าง “แต่พี่ว่าเราเบื่อกว่าใครๆ” พี่วายุพูดออกมาแล้วก็ยิ้มเหมือนคนรู้ทัน “แล้วจะยังไงดีคะ” ฉันถามนิ่งๆ พร้อมกับมองหน้าเขาเพื่อขอความเห็นตาแทบไม่กระพริบ “เราว่ายังไงล่ะครับ” เขาถามพร้อมรอยยิ้มแต่ฉันไม่ได้ยิ้มตอบ “ควีนว่าก่อนควีนกลับอังกฤษ...เราควรถอนหมั้นกันให้เร็วที่สุดค่ะพี่วายุ”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
12.2K
bc

ไฟรักซาตาน

read
53.9K
bc

สอนรัก ลูกสาวท่านประธาน

read
1.4K
bc

ซาตานร้ายเดิมพันรัก

read
11.0K
bc

อ้อนรักพ่อผัว

read
6.6K
bc

ปราบพยศรักยัยรุ่นพี่

read
1.1K
bc

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

read
9.4K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook