EP 3 | Bodyguard คนใหม่
เมื่อมาหยาเพื่อนสนิทของเธอถูกบอดี้การ์ดลากกลับไปพักใหญ่ แต่ตัวเองยังมีเรื่องเซ็ง ๆ และยังไม่อยากกลับ ทำให้มีอาต้องนั่งจิบไวน์ต่ออยู่ลำพังเพียงคนเดียว
กลับบ้านก็เบื่อ
นั่งดื่มคนเดียวก็ยิ่งเบื่อ
แถมพอนึกถึงคนที่ตัวเองคุย ๆ ด้วย ที่จะเอามาเป็นแฟนแก้ขัดก่อนแต่งงาน แต่ละคนก็ยิ่งน่าเบื่อไปกันใหญ่
ดูเอาเถอะหยอดคำหวานแต่ละคำดู ‘สะเหล่อ’ เกร่อเหมือนก๊อบปี้กันมาแบบเดียวกัน
ฝันดีครับ, ฝันหวานครับ, ทานอะไรหรือยังครับ, คิดถึงนะครับ, เป็นห่วงนะครับ
คำซ้ำ ๆ พล็อตเดิม ๆ
ไม่มีอะไรแปลกใหม่
ไม่มีอะไรเป็นสีสันของชีวิตให้หัวใจตื่นเต้นเลยสักนิด
เมื่อไม่รู้จะทำอะไรดี มือเรียวเลยหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาไถเล่นฆ่าเวลาอีกครั้ง ก่อนจะตาเบิกกว้างด้วยความดีใจ เมื่อเห็นข้อความตอบกลับจากใต้ภาพในไอจีว่า
L > ขอบคุณครับ
ครับ?
ผู้ชายเหรอ?
ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้ม เมื่อเห็นว่าเขา Follow ไอจีเธอกลับ ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าไปกดไลก์รูปท้องฟ้าของตัวเองในไอจีแทบจะทุกรูป
ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอเลือกที่จะ DM ไปหาเขา
M > คุณก็ชอบท้องฟ้าเหมือนกันเหรอคะ เห็นลงภาพในไอจีมีแต่รูปท้องฟ้า
แอบลุ้นเล็ก ๆ ว่าอีกฝ่ายจะตอบเธอไหม แต่ไม่กี่วินาทีข้อความที่ส่งไปก็ขึ้นว่า อ่านแล้ว
และเขาพิมพ์ตอบกลับว่า
L > ครับ
มีอายิ้มกริ่มเมื่อรู้สึกว่า ‘เขา’ เข้ามาในเวลาที่เหมาะเจาะ เพราะเธอก็อยากหาคนคุยใหม่ ๆ อยู่พอดี ดีไม่ดีเขาอาจได้สิทธิพิเศษกว่าคนอื่น คือเลื่อนสถานะมาเป็น ‘แฟน’ ไปเลยก็เป็นได้
(ถ้าหล่อนะ) ^ ^
M > รูปที่คุณถ่ายสวยมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
L > เช่นกันครับ คุณ MeMe
MeMe เป็นชื่อในไอจีของมีอา ซึ่งนอกจากรูปท้องฟ้าและวิวทิวทัศน์ในช่วงเวลาต่าง ๆ เธอก็แทบไม่เคยโพสต์อะไรเหมือนกันกับเขา
เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอารมณ์ดี นาน ๆ ทีจะได้รู้จักคนที่มีความชอบถ่ายรูปท้องฟ้าเหมือนตัวเอง
ทว่าอยู่ ๆ กลับมีเสียงใครบางคนดังขึ้น
“เอ่อ…ขอโทษครับคนสวย มาคนเดียวหรือครับ”
ขัดความสุข!
มีอาถอนหายใจพลางละสายตาจากไอจี แล้วตวัดสายตาขึ้นไปมอง
“แล้วเห็นว่านั่งอยู่กี่คน” เสียงหวานตอบห้วนไม่สบอารมณ์ที่โดนขัดจังหวะ ก่อนจะดึงสายตากลับ ก้มมองข้อความในไอจีต่ออย่างไม่ได้คิดจะใส่ใจ
“ผมเห็นคนสวยนั่งเหงาอยู่คนเดียวครับ เลยอยากขออนุญาตมานั่งด้วย ได้ไหมครับ”
“ไม่ได้ค่ะ ไม่ต้อนรับและไม่อนุญาต” รอบนี้เธอตอบสวนกลับโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่าย ดวงตาคู่หวานยังคงจับจ้องและสนใจแต่ช่องแชตในไอจี ก่อนเรียวคิ้วสวยจะขมวดมุ่น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายในไอจีดันตัดบทสนทนาเธอเอาดื้อ ๆ
L
ข้อความแชตจบลงกะทันหัน ส่งผลให้เจ้าของใบหน้าหวานหน้าง้ำไม่พอใจ คนกำลังอารมณ์ดี ๆ แต่กลับโดนเทแบบดื้อ ๆ
ว่าแต่เกือบตีหนึ่ง แต่ผู้ชายคนนี้ยังทำงาน?
งานอะไร?
ไม่ทันจะจมอยู่กับความคิด พลันเสียงจากชายที่ไม่ได้รับเชิญกลับดังรบกวนโสตประสาทเธอขึ้นมาอีก
“สวยแต่หยิ่งแบบนี้ ระวังคืนนี้จะไม่ได้กลับบ้านนะครับ”
หึ!
นิ้วเรียวที่กำลังไถไอจีเล่นหยุดชะงัก กับประโยคไม่ถูกหูที่อีกฝ่ายพ่นออกมา เธอละมือจากสมาร์ตโฟน ก่อนที่จะตวัดดวงตากลมคู่สวยเงยหน้าขึ้นไปมองแขกที่เธอไม่ได้รับเชิญที่ยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยสีหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ
“คุณ...อยากดื่มไวน์ด้วยกันเหรอคะ”
“ครับอยากดื่ม…”
ชายหนุ่มยกยิ้มพลางส่งนัยน์ตาหวานเชื่อมมาให้
“…โดยเฉพาะกับคุณ”
เธอยิ้มกลับ…แต่เป็นยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก ส่งผลให้อีกฝ่ายหัวใจเต้นโครมครามกับรอยยิ้มเล็ก ๆ หลงนึกว่าเธอยอมเล่นด้วย
“ต้องแบบนี้สิครับ ทำตัวน่ารักมาก สมกับหน้าตาสวย ๆ”
“ขอบคุณสำหรับคำชมที่ว่าสวยนะคะ”
มีอาไหวไหล่เบา ๆ ก่อนที่ริมฝีบางจะหยุดยิ้ม แล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาราบเรียบ
“แต่ขอโทษทีฉันไม่ชอบดื่มกับคนสะเหล่อ ๆ แบบคุณ” ไม่ว่าเปล่า ร่างบางยังผุดลุกขึ้นพร้อมกับมือเรียวที่หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วสาดใส่คนตรงหน้าเต็มแรง
“ทีหลังก็จำไว้ อย่ามาทำตัวสะเหล่อผิดคนอีก”
ใบหน้าหวานเชิดขึ้น ปรายตามองคนตรงหน้าแล้วยิ้มเหยียด มองดูไวน์องุ่นสีแดงไหลหยดบนตัวของชายหนุ่ม ตั้งแต่ใบหน้าและค่อย ๆ ไหลเปรอะเปื้อนเต็มแผงอก เปียกปอนหมดสภาพไปทั้งตัว
ช่วยไม่ได้
อยากมาเล้าหลือเธอทำไม ที่ผ่านมาถ้าเธอไม่เอ่ยปากอนุญาตไม่เคยมีใครกล้าวุ่นวายกับเธอก่อน
“อ้าวนังนี่ คุยดี ๆ ทำไมต้องสาดไวน์กันด้วยวะ”
อีกฝ่ายจ้องมองมีอาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เธอยังคงยืนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่สะทกสะท้าน
“วอนซะแล้ว!” ชายตรงหน้าขยับตัวพุ่งเข้าหา
แต่มีอายังมองเฉย แถมเธอยังยักคิ้วยั่วกลับใส่เขาอีก
เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่า…
อีกฝ่าย ไม่มีวันถึงตัวเธอแม้แต่ปลายเส้นผมแน่นอน
หมับ!
เพราะแค่เขาขยับ ข้อมือก็ถูกชายฉกรรจ์ในชุดดำที่ไม่รู้ว่าปรี่เข้ามาจากไหนจับมือเขาและล้อมไว้ทันที
“อะ โอ๊ย พะ พวกมึงเป็นใครวะ”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกใจโวยวายลั่น เพราะไม่เพียงแต่โดนชายกำยำรูปร่างสูงใหญ่กว่าจับข้อมือไปบิดไว้ที่ด้านหลัง ยังมีชายสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำเข้ามาประชิดตัวเขาอีกถึงห้าคน
“หุบปาก! ถ้าไม่อยากกลายเป็นศพ!” ไม่พูดเปล่า เสียงกริ๊กจากปลายอาวุธที่จ่อเข้าประชิดหลัง เป็นเหตุผลที่เจ้าตัวที่โวยวายเมื่อครู่หน้าซีดเผือด เริ่มรู้ตัวแล้วว่าไม่ควรแหกปากหรือต่อกรใด ๆ อีก
“คุณหนูจะให้จัดการยังไงดีครับ” หนึ่งในบอดี้การ์ดเอ่ยถาม
“อยากทำอะไรก็ทำ เอาแบบไม่ต้องให้พูดมากสร้างความรำคาญแบบนี้ได้อีกสัก 2-3 วัน”
น้ำเสียงติดความรำคาญเอ่ย พลางปรายตามองอีกฝ่ายที่กำลังหลบสายตาของเธอด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
“ไม่หล่อแล้วยังปากดีแบบคุณ ระวังจะไม่ได้กลับบ้านง่าย ๆ นะคะ”
เธอใช้ประโยคเดียวกับที่เขาพูดใส่เธอเอ่ยออกมา พลางเบะปากใส่คนตรงหน้าอย่างรังเกียจ
เตรียมรับชะตากรรมไปเถอะ
คนอย่างหมอนี่ ถ้าไม่โดนบอดี้การ์ดของเธอซ้อมจนเดี้ยงแล้วโยนทิ้งข้างถนน ก็จบที่นอนคุก เพราะครอบครัวของเธอมีดีลลับกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่เคยมีปัญหาสาวมาถึงเธอและครอบครัวให้หนักใจ
เจ็บแต่จบของจริง
หมายถึงอีกฝ่ายเจ็บนะ ชนิดที่ว่าเจ็บตัวแล้วจบไม่กล้ายุ่งกับเธออีก
“ชิ น่าเบื่อที่สุด”
"ฉันจะกลับละ เซ็ง หมดสนุกเพราะหมอนี่คนเดียว” เจ้าหล่อนบ่นอย่างอารมณ์เสีย พลางก้มลงหยิบกระเป๋าถือใบเล็กของตัวเองแล้วหันไปออกคำสั่ง
“อ้อ ให้ใครสักคนมาขับรถให้ฉันด้วย เมาไม่ขับ”
“ครับคุณหนู” หนึ่งในบอดี้การ์ดที่เป็นคนเก่าแก่ค้อมศีรษะรับคำสั่ง ก่อนจะหันไปสั่งใครอีกคนที่อยู่ด้านหลัง
“อิล นายรับหน้าที่ไปดูแลคุณหนูต่อ”
“ครับ” เสียงทุ้มขานรับ ก่อนที่ร่างสูงของคนที่อยู่ด้านหลังจะก้าวออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ในขณะที่บอดี้การ์ดคนอื่นกำลังลากเจ้าตัวปัญหาที่ทำให้คุณหนูของเขาหงุดหงิดไปจัดการด้านหลัง
“เชิญครับคุณหนู”
ชายใส่สูทสีดำร่างสูงหน้าตาคมเข้มทำท่าผายมือ แต่ทว่ามีอากลับยืนนิ่ง เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเพราะรู้สึกไม่คุ้นคนตรงหน้า
“นายเป็นใคร? มาใหม่เหรอ? ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
มีอากอดอก ดวงตาคู่หวานไล่สายตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณา
กรอบใบหน้าคมชัด คิ้วเข้มเรียงเป็นระเบียบ หน้าผากกว้างได้รูปดูรับกับดวงตาคมกริบ สันจมูกคมเด่น รวมทั้งปากหยักราวคันธนูนั่นอีก
หล่อ
บอกเลยว่าบอดี้การ์ดคนนี้หล่อจัด เครื่องหน้าเอย หุ่นเอย ความสูงเอย ไม่มีที่ติ แต่อีกฝ่ายกลับสบตาเธอแค่เสี้ยววิ แล้วทำท่าเมินผ่านใบหน้าเธอด้วยท่าทีเย็นชา
“ครับ” เสียงทุ้มตอบสั้น ก่อนจะผายมือให้เธอเดินออกจากจุดที่ยืนอยู่
“เชิญคุณหนูครับ”