bc

พิษรักบอดี้การ์ดร้าย

book_age18+
601
ติดตาม
4.2K
อ่าน
จบสุข
มาเฟีย
like
intro-logo
คำนิยม

โบราณว่าเกลียดอะไรได้อย่างงั้น แต่คุณหนูอย่างเธอดันเกลียดหน้าบอดี้การ์ดหน้าหล่ออย่างเขานี่สิ!

เมื่อเขาคือบอดี้การ์ดคนเดียวที่กล้าเมินเธอต่อหน้าคนอื่น ๆ แบบที่ไม่กล้ามีใครกล้าเมินมาก่อน

“คนอย่างนายไม่มีวันเห็นขาอ่อนฉันหรอก!”

“แต่อาจจะเห็นมากกว่านั้น?”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
EP 1 - 2 | ไทป์ที่ชอบ
EP 1 | ไทป์ที่ชอบ เสียงฝีเท้าส้นสูงดังตกกระทบพื้นหินอ่อนในคฤหาสน์หรูตระกูลสุริยเดชากุล ก่อนที่ประตูห้องทำงานขนาดใหญ่ที่สลักเสลาไปด้วยลายไม้แกะสลักจะถูกผลักออกอย่างแรง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานรูปไข่ ล้อมไปด้วยเรือนผมยาวสีน้ำตาลหยักศก เดินก้าวฉับเข้ามาภายในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ เธอหยุดอยู่ตรงกลางห้องต่อหน้าชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำสนิทซึ่งนั่งอยู่โต๊ะทำงานที่กลางห้อง ดวงตาคู่หวานแต่กลับแฝงไปด้วยความดื้อรั้น มองจ้องอีกฝ่ายที่เพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารในมือแล้วมองเธอกลับด้วยสายตาเรียบนิ่ง “มีอะไร ทำไมไม่เคาะประตูห้องพ่อก่อนถึงค่อยเข้ามา” น้ำเสียงติดเย็นชาเอ่ยถาม “คุณพ่อทำแบบนี้หมายความว่าไงคะ” เสียงหวานกระชากเสียงขุ่นใส่ผู้เป็นพ่ออย่างไม่พอใจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งได้ยินแม่บ้านคุยกันว่า ดร.ทิว พ่อของเธอจะจับเธอหมั้นหมายกับใครบางคน ที่ไม่แม้แต่จะมาบอกเธอก่อนสักนิด และทันทีที่เรื่องนี้รู้ถึงหูหญิงสาว เป็นเหตุให้เธอเดินจ้ำมาถึงที่นี่ “ลูกพูดถึงเรื่องอะไร” “ก็เรื่องที่คุณพ่อจะให้มีอาหมั้นหมายกับลูกชายของเพื่อนพ่ออะไรนั่นไงคะ มีอาไม่ยอมหรอกนะคะ เขาเป็นใครก็ไม่รู้ มีอาไม่มีทางและไม่มีวันแต่งหรือหมั้นกับคนไม่รู้จักเด็ดขาด!” และถึงแม้เธอจะมีท่าทางโกรธเกรี้ยวมากเพียงใด แต่ผู้เป็นพ่อกลับมีท่าทีสงบนิ่งพร้อมรับมือต่อความเอาแต่ใจของลูกสาวอย่างใจเย็น เขาวางเอกสารในมือลง ดวงตาคมกริบจ้องมองไปที่ลูกสาวราวกับจะบอกว่าเขาคือคนที่ถือไพ่เหนือกว่า “เห็นทีครั้งนี้ พ่อจะตามใจลูกไม่ได้ เพราะพ่อได้ตกลงกับเพื่อนเอาไว้แล้ว ลูกไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งหรือปฏิเสธ ดังนั้นหลังเรียนจบลูกจะต้องแต่งงานกับ…” “ไม่ค่ะ!” ไม่รอให้ผู้เป็นพ่อพูดจบ หญิงสาวร่างระหงก็กระแทกเสียงใส่ “ให้ตายลูกก็ไม่แต่ง! ลูกไม่มีวันแต่งงานกับคนที่ลูกไม่รู้จัก!” มีอาสะบัดหน้าก่อนจะหันขวับเดินออกจากห้องในทันที เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นด้วยจังหวะเร็ว ๆ อย่างเอาแต่ใจ ส่งผลให้ผู้เป็นพ่อถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย จากนั้นจึงลุกขึ้นไปที่กระจกบานใหญ่เพื่อเปิดม่านดูลูกสาวเจ้าอารมณ์ที่เดินลิ่วไปยังรถสปอร์ตหรูที่จอดอยู่ด้านหน้าอาคาร เห็นลูกสาวสุดที่รักแผลงฤทธิ์เหวี่ยงใส่บอดี้การ์ดสองคนที่ยืนประจำการอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะขึ้นรถและสตาร์ตออกไป ดร.ทิว เดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมกับกดสมาร์ตโฟนเพื่อโทรออกหาใครบางคนเพื่อให้ ‘เตรียมรับมือ’ … ยี่สิบนาทีต่อมา รถสปอร์ตหรูที่วิ่งด้วยความเร็วสูงก่อนหน้า แต่กลับต้องชะลอความเร็วลงด้วยเพราะการจราจรที่ติดขัด ยิ่งเวลาใกล้จะพลบค่ำหลังเลิกงานแบบนี้ บนท้องถนนมักจะคลาคล่ำเต็มไปด้วยรถราจำนวนมาก บนริมทางฟุตพาทผู้คนเดินขวักไขว่ดูวุ่นวายและสับสน ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกของหญิงสาวในตอนนี้ มีอา เมริดา สุริยเดชากุล นักศึกษาสาวในวัย 21 ปี ทุบกำปั้นเล็กลงกับพวงมาลัยรถอย่างหัวเสีย “บ้าที่สุด จะให้เราแต่งงานหลังเรียนจบเนี่ยนะ” ใช่ มันเร็วเกินไปมากสำหรับเธอ ในเมื่อคำว่า ‘หลังเรียนจบ’ คือหมายถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่เธอจะจบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยคานส์ เธอยังไม่ทันใช้ชีวิตให้คุ้ม ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ แต่กลับต้องไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ที่สำคัญแฟนสักคนเธอก็ยังไม่เคยมี ความรักสักนิดก็ยังไม่รู้จัก อยู่ ๆ พ่อจะมัดมือชกให้หมั้นหมายกับลูกชายของเพื่อนสนิทตัวเองเนี่ยนะ “เหอะ ฝันไปเถอะ คงไม่พ้นแต่งงานเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจสินะ!” เธอบ่นออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ การมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องสนุก เพราะนั่นหมายถึงเธอต้องเอาชีวิตไปอยู่กับคนคนนั้น แถมยังต้องมีองค์ประกอบด้านพื้นฐานนิสัย ความเข้ากันได้ และอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่าง แต่ใด ๆ ตอนนี้เธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่าย หรือต่อให้รู้ ก็ใช่ว่าเธออยากจะสนใจ สำหรับมีอา การแต่งงานมันต้องเกิดจากความรักและความพึงพอใจเท่านั้น “น่าหงุดหงิดชะมัด! “ หญิงสาวพ่นลมหายใจเพื่อระบายอารมณ์อันหนักหน่วง พลางเอนหลังพิงกับเบาะ เพราะต่อให้จะรู้สึกหงุดหงิดหรืออยากขับหนีจากทุกสิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายกลับทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการบอกตัวเองให้อารมณ์เย็นลง ใช่ เธอจะทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อรถสปอร์ตหรูของเธอยังคงติดแหง็กอยู่บนท้องถนน “ชิ” เสียงจิ๊ที่ริมฝีปากสลับกับเสียงถอนหายใจซ้ำ ๆ ทว่ารถตรงหน้าก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน มีอาละสายตาจากรถบนท้องถนน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า และนี่… คงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้าง... ท้องฟ้าสีชมพูอมส้ม ผสานกับดวงอาทิตย์สีแดงส้มที่ใกล้ตกดินที่อยู่ตรงหน้า “สวยอะ” เธอชะโงกหน้าจนหน้าอกติดกับมือที่เกาะพวงมาลัย ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้ม มองดูฝูงนกที่บินผ่านท้องฟ้าเป็นทางยาว “เนี่ย ถ้ามีแฟนแล้วได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ริมทะเลด้วยกันก็ดีสิ” ได้แต่คิด สุดท้ายก็คว่ำปากอย่างเซ็ง ๆ หึ…แฟนไม่ทันมี แต่ดันจะให้มีผัวก่อนซะงั้น! แค่คิดก็สยองจนนึกอยากร้องยี้ แล้วถ้าอีตาคนที่พ่อของเธอให้แต่งงานด้วย แก่งั่ก ไม่ก็อ้วนพุงพลุ้ย หัวหยิก หน้าหม้อ กระดอดำ เธอจะทำยังไงก่อน ในเมื่อไทป์ที่เธอชอบ ต้องหล่อ สูง ขาว ขายาว แขนล่ำ กล้ามแน่น แถมไอนั่นใหญ่ และต้องมีรสนิยมความชอบที่ตรงกัน! หรือ… เธอต้องรีบหาแฟนเป็นตัวเป็นตน ก่อนที่พ่อของเธอจะจับเธอแต่งงาน! EP 2 | Account ปริศนา  ใช่! เธอต้องหาแฟนก่อนแต่งงานให้ได้ คิดแบบนั้นมือเรียวก็ยกขึ้นมาดีดนิ้วเปาะ รีบหยิบสมาร์ตโฟนหรูออกมาเพื่อไล่ดูชื่อไอจีคนคุยที่เข้ามาจีบเธอแต่ละคน “ไม่ผ่าน เทสต์แย่” “หมอนี่ก็ไม่ผ่าน หน้าตาจืด” “อืม หมอนี่หล่ออยู่นะว่าไม่ได้ แต่โคตรหน้าหม้อ” “หรือจะคนนี้ดี แต่ยี้ไม่เอาอะ” รายชื่อคนเข้ามาจีบเธอเป็นสิบ ทว่าแต่ละคนดันไม่ตรงไทป์ที่เธอชอบเลยสักคน มีอาถอนหายใจอีกระลอก ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ตโฟน เงยหน้ามองดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะลาลับขอบฟ้าอยู่ตรงหน้า แต่ทว่ารถของเธอยังจอดนิ่งสนิทเหมือนโดนสตาฟให้อยู่กับที่ “ถ่ายรูปดีกว่า” ใช่! สำหรับเธอในตอนนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการจัดการความรู้สึกตัวเองด้วยการได้ทำสิ่งที่ชอบ คิดแบบนั้น มือเรียวจึงยื่นสมาร์ตโฟนออกมาถ่ายบรรยากาศของท้องฟ้าสีสวย ก่อนจะอัปรูปลงไอจีอย่างเช่นเคย เมื่อรถยังติดอยู่เธอเลยเลือกที่จะไถไอจีเล่นฆ่าเวลาต่อ พลันสายตากลับสะดุดไปที่ภาพจากไอจีของใครคนหนึ่งซึ่งเด้งขึ้นมาในฟีด เขา…ลงรูปถ่ายเป็นรูปท้องฟ้าสีชมพูอมส้มเหมือนกับเธอ “L” เป็นชื่อสั้น ๆ ของเจ้าของแอ็กเคานต์ท้องฟ้านั่น มีอาหันรีหันขวาง พยายามมองหารถคันอื่น ๆ ที่อาจจะอยู่ข้าง ๆ หรืออาจจะจอดอยู่ด้านหลังรถของเธอก็เป็นได้ เพราะถ้าดูจากรูปที่เขาลงในไอจีแทบจะเป็นท้องฟ้าที่ถ่ายจากมุมถนนเดียวกับเธอ เมื่อไม่รู้ที่ไปที่มา มีอาจึงหันกลับเอนหลังพิงกับเบาะก้มมองรูปภาพนั้น ก่อนที่นิ้วเรียวจะเลื่อนดูภาพอื่น ๆ ของแอ็กเคานต์ดังกล่าวอย่างสนใจ เมื่อเห็นว่าไอจีของเขาชอบถ่ายท้องฟ้าเหมือนกับเธอ นิ้วเรียวจึงกด Follow ติดตามแอ็กเคานต์ของคนที่ชื่อ “ L ” คนที่มีความชอบและรสนิยมเดียวกัน ทำความรู้จักก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย เธอคอมเมนต์ใต้ภาพของคนคนนั้นอย่างไม่คิดอะไร ใช่ มันจะมีอะไรได้ล่ะ ในเมื่อเธอไม่ได้รู้จักคนคนนั้นในไอจีแม้แต่นิด ก็แค่คนที่มีความชอบตรงกันก็เท่านั้น และเมื่อเห็นว่าสัญญาณไฟแดงตรงหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว มือเรียวจึงรีบเก็บสมาร์ตโฟนก่อนจะออกรถเคลื่อนไปที่หมาย แต่ไม่วายดวงตาคู่สวยยังเหลือบไปเห็นรถบอดี้การ์ดจากที่บ้านอีกสามคันซึ่งขับตามรถของเธอจากด้านหลัง อารมณ์ขุ่นมัวกลับมาคุกรุ่นในทันที เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนที่ขาเรียวจะเหยียบคันเร่งรถให้เร็วและแรงขึ้น ไม่สนด้วยว่าบอดี้การ์ดที่ขับตามเธอเป็นพรวนจากด้านหลังจะขับตามทันหรือไม่! ทันก็ช่าง ไม่ทันก็ช่าง ใครสน แต่ก็นั่นแหละ ต่อให้มีอาอยากขับหนีให้พ้น ๆ ทว่าพอรถสปอร์ตหรูของเธอเคลื่อนตัวด้วยความเร็วได้อีกไม่เท่าไร พอถัดไปได้อีกไม่กี่แยกไฟแดงสุดท้ายก็มาติดแหง็กเหมือนเดิม “ให้มันได้แบบนี้สิ ไฟแดงที่กรุงเทพฯ มีล้านกว่าที่หรือไงนะ!” เจ้าของเสียงหวานบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียง ติ๊ง! สัญญาณจากแอปพลิเคชันไลน์ในสมาร์ตโฟนดังขึ้น ‘มาหยา’ เพื่อนสาวคนสนิทส่งข้อความให้มาหาพร้อมบอกพิกัดร้านอาหารที่เจ้าหล่อนนั่งดื่มเสร็จสรรพ เข้าทาง…ในเมื่อเธอเองก็อยากหาที่ดื่มอยู่พอดี จวบจนสัญญาณแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียว มือเรียวรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวเพื่อย้ายเลนกะทันหัน ก่อนจะเลี้ยวรถกลับไปอีกทิศทางหนึ่งในทันที … ใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อมาถึงร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งเป็นร้านชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท ขาเรียวสวยจึงเดินฉับเข้ามาภายไปร้านอาหาร ดวงตาคู่หวานรีบกวาดสายตามองหามาหยาเพื่อนสาวคนสนิท ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้มาดื่มมาดริงก์อยู่มุมไหน “ให้ตายเถอะ นัดมาในที่จืดชืดแบบนี้เนี่ยนะ” หญิงสาวคว่ำปากก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่าง เซ็ง ๆ “จะชวนมาดื่มทั้งที เลือกร้านที่มันได้ฟีลสนุกสนานกว่านี้ก็ไม่ได้” เธอบ่นกระปอดกระแปดถึงเพื่อนสาวที่ควรจะเลือกสถานที่เป็นไนต์คลับที่หรูหราและเปิดเพลงเร้าใจมากกว่านี้ แต่เอาเถอะที่ไหนมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็พออะลุ่มอล่วยได้เหมือนกัน ที่สุด ดวงตาคู่หวานก็มองหาจนกระทั่งเจอร่างบางของเพื่อนสาวที่นั่งฟุบดูเมามายอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ สองขาเรียวจึงรีบเดินจ้ำเข้าไปหาในทันที “ว่าไงยัยมาหยา สภาพ! ไหวปะเนี่ย” จากที่ตั้งใจจะเอ่ยปากบ่นเรื่องร้านที่นัดให้มาหา พอเห็นมาหยาที่เมามายหมดสภาพอยู่ตรงหน้า มีอาถึงกับต้องถอนหายใจพลางส่ายหน้าด้วยความเป็นห่วง ก่อนเธอจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ วินาทีนี้เธอคงต้องสวมบทเป็นแพทย์สนามคอยปลอบใจเพื่อนไปก่อน และไม่ลืมที่จะโทรหา ‘โมนา’ เพื่อนสาวคนสนิทอีกคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน “เธอจะมาหายัยมาหยาที่ผับด้วยกันมั้ยโมนา” “ไม่” เสียงเรียบเอ่ยสั้น ๆ สมกับฉายา ‘ยัยแม่มด’ ประจำกลุ่ม ที่หนึ่งเรื่องความเย็นชาและไม่สนใจโลก แต่ก็ฉลาดเป็นกรดกว่าทุกคนในทีม “แล้วยัยมาหยาเป็นอะไร” ถึงปากจะบอกว่าไม่มา แต่ถึงแบบนั้นโมนาก็ยังมีแก่ใจถามไถ่เพื่อนอีกคนด้วยความเป็นห่วง “จะเป็นอะไร ดูจากสภาพ เมาแบบนี้ คงอกหักละมั้ง” “หึ” เสียงโมนาแค่นหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยต่อ “ไหน ส่งสายมาให้ฉันคุยเอง” “เหอะ” คราวนี้เป็นมีอาที่หัวเราะ รู้เลยว่าถ้าเรื่องถึงโมนา ยัยมาหยาคงไม่พ้นต้องโดนเทศนาชุดใหญ่แน่ ก็ในเมื่อกลุ่มพวกเธอทั้งสวยและรวยมาก ใครเขาสนเรื่องผู้ชายกันล่ะ “เค ติวนางหน่อยก็ดี” มีอาไหวไหล่ พลางยื่นสมาร์ตโฟนให้มาหยากับโมนาได้คุยกัน “เซย์ ฮายยย ว่างายยย โมนาาาาจ๋า…” เสียงยานคางของมาหยาเอ่ยทักทาย แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยจบ เสียงแข็งของอีกฝ่ายก็ดังสวนขึ้นมา “ไปตัดใจจากผู้ชายเฮงซวยคนนั้นซะ จำไว้ว่าทั้งโลกไม่ได้มีผู้ชายเพียงคนเดียว คนนี้ไม่ดีเธอก็หาคนใหม่ เธอจะมาจมปลักกับคนเฮงซวยที่ไม่รู้คุณค่าเราทำไม ฟังฉันและมูฟออน!” ว่าจบรวดเดียว พลางตัดสายฉับ ปล่อยให้มาหยากุมขมับแล้วไปตกผลึกความคิดของตัวเองต่อ “แหะ ๆ เป็นชุดเลย” มาหยาแทบสร่างเมา เธอหันไปยิ้มจาง ๆ ให้มีอาที่ไหวไหล่คล้ายกับจะบอกว่าสมน้ำหน้ามากกว่าจะเห็นใจ “สม” “อ้าววว มีอาอ่า ไม่สงสารกันบ้างเหรอ” “สงสารทำไม ทำตัวเอง แต่เอาเถอะ ไหนเล่าสิ เรื่องมันเป็นยังไงมายังไง” เมื่อเหลือมีอารับไม้ต่อจากโมนา เธอจึงหันไปถามต้นสายปลายเหตุ ถึงได้รู้ว่าที่มาหยาเป็นแบบนี้ เพราะอกหักจากการที่แอบชอบบอดี้การ์ดของตัวเอง “ว่าละ ฉันสังหรณ์ใจไว้แล้วไม่มีผิด” ที่ไม่แปลกใจ เพราะบอดี้การ์ดที่ชื่อ ‘อิงกริด’ ของมาหยา พ่อเล่นหล่อวัวตายควายล้มขนาดนั้น “ใช่ ฮึก ฉันรักเค้า” น้ำตามาหยาไหลออกมาอีกระลอก มือเรียวคว้าแก้วไวน์ขึ้นมาหมายจะดื่ม ทว่ามีอากลับรีบรั้งมือเพื่อนสาวให้วางลงก่อนที่นางจะเมามายมากไปกว่านี้ “โอ๊ย แล้วแกจะแคร์อะไร ถ้าตัดใจไม่ได้ก็ตัดตอน” “ยังงายยย” คนเมาเท้าคางมองหน้าเพื่อน “ก็ถ้าชอบก็จัด จะปล่อยให้ตัวเองอึดอัดทำไมก่อน หาโอกาสดี ๆ แล้วรวบหัวรวบหางไปเลย อยากได้ต้องได้” อีกคนแนะนำให้ตัดใจ แต่อีกคนกลับแนะนำให้ตัดตอน มาหยาตาปรือผงกหัวหงึก ๆ “เอาง้านนน…เหรอ” “เออ ถ้าห้ามใจไม่ได้หล่อนก็มัดมือชกไปเลย เอา ๆ ไปเถอะ ปล้ำไปเลยก็ได้” มีอาแนะนำไปส่ง ๆ เธอไม่ถนัดห้าม แต่ถนัดยุส่ง ถ้าเพื่อนอยากทำอะไรก็ทำเลย ในเมื่อห้ามก็เจ็บ ไม่ห้ามก็เจ็บ งั้นก็ขอเยเย่สักที เจ็บแต่จบ จะได้หายค้างคา … ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ระหว่างที่สองสาวยังคงปรับทุกข์กัน อยู่ ๆ อิงกริดบอดี้การ์ดสุดหล่อของมาหยาก็โผล่มาเพื่อพาตัวเพื่อนสาวของเธอกลับไปหน้าตาเฉย ไม่สิ ต้องเรียกว่ามาแบกเพื่อนเธอกลับไปต่างหาก งานนี้มาหยาโวยวายสุดพลัง โดยมีอาเข้าไปห้ามทัพด้วยอีกคนแต่ไม่เป็นผล เพราะอิงกริดตัวโตกว่าสุดท้ายก็พาเพื่อนเธอไปจนได้ ถึงเขาจะดูปากร้ายและเย็นชานิด ๆ แต่อย่างไรก็ต้องยอมรับว่าบอดี้การ์ดของมาหยา ‘งานดีมาก’ หน้าคม หุ่นแมน กล้ามแน่น ถ้ามาหยาอยู่ใกล้คนหล่อขนาดนี้ ไม่หลงรักเลยก็แปลก ของดีขนาดนี้ไม่ได้ชิม เสียดายของ ^ _ ^ ทันทีที่พ้นสายตาที่เพื่อนสาวโดนหนุ่มหล่อล่ำแบกขึ้นบ่าไป มีอาก็หันกลับมานึกถึงหน้าตาบอดี้การ์ดของตัวเองแต่ละคน ดูเถอะ พ่อของเธอเล่นคัดมาแต่ละคน ทรงอย่างกับมาเฟียเก็บเงินกู้ หน้าโหด เหมือนโกรธลูกหนี้มาแต่ชาติไหน คิดแล้วก็… เซ็ง มีอาได้แต่เบะปากออกมาแบบเอือม ๆ

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

30 Days to Freedom: Abandoned Luna is Secret Shadow King

read
309.4K
bc

Too Late for Regret

read
282.5K
bc

Just One Kiss, before divorcing me

read
1.6M
bc

Alpha's Regret: the Luna is Secret Heiress!

read
1.2M
bc

The Warrior's Broken Mate

read
137.2K
bc

The Lost Pack

read
390.5K
bc

Revenge, served in a black dress

read
146.4K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook