บทที่3 หัวใจของพี่ หนูขอจอง

1521 คำ
บรรยากาศฝนพรำเบาๆ ขับกล่อมค่ำคืนให้ชุ่มฉ่ำ ตัดกับเสียงหัวเราะของคนสองคนที่คุยกันอย่างออกรสในร้านอาหารเล็กๆที่อบอุ่น “จริงเหรอ? พี่ไม่เคยรู้เลยนะว่าเธอแอบมองพี่อยู่ตลอด” เหมยพูดยิ้มๆ พลางเท้าคางมองคนตรงหน้า แล้วค่อยๆหั่นอาหารในจานให้พอดีคำอย่างใจเย็น “เค้าชอบมากเลย.. ตอนที่พี่ตั้งใจทำงาน” ไลท์ตอบด้วยแววตาจริงจังแต่แฝงความขี้เล่น “หลังจากนั้นก็รู้ตัวอีกที.. ก็ชอบพี่ไปแล้ว” เธอมองเหมยไม่วางตา เฝ้าดูทุกท่าทางทุกการเคลื่อนไหว โดยไม่แม้แต่จะแตะอาหารในจานของตัวเองเลยสักนิด “เด็กบ้า..” เหมยพูดออกมาอย่างขำๆ “แล้วที่ชวนพี่มากินข้าวนี่ หวังอะไรหรือเปล่า หืม?” เหมยวางช้อนลง ก่อนจะถามอย่างจริงจัง แต่ยังไม่ลบเลือนรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้าสวย “หวังให้พี่มีใจมั้งคะ” คำตอบจากสาวหล่อที่เอ่ยอย่างหน้าตาเฉย พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตามสไตล์ “เฮ้อ.. เอาตรงๆเลยนะ ไลท์” เหมยกอดอกก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างใจเย็น “เธออาจจะแค่อารมณ์ชั่ววูบ.. แค่ช่วงเวลาชั่วคราว อาจจะไม่ได้ชอบพี่จริงๆก็ได้นะ” “ทำไมพี่ถึงคิดแบบนั้น?” ไลท์เลิกคิ้วขึ้น มองอีกฝ่าย ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น แววตาไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยิน “ไม่รู้สิ.. แต่พี่ว่าชีวิตเธอน่าจะเจอคนที่ดีกว่านี้นะ อย่ามาจมปักอยู่กับคนแบบพี่เลย” เหมยพูดจบก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ในขณะที่ไลท์ยังคงมองเธอไม่วางตา ใบหน้าดูซึมลง แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความโกรธปนสับสน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับกลายเป็นความเงียบงันและตึงเครียดอีกครั้ง ไลท์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่มองใบหน้าสวยของอีกฝ่ายที่ตอนนี้หันมองออกไปยังถนนที่แสนวุ่นวายของเมืองกรุง ราวกับตั้งใจหลีกเลี่ยงสายตาเธอ “กลับกันเถอะ.. พี่อยากกลับบ้านแล้ว” เหมยพูดพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ ไม่แม้แต่จะสนใจว่าอาหารในจานยังเหลืออยู่ หยิบกระเป๋าสะพายขึ้นพาดไหล่แล้วเดินนำออกไปอย่างรวดเร็ว “..ค่ะ” ไลท์ตอบเบาๆ ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ก่อนจะหยิบกุญแจรถหรูของตนขึ้นมา แล้วเดินตามออกไปอย่างช่วยไม่ได้ . . บรรยากาศในรถก็เงียบงันไม่แพ้กัน มีเพียงเสียงแอร์และเสียงฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง คลอไปกับเสียงเพลงเบาๆ ที่ไลท์เปิดไว้กลบความอึดอัดในใจ เอี๊ยด! รถหรูคันงามหยุดลงริมทางอันมืดมิด ซึ่งมีรถวิ่งผ่านเพียงน้อยนิด ร่างเล็กที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับยังคงมองออกไปนอกกระจก ไม่แม้แต่จะหันมาสบตาเจ้าของรถเลยสักครั้ง “ไม่ใช่...มันไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ” จู่ๆไลท์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง จนเหมยต้องละสายตาจากท้องถนนมามองเธอ แววตาของไลท์ตอนนี้มั่นคงและแน่วแน่ ใบหน้าของเธออยู่ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบาของกันและกัน “ธ เธอจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อ..!?” “พี่จะบอกว่าเค้าไม่จริงจังเหรอ?” ไลท์เอ่ยเสียงเรียบนิ่ง ดักคออีกฝ่ายก่อนคำพูดจะจบลง เธอค่อยๆ ขยับหน้าเข้าหาเหมยทีละนิด ขณะที่อีกฝ่ายขยับหนีตามสัญชาตญาณ จนหลังชนกับประตูรถโดยไม่รู้ตัว เสียงฝนภายนอกยังคงกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย แต่ก็ยังเบากว่าจังหวะหัวใจที่เต้นรัวในอกของเหมยตอนนี้ “ด..เดี๋ยวสิ ไล..อื้อ!” เสียงของเหมยถูกกลืนหายไปกับจูบร้อนแรงที่ถูกประทับลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ริมฝีปากของไลท์แนบแน่นไม่ยอมผละ มือหนาดึงท้ายทอยอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ขัดขืน จูบแน่นหนาราวกับต้องการสื่อทุกความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในอกมานาน เหมยยังไม่ทันได้ตั้งสติเต็มที่ เสียงทุ้มต่ำของเจ้าเด็กเอาแต่ใจตรงหน้าก็ดังขึ้นชิดริมใบหู “เค้าไม่ได้แค่ชอบพี่.. เค้าอยากได้พี่มาอยู่ข้างๆ อยากดูแลพี่ในทุกๆ วัน” “เค้าไม่ชอบเวลาที่เห็นใครมาจีบพี่.. ไม่ชอบเวลาที่พี่พยายามหนีเค้า..” “และเค้า.. ไม่ชอบที่สุดเลยเวลาที่พี่พูดว่าเค้ายังเด็ก” น้ำเสียงที่เคยหนักแน่นค่อยๆ อ่อนลงในแต่ละประโยค ทว่าในแววตาของไลท์ยังคงเต็มไปด้วยความแน่วแน่และจริงจัง จนเหมยไม่อาจหลบสายตานั้นได้อีกต่อไป “เค้าพยายามพิสูจน์กับพี่มาหลายปีแล้ว…แต่พี่ก็ฮึก..”เสียงสะอื้นเบาๆ หลุดออกมาจากร่างสูงที่ก้มหน้า น้ำเสียงสั่นเครือปนความเจ็บปวด น้ำตาแห่งความเสียใจและผิดหวังค่อยๆ ไหลอาบแก้มอย่างเงียบงัน “พี่เปิดใจให้เด็กคนนี้จีบแล้วนะ.. แล้วทำไมถึงเปิดใจให้เค้าพิสูจน์ไม่ได้ล่ะ..” เสียงอ้อนปนงอแงดังเบาๆ จากริมฝีปากที่แนบอยู่กับซอกคอ มือหนากระชับมือเล็กแน่นราวกับกลัวอีกฝ่ายจะหลุดลอย เหมยมองคนตรงหน้าอย่างลังเล ก่อนจะดันตัวเล็กน้อยเพื่อให้ได้สบตากันตรงๆ“แล้วพี่จะเชื่อใจเธอได้มากแค่ไหนกัน?” น้ำเสียงที่ใช้ถามนั้นอ่อนโยน แต่แฝงความหวาดหวั่น นิ้วเรียวปาดน้ำตาบนแก้มเนียนของไลท์อย่างแผ่วเบา “ฮึก..” ไลท์ไม่ตอบอะไร เพียงเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ก่อนจะก้มลงมาประกบจูบอีกครั้ง จูบครั้งนี้อ่อนโยนและลึกซึ้ง แตกต่างจากความเอาแต่ใจ ในคราวแรกลมหายใจอุ่นรินผ่านแก้ม ลูบไล้ความรู้สึกของทั้งคู่ให้สั่นไหว คราวนี้ เหมยไม่ได้หลบ ไม่ได้ปฏิเสธเธอเพียงหลับตา ปล่อยให้หัวใจพาไปรู้จักความจริงของเจ้าเด็กที่เคยคิดว่าเอาแต่ใจ รอยจูบที่ถูกประทับลงบนริมฝีปากนั้น ไม่ได้เป็นแค่เพียงสัมผัสธรรมดา แต่มันคือรอยสัญญา ที่เงียบงันแต่ชัดเจน ว่าเธอคนนี้..จะอยู่กับเหมย..ไปตลอด . . เช้าวันต่อมา รถสปอร์ตคันหรูของไลท์จอดนิ่งอยู่ในลานจอดรถเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ เธอไม่ได้มาคนเดียว.. หากย้อนกลับไปเมื่อห้านาทีก่อน.. “จอดให้พี่ลงตรงนี้แหละ”เหมยเอ่ยพร้อมสะกิดแขนไลท์เบาๆ สายตาเหลือบมองป้ายสถานีที่ใกล้เข้ามา “ทำไมล่ะ อีกนิดก็ถึงบริษัทแล้วนี่นา”ไลท์ถามขณะเหยียบเบรกชะลอรถ แล้วเปลี่ยนเกียร์เป็นว่าง “พี่ยังไม่อยากให้ใครพูดกันไปใหญ่หรอกนะ ว่า ‘วัวแก่กินหญ้าอ่อน’ น่ะ”น้ำเสียงของเหมยเจือความขัดเขิน ก่อนที่มือเรียวจะเอื้อมไปจับประตู เตรียมเปิดลงจากรถอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าจะมีใครเห็นเข้าว่าเธอนั่งรถมาด้วยกันกับเจ้าเด็กที่เพิ่งจูบเธอไปเมื่อคืน แต่ทันใดนั้น แขนของเธอกลับถูกดึงกลับอย่างอ่อนแรง ไม่แรงพอให้เจ็บ แต่แน่นพอจะทำให้เธอต้องหันกลับมามอง สายตาอ้อนๆของไลท์ตอนนี้เหมือนลูกหมาที่กำลังจะถูกทิ้งไว้กลางทาง “ไม่มีใครว่าอะไรหรอก... ไปกับเค้าไม่ได้เหรอ?” เสียงทุ้มเอาแต่ใจดังขึ้น พร้อมกับมือหนาที่ดึงมือเรียวของเธอไปจูบแผ่วเบา ราวกับอ้อนวอนเงียบๆ เหมยชะงักเล็กน้อย ใจเต้นแรงกับสัมผัสแผ่วเบานั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วยิ้มจางๆ ส่งให้เจ้าเด็กตรงหน้า “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวโดนแซวใหญ่โต..”เธอลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆอย่างเอ็นดู แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนปนดุ “ตอนเย็นพี่จะไปรอที่คาเฟ่ตรงข้ามบริษัทนะ อย่าออกมาช้าล่ะ”ไลท์ยังคงมองตามตาแป๋ว ไม่พูดอะไร นอกจากพยักหน้ารัวๆ ก่อนที่เหมยจะเปิดประตูรถลงอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปอีกทาง โดยที่มือยังจับแก้มตัวเองแน่น เหมือนจะกลบความร้อนที่แผ่ขึ้นมาจนถึงปลายหู . ภายในบริษัท เหมยและไลท์ทำเหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "รุ่นพี่ครับ อันนี้ลายชื่อของบริษัทที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทเรา เขาจะมาร่วมงานด้วยในอาทิตย์หน้าครับ" รุ่นน้องแผนกข้างๆ เดินเอาเอกสารมาให้เหมยดูอย่างใจเย็น "BaB กรุ๊ป.." เสียงเหมยแผ่วเบา ราวกับแค่พึมพำออกมา แววตาสั่นระริกเมื่อนึกถึงหน้าเจ้าของบริษัทสาวรุ่นราวคราวเดียวกันที่เคยมีความสัมพันธ์เกินเพื่อนด้วยกัน.. "เธอคนนั้น มาด้วยหรอ..?" คำถามของเหมยออกมาเงียบๆ แม้จะพยายามแสดงท่าทางปกติ แต่ในใจเธอกลับเต้นแรงราวกับไม่อยากเชื่อว่าคนที่เคยมีส่วนร่วมในชีวิตจะกลับมาปรากฏตัวในที่ทำงานอีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม