EP.6
หลังได้เครื่องดื่มจากบาเทนเดอร์ เพลินไพลินก็กลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมยื่นแก้วเครื่องดื่มนั้นให้กับเสี่ยพรชัย เธอไม่ได้สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่หื่นกามของมันเลย
“ขอบคุณนะจ๊ะหนูเพลิน เดี๋ยวเสี่ยเปย์ทิปให้หนักๆ” คนพุงพลุ้ยไม่พูดเปล่าแต่ยังตบลงเบาๆ บนกระเป๋าที่วางอยู่ข้างลำตัว
กระเป๋าใบใหญ่มาก อย่าบอกนะว่าข้างในมีแต่เงิน…
เพลินไพลินถูกความโลภเข้าครอบงำ หากคืนนี้เธอหาทิปได้อีกห้าหมื่นล่ะก็เท่ากับว่ารายได้ของวันนี้อยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท
และยิ่งถ้าทำได้ทุกวันอีกไม่นานเธอจะต้องหาเงินไปใช้หนี้ให้แม่ได้แน่ๆ
เอาวะ เพื่อเงิน เพื่อเงิน
“มะ…แหม เสี่ยก็ใจดีจังเลยนะคะ เพลินล่ะช้อบชอบ” เพลินไพลินค่อยๆ เอียงศีรษะไปซบลงตรงไหล่ของชายแก่ด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว
สาบานว่าไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย แต่เธอก็ต้องพยายามทำตัวอ้อนเพื่อหลอกเรียกทิปหนักๆ
“หนูเพลินนี่ก็น่ารักขี้อ้อนเหมือนกันนะเนี่ย ทีแรกเสี่ยนึกว่าจะเป็นคนหวงตัวซะอีก” การถูกเธอเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวโดยที่เขายังไม่ทันได้ทำอะไร ก็สร้างความแปลกใจให้ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
“คนเรามันก็ต้องเลือกการแสดงออกนิดนึงจริงไหมล่ะคะเสี่ย เราจะเฟรนลี่กับทุกคนไม่ได้นะคะ”
“ว้าว แบบนี้แปลว่าเสี่ยโชคดีมากเลยน่ะสิ”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะเสี่ยขา…”
“ฮ่าๆ หนูถูกใจเสี่ยที่สุดเลย อะๆ ลุกขึ้นนั่งดีๆ ก่อนเดี๋ยวเสี่ยจะให้รางวัล” เสี่ยพรชัยดันศีรษะของร่างเล็กออกเบาๆ แล้วหันไปหยิบเงินจำนวนหนึ่งในกระเป๋าออกมายื่นให้กับเธอ
เพลินไพลินลุ้นจนหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ อยากรู้ว่ารวยระดับเสี่ยเขาจะให้ทิปเด็กเอ็นกันครั้งละเท่าไร
“นี่จ้ะ สำหรับความน่ารักของหนูเพลิน”
“ฮะ!” หญิงสาวร้องอุทานอย่างลืมตัวเมื่อพบว่าแบงค์ในมือของเสี่ยเป็นสีม่วงไม่ใช่สีเทา “หะ…ห้าร้อย”
“ใช่จ้ะ น้อยไปเหรอ”
“ปะ…เปล่าค่ะ…เสี่ยให้เท่าไหร่เพลินก็ยินดีรับไว้ทั้งนั้น” เธอยิ้มแห้งๆ ก่อนจะรับเงินมาเหน็บไว้ที่หน้าอก ใจลึกๆ อยากจะตะโกนตอบไปว่ามันโคตรน้อยเลยต่างหาก
ถึงกระนั้นก็ไม่อาจไปต่อว่าอะไรแขกได้ เพราะทิปขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ให้ ซึ่งเขาจะให้หรือไม่ให้ก็ย่อมได้
เหตุการณ์นี้ทำให้เพลินไพลินหวนนึกถึงคนที่เพิ่งกลับออกไป อินทราชให้ทิปเธอหนักตลอด คงเพราะเคยชินกับการได้เงินจากเขาเยอะๆ กระมัง
“น่ารักที่สุดเลยหนูเพลินเนี่ย” เสี่ยพรชัยวาดวงแขนขึ้นโอบไหล่ของเธอ แล้วดึงร่างบางให้เข้ามาแนบชิดข้างลำตัว
“ดื่มกับเสี่ยหน่อยนะ” ชายแก่หยิบแก้วเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นมาเชิญชวนเพลินไพลิน เธอจึงถือโอกาสนี้กระถดตัวออกห่างจากอ้อมกอดของเขา แล้วหยิบแก้วเครื่องดื่มที่เขาเพิ่งใส่ยาลงไปขึ้นมาชนก่อนจะยกขึ้นจิบเบาๆ
รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสี่ย ขณะที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นจิบตามเธอบ้าง เพลินไพลินยิ้มแห้งๆ ให้เขา พลางหันมองไปรอบๆ แล้วยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเรื่อยๆ
เธอไม่เคยแตะของมึนเมา แต่สิ่งที่อยู่ในแก้วนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์ปที่น้อยมากจนแทบไม่มีรสขม ออกแนวคล้ายๆ น้ำผลไม้รวม
เวลาผ่านไปประมานสิบนาที สติของเพลินไพลินก็เริ่มลดน้อยลงมากเรื่อยๆ เธอง่วงซึมอย่างหนัก ทว่าก็ไม่ถึงขั้นอยากนอนหลับ อาการของเธอคล้ายกับคนเมาที่มีสติหลงเหลือน้อยกว่าครึ่ง
วินาทีที่เห็นเสี่ยพรชัยหันมากระตุกยิ้มให้อย่างร้ายกาจ เพลินไพลินก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองก้าวพลาดอีกแล้ว
“ช่วยด้วย…” เธอร้องขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา พยายามจะลุกขึ้นเดินเพื่อวิ่งหนี ทว่าร่างกายมันอ่อนแรงไปหมด
“หนูอยากนอนเหรอจ๊ะ เดี๋ยวพาขึ้นไปนะ ฮ่าๆ” เสี่ยพรชัยหัวเราะด้วยความสะใจ ก่อนจะค่อยๆ พยุงร่างของเพลินไพลินขึ้นไปที่ชั้นสี่ของคลับ ซึ่งเป็นชั้นที่มีไว้สำหรับเช่าห้องเพื่อแลกเปลี่ยนบรรยากาศระหว่างลูกค้าและเด็ก
ระหว่างที่เดินเธอพยายามร้องขอให้คนช่วยอีกครั้ง แต่เสียงเพลงในคลับก็ดังกลบจนไม่มีใครได้ยิน แล้วอีกอย่างภาพที่ลูกค้ากำลังหิวเด็กขึ้นลิฟต์ไปนั้นไม่ใช่สิ่งที่แปลกตาอะไร มันก็เป็นเรื่องปกติที่พบเห็นอยู่ทุกวัน
ไม่นานร่างของเธอก็ถูกวางลงบนเตียงนุ่ม เสี่ยพรชัยเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทีละเม็ดแล้วโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เขาค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียงแล้วเริ่มรูดซิบเดรสสั้นที่เธอใส่จากด้านหลัง
เพลินไพลินหวาดกลัวสุดหัวใจ เธอร้องไห้จนใบหน้าแดงก่ำ รู้สึกเจ็บปวดและแน่นอกทุกครั้งเมื่อรู้ว่ากำลังจะเสียบริสุทธิ์ให้เสี่ยแก่ตัณหากลับ
“ยะ…อย่านะ…อย่า…” น้ำเสียงเธอแผ่วเบาลงกว่าเดิมมาก มือเรียวพยายามปัดป่ายมือหนาของเสี่ยออก ทว่าเรี่ยวแรงของเธอในตอนนี้มีน้อยกว่ามดเสียด้วยซ้ำ
ช่วยด้วย…ช่วยเพลินด้วยคุณอิน…
เธอร้องเรียกเขาในใจอย่างลืมตัว ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นอินทราช ทว่าเพียงแค่นึกอยากให้ใครสักคนเข้ามาช่วย ใบหน้าของชายหนุ่มก็ลอยเข้ามาในโสตประสาทอัตโนมัติ
“เป็นของเสี่ยเถอะนะหนู เสี่ยสัญญาว่าจะเลี้ยงดูหนูอย่างดี” กล่าวจบชายแก่คราวพ่อก็โน้มใบหน้าลงมาหมายจะซุกไซ้ซอกคอของเธอ ทว่าเขากลับต้องชะงักอย่างรุนแรงเมื่อถูกกระชากคอเสื้อจากทางด้านด้วยฝีมือของใครบางคน
พึ่บ! ผัวะ!
อินทราชออกแรงกระชากร่างของเสี่ยแก่ตัณหากลับ ก่อนจะซัดกำปั้นหนักๆ เข้าที่ใบหน้าของคนหื่น เสี่ยพรชัยล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
“มึงเป็นใครวะ!”
“กูเป็นใครมึงไม่ต้องรู้ รู้ไว้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของกูและมึงไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเธอ!!” อินทราชตวาดเสียงดังลั่นห้องจนเพลินไพลินที่สติเลือนลางในตอนแรกยังตกใจสะดุ้งจนตัวโหยง
“คุณอิน…” เธอพึมพำเรียกเขาเบาๆ ไม่รู้ว่าฝันไปหรือเปล่าที่พอนึกถึงเขา เขาก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
ดีจังเลย…ดีจริงๆ
“มึงออกไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีก!” เสี่ยพรชัยรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบเสื้อขึ้นมาใหม่ หางตาเหลือบมองเพลินไพลินอย่างเสียดายก่อนจะรีบแจ้นออกจากห้องไปทันที
“คุณอิน…คุณอินจริงๆ ใช่ไหมคะ…”
อินทราชเดินไปล็อกประตูแล้วคลานขึ้นไปหาร่างระหงที่พยายามจะลุกขึ้นนั่ง เขาประคองเธอให้พิงหลังกับหัวเตียง แล้วเกลี่ยเส้นผมที่บดบังใบหน้าหวานไปทัดไว้ที่ใบหู
“เป็นยังไงบ้างเพลิน เธอโอเคไหม…” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงออกถึงความเป็นห่วง หัวใจของเพลินไพลินชื้นขึ้นมาโดยพลัน เธอซาบซึ้งในน้ำใจของเขาจนเก็บกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“เพลิน…ฮึก…เพลิน…”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเพลิน ไม่ต้องกลัวนะ” อินทราชดึงร่างเธอเข้ามากอด ฝ่ามือหนาลูบศีรษะเธอเบาๆ เขาใช้ความอบอุ่นจากอ้อมอก บรรเทาจิตใจที่บอบช้ำของหญิงสาว
เพลินไพลินสะอื้นอย่างหนักจนตัวสั่นราวลูกนกที่เพิ่งขึ้นมาจากน้ำ เธอกอดเอวเขาไว้แน่นคล้ายกับว่าผู้ชายคนนี้คือที่พึ่งเดียวของเธอ
ทั้งคู่นั่งกอดกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งที่เธอเริ่มรู้สึกดีขึ้นจนสามารถหยุดร้องไห้ได้ เพลินไพลินผละกอดออกจากร่างสูงอย่างช้าๆ จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยสายตาประกายความสับสน
“มีอะไรเหรอ”
เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ก่อนจะขยับเอ่ยบางสิ่งที่เพิ่งใช้ความคิดอย่างหนักในการตัดสินใจ
“คือว่าเพลิน…” หญิงสาวหลับตาเพื่อเพิ่มความกล้าให้ตัวเอง แล้วโพล่งความต้องการออกมาอย่างสุดเสียง
“…เพลินตกลงเป็นเด็กของคุณค่ะ!”
“…” สำเร็จ!
*********************************
งื้อน้อง เข้าทางอีพี่มันเลยนะแบบนี้555555
อ่านจบแย้วอย่าลืมคอมเมนต์ให้กันบ้างน้า ชอบมั้ยคะ สนุกมั้ยหรือน่าเบื่อก็บอกได้น้า?