สามปีผ่านไป
องค์กรนกเพลิงลายตะวัน
"ตอนนี้องค์กรของเราขยายไปทั่วภาคเหนือและกำลังขยายขอบเขตเข้าสู่ภาคกลาง ใครขวางให้มาคุยกับฉันก่อนทุกคน"
"ครับนาย"
จักรกฤษณ์ลูกน้องคนสนิทของชนะศึกรับคำเจ้านายของเขาที่นั่งไขว่ห้างสองมือประสานกันไว้ใต้คาง จากนั้นสาวเท้าเดินออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนายไป
"หึ ถึงเวลาแล้วสินะ"
หลายวันผ่านไป
องค์กรพยัคฆ์มังกรดำ
"นี่พวกแกว่าอะไรนะ! องค์กรนกเพลิงลายตะวันกว้านซื้อที่ดินตรงที่พวกเราติดต่อไว้หมดแล้วอย่างนั้นเหรอ มันเป็นใครกันทำไมมีเงินหลายพันล้านมากมายขนาดนี้เพื่อมาซื้อที่ดินหลายร้อยไร่ที่พวกเราต้องการได้"
พนาตวาดใส่ลูกน้องที่ยืนกุมมือก้มหน้าเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา
"ได้ข่าวว่าเป็นนักธุรกิจกิจหนุ่มไฟแรง ชื่อว่าชนะศึก วิรุฬห์ธนศร ครับ"
ชายชุดดำคนหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากที่สืบข้อมูลของอีกฝ่ายมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"มันเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันวะ ทำไมจู่ๆ ถึงได้โผล่มาได้ ฮึ่ย"
พนากำมือทุบโต๊ะเสียงดังปังเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล
"ไม่ต้องสืบหรอกครับ ว่าผมเป็นใคร รู้เพียงอย่างเดียวว่าผมต้องได้ในสิ่งผมอยากจะได้เท่านั้นก็เพียงพอครับคุณพนา คุณบวรยศ หึ"
"นายเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วนายเป็นใคร"
"ก็เป็นคนที่คุณสองคนกำลังพยายามสืบเสาะหาประวัติผมอยู่น่ะสิครับ" ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใส่สูทสีแดงเลือดหมูเดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องคนสนิทเพียงสองคนเอ่ยขึ้นหลังจากได้ยินเสียงโวยวายของอีกฝ่าย
"อย่าบอกนะว่าแกคือไอ้ชนะศึก อะไรนั่นน่ะ" พนาเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าคู่แข่งจะเข้ามาเหยียบจมูกเขาถึงในองค์กร บวรยศเองก็ไม่ต่างกัน ไม่คิดว่าคนที่พนากำลังพูดถึงจะกล้าโผล่เข้ามาในดงพยัคฆ์ของเขาได้
"ใช่ครับ ผมคือชนะศึก วิรุฬห์ธนศร ในฐานะคู่แข่งหรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าศัตรู พวกคุณอาจจะลืมผมไม่ลงเลยก็เป็นได้นะครับ"
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ลื้อกล้าดียังไงถึงมาต่อกรณ์กับอั๊วะ คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ" พนาฉุนจัดตวาดใส่หน้าชนะศึกที่ถือวิสาสะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานของเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ชายหนุ่มทำหน้ายียวนกวนประสาทพร้อมเอ่ยขึ้น จากนั้นลุกจากเก้าอี้ทำงานของพนาสาวเท้ากำลังจะเดินผ่านบวรยศไป คนร่างใหญ่หยุดกึกอยู่ตรงหน้าของเขากระซิบไปข้างหูของบวรยศกระตุกยิ้มเปล่งคำพูดที่ชายใกล้เกษียณคาดไม่ถึงออกมา
"ผมกล้าดี ที่จะมาประกาศศักดา ตั้งตนเป็นศัตรูกับคุณทั้งสองคน ผมมาบอกให้รู้ตัวว่าควรจะระวังผมเอาไว้น่ะครับ หมดธุระแล้วผมขอตัวก่อน สวัสดีครับ... ว่าที่พ่อตา"
"แกพูดอะไรของแก" บวรยศหันขวับเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของลูกสาว
"ผมบอกแล้วไง ว่าถ้าผมอยากได้อะไรผมก็จะต้องเอามาให้ได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะได้มาโดยชอบธรรมหรือไม่ก็ตาม"
"แต่บัววิคตอเรียมีคู่หมั้นแล้ว คือบุตรพนาที่เป็นลูกของพนาและสองคนจะต้องสืบทอดองค์กรพยัคฆ์มังกรดำต่อไป"
"หึ เรื่องนั้นใครจะสน กลับกันเถอะจักรกฤษณ์ ไว้เจอกันใหม่นะครับ ทุกคน" ชนะศึกเอียงคอยิ้มเยาะแล้วเดินออกจากองค์กรพยัคฆ์มังกรดำไปอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไร
ความน่ากลัวของชนะศึกแผ่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่ที่เขาย่างเท้าเข้าไปถึงแม้แต่หัวหน้าองค์กรทั้งสองคนก็ยังรู้สึกหวั่นเกรง
คอนโดแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง
พั่บๆ ๆ
"อึก อา... อ้า พี่บอลเบาๆ สิคะริสาเจ็บค่ะ อื้อ"
"เจ็บกับเสียวอะไรมากกว่ากันคะ ริสา ซี้ด เอามันจริงๆ ริสาของพี่"
"ก็ต้องเสียวสิคะ อา เสียวแบบสุดๆ ไปเลยค่ะ" หญิงสาวร่างบางที่อยู่ภายใต้ร่างใหญ่เปล่งออกมาทั้งที่ตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก
"ก็ปากหวานอย่างนี้ยังไงล่ะพี่ถึงไปไหนไม่รอดสักที"
"ให้มันแน่เถอะค่ะ ริสาเห็นอะไรๆ ก็บัว บัว ริสาคงไม่มีโอกาสได้เป็นตัวจริงของพี่บอลหรอกใช่ไหมคะ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะริสา ริสาเป็นที่หนึ่งในหัวใจของพี่เสมอนะคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้พี่ก็ต้องแกล้งทำดีกับบัววิคตอเรียเอาไว้เพื่อผลประโยชน์น่ะ"
"ริสาไม่เชื่อหรอกนะคะ อีกหน่อยพอพี่ได้คุณบัวเป็นเมียแล้ว พี่ก็เบื่อริสาแล้วไปแต่งงานกับคุณบัว อะ อ้า พี่บอลเบาๆ สิคะริสาเจ็บค่ะ อ้า"
"พี่จะต้องทำยังไงเพื่อจะให้ริสาเชื่อในคำพูดของพี่กัน อา ริสาแม้พี่จะหมั้นกับบัววิคตอเรียแต่พี่ก็รักริสาที่สุดนะคะ พี่รักริสามากกว่าบัวเสียอีก"
"แต่พี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้รักคุณบัว"
เพี้ยะ!
"โอ้ย พี่บอล ตบริสาทำไม"
"พูดมากซะจริง กำลังมีความสุขกันอยู่แท้ๆ มาทำลายบรรยากาศให้เสียจนได้ เลือกเอารริสาเธอจะอยู่ในฐานะเมียเก็บอย่างนี้ หรือจะเลิกกับฉันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย คอนโดนี้ รถสปอร์ตคันหรูที่เธอกำลังขับอยู่ และเงินเดือนที่เธอได้รับครึ่งแสนทุกเดือนฉันจะได้เอาคืนให้หมด จะเอายังไงก็ว่ามา เสียอารมณ์ชิบหาย"
บุตรพนาฟาดฝ่ามือหนาลงไปยังพวงแก้มของรริสาอย่างแรงไปหนึ่งที ก่อนที่จะลุกขึ้นใส่กางเกงด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
"มะ ไม่นะคะพี่บอล ริสาขอโทษค่ะ ริสาขอโทษจริงๆ พี่บอลตบตีริสาเถอะค่ะแต่อย่าไล่ริสาเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างนี้เลย ฮือ ริสาผิดไปแล้ว ริสาขอโทษ พี่บอลอย่าทิ้งริสาเลยนะคะ ริสาผิดไปแล้วจริงๆ" หญิงสาวรีบกุลีกุจอเข้าไปกอดขาชายหนุ่มเอาไว้ร้องไห้ฟูมฟายกลัวว่าอีกฝ่ายจะทิ้งเธอไป
"ฉันเลี้ยงดูอย่างดี แถมให้ไปทำงานเป็นเลขาใกล้ชิดกันขนาดนี้ก็ยังไม่พอใจอีก ได้คืบจะเอาศอก หากยังล้ำเส้นอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
"ค่ะ พี่บอล ริสารู้แล้ว รู้สถานะตัวเองแล้วค่ะ พี่บอลอย่าโกรธริสาเลยนะคะ ฮือๆ"
"ชิ หมดอารมณ์เลยกู"
"พิ พี่บอล แล้วนี่พี่บอลจะไปไหนคะ ไม่อยู่ทานข้าวกับริสาก่อนเหรอ"
"ไม่ล่ะ ฉันจะไปหาบัววิคตอเรีย เธออยากกินก็กินไปคนเดียวเถอะ ทำเสียเรื่องเอง วันนี้ทานข้าวคนเดียวไปเลยก็แล้วกัน"
"พี่บอลอย่าไป อย่าไปนะคะ ริสาขอโทษ ริสาขอโทษจริงๆ ค่ะ ฮือ"
"วันนี้ฉันไม่ยกโทษให้ ลองไปคิดไตร่ตรองให้ดีรริสาว่าสิ่งที่เธอเรียกร้องมันมากไปหรือเปล่า ไว้อาทิตย์หน้าฉันจะมาหา พรุ่งนี้ไปทำงานเหมือนเดิมแต่ฉันจะไม่เข้าออฟฟิศ"
"พี่บอล พี่บอลคะอย่าไป ฮื้อ พี่บอลอย่าทำกับริสาอย่างนี้ ฮือ" หญิงสาวไม่อาจรั้งบุตรพนาเอาไว้ได้ ชายหนุ่มสะบัดแขนที่เธอพยายามเกาะเอาไว้แน่นออกจนเซถลาล้มลงไปกองอยู่กับพื้นร้องไห้ออกมาจนตัวโยน
บ้านของพนา
"กลับบ้านซะดึกดื่นมืดค่ำมัวแต่ไปกกอยู่กับแม่เลขาหน้าห้องคนนั้นอยู่ล่ะสิ
"เปล่านะครับพ่อ ผมไปรับน้องบัวออกไปทานข้าวเย็นด้วยกันมานะครับ"
"จริงเหรอ"
"จริงสิครับคุณพ่อ ผมจะโกหกคุณพ่อไปทำไมกัน"
"งั้นก็ดีเลยแกรีบจัดการขอบัววิคตอเรียแต่งงานซะ ก่อนที่จะมีใครหน้าไหนไม่รู้มาตีท้ายครัวเอาได้"
"ใครกันครับคุณพ่อ"
"มันเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่อยู่ๆ ก็มากว้านซื้อที่ดินที่พวกเรากำลังจะทำการซื้อไปทั้งหมด มันบอกอยากได้บัวไปเป็นเมีย"
"มันกล้าพูดอย่างนั้นเลยเหรอครับคุณพ่อ มันเป็นใครกันถึงกล้าประกาศศักดากับผม กับคุณพ่อแล้วก็อาบวรยศ"
"มันชื่อชนะศึก วิรุฬห์ธนศร วันนี้มันมาที่องค์กรของเราเพื่อประกาศเป็นศัตรู"
"ชนะศึก ชื่อนี้คุ้นๆ เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหน อ้อ ผมจำได้แล้วครับ คนที่มาติดต่อซื้อบ้านเก่าของคุณพ่อที่การค้าเดิมน่ะครับ ตอนนั้นน้องบัวปฏิเสธไม่ยอมขายให้มัน มันคงแค้นมากเพราะสายตาในวันนั้นเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อน้องบัวเสียให้ได้ครับ"
"ยิ่งเป็นแบบนั้นก็ยิ่งต้องแต่งให้เร็วที่สุด หากบัววิคตอเรียอยากได้บ้านหลังนั้นก็ยกให้เธอซะ ระหว่างเสียบ้านหลังนั้นให้บัววิคตอเรียยังไงก็ดีกว่าเสียเธอไปแล้วธุรกิจการค้าทางทะเลต้องพัง แกต้องทำยังไงก็ได้เพื่อให้ได้แต่งงานกับเธอ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี"
"ครับพ่อ"
"ดี พรุ่งนี้เข้าไปคุยกับเธอซะ เราต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด"
"ครับ"
สองพ่อลูกคุยกันเสร็จต่างก็พากันแยกย้าย
..........
สงสารน้องบัวนะคะ มีประโยชน์เขาเลยเห็นค่า ถ้าไร้ประโยชน์นี่จะทำยังไงคะเนี่ย ตอนหน้ามาลุ้นกันนะคะว่าชนะศึกจะทำอะไร มันจะปิตาหน่อยนะคะ อย่าว่าไรท์แรงน๊าาาา ไรท์อ่อนไหวง่ายค่ะ ?