ตอนที่ 4 : ถึงเวลา

1712 คำ
สามปีผ่านไป องค์กรนกเพลิงลายตะวัน "ตอนนี้องค์กรของเราขยายไปทั่วภาคเหนือและกำลังขยายขอบเขตเข้าสู่ภาคกลาง ใครขวางให้มาคุยกับฉันก่อนทุกคน" "ครับนาย" จักรกฤษณ์ลูกน้องคนสนิทของชนะศึกรับคำเจ้านายของเขาที่นั่งไขว่ห้างสองมือประสานกันไว้ใต้คาง จากนั้นสาวเท้าเดินออกจากห้องทำงานของผู้เป็นนายไป "หึ ถึงเวลาแล้วสินะ" หลายวันผ่านไป องค์กรพยัคฆ์มังกรดำ "นี่พวกแกว่าอะไรนะ! องค์กรนกเพลิงลายตะวันกว้านซื้อที่ดินตรงที่พวกเราติดต่อไว้หมดแล้วอย่างนั้นเหรอ มันเป็นใครกันทำไมมีเงินหลายพันล้านมากมายขนาดนี้เพื่อมาซื้อที่ดินหลายร้อยไร่ที่พวกเราต้องการได้" พนาตวาดใส่ลูกน้องที่ยืนกุมมือก้มหน้าเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา "ได้ข่าวว่าเป็นนักธุรกิจกิจหนุ่มไฟแรง ชื่อว่าชนะศึก วิรุฬห์ธนศร ครับ" ชายชุดดำคนหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากที่สืบข้อมูลของอีกฝ่ายมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "มันเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันวะ ทำไมจู่ๆ ถึงได้โผล่มาได้ ฮึ่ย" พนากำมือทุบโต๊ะเสียงดังปังเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล "ไม่ต้องสืบหรอกครับ ว่าผมเป็นใคร รู้เพียงอย่างเดียวว่าผมต้องได้ในสิ่งผมอยากจะได้เท่านั้นก็เพียงพอครับคุณพนา คุณบวรยศ หึ" "นายเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วนายเป็นใคร" "ก็เป็นคนที่คุณสองคนกำลังพยายามสืบเสาะหาประวัติผมอยู่น่ะสิครับ" ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใส่สูทสีแดงเลือดหมูเดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องคนสนิทเพียงสองคนเอ่ยขึ้นหลังจากได้ยินเสียงโวยวายของอีกฝ่าย "อย่าบอกนะว่าแกคือไอ้ชนะศึก อะไรนั่นน่ะ" พนาเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าคู่แข่งจะเข้ามาเหยียบจมูกเขาถึงในองค์กร บวรยศเองก็ไม่ต่างกัน ไม่คิดว่าคนที่พนากำลังพูดถึงจะกล้าโผล่เข้ามาในดงพยัคฆ์ของเขาได้ "ใช่ครับ ผมคือชนะศึก วิรุฬห์ธนศร ในฐานะคู่แข่งหรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าศัตรู พวกคุณอาจจะลืมผมไม่ลงเลยก็เป็นได้นะครับ" "ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ลื้อกล้าดียังไงถึงมาต่อกรณ์กับอั๊วะ คิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ" พนาฉุนจัดตวาดใส่หน้าชนะศึกที่ถือวิสาสะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานของเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ชายหนุ่มทำหน้ายียวนกวนประสาทพร้อมเอ่ยขึ้น จากนั้นลุกจากเก้าอี้ทำงานของพนาสาวเท้ากำลังจะเดินผ่านบวรยศไป คนร่างใหญ่หยุดกึกอยู่ตรงหน้าของเขากระซิบไปข้างหูของบวรยศกระตุกยิ้มเปล่งคำพูดที่ชายใกล้เกษียณคาดไม่ถึงออกมา "ผมกล้าดี ที่จะมาประกาศศักดา ตั้งตนเป็นศัตรูกับคุณทั้งสองคน ผมมาบอกให้รู้ตัวว่าควรจะระวังผมเอาไว้น่ะครับ หมดธุระแล้วผมขอตัวก่อน สวัสดีครับ... ว่าที่พ่อตา" "แกพูดอะไรของแก" บวรยศหันขวับเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของลูกสาว "ผมบอกแล้วไง ว่าถ้าผมอยากได้อะไรผมก็จะต้องเอามาให้ได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะได้มาโดยชอบธรรมหรือไม่ก็ตาม" "แต่บัววิคตอเรียมีคู่หมั้นแล้ว คือบุตรพนาที่เป็นลูกของพนาและสองคนจะต้องสืบทอดองค์กรพยัคฆ์มังกรดำต่อไป" "หึ เรื่องนั้นใครจะสน กลับกันเถอะจักรกฤษณ์ ไว้เจอกันใหม่นะครับ ทุกคน" ชนะศึกเอียงคอยิ้มเยาะแล้วเดินออกจากองค์กรพยัคฆ์มังกรดำไปอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไร ความน่ากลัวของชนะศึกแผ่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่ที่เขาย่างเท้าเข้าไปถึงแม้แต่หัวหน้าองค์กรทั้งสองคนก็ยังรู้สึกหวั่นเกรง คอนโดแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง พั่บๆ ๆ "อึก อา... อ้า พี่บอลเบาๆ สิคะริสาเจ็บค่ะ อื้อ" "เจ็บกับเสียวอะไรมากกว่ากันคะ ริสา ซี้ด เอามันจริงๆ ริสาของพี่" "ก็ต้องเสียวสิคะ อา เสียวแบบสุดๆ ไปเลยค่ะ" หญิงสาวร่างบางที่อยู่ภายใต้ร่างใหญ่เปล่งออกมาทั้งที่ตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก "ก็ปากหวานอย่างนี้ยังไงล่ะพี่ถึงไปไหนไม่รอดสักที" "ให้มันแน่เถอะค่ะ ริสาเห็นอะไรๆ ก็บัว บัว ริสาคงไม่มีโอกาสได้เป็นตัวจริงของพี่บอลหรอกใช่ไหมคะ" "ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะริสา ริสาเป็นที่หนึ่งในหัวใจของพี่เสมอนะคะ เพียงแต่ว่าตอนนี้พี่ก็ต้องแกล้งทำดีกับบัววิคตอเรียเอาไว้เพื่อผลประโยชน์น่ะ" "ริสาไม่เชื่อหรอกนะคะ อีกหน่อยพอพี่ได้คุณบัวเป็นเมียแล้ว พี่ก็เบื่อริสาแล้วไปแต่งงานกับคุณบัว อะ อ้า พี่บอลเบาๆ สิคะริสาเจ็บค่ะ อ้า" "พี่จะต้องทำยังไงเพื่อจะให้ริสาเชื่อในคำพูดของพี่กัน อา ริสาแม้พี่จะหมั้นกับบัววิคตอเรียแต่พี่ก็รักริสาที่สุดนะคะ พี่รักริสามากกว่าบัวเสียอีก" "แต่พี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้รักคุณบัว" เพี้ยะ! "โอ้ย พี่บอล ตบริสาทำไม" "พูดมากซะจริง กำลังมีความสุขกันอยู่แท้ๆ มาทำลายบรรยากาศให้เสียจนได้ เลือกเอารริสาเธอจะอยู่ในฐานะเมียเก็บอย่างนี้ หรือจะเลิกกับฉันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย คอนโดนี้ รถสปอร์ตคันหรูที่เธอกำลังขับอยู่ และเงินเดือนที่เธอได้รับครึ่งแสนทุกเดือนฉันจะได้เอาคืนให้หมด จะเอายังไงก็ว่ามา เสียอารมณ์ชิบหาย" บุตรพนาฟาดฝ่ามือหนาลงไปยังพวงแก้มของรริสาอย่างแรงไปหนึ่งที ก่อนที่จะลุกขึ้นใส่กางเกงด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว "มะ ไม่นะคะพี่บอล ริสาขอโทษค่ะ ริสาขอโทษจริงๆ พี่บอลตบตีริสาเถอะค่ะแต่อย่าไล่ริสาเหมือนหมูเหมือนหมาอย่างนี้เลย ฮือ ริสาผิดไปแล้ว ริสาขอโทษ พี่บอลอย่าทิ้งริสาเลยนะคะ ริสาผิดไปแล้วจริงๆ" หญิงสาวรีบกุลีกุจอเข้าไปกอดขาชายหนุ่มเอาไว้ร้องไห้ฟูมฟายกลัวว่าอีกฝ่ายจะทิ้งเธอไป "ฉันเลี้ยงดูอย่างดี แถมให้ไปทำงานเป็นเลขาใกล้ชิดกันขนาดนี้ก็ยังไม่พอใจอีก ได้คืบจะเอาศอก หากยังล้ำเส้นอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน" "ค่ะ พี่บอล ริสารู้แล้ว รู้สถานะตัวเองแล้วค่ะ พี่บอลอย่าโกรธริสาเลยนะคะ ฮือๆ" "ชิ หมดอารมณ์เลยกู" "พิ พี่บอล แล้วนี่พี่บอลจะไปไหนคะ ไม่อยู่ทานข้าวกับริสาก่อนเหรอ" "ไม่ล่ะ ฉันจะไปหาบัววิคตอเรีย เธออยากกินก็กินไปคนเดียวเถอะ ทำเสียเรื่องเอง วันนี้ทานข้าวคนเดียวไปเลยก็แล้วกัน" "พี่บอลอย่าไป อย่าไปนะคะ ริสาขอโทษ ริสาขอโทษจริงๆ ค่ะ ฮือ" "วันนี้ฉันไม่ยกโทษให้ ลองไปคิดไตร่ตรองให้ดีรริสาว่าสิ่งที่เธอเรียกร้องมันมากไปหรือเปล่า ไว้อาทิตย์หน้าฉันจะมาหา พรุ่งนี้ไปทำงานเหมือนเดิมแต่ฉันจะไม่เข้าออฟฟิศ" "พี่บอล พี่บอลคะอย่าไป ฮื้อ พี่บอลอย่าทำกับริสาอย่างนี้ ฮือ" หญิงสาวไม่อาจรั้งบุตรพนาเอาไว้ได้ ชายหนุ่มสะบัดแขนที่เธอพยายามเกาะเอาไว้แน่นออกจนเซถลาล้มลงไปกองอยู่กับพื้นร้องไห้ออกมาจนตัวโยน บ้านของพนา "กลับบ้านซะดึกดื่นมืดค่ำมัวแต่ไปกกอยู่กับแม่เลขาหน้าห้องคนนั้นอยู่ล่ะสิ "เปล่านะครับพ่อ ผมไปรับน้องบัวออกไปทานข้าวเย็นด้วยกันมานะครับ" "จริงเหรอ" "จริงสิครับคุณพ่อ ผมจะโกหกคุณพ่อไปทำไมกัน" "งั้นก็ดีเลยแกรีบจัดการขอบัววิคตอเรียแต่งงานซะ ก่อนที่จะมีใครหน้าไหนไม่รู้มาตีท้ายครัวเอาได้" "ใครกันครับคุณพ่อ" "มันเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่อยู่ๆ ก็มากว้านซื้อที่ดินที่พวกเรากำลังจะทำการซื้อไปทั้งหมด มันบอกอยากได้บัวไปเป็นเมีย" "มันกล้าพูดอย่างนั้นเลยเหรอครับคุณพ่อ มันเป็นใครกันถึงกล้าประกาศศักดากับผม กับคุณพ่อแล้วก็อาบวรยศ" "มันชื่อชนะศึก วิรุฬห์ธนศร วันนี้มันมาที่องค์กรของเราเพื่อประกาศเป็นศัตรู" "ชนะศึก ชื่อนี้คุ้นๆ เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหน อ้อ ผมจำได้แล้วครับ คนที่มาติดต่อซื้อบ้านเก่าของคุณพ่อที่การค้าเดิมน่ะครับ ตอนนั้นน้องบัวปฏิเสธไม่ยอมขายให้มัน มันคงแค้นมากเพราะสายตาในวันนั้นเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อน้องบัวเสียให้ได้ครับ" "ยิ่งเป็นแบบนั้นก็ยิ่งต้องแต่งให้เร็วที่สุด หากบัววิคตอเรียอยากได้บ้านหลังนั้นก็ยกให้เธอซะ ระหว่างเสียบ้านหลังนั้นให้บัววิคตอเรียยังไงก็ดีกว่าเสียเธอไปแล้วธุรกิจการค้าทางทะเลต้องพัง แกต้องทำยังไงก็ได้เพื่อให้ได้แต่งงานกับเธอ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี" "ครับพ่อ" "ดี พรุ่งนี้เข้าไปคุยกับเธอซะ เราต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด" "ครับ" สองพ่อลูกคุยกันเสร็จต่างก็พากันแยกย้าย .......... สงสารน้องบัวนะคะ มีประโยชน์เขาเลยเห็นค่า ถ้าไร้ประโยชน์นี่จะทำยังไงคะเนี่ย ตอนหน้ามาลุ้นกันนะคะว่าชนะศึกจะทำอะไร มันจะปิตาหน่อยนะคะ อย่าว่าไรท์แรงน๊าาาา ไรท์อ่อนไหวง่ายค่ะ ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม