บทที่8 แผนแตก

2171 คำ
ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ ด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมหัวใจเมื่อหลิวซุ่ยอนุญาตอยู่ที่นี่ได้จนกว่าคนของเขาจะจัดการพวกมันได้ ซึ่งเขายกอีกห้องที่อยู่ถัดไปให้ฉันอาศัย อยากจะรู้แล้วสิว่าเขาจะทำยังไงต่อไปเมื่อคนที่พวกเขาต้องการฆ่ามันคือคนทิพย์อะนะ ตามหายังไงก็ไม่เจอหรอก ระดับฝีมือการแสดงของฉันนี่มันถึงขั้นยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมล่ะ "มีความสุขที่สุดเลย" กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งดีใจและภูมิใจในผลงานของตน ฉลาดและไหวพริบดีเหมือนม๊าไม่มีผิด! อยากได้อะไรก็ต้องได้! ฉันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดสั่งอาหารสุดหรูเพื่อเลี้ยงว่าที่สามีให้อิ่มแทนการขอบคุณ ผ่านไปสักพักเสียงกริ่งดังขึ้นสามครั้งฉันรีบวิ่งออกจากห้องเพื่อจ่ายเงินค่าอาหาร แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อหลิวซุ่ยกำลังจ่ายเงิน งุ้ยยย ทำไมน่ารักจัง ฉันยืนบิดเหมือนถูกไส้เดือนไชก้นพร้อมกับจับประตูห้องนอน จนกระทั่งอาหารที่ฉันสั่งไว้เมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนถูกส่งมาให้ตรงหน้า "เท่าไหร่คะ? " ฉันถามพร้อมกับรับถุงอาหารจำนวนหนึ่ง เขาไม่ตอบกลับมาเพียงแต่เดินหันหลังกลับไปนั่งโซฟาตามเดิม ชิชะ! อุตส่าห์จะเนียนว่ามีตังเปย์ผู้ชายซะหน่อย ฉันเดินไปนั่งข้างๆ เขาพร้อมกับแกะอาหารวางบนโต๊ะ ก่อนจะแอบมองใบหน้าคมคายด้วยหัวใจเต้นระริก พอมองใกล้ๆ หล่อมาก! "ทานด้วยกันนะ.." "ฉันไม่หิว" หักน้ำใจได้ใจร้ายมากแต่รักนาราชอบจัง กร้าวใจและดุดันแบบนี้รักตายเลย "รักสั่งมาเลี้ยงคุณ…" ฉันเว้นระยะเพื่อต้องการให้เขาบอกชื่อตัวเอง "หลิวซุ่ย" กรี๊ดดดดด! แด้ดิ้นในใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงนุ่มลึกน่าฟังหลุดจากปากของเขาโดยตรง ซึ่งตามความจริงฉันรู้ชื่อของเขาโดยคนทั่วไป แต่ครั้งนี้กลับได้ยินเขาเอ่ยชื่อด้วยตัวเอง อยากได้อีกแล้ว งื้อ! "หลิวซุ้ย.." แกล้งพูดเสียงผิด "หลิวซุ่ย" "หลิวชุ่ย" "ซุ่ย...ซุ่ยที่แปลว่าน้ำ" "อ๋อ! หลิวซุ่ย" ฉันหัวเราะเบาๆ แล้วตีหน้าเขินอาย "รักนาราค่ะ เรียกสั้นๆ ว่ารัก" "อืม คนไทยเหรอ? " หลิวซุ่ยขมวดคิ้วถาม โอ๊ย! ฉันต้องการให้เขาชื่อฉันตอนนี้ เรียกรักสิ! รักอะ! ร๊ากกก! "ค่ะ" แสร้งยิ้มหวานฉ่ำ ขัดใจจัง ทำไมไม่เรียกชื่อ! "ฉันก็คนไทย..." "...! " ฉันอ้าปากค้างแทบจะทันที สเปกที่เคยคิดว่าจะไม่เอาผู้ชายไทยทำผัวคงต้องตัดทิ้งไปแล้วล่ะ ครั้งแรกที่เจอเขาฉันไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนไทย เลยตั้งใจจะจีบเต็มกำลังและจะอ่อยสุดแรง พอมารู้ว่าหลิวซุ่ยคือคนไทยฉันก็จะเอาอยู่ดีนั่นแหละ ขว้างสเปกไปไกลๆ "งั้นขอเรียกชื่อไทยได้เปล่า" ฉันเสียงออดอ้อนดังขึ้นจากปากของฉันจนหลิวซุ่ยชำเลืองมอง เจอเสียงของฉันไปบอกเอาไว้เลยว่าผู้ชายทุกคนตกหลุมรักทันที "เสียงเป็นอะไร...มะเร็งกล่องเสียงกำเริบเหรอ" เย็นชาจัด "..." ฉันอยากจะร้องไห้ตรงนี้จริงๆ ได้แต่นั่งหน้างอน่าเศร้าเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าหักหน้าได้เพียงนี้ เสียงออดอ้อนเหมือนดังสาวจีนหลายๆ คนเคยพูดอ่อยกลายเป็นว่าโรคมะเร็งกล่องเสียงไปซะแล้ว รักนารารับไม่ได้! ฉันถึงกับนวดขมับเพื่อผ่อนความเครียดออกไป เพิ่งจะเจอผู้ชายแบบนี้ครั้งแรก ปกติแค่ชายตามองทุกคนเดินเรียงกันเป็นแถวๆ แต่มันใช้กับหลิวซุ่ยไม่ได้ ทำไมได้ยากจังวะ! ยัดเยียดดีคืนนี้เลยได้ไหม "ชลธี…" "...!! " ดีดดิ้นอยู่ในใจเมื่ออีกฝ่ายที่เงียบอยู่นานตอบกลับมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แบบนี้เขาเรียกว่ามีใจหรือเปล่านะ คืนนี้เอาจริง! "เรียกเฮียชลได้เปล่า" ฉันถามกลับไปแบบปกติ เพราะไม่อยากหน้าหักหน้าแตกต่อหน้าผู้ชายที่จะเอาทำสามีแล้วจริงๆ คะแนนว่าที่ภรรยาคงติดลบน่าดู "ได้.." หลิวซุ่ยตอบกลับมาพร้อมกับยิ้มมุมปาก "เสียงปกติแล้วนี่" เขากำลังล้อเลียนฉันอยู่ใช่ไหม… "กินข้าวด้วยกันนะ" "ไม่หิว" เย็นชา "เท่าไหร่" "เลี้ยง" นิ่งเฉย "หมายถึงตัวคุณน่ะเท่าไหร่" อุ๊บ! หลุดปาก แก้สถานการณ์ต่อไปนี้อย่างไรดี อุตส่าห์แกล้งเป็นคนดีตั้งนาน ไม่อยากพังตอนนี้เว้ย รู้ตัวแหละว่าอยากได้เขาจนตัวสั่นแต่การหลุดปากออกไปเมื่อสักครู่ไม่ถูกโยนออกจากห้องก็ดีเท่าไหร่แล้ว "อืมๆ กินก็กิน" หลิวซุ่ย เอ๊ะ! ไม่สิ เรียกว่าเฮียชลดีกว่า เฮียชลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะดึงอาหารมาวางตรงหน้า "เย้! " ฉันยิ้มแก้มแทบปริเมื่อริมฝีปากหนากำลังตักข้าวเข้าปากก่อนจะเคี้ยวๆ และกลืนลงทันที อ่าา ลูกกระเดือกมันช่างกร้าวใจที่สุดเลย อยากกัดคอเขาจัง เราสองคนใช้เวลาเพียงไม่นานก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ฉันอมยิ้มอย่างพอใจเมื่ออาหารที่สั่งถูกปากเขาอย่างจัง กะเอาไว้แล้วเชียวว่าเขาอย่างเขาต้องกินเผ็ด...แต่ฉันเผ็ดกว่า ฉันรวบรวมของทุกอย่างไปทิ้งหน้าประตูห้องก่อนจะสูดลมเข้าปากยกใหญ่พร้อมกับน้ำตาเม็ดเล็กๆ รื้อขึ้นรอบดวงตากลมโต "ซี๊ดดดด...เผ็ดๆๆ อ่าาา" รักนารากินเผ็ดไม่ได้แต่จะมาตกม้าตายต่อหน้าผู้ชายไม่ได้ รักนาราไม่ยอม น้ำมูกน้ำตามาพร้อมเลยจ้า ถาโถมกันเข้ามาแทบสมองระเบิด ทนไม่ไหวแล้ว! ฉันรีบใส่รหัสห้องตัวเองทันทีก่อนจะพุ่งไปหยิบนมสดรสจืดขึ้นมากระดกรวดเดียวหมดขวด ความเผ็ดที่ทำเอาลิ้นชากลับทุเลาลงจนแทบจะกลับมาปกติ "เกือบตาย.." โล่งอก ความเผ็ดสามารถฆ่าคนได้จริงๆ ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องของเฮียชลอีกครั้งด้วยสีหน้าปกติที่สุด สายตาก็ยังเห็นว่าเขากำลังนั่งทำงานที่เดิมไม่ยอมลุกจากโซฟา "ออกไป! " น้ำเสียงดุดันกล่าวขึ้นจนฉันถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนจะมองซ้ายขวาอย่างไม่เข้าใจ ก็ไม่มีใครอยู่สักคนมีเพียงฉันและเขาเท่านั้นที่อยู่ในห้องนี้ อย่าบอกว่าไล่ฉัน? แล้วใครกันล่ะที่อนุญาตให้ฉันอยู่ที่นี่ได้ แล้วกลับมาไล่เสียเอง บอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่าไม่ไปเว้ย! จะหน้าด้านจนถึงที่สุดจนกว่าจะจับเขาได้ "กูบอกให้ออกไป! " "กะ..เกิดอะไรขึ้น" "กูบอกให้มึงออกไป! " ฉันถอยหลังหนีด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ เขาก็พุ่งมาบีบต้นแขนอย่างแรง ก่อนจะดึงจนร่างเล็กๆ ลอยตามเขาไป ฉันได้แต่เบ้หน้าด้วยความเจ็บก่อนจะล้มลงพื้นด้วยน้ำมือของเขา เมื่อสักครู่ยังดีๆ อยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลับโกรธและโมโหเป็นฟืนเป็นไฟด้วย ฉันไม่เข้าใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย! สายตาคมกริบจ้องมองแทบอยากจะฉีกร่างฉันเป็นชิ้นๆ ริมฝีปากหนาเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ปัง! บานประตูปิดลงเสียงดังพร้อมกับเขาหายเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ฉันนั่งงงๆ กับพื้น ตึงๆๆ ฉันลุกจากพื้นอย่างหัวเสียก่อนจะทุบประตูเพื่อต้องการให้เขามาเปิด เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง อนุญาตให้อาศัยอยู่ที่นี่ได้แล้วมาทิ้งกลางทางเนี่ยนะ กล้าให้ความหวังกับรักนาราแล้วโยนทิ้งลงถังขยะเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้ว! "อะไรอีก! " เฮียชลกระชากประตูออกมาพร้อมกับสวนกลับด้วยภาษาไทย "ก็เฮียให้รักอยู่ที่นี่ไง ทำไมถึงโยนรักออกมาล่ะ รักจะไปอยู่ที่ไหน" "เรื่องของเธอสิ! " ตอกกลับเสียงแข็ง "แล้วถ้าพวกมันกลับมาเล่นงานรักอีกล่ะ รักไม่ตายเหรอ! " "ตายไปได้ก็ดี! " ปัง! ประตูปิดอีกครั้งและเขาก็ไม่เปิดออกมาอีกเลย ไม่ว่าฉันจะทุบจะเคาะยังไงก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะเปิดออกมาต้อนรับสักนิด ปล่อยให้ฉันยืนเหวอกลางอากาศ อ้าว! กลับคำทำไม! "ถ้าเฮียชลไม่เปิดรักจะอยู่ตรงนี้แหละ! " ฉันกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ เมื่อเขาไม่มีท่าทางจะเปิดประตูออกมาง่ายๆ นี่มันก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ปล่อยให้ฉันยืนจนน่องปูดน่องแข็งหมดแล้ว คนอย่างรักนาราอยากได้อะไรก็ต้องได้ และไม่มีวันยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรอกนะ "คนไทยต้องไม่ทิ้งกันสิ! " ได้แต่ตะโกนออกไปเหมือนคนบ้า ทั้งๆ ที่รู้อยู่ในใจว่าคนที่อยู่ด้านในจะไม่ได้ยินเสียงคนข้างนอกเลยสักนิด และคนข้างนอกก็ไม่สามารถได้ยินเสียงคนข้างในได้เช่นกัน โอ๊ยยยย!! ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง! จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม...ได้! เราได้เห็นดีกันแน่ ฉันเดินเข้าห้องตัวเองด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเปิดประตูระเบียงออกไป ก่อนหน้านี้ฉันแอบปลดล็อกประตูระเบียงเขาเช่นกัน เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเมื่อสักครู่ฉันจะสามารถเข้าห้องเขาได้เหมือนเดิม และตอนนี้ฉันก็กำลังจะปีนไปยังห้องเขาโดยตรงแต่ใจมันไม่กล้า พอมองลงไปด้านล่างก็พบว่ามันสูงเกินไป ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาตับแตก กะโหลกแบะแน่ ศพไม่สวย! ฉันกัดปากล่างนึกคิดแผนการต่างๆ ในหัวว่าจะทำยังไงที่จะหอบร่างอันแสนบอบบางเข้าห้องเขาได้อีกครั้ง แต่คิดแล้วคิดอีกก็ไม่เข้าท่า สงสัยคงต้องนอนพักแล้วล่ะเผื่อจะมีอะไรดีๆ มาบ้าง 21.45 นาที ฉันสะดุ้งตื่นด้วยความลนลานก่อนจะทึ้งหัวตัวเองไปมาอย่างขัดใจเมื่อเผลอหลับไปหลายชั่วโมง ก่อนจะเดินไปที่ระเบียงและชะโงกมองเข้าไปก็พบว่าเฮียชลกำลังจะออกไปด้านนอก ฉันรีบหยิบเจลร้อนที่มีติดห้องไว้อย่างรวดเร็วก่อนจะประคบประหงมมันทั่วทั้งตัวและเดินไปนั่งหน้าประตูห้องเขาดั่งจัดวาง "เฮ้อ" ถอนหายใจหนักๆ จากปากเฮียชล เสียงเปิดประตูดังขึ้นฉันรีบโยนเจลร้อนให้พ้นทางแล้วแกล้งหน้าซึมเหมือนคนใกล้ตาย เฮียชลก้มมองฉันด้วยหางตาก่อนจะดึงขึ้นจากพื้นและลากเข้าห้องไป ฉันหัวเราะคิกคักด้านหลังเขาอย่างชอบใจ แผนร้ายมักใช้ได้ผลเสมอ ชลธีเหวี่ยงร่างเล็กๆ ลงบนโซฟานุ่มๆ ด้วยความหยาบคายก่อนจะดันโน้ตบุ๊กให้ฉันดูตรงหน้า ฉันยิ้มแห้งๆ กลับไปแก้เขินก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาและพุ่งไปยังห้องนอนที่เฮียชลเคยให้ฉันอาศัยพร้อมกับปิดประตูจนเจ้าของห้องไม่สามารถทำอะไรได้ กรี๊ดดดดด!! ร่างเล็กๆ กระโดดขึ้นเตียงก่อนจะกรีดร้องลงบนหมอนเพื่อกลบเสียงกรี๊ดตัวเองด้วยความอาย โน้ตบุ๊กที่เฮียชลให้ดูมันคือสถานะของกล้องวงจรปิดปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นจุดหน้าประตูห้องพอดี แบบนี้เขาก็เห็นทุกอย่างนะสิ แผนน่าอายนั่น...! ปัง! ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงเดินเข้ามาด้วยท่าทีขึงขัง แววตาของเขากำลังเขมือบร่างทั้งตัวของฉันให้หายไปจากห้องนี้แทบจะทันที "มึงต้องการอะไร! " เฮียชลกดเสียงต่ำคล้ายเสียงคำรามของสัตว์ป่าที่เป็นจ่าฝูง "อยากได้" ฉันตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "อยากได้อะไรจากกู! เงินเหรอ! " ชลธีล้วงธนบัตรหลากสีจากกระเป๋าก่อนจะโยนใส่ร่างฉัน "รักไม่ต้องการเงิน" ฉันตะโกนกลับเสียงแหลมปี๊ด ก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินตัวเองขึ้นมาและโยนธนบัตรหลากสีลงพื้นเช่นกัน "รักมีเหมือนกัน! " "แล้วมึงต้องการอะไร! " ชลธีก้าวฉับๆ มาหาฉันพร้อมกับคว้าต้นแขนไปบีบจนแดงเถือก "รักต้องการคุณ" "อะไรนะ! " "รักอยากได้คุณ" "ไอ้เด็กนี่! " "อยากได้มากๆ " "หุบปาก! " "อยากได้เป็นแฟน! " "กูไม่ชอบเด็ก! " "อยากได้เป็นผัว! " "แก่แดด! " "จะเอาให้ได้! " "ฝันไปเถอะ! " "รักรักเฮียชลนะคะ" ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหวานเยิ้มจนอีกฝ่ายถึงกับชะงักด้วยความบ้าบิ่นของฉัน ระหว่างที่เขากำลังอึ้งฉันรีบใช้จังหวะนี้ดูดดื่มริมฝีปากหนาด้วยความต้องการจนอีกฝ่ายยืนนิ่งราวกับโดนต้องมนต์สะกด "เป็นของรักนะคะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม