" ไอ้ตุลย์! ไอ้ลูกเวร! " ธันวาตะเบงเสียงใส่ด้วยความโมโห เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าลูกชายที่เคยว่านอนสอนง่ายพอโตขึ้นมาจะกลับกลายเป็นคนที่เย็นชาและไร้ความรู้สึกได้ขนาดนี้
" ถ้าพ่อมีเรื่องที่จะพูดแค่นี้ ผมขอตัวก่อนนะครับ " ใบหน้าเย็นชามองไปที่พ่อของตนเองอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนที่เขาจะค่อยๆเดินกลับห้องไป
" แกดูมันนะสมคิด แกดูมัน! มันไม่เคยเห็นหัวฉันที่เป็นพ่อมันเลย " นิ้วมือที่ชี้ตามร่างลูกชายสั่นระริกด้วยความโกรธ ชายวัยกลางคนมองลูกชายด้วยแววตาวาวโรจน์เนื้อตัวสั่นเทิ้มจนยากจะควบคุมอารมณ์นี้ลงได้
" ใจเย็นๆครับท่าน เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะเปล่าๆ "
" แกก็ดูมันสิ มันเห็นหัวฉันซะที่ไหน " จริงๆก่อนหน้านี้นั้นชายหนุ่มเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย ทั้งรักและเคารพบูชาพ่อของเขามาก แต่พอเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นก็ทำให้เด็กชายคนดังกล่าวเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที
นั่นคือการเสียชีวิตของภรรยาผู้พิพากษาชื่อดัง จากเหตุที่มีคนร้ายลักลอบเข้ามาในบ้านแล้วทำการตัดสายเบรครถยนต์ที่ผู้พิพากษาคนดังกล่าวใช้งานเป็นประจำ แต่โชคร้ายที่ในวันนั้นภรรยาของเขากลับเป็นคนใช้รถคันนั้นเอง จึงทำให้รถที่เธอขับมาเสียหลักพุ่งชนรถคันอื่นเสียชีวิตคาที่
คนรอบข้างที่ได้ยินเรื่องนี้ก็ต่างคิดว่ามันเป็นความโชคร้ายของภรรยาที่มาขับรถคันนั้นแทนสามี แต่จริงๆแล้วเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น เพราะในคืนนั้นเองที่เด็กชายได้ยินพ่อกับแม่ทะเลาะกันจนฝ่ายสามีเป็นคนขอหย่า แม่ของเขาโกรธมากจนขับรถพ่อออกไปโดยที่ไม่รู้ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้น
เด็กชายเสียใจและต่อว่าพ่อที่เป็นต้นเหตุให้แม่ต้องมาจบชีวิตลง และยิ่งเมื่อได้รู้จากตำรวจว่ารถที่แม่ขับไปถูกตัดสายเบรคจนทำให้เสียหลักไปชนกับคันอื่น ก็ยิ่งทำให้เด็กชายทั้งโกรธทั้งเกลียดพ่อของตัวเองยิ่งขึ้น
' ทำไมพ่อต้องให้แม่ไปตายด้วย! '
' พ่อไม่ได้จะให้แม่ไปตายนะตุลย์ พ่อก็เสียใจเหมือนกัน แต่แม่เขาตายไปแล้วแกจะให้พ่อทำยังไง '
' พ่อทำอะไรไม่ได้หรอกเพราะพ่อนั่นแหละที่เป็นคนไล่แม่ไป พ่อนั่นแหละที่ฆ่าแม่! '
เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้สองพ่อลูกแตกคอกันยกใหญ่ ตุลากลายเป็นเด็กที่นิ่งขรึมและเย็นชา ในขณะที่ธันวาเองก็มุ่งมั่นกับการทำงานจนแทบไม่สนใจลูกชายคนเดียวของเขาเลย เมื่อตุลาเติบโตขึ้นและสอบเข้าเรียนนิติศาสตร์ได้อย่างที่เขาหวังเอาไว้ เขาก็เริ่มวางแผนกะเกณฑ์ชีวิตให้กับชายหนุ่ม เพื่อให้เดินในลู่ทางที่คิดว่าดีที่สุด
" คุณตุลย์ก็เพิ่งอายุ 25 ถ้าจะเลือดร้อนตามประสาเด็กวัยรุ่นก็ไม่แปลกหรอกครับ "
" มันจะเลือดร้อนไปหาเรื่องเตะต่อยกับใครไม่ได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นถึงอัยการต้องนึกถึงหน้าตาในสังคม แล้วยิ่งเรื่องนี้ฉันจะไม่ยอมให้มันทำตามอำเภอใจตัวเองเด็ดขาด ผู้หญิงที่จะมาเป็นสะใภ้ของฉันจะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของฉันเท่านั้น "
" ท่านจะไปหาผู้หญิงที่ไหนมาให้คุณตุลย์แต่งงานได้ล่ะครับ ผู้หญิงที่มีชาติตระกูลเหมาะสมกับตุลย์ก็มักจะเป็นลูกคุณหนู พวกเธอไม่มีทางยอมที่จะตกอยู่ในการควบคุมดูแลของท่านได้หรอก "
" ยังไงก็ตามฉันจะต้องหาผู้หญิงที่เหมาะสมมาแต่งงานกับตาตุลย์แทนแม่ดาราคนนี้ให้ได้ "
" ครับท่าน " คนขับรถรับคำอย่างเสียไม่ได้เพราะครอบครัวนี้ไม่ว่าจะเป็นธันวาหรือตุลาทั้งคู่ก็ต่างมีความคิดเป็นของตัวเองและไม่ยอมให้ใครมาบงการชีวิตตัวเองได้ทั้งนั้น ศึกพ่อลูกในครั้งนี้คงต้องดำเนินไปอีกยาวไกล
แต่แล้วเขาก็ยังไม่เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นสักทีจนผู้พิพากษาต้องหันหน้ากลับมาถามด้วยความสงสัย
" มีอะไรอีกสมคิด "
" ผมจะรายงานท่านว่าวันนี้ได้เวลาจ่ายค่าเลี้ยงดูของเดือนนี้ให้กับคุณโมเน่แล้วนะครับ "
โมเน่
ชื่อที่เขาไม่ได้ยินมานานอยู่ๆก็สามารถดึงดูดความสนใจของผู้พิพากษาผู้เคร่งขรึมได้
โมเน่คือเด็กผู้หญิงที่เขารับอุปการะไว้เป็นเด็กในปกครอง คอยส่งเสียค่าเลี้ยงดูและค่าเทอมให้จนกว่าเธอจะเรียนจบ ถ้าจะเรียกว่าธันวาเป็นพ่อบุญธรรมของเธอก็ไม่ผิดเท่าไหร่นัก
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เวลาก็ล่วงเลยผ่านมา 4 ปีแล้ว เด็กผู้หญิงอายุ 15 ปีเมื่อวันก่อน ตอนนี้น่าจะอายุครบ 19 ปีบริบูรณ์แล้ว
" ช่วงนี้โมเน่เป็นยังไงบ้าง น่าจะใกล้เข้ามหาลัยแล้วนะ "
" เห็นว่าเธอกำลังเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบอยู่ครับ คาดว่าจะเลือกคณะที่ค่าเทอมไม่แพงเท่าไหร่นัก เพราะว่าเธอเกรงใจท่าน ไม่อยากให้มาจ่ายค่าเทอมแพงๆให้ "
" แกว่าเด็กคนนี้นิสัยเป็นยังไง "
" คุณโมเน่เหรอครับ เท่าที่ผมดูก็เป็นเด็กที่เรียบร้อยน่ารักแล้วก็ว่านอนสอนง่ายดีนะครับ แล้วเธอก็ดูจะเคารพท่านมากด้วย "
โมเน่ เด็กคนนี้น่าสนใจมากทีเดียว
" แกไปบอกโมเน่ว่าฉันอยากให้เขาสอบเข้าคณะนิติศาสตร์ ถ้าสอบได้ฉันจะมีรางวัลให้ด้วย ส่วนค่าเล่าเรียนไม่ต้องห่วงฉันจะออกให้เขาเต็มที่ "
" ท่านอยากให้คุณโมเน่เรียนคณะนิติศาสตร์หรอครับ "
" ใช่...ฉันกำลังคิดว่าจะให้โมเน่มาช่วยงานแล้วก็ดูแลฉัน ฉันก็แก่ลงไปทุกวัน จะหวังพึ่งแต่ตาตุลย์คนเดียวก็ไม่รู้จะได้ดั่งใจหรือเปล่า " ยิ่งนับวันความบาดหมางระหว่างพ่อลูกก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ การขึ้นเสียงในแต่ละวันกลับกลายเป็นเรื่องทั่วๆไปที่คนในบ้านต้องเจอไปเสียแล้ว ธันวาไม่ได้คาดหวังให้ลูกชายคนนี้ยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง เพราะคนที่หัวดื้ออย่างตุลายังไงก็ต้องขัดคำสั่งเขาอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นพ่อเขาก็ไม่สามารถทนเห็นลูกชายพาตัวเองเข้าไปสู่อันตรายได้จึงแอบช่วยอยู่ลับๆ
" ได้ครับเดี๋ยวผมจะไปแจ้งคุณโมเน่ให้ "
คำพูดที่ผู้เป็นพ่อสั่งกับคนขับรถส่วนตัวดังเข้าไปถึงหูของชายหนุ่มที่ยืนอยู่หลังประตู เขายังไม่ได้เดินออกไปไหนเพียงแต่กำลังรอฟังว่าพ่อของเขาคิดทำอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เขาได้รับรู้ในวันนี้ทำให้เขารู้สึกหมดศรัทธาในพ่อของตัวเอง นั่นก็คือพ่อของเขาแอบเลี้ยงเด็กเอาไว้อีกคน
ตั้งแต่แม่ของตุลาตาย พ่อก็แอบส่งเสียเลี้ยงดูเด็กอีกหลายคนไว้โดยที่คิดว่าเขาไม่รู้ แต่จริงๆเขารู้ทุกสิ่งทุกอย่างเพียงแต่ไม่พูดออกมาเท่านั้น เพราะยิ่งพูดก็มีแต่จะทำให้เขาเกลียดพ่อของตัวเองมากขึ้นไปอีก เกลียดที่ขนาดแม่จะตายไปแล้วเขาก็ยังเอาผู้หญิงคนอื่นขึ้นมาเหยียบหัวของเธอ