โมเน่ พริตา เด็กสาววัยแรกแย้มเดินเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านไม้ 2 ชั้น บ้านหลังนี้เป็นมรดกที่พ่อกับแม่เหลือทิ้งไว้ให้เธอหลังจากที่ทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว รอบข้างเป็นเพื่อนบ้านที่เห็นหน้าเธอมาตั้งแต่เด็กๆพวกเขาคอยช่วยสอดส่องและช่วยเหลือเธอบ้างในบางครั้ง
แต่กระนั้นหญิงสาวก็ยังมีความเหงาอยู่ดีเพราะเธอต้องอยู่บ้านหลังนี้ลำพังเพียงคนเดียวตั้งแต่ที่พ่อจากเธอไปเมื่อ 4 ปีก่อน
บรื้นนนน
เสียงรถคันหรูที่นานๆทีจะผ่านมาสักคันขับเข้ามาตามซอยเล็กแคบก่อนจะหยุดลงตรงหน้าบ้านหลังที่คุ้นเคย
ชายสูงวัยเดินออกมาจากรถ เขายิ้มให้เด็กสาวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเธอกลับมาจากโรงเรียนแล้ว
" สวัสดีค่ะคุณสมคิด "
" สวัสดีครับคุณโมเน่ ลุงบอกแล้วไงว่าอย่าเรียกลุงว่าคุณเลย เรียกว่าลุงสมคิดเถอะครับ "
" ค่ะคุณลุง " มือเล็กๆเอื้อมไปเปิดประตูรั้วให้ชายสูงวัยเดินเข้ามาในบ้าน ทุกๆเดือนผู้ชายคนนี้จะมาบ้านหลังนี้เดือนละ 1 ครั้งเพื่อนำเงินค่าใช้จ่ายต่างๆมามอบให้กับเธอ
" เงินนี้คุณท่านฝากมาให้คุณโมเน่นะครับ แล้วท่านก็ฝากบอกอีกว่าอยากให้คุณโมเน่สอบเข้าคณะนิติศาสตร์ ท่านอยากจะเห็นคุณมีอาชีพการงานที่มั่นคงครับ " มือหนายื่นซองสีขาวให้เธอ หญิงสาวรับมันมาด้วยความเคยชิน เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาเธอจะได้รับสิ่งนี้ในทุกๆเดือน
" นิติศาสตร์หรอคะ แต่คณะนี้ค่าเทอมมันแพงมากเลยนะคะคุณลุงสมคิด โมเน่เกรงใจค่ะ " นอกจากความเกรงใจที่เกิดขึ้นแล้วหญิงสาวยังมีความกลัวในใจอีกด้วย เพราะคณะนี้ไม่ได้จะสอบกันง่ายๆ เธอเกรงว่าจะทำให้ผู้มีพระคุณผิดหวังถ้าหากเธอสอบไม่ติด
" เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับคุณโมเน่ คุณท่านจะส่งเสียเลี้ยงดูคุณโมเน่เต็มที่ ขอเพียงอย่างเดียวขอแค่คุณโมเน่สอบติดก็พอ ท่านยังบอกอีกด้วยนะครับว่าท่านจะมีรางวัลให้คุณโมเน่ด้วย " เด็กสาวทำสีหน้าหนักใจ เธอไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลยที่จะสอบคณะนี้ เพราะว่าตั้งแต่เรียนมัธยมปลายมาเธอเรียนสายวิทย์คณิตมาโดยตลอด และในหัวก็ไม่มีความคิดว่าอยากจะสอบเข้าคณะนี้เลยด้วยซ้ำ
" ถ้าคุณโมเน่ต้องการอะไรเพิ่มเติมสามารถแจ้งผมได้เลยนะครับ ผมจะเป็นคนนำมาให้ด้วยตัวเอง "
" ค่ะ ขอบคุณคุณลุงสมคิดนะคะ แล้วก็ฝากขอบคุณท่านด้วยค่ะ " แม้ว่าเธอจะเคยเห็นหน้าผู้มีพระคุณของเธอเพียงแค่ครั้งเดียวแต่เธอก็รู้สึกขอบคุณเขาเป็นอย่างยิ่งที่เขาได้ช่วยชีวิตเธอไว้ในช่วงที่ลำบากที่สุด ถ้าหากว่าไม่มีผู้มีพระคุณท่านนี้ เกรงว่าในชีวิตนี้เธออาจจะไม่มีโอกาสเรียนแล้วก็ได้ ถึงแม้ว่าพ่อจะทิ้งเงินประกันชีวิตไว้ให้เธอจำนวนหนึ่งก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่จะส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ
" ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ คิดซะว่าลุงเป็นญาติผู้ใหญ่คนนึงแล้วกันนะ " เด็กสาวกระพุ่มมือไหว้แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้ง
แรกทีเดียวเธอคิดว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยแล้วเสียด้วยซ้ำยังดีที่ท่านช่วยอุปถัมภ์ต่อ ถ้าหากผู้มีพระคุณของเธอมั่นใจว่าเธอจะสามารถสอบติดได้เธอก็ไม่ควรทำให้เขาผิดหวังเด็ดขาด
" เลิกเรียนแล้วจะไปไหนหรอเน่ " เด็กสาวคนหนึ่งวิ่งตรงมาที่เธอ สองบ่าสะพายกระเป๋าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย เด็กสาวคนนี้ก็คือแพรวเพื่อนสนิทของโมเน่ที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน เธอมีความฝันที่อยากจะเป็นหมอฟันจึงตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าคณะทันตแพทย์ให้ได้
" เราว่าเราจะไปร้านหนังสือหน่อยน่ะ "
" หืมมม แต่หนังสือที่เน่ไปซื้อมาก็มีเยอะแยะแล้วนะยังไม่พออีกหรอ " จำได้ว่าครั้งก่อนที่ไปร้านหนังสือด้วยกัน เพื่อนของเธอก็ได้ซื้อหนังสือสำหรับติวเข้ามหาวิทยาลัยไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
" อืม เราจะเปลี่ยนคณะเรียน ก็เลยจะไปหาซื้อหนังสือเล่มใหม่ "
" เปลี่ยนเป็นคณะอะไรล่ะ เผื่อเราจะช่วยดูได้ "
" นิติศาสตร์ "
" หาา? นิติศาสตร์เนี่ยนะ แต่เน่ไม่เคยชอบเรียนกฎหมายเลยไม่ใช่หรอ แล้วทำไมถึงจะไปสอบนิติศาสตร์ "
เป็นอย่างที่เพื่อนพูดเพราะจริงๆแล้วหญิงสาวชอบเรียนวิทยาศาสตร์มากกว่า เธอมีความฝันอยากจะเรียนแพทย์หรือไม่ก็สาขาอื่นๆที่ทำงานในโรงพยาบาล เพื่อจะได้ช่วยเหลือคนไข้ ส่วนสาขานิติศาสตร์นั้นไม่เคยมีอยู่ในความคิดเลยจริงๆ
" ผู้มีพระคุณของเราอยากให้เราเรียนน่ะ "
" แต่เน่ไม่ชอบวิชานี้เลยนะ จะเรียนได้หรอ "
" ได้ไม่ได้ก็ต้องลองดูแล้วแหละ " เด็กสาวพูดด้วยความไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก เพราะว่าสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบเลยจริงๆ เธอจะฝืนใจทำมันได้ไหมนะ
" ลองดูเล่มนี้ไหม ดูแล้วน่าจะเข้าใจง่าย " ภายในร้านหนังสือทาด้วยสีขาวโปร่ง รอบๆตัวร้านบุด้วยกระจกให้ความรู้สึกโล่งและกว้างขวาง ผู้คนจำนวนน้อยนิดเดินสวนกันไปมาได้อย่างสบายเนื่องจากสมัยนี้สามารถอ่านหนังสือผ่านอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆได้จึงไม่จำเป็นต้องมาร้านหนังสือ คนซื้อจึงมีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
มือเรียวบางหยิบหนังสือจากในมือเพื่อนขึ้นมาดู เธอไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายเลยดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าหนังสือเล่มนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร
" ไม่รู้สิ " เด็กสาวทำหน้ามุ่ยได้อย่างน่ารักน่าชัง จนคนที่เผลอมองอยู่คลี่ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
ชายหนุ่มร่างสูงคนนึงเดินออกมาจากชั้นหนังสือกฎหมาย เขาสวมชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ใบหน้ามีร่องรอยของความใจดีเคลือบอยู่
" หาอะไรกันหรอครับ ให้พี่ช่วยไหม " น้ำเสียงนุ่มทุ้มและแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเรียกสายตาของสองสาวขึ้นไปมองได้เป็นอย่างดี
เธอมองดูชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่แต่ไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆ
" กำลังหาหนังสือติวสอบกฎหมายอยู่ค่ะ " แพรวพูดตอบให้
" จะสอบนิติศาสตร์หรอ ดีเลยถ้าสอบได้ก็จะมาเป็นรุ่นน้องของพี่ " ใบหน้าของชายหนุ่มคลี่ยิ้มอย่างสดใส จนเด็กสาวทั้งสองไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย
" พี่เรียนนิติศาสตร์อยู่หรอคะ "
" ใช่ครับ มหาวิทยาลัย HS น่ะ "
" โห...มหาวิทยาลัยนี้เข้ายากมากเลยนะคะพี่ แสดงว่าพี่ต้องเก่งมากๆแน่นอน "
" ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แต่มหาวิทยาลัยนี้มีนักเรียนคนระดับหัวกะทิเข้าไปเรียน ถ้าน้องอยากจะสอบติดก็ต้องทุ่มเทกันแบบสุดชีวิตเลยล่ะครับ "
" หนูอยากเข้าไปเรียนคณะนี้ที่นี่ค่ะ พี่พอแนะนำหนังสือให้หนูได้ไหมคะ " จู่ๆเด็กสาวที่ยืนนิ่งมานานก็พูดขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่น ถ้าหากผู้มีพระคุณคาดหวังอยากจะให้เธอประสบความสำเร็จในด้านนี้ล่ะก็เธอก็อยากทำให้เขาเห็น เขาจะได้ภูมิใจว่าเงินที่เสียมาให้เธอไม่ได้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์
" ได้สิครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอยินดีกับน้องล่วงหน้าเลยนะ หวังว่าเราจะได้กลายเป็นพี่น้องร่วมคณะกัน "