มือหนายกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบที่ริมฝีปากเล็กน้อย เสียงเพลงที่ดังโครมครามบวกกับแสงไฟวิบวับทางด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นมา
ไม่นานนักมือหนักๆของใครบางคนก็กระแทกเข้ามาตรงไหล่ พร้อมกับเสียงหัวเราะที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
" ว่าไงครับไอ้คุณอัยการตุลา ลมอะไรหอบมึงมาวันนี้ได้ครับเพื่อน " ตุลาปรายตามองไปยังเพื่อน ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกอะไรเพียงแค่ขมวดคิ้วยุ่งด้วยความไม่พอใจนิดหน่อยเท่านั้น
" กูจะมาดูกิจการที่กูเป็นหุ้นส่วนอยู่ต้องรายงานมึงด้วยหรือไง "
" เอออ...มาดูบ้างก็ดีมึงอ่ะ ปล่อยให้กูดูอยู่คนเดียว พวกมึงแต่ละคนเนี่ยนะไม่มีใครโผล่หัวมาสักคน "
" คนอื่นๆเขาก็งานยุ่งหรือเปล่าวะ มีแต่มึงคนเดียวนี่แหละที่ว่างลอยไปลอยมา มึงก็ดูแลไปสิ "
" เออๆๆ กูดูแลเองก็ได้ ยังดีนะที่วันก่อนไอ้คินทร์ก็เพิ่งโผล่หัวมาหากูบ้าง ไม่งั้นกูคงนึกว่าเพื่อนแต่ละคนตายห่ากันไปหมดแล้ว " ภาวิน[2]บ่นแบบไม่จริงจังเท่าไหร่นัก นึกถึงเรื่องวันก่อนก็ยังรู้สึกตลกไม่หาย นคินทร์[1]เพื่อนที่เป็นหมอเพิ่งมาสังสรรค์กับเขาที่ผับ แต่แล้วก็ดันไปถูกตาต้องใจกับพี่สาวคนสวยที่มาจากออสเตรเลียเข้าซะก่อน ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นติดสาวเจ้าแจไม่โผล่หน้าโผล่ตามาให้เพื่อนเห็นอีกเลย
" ไอ้คินทร์เนี่ยนะจะมาเที่ยวผับ มันนึกครึ้มอะไรของมัน "
" มันนึกครึ้มอะไรที่ไหน มันมาสอยสาวล่ะสิไม่ว่า กูได้ข่าวว่าตอนนี้มันตามติดเขาแจเลย กูล่ะกลัวว่าจะโดนทิ้งเข้าสักวัน ชอบใครก็ไม่ชอบดันไปถูกใจแม่คาสโนว่าสาวคนสวย เตรียมตัวน้ำตาเช็ดหัวเข่าได้เลยเพื่อนกู " ภาวินพูดไปบ่นไปด้วยอารามห่วงใยเพื่อน
" หึ...ไม่นึกว่าคนอย่างไอ้คินทร์ก็จะมีวันนี้ด้วย " เขาคิดว่าเพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่เป็นหมอจะเคร่งขรึมเอาจริงเอาจังกับการทำงาน ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่เรียนจบมาไม่กี่เดือนก็ดันไปถูกตาต้องใจผู้หญิงเข้าซะได้
" กูว่ามึงเหมาะสมกับคำนี้มากกว่าไอ้คินทร์อีกนะ กูไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกถ้าไอ้คินทร์มันจะมีแฟนเพราะมันก็เป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป แต่มึงนี่สิ...มนุษย์หน้าหินแบบมึงเนี่ย มีแฟนกับเขาด้วยหรอวะ " เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งได้ยินข่าวว่าเพื่อนอัยการหนุ่มสุดหล่อ มีข่าวกิ๊กกั๊กกับดาราสาวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้
" มึงหมายถึงมีมี่หรอ "
" เออดิ มึงไปคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ "
" มึงจะอยากรู้ไปทำไม "
" เอ้า...กูเพื่อนมึงนะ มึงมีแฟนไม่คิดจะบอกกูสักคำเลยรึไง "
ตุลามองหน้าเพื่อนด้วยความรำคาญ
" ทำไมกูต้องป่าวประกาศ กูจะคบใครมันก็เรื่องของกูหรือเปล่า "
" มึงก็ต้องพามาเปิดตัวกับเพื่อนบ้างดิวะ ให้เพื่อนๆได้รู้จักด้วย "
" ไม่ใช่เรื่อง... "
" ไม่ใช่เรื่องอะไรว่ะ "
" ไม่ใช่เรื่องของมึง ไม่เสือกสักเรื่องจะได้ไหม " ภาวินถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเพื่อนพูดประโยคนี้จบ
" โห...มึงนี่ก็แรงไปนะไอ้ตุลย์ กูเป็นเพื่อนมึงนะเนี่ย "
ตุลาหยิบแว่นสายตาขึ้นมา แล้วสอดเข้าไปที่ตำแหน่งเดิมของใบหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อตัดรำคาญ
" มึงจะไปไหนเนี่ย "
" กลับบ้าน " ไม่ต้องรอฟังประโยคถัดไปของเพื่อน ชายหนุ่มก็เดินออกมาเสียดื้อๆ
ความสัมพันธ์ของพวกเขา 4 คนก็แบบนี้แหละ ใครว่างก็แวะมาหากัน ใครไม่ว่างก็ไปใช้ชีวิตของตัวเองถ้ามีปัญหาก็ค่อยกลับมาให้เพื่อนช่วยแก้เป็นแบบนี้ทุกครั้งไปจนชินซะแล้ว
" เออ มึงจะกลับก็กลับไปเลยนะ แต่ละคนโผล่หัวมาแป๊บเดียวก็ทิ้งกูกันอีกแล้ว " เพื่อนตะโกนไล่หลังมาด้วยความอารมณ์เสีย แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้สามารถทำให้อัยการหนุ่มหยุดฝีเท้าลงได้
ใบหน้าที่เรียบเฉยกระดกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้กวนประสาทเพื่อนจนสำเร็จ การทำงานที่แสนจะตึงเครียดพอได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกไปนิดหน่อยก็รู้สึกดีขึ้นมามากทีเดียว
ผ่านไปไม่นานรถสีดำคันหรูก็จอดหน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ที่อยู่นอกเขตชานเมือง เมื่อกี้หลังจากที่เขาออกจากผับแล้วกำลังจะเลี้ยวไปพักผ่อนที่คอนโด จู่ๆพ่อก็โทรศัพท์ขึ้นมาเรียกตัวให้เขากลับบ้านโดยด่วน จึงทำให้เขาต้องขับรถย้อนออกมา
ตัวบ้านสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ในที่ดินเนื้อที่ 10 ไร่ เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าซึ่งมีอาชีพเป็นผู้พิพากษาเช่นกัน ตัวบ้านถูกปรับปรุงจนมีลักษณะให้ทันสมัย กับสวนสไตล์อังกฤษที่กินเนื้อที่จำนวนมาก ทางด้านหลังเป็นสนามกอล์ฟและสนามฝึกขี่ม้า ที่เจ้าของบ้านสร้างขึ้นมาไว้ให้ผ่อนคลายจากการทำงาน เพราะอาชีพผู้พิพากษาไม่สามารถที่จะออกไปที่ไหนได้ตามอำเภอใจ เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและภาพลักษณ์ที่น่านับถือ
" คุณตุลย์กลับมาแล้วหรอคะ " สาวใช้รีบกุลีกุจอออกมาช่วยเขาถือกระเป๋า เธอเป็นลูกสาวของแม่บ้านที่ทำงานที่นี่ ทั้งคู่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ตอนเด็กๆก็ยังเป็นเพื่อนเล่นกันอยู่ แต่พอโตขึ้นมาเขาก็แยกตัวออกไปทำงานและซื้อคอนโดใจกลางเมืองอยู่เพียงลำพังเลยทำให้ไม่สนิทกันเหมือนเดิม
" อืม " การประหยัดคำพูดของตุลาไม่ได้เกิดแค่กับใครคนใดคนหนึ่งแต่เกิดกับทุกๆคน ด้วยความที่ทำอาชีพนี้ ทำให้เขากลายเป็นคนที่พูดน้อยต่อยหนัก ถ้าจะพูดแต่ละทีมันจะต้องมีประโยชน์ ไม่ใช่พูดจาเป็นต่อยหอยเหมือนภาวินที่จะพูดเรื่องไร้สาระอะไรก็ได้
สาวใช้หน้าเสียไปนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าตุลาจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในวัยเด็กและหันกลับมาพูดกับเธอดีๆสักครั้ง แต่จริงๆแล้วเธอคิดผิด เพราะตุลาก็คือตุลา คุณชายหน้านิ่งที่พูดน้อย เขาเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดเดียว
ร่างสูงก้าวฉับๆเข้าไปในบ้าน เดินตรงไปที่ห้องห้องโถงใหญ่ซึ่งมีคุณพ่อผู้เคร่งขรึมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
" มาสักทีนะ นึกว่าต้องให้ฉันออกไปตามแกเอง " ใบหน้าบึ้งตึงของผู้เป็นพ่อ ทำให้เขาพลันนึกขึ้นว่าคงเกิดเรื่องอะไรบางอย่างเสียแล้ว
" พ่อเรียกผมมามีอะไรครับ "
" มันจะมีอะไรซะอีกล่ะ ก็เรื่องที่แกทำงามหน้าไว้นี่ไง " มือหนาโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ในนั้นมีข่าวหน้าหนึ่งซึ่งขึ้นรูปเขาไว้ชัดเจนพร้อมกับรูปของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง
" นี่คืออะไร "
" มีมี่ไงครับ พ่อก็รู้จักนี่ "
" ฉันถามว่าแกไปให้ข่าวแบบนี้ได้ยังไง แกเป็นถึงอัยการต้องรักษาความน่าเชื่อถือของแกเอาไว้ แล้วจะไปมีเมียเป็นดาราแบบนี้ไม่ได้มันเสียภาพลักษณ์ของแกหมด! "
" ผมไม่ใช่คนให้ข่าว แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง "
" ยังไงก็ตามแกต้องไปจบเรื่องนี้ซะ เพราะฉันไม่เห็นด้วยที่แกจะคบกับผู้หญิงคนนี้ " ธันวาประกาศกร้าวพร้อมกับเดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจลูกชายอีกเลย
สายตาที่ชายหนุ่มมองตามผู้เป็นพ่อไปนั้นเต็มไปด้วยความเฉยชา เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าพ่อจะรู้สึกหรือนึกคิดอะไร เพราะมันไม่ได้สำคัญกับชีวิตเขาขนาดนั้น
[1] นคินทร์ พระเอกจากซีรี่ย์กลรัก เรื่อง กลรัก|เด็กร้าย
[2] ภาวิน พระเอกจากซีรี่ย์กลรักเล่มสุดท้าย coming soon