@คอนโดเวไนย
เวไนย talk
ผมนั่งดูรูปที่เคยถ่ายกับผู้หญิงคนนั้นตอนที่เรากำลังคบกันใหม่ๆ ที่ผมยังคงเก็บมันไว้อยู่ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมยังเก็บไว้ หรือเพราะตอนนั้นมันดีมากทุกอย่างมันดีไปหมด สำหรับผมตอนนั้นมันคือรักที่บริสุทธิ์มากผมไม่เคยจริงจังกับใครเลยจนมาเจอเธอ ผมไม่เคยจะหวังว่าผมจะต้องได้ตัวเธอ ผมอยากทะนุถนอมเธออยากสร้างอนาคตกับเธอแบบที่ไม่เคยคิดจะทำให้ใคร แต่ทุกอย่างมันก็พังลงทันทีเมื่อผมได้รับรู้ว่าเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องชายเพียงคนเดียวของผมต้องตาย เพราะความโลเลหลายใจไม่นึกถึงใครของเธอ จากรักมากผมจึงเปลี่ยนเป็นแค้นมาก แต่วันนี้ที่เห็นเธอร้องไห้ผมก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะว่าที่ทำมันเกินไปรึป่าว
"เห้อ....ฉันจะรู้สึกผิดกับเธอไปทำไมนี่ มันก็สมควรแล้วนี่" เวไนยพรึมพรำออกมาเหมือนกำลังสับสน
@โรงพยาบาล P. Hospital
น้ำพิง talk
วันนี้ฉันจัดการโบกรองพื้นมาอย่างหนาเพื่อกรบรอยที่ไอ้คนเลวนั่นทำไว้ ที่หน้าอกฉันก็ยังจะพอหาเสื้อที่ปกปิดมิดชิดใส่มาได้แต่ที่คอนี่สิ โบกจนคอลอยวันนี้ก็เลยต้องแต่งหน้าแบบเต็มๆ ให้เท่ากับคอมาด้วย ซึ่งปกติฉันเเทบจะไม่แต่งหน้าเลยด้วยซ้ำ วันนี้คนก็เลยมองฉันกันเป็นพิเศษ
"สวัสดีค่ะคุณหมอ วันนี้คุณหมอน้ำพิงสวยจังเลยคะ" พยาบาลที่อยู่ตรงเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์กล่าวทักทาย
"อ่อ...จริงหรอคะรู้สึกไม่มั่นใจเลยค่ะเห็นคนมองเยอะๆ" น้ำพิงยิ้มแหยๆ
"คุณหมอสวยอยู่เเล้วนี่คะพอยิ่งแต่งก็ยิ่งสวย คนก็เลยมองเยอะเป็นพิเศษไงคะ ไม่เชื่อถามหมอนนท์ก็ได้ค่ะ" พยาบาลสาวชำเรืองตามองไปทางด้านหลังน้ำพิง
"สวัสดีค่ะหมอนนท์"พยาบาลสาวทักทาย
"ครับ สวัสดีครับ"
"ว้าวว....หมอน้ำพิงวันนี้สวยเป็นพิเศษเลยนะครับ สวยจนแทบจะละลายเลย" ชานนท์รู้สึกแปลกใจไม่น้อย
"เห็นไหมคะบอกแล้วว่าสวย" พยาบาลสาวกระซิบกับน้ำพิง
"หมอนนท์ก็พูดเกินไปค่ะ"น้ำพิงยิ้มแห้งตอบกลับ
"อ้ะ....นี่ครับกาแฟของหมอน้ำพิง"
"อ่อ....ขอบคุณค่ะ จริงๆแล้วไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ เอามาให้ทุกวันเลยไม่เบื่อหรอ"
"ไม่เบื่อหรอกครับ พี่เต็มใจทำ" ชานนท์ยิ้มกว้าง "มาครับเดี๋ยวพี่ถือไปส่ง" ชานนท์ยื่นมือไปถือกระเป๋าเอกสารให้น้ำพิง น้ำพิงเองก็ยื่นให้ไปไม่คิดอะไร เพราะเขาก็ทำให้เป็นประจำ
"สู้ๆ นะคะคุณหมอ" พยาบาลสาวชู้สองนิ้วให้กำลังใจชานนท์
•ห้องทำงานหมอน้ำพิง
"ขอบคุณมากค่ะ"
"ถ้าอย่างงั้นพี่ไปก่อนนะครับ พอดีเช้านี้มีเดินตรวจวอร์ด ถ้าตอนเที่ยงหมอน้ำพิงไม่มีนัดกับใครพี่ขอไปนั่งทานข้าวด้วยนะครับ"
"ได้สิคะ" น้ำพิงพยักหน้าตอบกลับ
"งั้นพี่ไปแล้วนะ"
"ค่ะ"
หลังจากที่ทั้งคู่สนทนากันเสร็จชานนท์ก็เดินออกไปส่วนน้ำพิงก็เดินเข้ามาในห้องทำงานตามปกติ แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็ต้องอารมณ์เสียแต่เช้าเพราะดันเจอแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งรออยู่ในห้อง
"โอ้โห...เช้าถึงเย็นถึงขนาดนี้ ถึงไหนต่อถึงไหนแล้วมั้ง"
"นี่นายเข้ามาได้ไง"น้ำพิงถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเวไนยนั่งไขว่ห้างบนเกาอี้ในห้องทำงานของเธอ
"มันก็ไม่ได้ยากอะไรนี่ ป้ายก็บอกอยู่ว่านี่ห้องเธอ แล้วก็ที่หลังก็หัดล็อคประตูสะบ้างนะ" เวไนยตอบหน้าตาเฉย
"มาทำอะไร ต้องการอะไร" น้ำพิงข่มอารมณ์ถาม
"ป่าว ยังไม่ได้ต้องการ ยังไม่ได้อยาก....."เวไนยหยี่ตามองไปที่น้ำพิง
"นี่!! ถ้าจะมากวนประสาทกันก็ออกไปได้แล้ว"น้ำพิงชี้ไปที่ประตู
"แค่จะมาบอกเธอว่าพี่เธอจัดห้องทำงานส่วนตัวให้ฉันอยู่ห้องข้างเธอ ได้ข่าวว่าผู้ช่วยลาคลอดนี่ ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ" เวไนยเดินมาพูดที่ข้างหูของน้ำพิง
"ฝีมือดีเหมือนกันนี่ แต่งกลบรอยซะมิดเลย" เวไนยเอามือลูบไปที่คอระหง
"ออกไปได้แล้ว" น้ำพิงมุ่ยหน้าใส่เวไนยแบบเหลืออดเหลือทน
"จุ๊บ"
"นี่.." น้ำพิงยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออกเอามือจับไปที่ริมฝีปากบางของตัวเอง
"Morning kiss" เวไนยแสยะยิ้มแล้วเดินออกไป
"เห้อออ...." น้ำพิงถอนหายใจยาวก่อนจะนั่งลงแทนที่คนที่ลุกออกไป
•เวลาเที่ยงวัน
@ไลน์
Dr.Namping : เป็นไงบ้างอ้ะเงียบเลย ยุ่งหรอ
Dr.Namping : มีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง
"เห้อ...เงียบเลยยัยน้ำตาล" น้ำพิงบ่นพรึมพรำเบาๆ
"อิ่มรึยังครับนี่ โทษที่พี่มาช้า" ชานนท์ที่พึ่งมาเดินเข้ามาทักทายและนั่งลงฝั่งตรงข้ามน้ำพิง
"ยังหรอกค่ะ พึ่งมาเอง"
"ทำไมดูหน้าตาไม่สดใสเลยล่ะครับ เป็นอะไรรึป่าว"
"ป่าวหรอกค่ะ แค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย(เหนื่อยใจนะ)"
"พักผ่อนมั่งนะครับ อย่าโหมงานหนัก"
"ช่วงนี้เบามือเรื่องคนไข้แล้วแหละค่ะ เหลือแต่คนไข้ที่ต้องดูเเลต่อเนื่อง จะมีก็แต่เรื่องโปรเจควิจัยยาตัวใหม่นี่แหละค่ะ"
ขณะที่ทั้งก็กำลังนั่งพูดคุยอยู่นั้นก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา
"ขอนั่งด้วยคนสิครับ พอดียังไม่รู้จักใครเลยนอกจากหมอน้ำพิง"
"คุณ....?" ชานนท์ยักคิ้วขึ้น
"ผมเวไนยครับ เรียก ดร.เวย์ก็ได้ ผมเป็นนักวิจัยของบริษัทยาที่มาร่วมทำวิจัยกับทางโรงพยาบาลน่ะครับ" เวไนยแนะนำตัวอย่างยิ้มแย้มก่อนจะนั่งลงข้างๆน้ำพิง
"อ๋อ...ครับ" ชานนท์ทำหน้างุนงงกับท่าทีของเวไนยเล็กน้อย
"หมอน้ำพิงมองใกล้ๆนี้สวยจังนะครับ" เวไนยส่งยิ้มเจ้าเล่ห์
ติ๊ง ติ๊ง ~ เสียงข้อความแชทไลน์ของชานนท์ดังขึ้น
"เอ่อ....หมอน้ำพิงพอดีพี่มีผ่าตัดด่วน อยู่ได้ใช่ไหม"เขาเหลือบไม่มองคนที่นั่งตักอาหารใส่ปากข้างๆน้ำพิง
"อ๋อ..ได้คะ เดี๋ยวน้ำพิงก็จะไปแล้วเหมือนกัน"
"งั้นพี่ไปก่อนนะ" พูดจบเขาก็ลุกออกไป
"เอ่อ...ค่ะ" น้ำพิงมองตามชานนท์ตาละห้อย
"อยู่กับฉันไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้"เวไนยที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้น
"ฉันอิ่มเเล้ว ขอตัวนะ"น้ำพิงทำเป็นไม่สนใจและเตรียมลุกออกไป
หมับ~ เวไนยคว้าแขนของน้ำพิงไว้
"นั่งลงเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากโดนฉับจูบกลางโรงอาหาร"
"ไม่.."
"คิดดีๆ เธอเองก็รู้ว่าฉันกล้าบ้าบิ่นแค่ไหน" เวไนยมองขู่ด้วยสายตาอำมหิต
"......" น้ำพิงไม่ได้พูดอะไรต่อ จำใจต้องนั่งลงกับเขา
"หึ.." เวไนยยิ้มอย่างผู้ชนะ
ทั้งคู่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันไม่พูดไม่จา มีเพียงเวไนยที่เเอบลอบมองน้ำพิงอยู่เป็นระยะๆ จนทั้งคู่เดินออกไปจากโรงอาหารด้วยกัน
"พี่เวย์...." เสียงของอิงฟ้าหมอสาวคนนึงที่เดินสวนกับทั้งคู่อุทานเรียกชื่อเวไนยขึ้น
เป็นเวลากว่า2อาทิตย์แล้วที่น้ำพิงและเวไนยต้องทำงานร่วมกัน เขาแวะเข้าไปหาเธอทุกเช้าเพื่อก่อกวนประสาท ตอนเที่ยงก็ไปกินข้าวกับเธออยู่เป็นประจำ ถ้าวันไหนเธอหลบหน้าเขาก็หาทางมาเจอเธอจนได้
"หมอนนท์น่าจะมีคู่แข่งเพิ่มมาอีกหนึ่งแล้วแหละ"
"น่ากลัวซะด้วยสิ คนนี้หล่อมากเลยนะยิ้มมาทีนึงแทบละลาย"
"ถ้าคุณหมอน้ำพิงเลือก ดร.เวย์ละ"
"ไม่หรอกมั้ง หมอนนท์ตามจีบมาตั้งเป็นปีๆ แล้วนะ ทำคะแนนไว้เยอะ"
"คนใหม่อาจจะมาแรงแซงทางโค้งไปเลยก็ได้จ้า ท่าทางก็ดูสนิมกันดีนะ แถมฉันยังเห็นเวลาเขามองกันมันดูมีซังติงอยู่นะ"
ท่าทีที่ดูสนิทสนมของทั้งคู่ต่างเป็นที่พูดถึงไปทั่วโรงพยาบาล
ชานนท์ที่เดินผ่านมาได้แต่ยืนฟังอยู่นิ่งๆ
•ห้องพักแพทย์
"ไงว่ะ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นไปตามเฝ้าหมอน้ำพิงเลย ท้อแล้วหรอว่ะ" ดนัยเพื่อนสนิทของชานนท์พูดขึ้น
"ป่าว กูแค่เปิดโอกาสให้เค้าเจอคนอื่นบ้าง"
"ไม่กลัวจะโดนคาบไปแดกหรอว่ะ ตามจีบมาเป็นปีๆ เลยนะโว้ย"
"ไม่ว่ะ...ถ้าเค้าเลือกคนอื่นก็แสดงว่ากูไม่ใช่สำหรับเค้าไง แต่ถ้ากูใช่ยังไงเค้าก็กลับมาเลือกกู"
"พระเอกชัดๆ" ดนัยทำท่าตบมือให้กับเพื่อนรัก
•ห้องทำงานน้ำพิง
ก๊อก ก๊อก~
"ทำไรอยู่" ภูดิศถามขึ้นเมื่อเปิดประตูเข้ามา
"ก็ดูเอกสารโครงการงานวิจัยยาที่ท่านผอ.สั่งอยู้นั่นแหละคะ"
"ถึงว่า..คงจะดูเพลินไปสินะโทรมาแล้วไม่รับ เอ๊ะ..รึว่าใจลอยถึงใครอยู่เห็นพักนี้มีหนุ่มใหม่คอยตามด้วย"
"อะไรพี่ภู น้องแค่ไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์มันก็เลยไม่ได้ยิน ไม่ได้ใจลอยถึงใครสักหน่อย" น้ำพิงยื่นมือถือให้ภูดิศดู
"เออ เชื่อก็ได้"
"แล้วนี่พี่ภูมีธุระอะไรหรือเปล่า ถึงได้มาหาน้องถึงที่ห้อง"
"พอดีวันเสาร์ เราจะมีงานจัดเลี้ยงต้อนรับทีมวิจัย แต่พี่ต้องไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดเลยไม่ว่างไป พี่ก็เลยจะฝากให้แกช่วยจัดการเรื่องนี้หน่อย"
"ไปสัมมนาเนี่ยคุณเลขาไปด้วยหรือเปล่าคะ"
"ก็ต้องไปสิเขาเป็นเลขาพี่"
"อืม.....ไปซ้อมฮันนีมูนหรอคะ" น้ำพิงยิ้มเย้ยหยอก
"แกนี่น้าาาาา...." ภูดิศชี้หน้าน้ำพิงอย่างคาดโทษ
"ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะจัดการให้นะคะท่านผอ.เองค่ะ"
"งั้นพี่ไปล่ะ อ่อ..ระวังรถไฟแกจะชนกันนะ" ภูดิศยกไหล่ขึ้นเล็กน้อยและเดินออกไป
"พี่ภู!!!"
•ห้องพักทีมวิจัย
"สวัสดีค่ะทุกคน" น้ำพิงเอ่ยทักทายเมื่อเข้ามา
"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ"
"คือดิฉันจะมาแจ้งว่าทางโรงพยาบาลอยากจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับทีมวิจัย แล้วก็อยากให้ทุกคนได้ผ่อนคายกันนะคะ วันเสาร์นี้ไม่ทราบว่าสะดวกกันไหมคะ"
"หืมมมม....สะดวกสิคะสะดวกมาเลยด้วยค่ะ" เคทนักวิจัยสาวพูดขึ้น
"ดีเลยครับตั้งแต่มาไทยพวกเรายังไม่ได้ไปสังสรรค์ที่ไหนเลย"มาร์คนักวิจัยหนุ่มอีกคนพูดขึ้น
"สรุปว่าทุกคนสะดวกนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ" พูดจบน้ำพิงก็เดินออกไป
"อุ๊ย!!!" น้ำพิงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเจอกับเวไนยที่กำลังจะเข้ามาในห้องพอดี เขาไม่ได้พูดหรอทำอะไรเธอจึงเดินเบี่ยงตัวหนีออกไป
"อะแฮ่ม จ้องไม่วางตาเลยนะครับหัวหน้า" ลูกน้องในทีมแซวขึ้นเมื่อเห็นสานตาของเวไนย
"อะไร มีอะไรกัน"เวไนยแกล้งเฉไฉถามเรื่องอื่นเเทน
"อ๋อ พอดีคุณหมอน้ำพิงเค้ามาบอกว่าเสาร์นี้จะพาพวกเราไปเลี้ยงต้อนรับน่ะค่ะ"เคทตอบ
"งั้นหรอ"
"ไม่ดีใจหรอครับหัวหน้า"
"เรื่อง?"
"ก็นี่เป็นโอกาสเลยนะครับที่จะได้ใกล้ชิดกับคุณหมอน้ำพิง"
'จริงสินะ น่าสนุกเหมือนกันแฮะ' (เวไนยคิดในใจอยู่เงียบๆ)
--ตามหึงตามหวงตลอดนะคะ ดร.เวย์--