รอยรัก ตอนที่ 1 รักหลอกๆ Nc++
@เชียงใหม่
ครืน เปรี้ยง!! ซ่า ~ เสียงฟ้าร้อง และฟ้าฝ่าที่ดังสนั่น ภาพของหญิงสาวและชายหนุ่มที่เดินฝ่าสายฝนที่โปรยปรายอย่างไม่ขาดสายภายในฝืนป่า
"พี่ว่าเราเข้าไปหลบที่กระท่อมทางนั้นก่อนดีกว่าครับ พอฝนซาแล้วเราค่อยกลับเข้าไปในหมู่บ้านกัน" เสียงของ 'เวย์ หรือเวไนย์' หนุ่มสุดฮอตประจำคณะวิทย์บอกกลับหญิงสาวที่มาด้วย
"เอ่อ...พี่เวย์คะเดินไปไม่ไกลก็น่าจะถึงหมู่บ้านแล้วมั้งคะ เราไปต่อเลยก็ได้ค่ะ" เสียงของน้ำพิงนักศึกษาแพทย์สาวสวยดีกรีลูกเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่ ตอบกลับชายหนุ่มไป
"พี่ว่ารอฝนซาดีกว่านะ มันอันตราย ฝนตกทางลื่น ทางก็มีแต่หินแต่ป่า"
"ค่ะๆ งั้นรอให้ฝนซาก่อนก็ได้"
"ถ้างั้นเรารีบเข้าไปหลบข้างในดีกว่าครับ"
ทั้งคู่พากันเข้าไปหลบฝนในกระท่อมหลังน้อยกลางป่า น้ำพิงมองสำรวจไปในกระท่อมหลังน้อยไปเจอผ้าหม่ผืนเล็กๆผืนหนึ่ง เธอเดินเข้าไปหยิบและนั่งลงเอามาหม่บรรเทาอาการหนาว
"เห้อ....อุตส่าห์พามาเดทที่น้ำตกบรรยากาศสวยๆ แต่ฝนดันมาตกหนักซะได้ ต้องขอโทษด้วยนะที่พามาติดฝนกลางป่าแบบนี้" เวไนย์ ปิดประตูกระท่อมแล้วหย่นตัวลงนั่งไปกับพื้นฝั่งตรงข้ามกับน้ำพิง
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ใครจะไปรู้ว่าฝนจะมาตกเอาตอนนี้" น้ำพิงยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งหนาวสั่นอยู่ตรงห้าม
"เอ๊ะ!!!...นี่พี่จะทำอะไรคะ" น้ำพิงร้องตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังถอดเสื้อของตัวเองออก
"หึๆ" เขาหัวเราะอยู่ในลำคอเบาๆ "เสื้อมันเปียกน่ะ ยิ่งใส่ก็ยิ่งหนาวขออนุญาตถอดออกก่อนก็แล้วกันนะครับ"
น้ำพิงมองไปร่างกำยำที่กำลังนั่งกอดเข่าหนาวสั่น
"เอ่อ....พี่เวย์คะ เข้ามาหม่ผ้าด้วยกันก็ได้ค่ะ" น้ำพิงอดสงสารคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้จึงยอมให้เขาเข้ามาหม่ผ้าด้วยอย่างกล้าๆกลัวๆ
"ไม่เป็นไรอะไรหรอกครับ พี่ทนได้พี่ไม่อยากให้น้ำพิงไม่สบายใจ" เวไนย์ยิ้มให้น้ำพิงก่อนจะกลับไปก้มหน้ากอดเข่าเหมือนเดิม
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะเข้ามาเถอะ เดี๋ยวจะป่วยเอา"
"ถ้าอย่างงั้นพี่ขออนุญาตนะครับ" เวไนย์ขยับตัวเข้าไปชิดกับน้ำพิงและโอบกอดเธอไว้ใต้ผ้าหม่ผืนน้อย
"อุ่นจัง" เวไนยเอาคางเกยไว้ที่ไหล่มนของน้ำพิง ผ้าหม่ผืนน้อยทำให้ทั้งสองใกล้กันแนบชิด
ตึก ตัก ตึก ตัก ~
หัวใจของหญิงสาวมันเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว สัมผัสที่ชิดใกล้มันทำให้ใจของเธอหวั่นไหว วูบวาบไปหมด หน้าที่เคยซีดเซียวจากความหนาวเหน็บกลับกลายเป็นร้อนผ่าวแดงฉานไปหมด
"น้ำพิงรู้ไหมว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก ขอบคุณนะครับที่ยอมตกลงคบกับพี่" ฟอด~ เมื่อเห็นคนในอ้อมแขนนั่งตัวแข็งไม่พูดอะไร เวไนยจึงหอมเข้าไปที่แก้มใสของหญิงสาวฟอดใหญ่
"พี่เวย์..."น้ำพิงยกมือขึ้นมาลูบที่แก้มใส
"ร้อนหรอครับหน้าแดงไปหมดแล้ว" เวไนยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้กับให้กับหญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดฝาดจนหน้าแดงไปหมด
"พี่..เวย์อย่าแกล้งกันสิคะ" น้ำพิงมุ่ยหน้าให้ชายหนุ่ม
"ป่าวแกล้งสักหน่อย ก็น้ำพิงอยากทำตัวน่ารักเองนี่นา"เขากอดรัดเธอแน่นยิ่งกว่าเดิม
"น้ำพิงครับ"
"คะ?"
"พี่รักน้ำพิงนะครับ" เวไนยประกบจูบหวานเข้าที่ริมฝีปากบางของน้ำพิงแล้วค่อยๆ บรรจงจูบบดขยี้สอดแทรกลิ้นหนาเข้าไปหยอกเย้ากับลิ้นเรียวในโพรงปากน้อย
รสจูบอันแสนหวานที่แสนจะนุ่มนวล ทำให้น้ำพิงเผลอเคลิ้มไปกับจูบของเขา มันไม่แปลกใจเลยที่เธอจะยอมปล่อยใจให้เขาแบบนี้เพราะตลอดระยะเวลากว่า 1เดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มทั้งคอยดูเเลและเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีจนเธอยอมตกลงคบกับเขาในวันนี้ เขาดูราวกับเป็นคนละคนที่เธอเคยได้ยินมา
เวไนยถอนริมฝีปากของเขาจากริมฝีปากบางของน้ำพิง
"พี่รักน้ำพิงนะครับ"
"น้ำพิงก็รักพี่เวย์ค่ะ"
"พี่ขอนะครับ" เวไนยใช้มือประคองใบหน้าของน้ำพิงไว้ก่อนจะจูบลงไปที่ริมฝีปากบางของเธออีกครั้งอย่างดูดดื่ม
น้ำพิงไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไรเขาเลยแม้แต่น้อย ยอมปล่อยกายปล่อยใจให้กับเขาทำตามอำเภอใจ เพียงไม่นานเขาก็จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอกับเขาออกจนหมดสิ้น
"อืออ...."น้ำพิงทำหน้าเหยเกกัดฟันแน่นเมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บที่บริเวณกึ่งกลางสาว ที่ตอนนี้หัวแฉกแก่นลำรักได้จ่อเข้าไปที่หน้าปากทางของร่องทางรักแล้ว
"เจ็บหรอครับ พี่จะทำเบาๆนะครับคนดี" ทันทีที่เวไนยสอดแทรกแก่นลำรักเข้าไปที่ร่องทางรักของหญิงสาวเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือครั้งแรกของเธอ เขาค่อยๆขยับแก่นกายเข้าไปทีละนิดละนิดจนสุดลำรักของเขา
"อ่าาาาา...แน่นมาก" ร่องรักของหญิงสาวบีบเกร็งแน่นจนเขาแทบจะขยับตัวตนไม่ได้
"จะ..เจ็บ...พี่เวย์...น้ำพิงเจ็บ" น้ำพิงร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด พรางทำให้หยาดน้ำตาไหลออกมา
"อย่าเกร็งนะครับ ยิ่งเกร็งจะยิ่งเจ็บนะ ปล่อยตัวตามสบายนะครับแล้วจะดีขึ้น" เวไนยลูบมือปาดน้ำตาที่แก้มให้น้ำพิง
น้ำพิงพยักหน้ารับแล้วยอมค่อยๆปล่อยกายไปตามอารมณ์ไม่ให้ฝืนเกร็ง ทุกอย่างจึงผ่อนคลายลง เวไนยค่อยๆขยับแก่นกายเข้าออกไปมาอย่างช้าแล้วหลังจากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น
พับ พับ พับ ~
"อื้ออออ...พี่เวย์" เสียงครางแหลมดังขึ้นอยู่ในลำคอ
"ซี๊ดดดด....แน่นมากเลยน้ำพิง อ่าาาาาาเสียววมากกก"
ความสดใหม่และความหอมหวานของร่างกายสาวที่อยู่ใต้กายเขามันทำให้ไฟราคะในใจเขาประทุขึ้นจนเกินกว่าจะควบคุมได้
"อ๊ะ พี่เวย์อย่ากัด เจ็บ อื้อออ" เวไนยก้มลงมาดุดันและขับกัดที่บริเวณเนินอกคู่สวยจนเป็นรอยแดงซ้ำทั้งสองข้าง
"อื้มมมมม.....หอม หวาน นุ่มมือไปหมด"
ตับ ตับ ตับ ตับ ~
เวไนยเร่งจังหวะขยับเอวสอบกระแทกหระทั้งเข้าไปในร่องรักอย่างลืมตัว
"ฮือออ...อ๊ะ...เจ็บบบ..พี่เวย์น้ำพิงเจ็บ" หญิงสาวทนความเจ็บไม่ไหวน้ำตาไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้ง
"โอ้วววว...ซี๊ด...อดทนหน่อยนะคนดีพี่จะเสร็จแล้ว ซี๊ดดดดด..."
"อืออออ......อ๊ายยยยย....ไม่ไหวแล้ว น้ำพิงไม่ไหวเเล้ว" ร่างกายของน้ำพิงตอนนี้มันร้อนวูบวาบ เสียวซ่านไปหมด จนไม่เป็นตัวของตัวเอง
"อ่าาาา....ซี๊ดดดด....ต๊อดแน่นมาก...อ่าาาาเสียววว"
"อ่าาาาาา/อ๊าาายยยย" ชายหนุ่มและหญิงสาวกนะตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำรักออกมา
เวไนยมองไปที่จุดเชื่อมต่อระหว่างเขาเเละเธอที่ตอนนี้มีคราบเลือดไหลออกมาเปอะเปือนอย่างพึงพอใจ ทันทีที่เขาดึงเอาแก่นกายออกจากร่องทางรักน้ำรักสีขาวขุ่นผสมกับเลือดพรหมจรรย์สาวก็ไหลย้อนออกมาจากร่องทางรัก เขาหยิบผ้าหม่ผืนน้อยมาคลุมร่างให้กับน้ำพิง และลงไปนอนซุกผ้าหม่อยู่ด้วยกัน
"ขอบคุณนะที่ให้พี่เป็นคนแรก" เวไนยดึงกายสาวเข้ามากอดแนบอก
"น้ำพิงรักพี่นะคะ"
"ครับ เราพักผ่อนก่อนเถอะพรุ่งนี้เช้าจะได้รีบออกจากที่นี่กัน"
น้ำพิงพยักหน้ารับแล้วหลับตานอนไปตามที่เวไนยบอก
"หึ...ก็แค่นี้" เวไนยเผยยิ้มร้ายออกมาก่อนจะหลับตาลงตามไป
--เช้าวันรุ่งขึ้น--
"อื้ม.."เสียงร้องของนกน้อยในป่าและแสงแดดอ่อนปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้น และนอนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็อดตำหนิตัวเองไม่ได้ที่เผลอปล่อยกายปล่อยใจให้เขาได้ครอบครอง เธอจำได้ว่าเมื่อคืนนี้ได้หลับไปในอ้อมกอดของเขา เธอจึงกวาดสายตาไปทั่วกระท่อมหลังน้อยเพื่อค้นหาเขา
"เอ๊ะ!! ไปไหนของเขานะ หรือว่าจะอยู่ข้างนอก" น้ำพิงพรึมพร่ำพูดกับตัวเอง
น้ำพิงหยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่กองอยู่ด้านข้างขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินออกไปด้านนอกกระท่อม กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณก็ไม่เจอเขาจึงตัดสินใจตะโกนเรียกออกไป
"พี่เวย์คะ พี่เวย์ อยู่ไหนคะ" น้ำพิงตะโกนเรียกจนสุดเสียงแต่ก็ไม่มีการตอบรับ
"พี่...พี่เวย์ อย่าแกล้งกันเลยค่ะออกมาเถอะ" น้ำพิงร้องเรียกเวไนยด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือก่อนน้ำตาจะไหลออกมา
"เค้าคงไม่ทิ้งเราไปใช่ไหม" น้ำพิงทิ้งตัวลงนั่งทรุดไปกับผืนดิน "เค้าคงไม่หลอกเราใช่ไหม เค้า...คงไม่เป็นแบบที่คนอื่นพูดใช่ไหม หรือว่า...เรามันโง่ เรามันใจง่ายเอง ฮือออ...." น้ำพิงหลั่งน้ำตาออกมาอย่างพร่างพรูอยู่นานจนแน่ใจว่าเขาไม่กลับมาแน่ๆ จึงตัดใจข่มอารมณ์พยุงตัวเองขึ้นเดินกลับไปในหมู่บ้านที่ชมรมของเธอมาตั้งค่ายอาสาช่วยเหลือชาวบ้าน
"อ้าวน้ำพิงนี่เเกหายไปไหนมาทั้งคืนอ้ะพวกเราตามหาแทบแย่ ถามพี่เวย์เค้าก็บอกว่าไม่รู้แถมยังบอกว่ามีธุระต้องรีบกลับกรุงเทพฯไปอีก นี่ก็ว่าจะออกไปตามหาแกอีกรอบอยู่พอดี" น้ำตาลเพื่อนสนิทของน้ำพิงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"หรอ....เค้าบอกแบบนั้นหรอ" น้ำพิงกำหมัดแน่นตาแดงก่ำ
"น้ำพิง...แกมีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังไหม" น้ำตาลมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆถามเพื่อน
"น้ำตาล....คือ...คือฉัน....ฉันมันโง่ ฮืออออ" ทันทีที่น้ำตาลเอ่ยถามขึ้นน้ำพิงก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
"แกใจเย็นๆนะน้ำพิง เดี๋ยวเรากลับไปที่พักเราก่อนแล้วแกค่อยๆเล่าให้ฉันฟังก็ได้" น้ำตาลกอดปลอบใจน้ำพิงและพาเธอมายังที่พัก
เมื่อถึงที่พักน้ำพิงนั่งปลดปล่อยน้ำตาอยู่พักหนึ่งก็ยอมเปิดปากเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับเพื่อนสนิทฟัง
"เลว เลวที่สุด ไม่คิดว่าไอ้พี่เวย์มันจะเลวได้ขนาดนี้" น้ำตาลรู้สึกโมโหแทนน้ำพิงอย่างรุนแรง "แล้วนี่แกจะเอาไงต่อน้ำพิง"
"ไม่รู้ เหมือนกัน" น้ำพิงส่ายหน้าไปมา
"เอางี้ ถือว่าให้หมามันกินไปก็แล้วกันนะแก คงเป็นเวรเป็นกรรมมาแต่ชาติปางก่อนถึงได้ต้องมาเจอกับคนเลวๆอย่างมัน ฉันรู้ว่าแกเสียใจ ที่อุตส่าห์เปิดใจยอมรับรักใครสักคนนึงแต่ก็ต้องมาเจอกับคนเลวๆแบบนั้น แต่แกอย่าลืมนะแกยังมีฉันมีครอบครัวที่คอยเคียงข้างแก แกมีอนาคตที่ดีรออยู่อย่าไปจมปักกับคนเลวๆแบบนั้นเลย"
"ฉันรู้ ฉันไม่น่าใจง่ายให้คนแบบนั้นเลย" น้ำพิงกำหมัดแน่น
"วันนี้แกก็นอนพักผ่อนไปเถอะไม่ต้องออกไปตรวจชาวบ้านหรอก เดี๋ยวฉันกับคนอื่นๆดูแลเอง พรุ่งนี้เราก็กลับกรุงเทพฯกันแล้ว" น้ำตาลลูบไปที่ไหล่มนของน้ำพิงแล้วเดินออกไป
"คนเลวๆแบบนาย สักวันนายจะต้องเจ็บมากกว่าฉันร้อยเท่าพันเท่า" น้ำพิงกัดฟันขบกรามแน่น
--ฝากติดตามเเละเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ--