บทที่ 1 เพราะอยากเปย์เธอเป็นเหตุ
‘กลับบ้านมาเดี๋ยวนี้’
คำสั่งสุดสะเทือนใจเมื่อพี่ชายสุดที่รักของลินาสั่งให้เธอกลับบ้านด่วน หลังจากที่โทรไปขอยืมเงินเพื่อมาลงเรียนคอร์สทำขนมไทยเพิ่ม เนื่องจากนายเอกซีรีส์วายที่เธอกำลังติดหนึบหนับอยู่ในตอนนี้ เขาชอบกินขนมไทยทุกชนิดที่ไม่มีส่วนผสมของไข่โดยเฉพาะขนมชั้น ขนมเปียกปูนและขนมอินทนิล และนั้นก็เป็นสาเหตุให้ผู้หญิงที่ไม่เก่งเรื่องงานครัวอย่างเธอคิดจะไปลงเรียนคอร์สทำขนม ลำพังแค่พนักงานกินเงินเดือนอย่างเธอคงไม่มีเงินพอให้ใช้จ่ายได้อย่างฟุ่มเฟือยมากนัก พี่ชายจึงเป็นทางออกเดียวในตอนนี้และก็ดูเหมือนว่าความหวังจะริบหรี่มากกว่าเดิม
ซึ่งในทุกคืนวันพฤหัสบดีลินามีภารกิจที่ต้องทำคือเปิดช่องทีวีออนไลน์ เพื่อดูซีรีส์เรื่องโปรด และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้เธอตกหลุมรักนายเอกของเรื่องอย่างโงหัวไม่ขึ้นเพราะเขาน่ารักตั้งแต่แรกเห็นและการแสดงที่เข้าถึงบทบาทของตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม
‘คิว หรือ คิว ศิวัฒน์’ นายเอกซีรีส์วายที่กำลังมาแรงแห่งปี ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหวานราวกับผู้หญิง เส้นผมดกดำยาวระต้นคอ คิ้วหนา ตาตี่ ผิวขาวละเอียดราวกับน้ำนม เขามีรูปร่างที่สูงผอมเพรียว ตามแบบฉบับชายในฝันของลินา แม้ใครๆ จะพากันไปรุมกรี๊ดพระเอกของเรื่อง แต่เธอขอเป็นแฟนคลับตัวยงของนายเอกก็แล้วกัน
“มาแล้ว คุณคิวน่ารักอะไรแบบนี้”
หญิงสาวนอนบิดไปมาอยู่บนที่นอนอย่างเขินอาย เมื่อซีรีส์เรื่องโปรดเดินทางมาถึงฉากกุ๊กกิ๊กเป็นครั้งแรกของเรื่อง ฉากที่พระเอกและนายเอกกำลังนอนดูดาวด้วยกันในยามค่ำคืน และพระเอกก็ดันเผลอหันมาจูบนายเอกโดยไม่ตั้งใจ โคตรจะโรแมนติกในความคิดของลินา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ซีรีส์วายเรื่องอื่นจะเป็นกระแสมากเพียงใด แต่ลินากลับไม่เคยให้ความสนใจ จนเมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้ หญิงสาวไปเห็นทีเซอร์โปรโมทซีรีส์เรื่องนี้ในสื่อโซเชียล เธอก็โดนนายเอกตกด้วยบุคลิกที่น่ารัก อ่อนนุ่ม แต่ก็ดูดุบ้างในบางมุม นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าในเรื่อง คิว ศิวัฒน์รับบทเป็นรุ่นพี่ประธานชมรมคณิตศาสตร์ที่ต้องมารับหน้าที่สอนรุ่นน้องชมรมบาสเกตบอลห้องชมรมฝั่งตรงข้ามที่วันๆ เอาแต่โยนลูกบาสเกตบอลลงห่วงจนเกือบจะโดนรีไทร์
ฉากสุดแสนจะโรแมนติกเมื่อสักครู่ทำให้ลินาอดใจไว้ไม่ไหว จนต้องหาเพื่อนระบายอารมณ์ที่เต็มอิ่มไปกับตัวละคร
…เข้าไปเช็กในกลุ่มแฟนคลับหน่อยดีกว่า…
ลินาคิดกับตัวเอง ก่อนจะเปิดแชทกลุ่มแฟนคลับของคิว ศิวัฒน์ซึ่งเป็นกลุ่มเฉพาะที่ใช้พูดคุยและแจ้งตารางงานของคิว ศิวัฒน์เท่านั้น และในกลุ่มยังมีนายเอกที่ลินาแอบปลื้มอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้ใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรดมากยิ่งขึ้น
[พรุ่งนี้พี่คิวมีงานเปิดตัวป๊อปคอร์นรสใหม่คู่กับ ‘น้องทอย พีรวิชญ์’ …อย่าลืมมากันเยอะๆ นะคะ]
คนที่ทำหน้าที่ดูแลเพจของกลุ่มส่งข้อความมาบอกตารางงานกับแฟนคลับเกี่ยวกับงานเปิดตัวโฆษณาสินค้าตัวใหม่ที่คิว ศิวัฒน์รับงานคู่กับพระเอกในซีรีส์ ซึ่งแฟนคลับส่วนใหญ่ก็จะพากันไปให้กำลังใจศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งในบางครั้งลินาก็ลงทุนลางานไปร่วมให้กำลังใจนายเอกของเธอด้วย
สำหรับ ‘น้องทอย หรือทอย พีรวิชญ์’ เขาคือพระเอกในซีรีส์ของคิว ศิวัฒน์ที่พากันจับมือดังในชั่วข้ามคืน หลังจากซีรีส์ออนแอร์ได้เพียงหนึ่งตอนเท่านั้น ด้วยบุคลิคขี้เล่น อารมณ์ดี เขามีรูปร่างที่สูงโปร่งกว่าคิว ศิวัฒน์และผิวที่ขาวซีดตามสมัยนิยมตัดกับรอยสักสีดำที่หน้าอก นี่คงอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เหล่าแฟนพากันออกมาแสดงความชื่นชอบ อาจจะเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ศิลปินหลายท่านเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น ทั้งสไตล์การแต่งตัวหรือแม้กระทั่งการสักลงบนผิวหนังบ้างเพียงเล็กน้อย พอให้แฟนคลับได้ชื่นหัวใจเมื่อเห็นอะไรวับๆ แวมๆ บนแผ่นอกกว้าง
…ไหนๆ ก็ต้องกลับบ้านไปอุดอู้อยู่แต่ในไร่ลิ้นจี่แล้ว ขอไปสั่งลาพ่อยอดดวงใจสักหน่อยก็แล้วกัน…
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายขอเลื่อนเวลากลับบ้านที่ต่างจังหวัดจากตอนเช้าของวันพรุ่งนี้เป็นช่วงเย็นแทน ซึ่งพอพี่ชายของเธอได้ยินดังนั้นก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งชุดใหญ่ด้วยความเป็นห่วงที่เธอต้องขับรถคนเดียวในตอนกลางคืน
สำหรับบ้านของลินาทำไร่ลิ้นจี่อยู่ในจังหวัดหนึ่งของทางภาคเหนือ มีโฮมสเตย์ขนาดเล็กอีก 3 หลัง เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ติดใจบรรยากาศยามเย็นติดภูเขาสามารถเข้ามาพักได้
ซึ่งบริเวณบ้านพักนักท่องเที่ยว พี่ชายของเธอจะนำดอกไม้เขตเมืองหนาวนานาพันธุ์มาปลูกประดับไว้ จึงมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้ามาพักจนเกือบจะเต็มตลอดทั้งปีและยังมีบริการชุดหมูกระทะและชุดจิ้มจุ่มเป็นอาชีพเสริมให้กับพนักงานในไร่อีกด้วย
‘ตึ่ง ตึ๊ง’
ลินาที่นั่งพร่ำเพ้อถึงพระเอกในดวงใจ แม้ในซีรีส์เขาจะเป็นนายเอกแต่ในชีวิตจริงเขาเป็นพระเอกของเธอ
หญิงสาวกดเข้าไปดูข้อความที่แจ้งเตือนมาจากกลุ่มของแฟนคลับ ‘คิว ศิวัฒน์’ แต่เห็นชื่อคนส่งข้อความมาในกลุ่ม หัวใจของเธอก็เต้นระรัวด้วยความดีใจ
[พรุ่งนี้เจอกันนะครับ…คิดถึงทุกคนมากๆ เลย มากันให้ได้นะครับ]
…คิว ศิวัฒน์ส่งข้อความมาอ้อนฉันเหรอเนี่ย…
หญิงสาวยิ้มกรุ้มกริ่มเขินแทบจะทนไม่ไหว จนต้องก้มหน้าลงไปกรี๊ดกับหมอน ราวกับว่าคิว ศิวัฒน์กำลังคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว ทั้งที่ความจริงแล้วชายหนุ่มคุยกับทุกคนในกลุ่ม
[ไปแน่นอนค่ะ]
ลินาตอบกลับข้อความไปอย่างรวดเร็ว เธอตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะต้องไปงานนี้ให้ได้ แม้จะต้องฝ่ารถติดยาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม
ครืด ครืด…
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของลินาสั่นดังขึ้น เธอจึงกดรับสายเมื่อเห็นว่าใครโทรมา
“ว่าไงเจนชมพู”
เพื่อนสาวคนสนิทของลินา นอกจากจะจบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันแล้ว ยังตามมาทำงานที่เดียวกันอีกด้วย
“ลินา พรุ่งนี้พี่ภาวุธให้เธอเข้ามาเก็บของที่โต๊ะให้หมด…ตอนเช้านะ”
“เราเก็บของไปหมดแล้วนี่”
เมื่อวานที่หญิงสาวเข้าไปยื่นใบลาออกที่บริษัท เธอจำได้ว่าเก็บของออกมาหมดแล้ว จึงไม่น่าจะเหลืออะไรให้เก็บได้อีก
“ปฏิทินรูปคิว ศิวัฒน์ไง แล้วไหนจะกล่องสมบัติใต้โต๊ะเธออีก…มีแต่รูปคิว ศิวัฒน์ทั้งนั้น…ก็ที่เธอแอบปริ้นในบริษัทตอนช่วงพักเบรคไง”
ประโยคหลังเจนชมพูกระซิบบอกเสียงเบาเพราะเกรงว่าภาวุธที่เป็นหัวหน้าจะมาได้ยินเข้าแล้วลินาจะเดือดร้อนได้ในภายหลัง
“เก็บไว้ให้ก่อนได้ไหม”
หญิงสาวต่อรองเนื่องจากเธอต้องไปงานเปิดตัวโฆษณาสินค้าตัวใหม่ของคิว ศิวัฒน์ ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมือง ส่วนบริษัทที่เธอต้องเข้าไปเอาของอยู่ย่านชานเมือง ถ้ามัวแต่ขับรถย้อนไปย้อนมา เกรงว่าเธอคงไปให้กำลังใจคิว ศิวัฒน์ที่งานไม่ทันเป็นแน่
“ไม่ได้ พี่ภาวุธจะกินหัวฉันอยู่แล้วเนี่ย”
เจนชมพูปฏิเสธเสียงหลงเนื่องจากลินาลาออกจากงานกะทันหัน จึงทำให้ภาวุธไม่ค่อยพอใจในตัวของลินาที่ทำงานเป็นหลักในทีม จนพาลโกรธเจนชมพูที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอไปด้วยที่ไม่ยอมรั้งเพื่อนไว้ แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากตัวของเจนชมพูเองที่มักจะทำงานผิดพลาดอยู่บ่อยครั้งก็ตาม
ซึ่งจริงๆ แล้วในตอนนั้นที่ลินาบอกกับเจนชมพูเรื่องลาออก เพื่อนสาวก็รั้งเธอไว้เช่นกัน แต่เพราะคำสั่งของพี่ชายถือเป็นคำสั่งขั้นเด็ดขาดกว่า ลินาจึงจำใจต้องโบกมือลาเพื่อนๆและชีวิตอันแสนสุขสบายในเมืองหลวงไปอย่างแสนเสียดายที่เธอจะไม่มีโอกาสได้เจอกับคิว ศิวัฒน์ตัวจริงอีก…แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเธอในสายตาเลยก็ตาม
“โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเข้าไปเอาเองก็ได้”
หญิงสาวตอบรับเพื่อนสาวอย่างเซ็งๆ
หลังจากวางสายแล้ว ลินาก็เข้าไปเช็กเวลาเริ่มงานของนายเอกในดวงใจอีกครั้ง ก่อนจะตั้งนาฬิกาปลุกเผื่อเวลาเดินทางและเวลาที่จะต้องแวะเข้าไปเอาของที่บริษัทด้วย
ลินาเอื้อมไปหยิบซองสีน้ำตาลขนาดเท่ากระดาษเอสี่ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาเปิดเช็กความเรียบร้อยของไดอารี่ที่อยู่ด้านใน ก่อนจะหยิบกลีบดอกกุหลาบสีแดงใส่ลงไปและตามด้วยแป้งฝุ่นที่เทออกมาจากกระป๋องแป้งเด็กจนกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง
…คิว ศิวัฒน์จะต้องประทับใจมากแน่ๆ…
หญิงสาวยิ้มสรวลก่อนจะปิดผนึกซองสีน้ำตาลและวางลงบนโต๊ะหัวเตียงตามเดิม ลินาหยิบแผ่นมาสก์หน้าขึ้นมาแปะบนใบหน้าเนียนๆ ของเธอเอาไว้ แล้วตามด้วยการโน้มตัวลงนอนบนเตียงอันแสนอบอุ่น คืนนี้คงเป็นคืนสุดท้ายแล้วสินะที่เธอจะได้นอนอย่างสุขสบาย เมื่อนึกถึงการที่ต้องกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ชีวิตของเธอก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากพนักงานบริษัทที่มีความฝันคือการได้ทำขนมไทยอร่อยๆ ให้คิว ศิวัฒน์ทาน ต้องกลายเป็นสาวชาวไร่ตื่นเช้ามาก็เก็บลิ้นจี่ เงยหน้ามาก็เจอแต่ลิ้นจี่ ก้มหน้าก็เจอแต่ลิ้นจี่
…เฮ้อ ฉันต้องการเจอหน้าคิว ศิวัฒน์ ไม่ใช่ลิ้นจี่…