อิงดาวตรวจสอบของเสร็จเรียบร้อย จึงเดินออกมาจากร้านทองพร้อมกับน้องชาย โดยมีแตงหอมเดินออกมาส่งที่หน้าร้านด้วยเช่นกัน หญิงสาวเจ้าของร้านทองยิ้มหวาน ก่อนที่เตโชจะหันมาพูดอะไรบางอย่าง แล้วเดินอ้อมไปขึ้นนั่งประจำที่คนขับ
“ถ้าอยากอยู่ต่อ ก็ได้นะ” เสียงของพี่สาวดังขึ้นเมื่อเห็นน้องชายส่งสายตาอาลัยอาวรณ์ให้กับผู้หญิงที่กำลังจีบ
“ผมมีงานต้องทำ ส่วนเรื่องจีบสาวเอาไว้ก่อน เดี๋ยวผมไปส่งพี่ที่บ้านเสร็จก็จะกลับมาหาแม่ที่ตลาด งานวันนี้ มีแค่นี้ใช่ไหม เสร็จแล้วผมจะได้เข้าร้านต่อ”
“อืม ขอบใจนะ”
เตโชไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาทำหน้าที่ เป็นคนขับรถ ให้พี่สาว กระทั่งจนถึงบ้าน ช่วยขนของที่อยู่ด้านหลังรถลงเสร็จเรียบร้อย จึงขับรถมุ่งหน้าตรงไปหาแม่ที่แผงขายผักสดในตลาด ชีวิตของเขาก็จะวนอยู่แบบนี้
พ่อกับแม่หย่ากันได้หลายปี ทั้งสองจึงเลือกที่จะแบ่งลูกกันเลี้ยง เขาได้ไปอยู่กับพ่อ ส่วนพี่สาวนั้นได้มาอยู่กับแม่ พ่อย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัว ซึ่งตอนนี้ที่บ้านหลังนั้น มีเพียงพ่อและเขาแค่สองคน ไม่ต่างจากบ้านของแม่ที่มีแค่แม่และพี่สาว
ปัญหาของการหย่าร้างไม่ได้เกิดจากมือที่สาม แต่เกิดจากปัญหาเรื่องเงินทอง ที่เมื่อก่อนครอบครัวของเขา นั้นค่อนข้างยากจน แม่และพ่อปลูกผักขายส่ง ด้วยภาระหนี้สินที่กู้ยืมมามันค่อนข้างมาก จึงทำให้ที่ทำกินใช้ปลูกผักขายถูกยึดไป
เหตุนี้จึงทำให้ทั้งสองทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่อยมา พ่อเริ่มติดเหล้าทำให้แม่อดทนไม่ไหว ทั้งสองจึงเลิกรากันไป มรดกที่มีเหลือไว้ก็คงเป็นเพียงลูกชายและลูกสาวที่ต้องแบ่งกันเลี้ยง
เมื่อต่างฝ่ายต่างเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ พ่อของเขาก็ได้รับการแบ่งมรดกจากปู่ ทำให้มีเงินขึ้นมาเล็กน้อย และมีพื้นที่ทำการเพาะปลูกและให้เช่า กระทั่งตอนนี้เปิดปั๊มน้ำมัน พร้อมกับมีร้านขายยางและอะไหล่ต่าง ๆ ของรถยนต์
ช่วงเวลาที่ไม่เคยเข้าใจเรื่องการหย่าร้างของพ่อและแม่ได้จางหายไปแล้ว เมื่อลูก ๆ ต่างเติบโตและมีเหตุผลมากยิ่งขึ้น ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ลูก ๆ ก็ยังไปมาหาสู่กับพ่อแม่ได้เสมอ
อิงดาวเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะตรงขึ้นห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินตรงมายังโรงงานข้าง ๆ ที่สร้างเอาไว้สำหรับเก็บสินค้าของเธอ เสียงทักทายจากลูกน้องดังขึ้นแล้วหันกลับไปทำงานของตัวเองตามเดิม
“จี” เธอเอ่ยเรียกผู้จัดการสาวที่กำลังนั่งทำงานอยู่โต๊ะมุมห้อง
“จ้า” จีขานรับแล้วเดินเข้ามาหา
“ตรวจนับทองอีกรอบนะ แล้วจัดการสุ่มแจกได้เลย คืนนี้เดี๋ยวขึ้นไลฟ์สดเตรียมตัวกันให้พร้อม”
“ได้เจ๊” จีตอบรับแล้วตรงมารับกล่องทองคำมูลค่าหลายบาท
อิงดาวสั่งงานอยู่นาน ก่อนจะเดินเข้ามาในตัวบ้านอีกครั้งเพื่อที่จะนอนพักสายตา เพราะเธอตื่นแต่ตีสี่ไปลงผักที่จะขาย ได้นอนไปเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น ตอนนี้เหมือนสมองจะไม่สั่งงาน
“อ้าว?” เธอเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นน้องชายนั่งอยู่ที่โซฟา “มีอะไร?”
“ยืมตังค์หน่อย”
“เท่าไหร่?” อิงดาวไม่เอ่ยถามว่าน้องต้องการเงินไปทำอะไร
“ห้าร้อย”
“ห้าร้อย?” เธอมองหน้าของน้องชาย เงินแค่ห้าร้อยเนี่ยนะ! เงินในบัญชีมันมีเป็นล้าน กะเงินแค่ห้าร้อยก็มายืม แต่เธอก็ไม่พูดอะไรต่อยื่นเงินให้เตโชไปหนึ่งพัน “ไม่ต้องคืน”
“ผมไม่มีเงินสด ไม่ได้เอาอะไรมาจากบ้านเลย จะเติมน้ำมันรถสักหน่อย”
“ก็ไปเติมปั๊มตัวเองสิ” เธองงกับความคิดของน้องชาย
“ไม่ถึงนะสิ ไปยังไม่ถึงตลาดเลย รถน้ำมันหมดไม่งั้นก็ยืมจากแม่แล้ว” เขารีบเดินออกจากบ้าน
อิงดาวได้แต่ส่ายหน้า เดินทอดน่องขึ้นมาที่ห้องนอนอย่างเหนื่อยล้า ต่อไปนี้เธอคงต้องคอยไปขายผักช่วยแม่อยู่บ่อย ๆ เพราะแม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่มือและยังต้องทำกายภาพบำบัดอีกหลายครั้ง
ดีที่มีเตโชคงพอได้ผลัดเปลี่ยนช่วยกัน อิงดาวบอกให้แม่เลิกขายผักหลายครั้ง หากแต่แม่เธอปฏิเสธเพราะนี้คืออาชีพที่แกรัก และยังอยากทำงานเท่าที่มีแรงทำได้ เมื่อมันเป็นสิ่งที่แม่ต้องการคนเป็นลูกก็ขัดไม่ได้
เวลาผ่านไปเกือบสี่โมงเย็น อิงดาวก็มาปรากฏตัวที่ห้องครัว ตอนนี้มีแม่ที่กำลังทำอาหาร แต่วันนี้แปลกเพราะมีพ่อและเตโชที่กำลังพูดคุยกันเสียงดังอย่างสนุก เธอเดินเข้ามาอย่างงง ๆ
“พ่อมาทำไม?” ตั้งแต่พิธีขึ้นบ้านใหม่ ก็ไม่เคยเห็นพ่อมาเหยียบที่บ้านหลังนี้
“พี่อิงตกใจมากใช่ไหม” เตโชเดินเข้ามาหาก่อนจะกระซิบบางอย่างกับเธอ “พี่คิดว่าไง?”
“แน่ใจเหรอ” เขาถามน้องชายเสียงเบา ไอ้ตกใจก็ตกใจ แต่ไม่ค่อยแน่ใจถึงสาเหตุที่พ่อมาที่นี่ “แล้วแม่ว่าไง?” เธอถามเตโชต่อ
“ไม่รู้ แต่ไม่เห็นจะว่าไง” เขาเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
“พ่อเอาจริงใช่ไหม?” อิงดาวเดินเข้ามาถามพ่อก่อนที่พ่อจะพยักหน้ายิ้ม ๆ เธอยิ้มแห้งแล้วเดินไปหาแม่ที่กำลังทำอาหารค่ำ
“มีอะไร?” แม่หันหน้ามาถามเมื่อเธอสวมกอดเข้าที่เอว “มาอ้อนแบบนี้อยากได้อะไร?”
“พ่อมาขอคืนดีจริงเหรอ” เธอถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“อืม” อิงอรขานรับในลำคอ ความรู้สึกเขินอายทำให้ต้องหันมาสนใจอาหารที่อยู่บนเตาแทน
“แล้วยังไงต่อ? จะกลับมาอยู่ด้วยกันตอนไหนเหรอ?” อิงดาวอยากรู้บทสรุปของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบ
เธอคิดว่าแม่คงต้องคิดอีกมาก ถ้าไม่ปฏิเสธตั้งแต่ตอนแรกพ่อของเธอก็ยังมีหวังที่จะกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง แน่นอนว่าลูก ๆ คงไม่คัดค้าน ดีเสียอีกจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
ชาติกวักมือเรียกลูกสาว อิงดาวมองเห็นจึงเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะได้ยินคำตอบจากคนเป็นพ่อ
“พ่อต้องจีบแม่ใหม่อีกรอบ” นี่คงเป็นคำตอบแล้วว่า...คงอีกนานกว่าจะคืนดีกันได้
“อายุตั้งเท่าไหร่ ยังจะมาจีบกันเหมือนเด็ก ๆ” เธอส่ายหน้าให้กับพ่อและแม่ ส่วนเตโชได้แต่หัวเราะชอบใจ แต่ทำไมถึงได้รู้สึกมีความสุขแปลก ๆ แบบนี้
“เมื่อก่อนพ่อจีบแม่ยังไงเหรอ?” เตโชถามพ่อ
“พ่อไปเจอแม่ที่งานวัด ตอนนั้นแม่สวยที่สุดในกลุ่มเพื่อน ๆ เลยนะ พ่อก็เลยเข้าไปพูดคุยถามว่ามีแฟนหรือยัง พอรู้ว่าไม่มีก็เช้าถึงเย็นถึง ไม่นานก็ให้ผู้ใหญ่ไปขอ”
“นานไหมพ่อกว่าจะได้แต่งงาน” เตโชถามต่อ
“ก็หลายเดือน แม่แกมีหนุ่มมาจีบเยอะ กว่าพ่อจะผ่านด่านมาได้ มึงว่าพ่อเก่งไหม” ชาติอวดกับลูกชายว่าเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุด
“แล้วทำไมตอนหย่ากันไม่นึกถึงเวลารักกันบ้าง” อิงดาวบ่นออกมาทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป
“เป็นเพราะพ่อเอง พ่อรู้ว่าตัวเองผิดอย่าไปโทษแม่เลยนะ” ชาติสำนึกผิดทุกครั้ง เมื่อย้อนคิดถึงอดีตที่เคยผ่านมา
“หนูก็แค่พูดไปงั้นแหละ ถ้าพ่อจะกลับมาคืนดีกับแม่ หนูขอแค่อย่างเดียวนะ...อย่าทำให้แม่กับพวกเราเสียใจกันอีก” อิงดาวอยากให้การกลับคืนมาของพ่อครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
“พ่อสัญญา พ่อจะไม่ทำให้ลูกกับแม่เสียใจ พ่อมาที่บ้านนี่บ่อย ๆ ได้ใช่ไหม” ชาติยังรู้สึกเกรงใจอิงดาว
“หนูเป็นลูกพ่อหรือเปล่าล่ะ ถ้าพ่อจะมาที่บ้านลูกสาวตัวเองทำไมจะมาไม่ได้ หนูไม่เคยห้ามพ่อเลยสักครั้ง มีแต่พ่อที่ไม่อยากมาหาหนูต่างหาก” อิงดาวพูดออกมาด้วยความน้อยใจ ทำให้ชาตินิ่งไป