“ดีสิ ว่างก็มาค้างที่บ้านป้าสักสองสามวันสิลูก”
ชายหนุ่มยิ้มให้คุณป้า ขณะที่คุณมาริสากระแอมเบาๆ คุณนิรมลเหลือบตามองท่าทางอึดอัดของอีกฝ่ายแวบหนึ่งพลางยิ้มออกมา
“แน่นอนครับ” เขารับคำแข็งขัน จากนั้นทั้งสามก็กลับไปยังห้องนั่งเล่นอีกครั้ง
“กลับมาคราวนี้มีสาวๆ ติดตามมาด้วยอีกหรือเปล่า” คุณนิรมลเอ่ยถาม เพราะแม้หลานชายคนเล็กจะไร้ซึ่งวี่แววเรื่องคู่ครอง แต่ชื่อเสียงเรื่องสาวๆ มากนั้นกลับไม่เคยขาด
“โธ่ ผมกลับมาคนเดียวครับ ไม่มีใครกลับมาด้วยหรอก กลับมาคราวนี้ตั้งใจมาช่วยงานคุณพ่อเต็มตัว คงไม่มีเวลาสนใจสาวๆ ที่ไหนอีกแล้ว” เขาเอ่ยยิ้มๆ แววตาดูทะเล้นนิดๆ ยามถูกถามถึงเรื่องสาวๆ ขึ้นมา
“ก็ดี อยู่คนเดียวก็สบายใจดี ดูป้าเป็นตัวอย่าง ไม่มีใครทำให้ต้องปวดหัว” ท่านเอ่ยแซวหลานชาย แววตาที่มองนั้นมีความหมายหลายประการแฝงมาด้วย
“อุ๊ย คุณพ่อเขาดูๆ ให้อยู่ค่ะพี่นุ่ม แต่ไม่รู้พ่อคนเลือกมากจะถูกใจไหม” ท่านกล่าวพลางค้อนบุตรชาย หมายใจว่าลูกชายคนเล็กจะพบเจอกับคนที่เหมาะสมสักคนในแวดวงเดียวกันในไม่ช้า
คงไคยเพียงยิ้มนิดๆ สำหรับเรื่องครอบครัวแล้ว ยังไม่มีใครทำให้เขารู้สึกอยากร่วมชีวิตด้วยจริงๆ สักคน แต่ละคนที่ผ่านเข้ามา ไม่มีใครทำให้เขารู้สึกว่าได้รับการเติมเต็มเลยสักครั้ง ทว่าวูบหนึ่ง ใบหน้าเรียวเล็กติดเศร้าของใครบางคนก็ผ่านเข้ามาในความคิด ชายหนุ่มคิ้วกระตุก รีบปัดภาพนั้นให้ออกไปจากหัวของเขาโดยเร็วทันที
เวลาเดียวกัน เมื่อจัดการเรื่องในครัวเรียบร้อย อรจิราจึงเดินกลับไปยังห้องทำงานส่วนตัวของตน แม้ไม่กลัวการปะทะกับคงไคย แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขาในเวลานี้ มันคงไม่ดีนักถ้าต้องเผชิญหน้ากับคนที่เกลียดหล่อนเสียขนาดนั้น
ขณะที่กำลังเริ่มดูบัญชีรายรับรายจ่าย ประตูก็ถูกเคาะเบาๆ ด้วยมือของแม่บ้าน
“มีอะไรหรือค่ะน้าเทียน” หญิงสาวยิ้มอ่อนให้กับแม่บ้าน
“น้าเอาเครื่องดื่มกับผลไม้มาให้ค่ะ”
“คุณแม่กลับหรือยังคะ” หญิงสาวเอ่ยถึงคุณมาริสา
“คงจะใกล้แล้วล่ะค่ะ” น้าเทียนตอบ พลางมองหญิงสาวด้วยสายตาเอ็นดู อรจิราเป็นสาวสวย แต่กลับมาอยู่กับคุณนิรมล เก็บตัวอยู่กับบ้านมากกว่าที่จะออกไปทำงานเฉิดฉาย ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ทำอะไรก็ทำได้เรียบร้อยหมดจด จนคุณนิรมลให้ความไว้วางใจและรักใคร่เอ็นดูไม่ต่างจากลูกหลานคนหนึ่ง แม้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีปัญหากับหลานชายสุดที่รักของท่านก็ตามที แต่นิสัยใจคอของหญิงสาวกลับทำให้ทุกคนในบ้านแห่งนี้รักหล่อนอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ อีกต่อไป และไม่มีใครคิดว่าอรจิราจะทำเรื่องแบบนั้นขึ้นมาได้ เบื้องหลังความบาดหมางระหว่างอรจิรากับคงไคยจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น
“ขอบคุณมากนะคะ”
น้าเทียนยิ้มให้หญิงสาวแล้วเดินออกจากห้อง
ด้านคุณนิรมลเมื่อหันไปเห็นน้าเทียนที่เดินตรงมาจึงเรียกเอาไว้
“เทียน”
“คะคุณนุ่ม”
“อรทำอะไร”
ชื่อที่หลุดออกจากปากของคุณนิรมลทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ท่านขมวดคิ้ว คงไคยมองคุณป้าของตนเองด้วยสายตาคาดคั้น
“อยู่ในห้องทำงานค่ะ เทียนเพิ่งเอาเครื่องดื่มกับผลไม้ไปให้เมื่อสักครู่นี้เอง”
คุณนิรมลพยักหน้ารับรู้
“ขอบใจมาก”
เมื่อน้าเทียนเดินจากไป คงไคยก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที
“คุณป้าหมายถึงใครครับ”
ท่านสบตาหลานชายพร้อมรอยยิ้มที่แต้มเรียวปาก ต่างจากคุณมาริสาที่รู้สึกอึดอัด เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
“นี่คงยังไม่มีใครบอกใช่ไหม” คุณนิรมลหันไปถามน้องสะใภ้ ทำให้อีกฝ่ายฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับสบตาเป็นคำถามของลูกชาย
“ยังค่ะ”
เจ้าบ้านพยักหน้ายิ้ม ก่อนสบตาหลานชาย
“อรจิรา น้องสาวของพรทิพา”
เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจน คงไคยก็รู้สึกใจกระตุก เขาหันไปสบตามารดา คุณมาริสายิ้มเจื่อนเพราะไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับเขามาก่อน
สีหน้าที่เรียบตึงของหลานชายทำให้คุณนิรมลผ่อนลมหายใจยาว ก่อนจะยิ้มออกมา
“อย่าโกรธคนอื่นๆ เลย ถ้าจะโกรธก็โกรธป้าเถอะ”
ชายหนุ่มสบตาท่านนิ่งอยู่อึดใจ เขาไม่ได้โกรธท่านแต่รู้สึกบอกไม่ถูกที่รู้ว่าอรจิราอยู่ที่นี่ด้วย
“ไม่ได้โกรธคุณป้าหรอกครับ ไม่ได้โกรธใครด้วย แค่แปลกใจเท่านั้น” เขายอมรับตามตรง แปลกใจตนเองเหมือนกันไม่รู้ว่าความโกรธที่เคยมีต่อหญิงสาวจางหายไปไหน อาจมีความรู้สึกขุ่นมัวอยู่บ้างแต่ก็น้อยเต็มที คงเป็นเพราะกาลเวลาที่ผ่านไปกระมังที่ทำให้เขาไม่เสียเวลาคิดถึงเรื่องเก่าขึ้นมาอีก
“คิดแบบนั้นก็ดีแล้ว” คุณนิรมลกล่าวขึ้น ส่วนคุณมาริสาเห็นว่าลูกชายเงียบลงไปจึงคิดว่าควรจะกลับเสียที
“สอง เรากลับกันหรือยังลูก”
คงไคยสบตามารดา พลางคิดไปถึงใครอีกคนที่เขายังไม่เจอหน้า ก่อนหันไปมองผู้เป็นป้าที่ยิ้มจางๆ
“กลับไปพักผ่อนเถอะ เอาไว้วันหน้าค่อยมาหาป้า”
ชายหนุ่มยิ้มให้ท่าน
“แม่รอผมครู่หนึ่งนะครับ”
“จะไปไหน” คุณมาริสาหวั่นใจ ชายหนุ่มจึงยิ้มให้ท่าน
“จะไปเข้าห้องน้ำครับ”
คุณนิรมลยิ้มขัน ขณะที่คนเป็นแม่ลอบผ่อนลมหายใจยาวพลางพยักหน้า เมื่อร่างสูงก้าวพ้นจากห้อง ท่านจึงหันมายิ้มกับน้องสะใภ้
“อย่ากังวลไปเลย ถ้าเขาจะเจอกันมันก็ไม่แปลกหรอก เรื่องก็ผ่านมานานแล้ว คงไม่มีอะไร”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีน่ะสิ”
“พวกเขาไม่ใช่เด็กๆ อีกแล้ว หากเกิดอะไรขึ้นพี่มั่นใจว่าคงจะต้องเกิดจากการไตร่ตรองอย่างแน่นอน เธอเองก็เลิกคิดมากเสียที”
คุณมาริสาถอนหายใจยาว ก่อนจะมองไปยังช่องทางที่ลูกชายเดินหายไป