๒
แค่เรื่องในอดีต
ภายในบ้านตึกสีขาวกลางเก่ากลางใหม่มีรั้วรอบขอบชิด สมาชิกภายในบ้านมีทั้งหมดห้าคน คนแรกคือคุณนิรมลหรือคุณนุ่มผู้เป็นเจ้าของ นางอำภาแม่ครัว น้าเทียนแม่บ้านทำความสะอาด นายสนคนขับรถและคนสวน และ สมาชิกคนสุดท้าย...อรจิรา
อรจิราเข้ามาอยู่กับคุณนิรมลเมื่อห้าปีก่อน เรียกได้ว่าเรียนจบได้ไม่นานท่านก็ขอตัวหญิงสาวให้มาอยู่ด้วยกันทันทีที่รู้ว่าหล่อนกำลังจะออกจากบ้านศิริธารา แม้เหตุการณ์ระหว่างหลานชายกับหญิงสาวจะก่อให้เกิดความแคลงใจกับท่านอยู่บ้าง แต่เมื่อได้อยู่ด้วยกันกลับเกิดความรู้สึกเอ็นดูมากกว่าความรู้สึกอคติที่เคยมีมา และนับวันยิ่งสูญสลายหายไปราวไม่เคยเกิดขึ้น
“ได้ข่าวว่าตาสองกลับมาจากฮ่องกงแล้ว คราวนี้ตกลงอยู่ถาวร” ท่านเปรยขึ้นเมื่อร่างบอบบางก้าวเข้ามาพร้อมกับชายามสาย
อรจิราหลุบตาลงขณะนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กข้างๆ คุณนิรมลภายในห้องพักผ่อน หัวใจดวงน้อยกระตุกโลด ร่างกายมือเท้าชาวูบเมื่อได้ยินชื่อของเขาอีกครั้งในรอบหลายปี แต่กระนั้นกลับไร้ซึ่งความหวาดกลัวอย่างที่เคยเป็น อาจเพราะวันนี้หล่อนไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาอีกต่อไป แต่เป็นสาวเต็มตัวที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่พร้อมเผชิญทุกปัญหาที่จะถาโถมเข้ามาทุกเมื่อ
คุณนิรมลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่ออรจิราไม่กล่าวว่าอะไร พลางหลุบตาลงมองถ้วยชาลายดอกกุหลาบในมือ ยกขึ้นจิบแล้ววางลงบนจานรองลายเดียวกัน
“วันนี้คงเข้ามาที่นี่ เธอจะออกไปข้างนอกก็ได้นะ ถ้าไม่อยากเจอกับตาสอง”
หญิงสาวสบตาท่าน ต่อให้ไม่เจอวันนี้ วันหน้าก็ต้องเจอกันอยู่ดี การหนีไม่ใช่ทางออกสำหรับหล่อนมานานแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ”
คุณนิรมลสบตาคนตรงหน้าอย่างพิจารณาแล้วยิ้มอ่อนตามแบบของท่าน
“ตามใจก็แล้วกัน”
ใบหน้าของหญิงสาวราวกับถูกแต้มด้วยสีสันของกุหลาบงาม ทว่าในใจกลับซุกซ่อนเอาไว้ซึ่งความกังวล
เมื่อห้าปีก่อนขณะที่กำลังตัดสินใจออกไปใช้ชีวิตของตนเอง คุณนิรมลรับรู้จึงชักชวนให้มาอยู่ด้วยกัน เวลานั้นท่านกำลังต้องการใครสักคนมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว งานที่หญิงสาวได้รับมอบหมายทุกวันนี้นอกจากดูแลท่านแล้วยังมีการดูแลเรื่องรายรับรายจ่ายภายในบ้านและกิจการส่วนตัวอื่นๆ
คุณนิรมลเป็นหญิงโสดที่มีความมั่นคงในชีวิตสูงซึ่งต้องแลกมาด้วยการทำงานอย่างหนัก ท่านมีกิจการหลายอย่าง เช่นหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทนำเข้าส่งออกขนาดใหญ่ คอนโดฯ หรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พักตากอากาศหรูริมทะเล ทว่าตั้งแต่มีอรจิรามาช่วยความเหน็ดเหนื่อยทั้งหลายก็ดูจะคลายลงไปทันที หญิงสาวช่วยท่านได้มาก แม่สาวคนนี้ทำให้ท่านรู้จักคำว่าพักผ่อนเป็นครั้งแรก หล่อนเรียนรู้เร็วและได้ดั่งใจไปเสียทุกอย่าง นับวันท่านก็ยิ่งรักและเอ็นดูอรจิราราวกับลูกหลานคนหนึ่ง เมื่อได้รู้ว่าหลานชายกลับมาท่านจึงอยากรู้ว่าหญิงสาวจะทำอย่างไรหากจะต้องเผชิญหน้ากับคงไคยอีกครั้ง
ช่วงสิบเอ็ดนาฬิกา คุณมาริสาและคงไคยเดินทางมาถึงบ้านของคุณนิรมล ทั้งสองตั้งใจอยู่รับประทานอาหารเที่ยงกับท่าน เช่นเดียวกับเจ้าบ้านที่ตั้งใจเชิญทั้งสองอยู่รับประทานอาหารเที่ยงด้วยเช่นกัน
“คุณป้ายังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ” คงไคยหยอดคำหวานทันทีที่นั่งลงข้างๆ ท่านพร้อมสวมกอดด้วยความคิดถึง เช่นเดียวกับคุณนิรมลที่กอดตอบหลานชายอย่างคิดถึงเช่นเดียวกัน
“อย่ามาปากหวานเลยจ้ะพ่อ ป้าน่ะแก่แล้ว ป้ารู้ตัวดี” ท่านกล่าวพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน พลางสบตาน้องสะใภ้ด้วยสายตาที่รู้กัน “เที่ยงนี้อยู่กินข้าวด้วยกันนะ ป้าให้แม่บ้านทำอาหารเอาไว้แล้ว”
“ไม่ชวนก็จะอยู่ เพราะผมกับคุณแม่ตั้งใจมาฝากท้องที่บ้านคุณป้าพอดีเลยครับ”
“ใช่ค่ะ สาแวะซื้อหมูกรอบจากร้านประจำมาด้วย ให้เด็กเอาไปอุ่นแล้ว” คุณมาริสากล่าว จากนั้นก็เหลือบตามองลูกชายแวบหนึ่ง นึกอยากถามว่าอรจิราไปไหนเสีย หรือว่าต้องการหลบหน้า
“ขอบใจนะ พี่ก็ให้แม่ครัวทำกับข้าวเอาไว้หลายอย่าง มีของชอบของสองด้วยนะลูก” ท่านยิ้มกับหลานชาย เคยตั้งใจว่าสักวันท่านจะยกมรดกให้กับหลานชายทั้งสองคนได้ดูแลต่อ กระทั่งคงไคยจากไปนานความคิดของท่านจึงหยุดชะงักลงชั่วคราว เพิ่งมาคิดอีกครั้งตอนที่รู้ว่าชายหนุ่มกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวร
“อะไรเหรอครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างนึกสนใจ สมัยเด็กๆ เขาชอบมานอนค้างที่บ้านคุณป้าเป็นประจำ ท่านจะทำของอร่อยๆ ให้เขากับพี่ชายได้รับประทานเสมอ
“เอาไว้ดูเอาเองก็แล้วกันนะ มีทั้งของคาวของหวานเชียวละ”
คงไคยยิ้มอย่างพอใจ ทั้งสามพูดคุยไปจนถึงเวลาเที่ยงตรง อาหารจึงถูกลำเลียงขึ้นโต๊ะ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแม่บ้านจึงมาเชิญทั้งสาม
“อาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ”
คุณนิรมลยิ้มขอบใจ ก่อนหันไปยังหลานชาย
“ไปกินข้าวกันเถอะ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน พร้อมกับจับจูงคุณป้าตรงไปยังโต๊ะอาหาร อาหารที่เรียงรายทำให้เขานึกถึงสมัยเด็ก แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของที่เขาชอบทั้งสิ้น ชายหนุ่มสบตาคุณนิรมลอย่างซาบซึ้งใจ ท่านไม่เคยลืมว่าเขาชอบกินอะไร
“ขอบคุณนะครับคุณป้า มีแต่ของชอบของผมทั้งนั้นเลย”
คุณนิรมลสบตาหลานชายพลางบอก
“ป้าไม่เคยลืมว่าสองชอบกินอะไร”
คำตอบของท่านทำให้คนฟังตื้นตันใจ แต่เวลาเดียวกันก็นึกเสียใจที่ครั้งหนึ่งเคยทอดทิ้งท่านไปนาน จากนั้นทั้งสามจึงร่วมรับประทานอาหาร
“อร่อยไหมลูก” คุณนิรมลเอ่ยถาม
“อร่อยมากเลยครับ แม่ครัวคนเดิมทำหรือเปล่า” เขาถามอย่างสนใจขึ้นมาอีก เพราะรสชาติไม่เหมือนเดิมนัก แต่ดูเหมือนว่าจะอร่อยขึ้นกว่าเดิม
คุณนิรมลสบตาคุณมาริสาแวบหนึ่งก่อนยิ้มให้
“ไม่ใช่หรอก แม่ครัวคนใหม่น่ะ รสมือดีมาก ป้าก็ชอบ นี่เพิ่งหัดทำเป็นครั้งที่สองเองนะ”
คนฟังเลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกทึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา
“สงสัยผมคงจะต้องหาเวลามากินข้าวกับคุณป้าบ่อยๆ เสียแล้วครับ”
รอยยิ้มของชายหนุ่มทำให้คุณนิรมลพอใจ แต่อีกใจครุ่นคิดใคร่รู้ หากคงไคยรู้ว่าเจ้าของฝีมือเป็นใคร เขาจะทำหน้าอย่างไรกัน