๓ เผชิญหน้2

1467 คำ
“ถ้าไม่ปล่อยล่ะ เธอจะร้องกรี๊ดๆ แล้วบอกว่าฉันลวนลามเธออีกหรือเปล่าฮึ” เขาเลิกคิ้วสูง ริมฝีปากแสยะยิ้มราวกับพวกโรคจิต ท่าทางของคนทั้งสองทำให้ใครต่อใครเริ่มมองมาอย่างสนใจ หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ แล้วร้อนหน้าวูบวาบ หันกลับมามองคนตัวโตด้วยความโกรธกรุ่น เขามันบ้า! คงไคยมองคนที่กำลังโกรธจนหน้าดำหน้าแดงด้วยความรู้สึกสนุก ปกติเขามักจะเป็นฝ่ายโกรธหล่อนจนแทบคลั่ง แต่เวลานี้เขาคิดว่าค้นพบวิธีที่ทำให้ตนเองผ่อนคลายได้แล้วละ “ฉันว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะตอนนี้ใครๆ เขาก็มองคุณด้วยสายตาตำหนิกันทั้งนั้น และถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้ไปถึงหูคุณป้า ก็ช่วยเอามืออันแสนสูงส่งของคุณออกจากมือที่แสนต่ำต้อยของฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้น ดีเอ็นเอชั้นต่ำของฉันจะติดต้องเนื้อตัวของคุณไปได้!” หญิงสาวพูดจบก็กระชากมือออกมาจนได้ ทำให้ชายหนุ่มมองหล่อนด้วยสายตาวาวโรจน์ ยืนนิ่งขึงอยู่กับที่ขณะที่แม่คนอวดดีเดินหนีเขาออกไปทางประตูหน้าเรียบร้อย “เราต้องได้เจอกันอีกแน่ อรจิรา” เขาบอกตนเองเช่นนั้น มือข้างที่กุมมือเล็กเมื่อครู่ยังรู้สึกถึงไออุ่นจางๆ สัมผัสแผ่วๆ ติดแน่นในความรู้สึกจนเขาไม่ค่อยพอใจตัวเองนักว่าเหตุใดจึงมีปฏิกิริยากับหล่อนรวดเร็วแบบนี้ ซึ่งมันไม่ดีเลย ไม่ดีกับตัวเขาเอามากๆ ค่ำนั้น อรจิราตั้งใจทำของโปรดเอาไว้ให้คุณนิรมลรับประทาน หญิงสาวจึงบรรจงอย่างเต็มที่ แล้วจู่ๆ น้าเทียนก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณอรคะ คุณนุ่มขอให้คุณอรทำอาหารเพิ่มอีกสักอย่างจะได้ไหมคะ” อรจิราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบ “ได้สิคะ ให้ทำอะไรเพิ่มคะ” สาวร่างบางหมุนตัวตรงไปยังตู้เย็น แล้วกวาดตามองวัตถุดิบ “ต้มข่าไก่ค่ะ” คนฟังชะงักงันไปอึดใจ ก่อนจะหันมามองคนพูด ดวงตามีร่องรอยของความอยากรู้เต็มเปี่ยม อีกฝ่ายเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มอ่อน “คุณสองมาค่ะ คุณนุ่มก็เลยสั่งให้น้ามาบอกกับคุณอรนี่แหละ คุณอรโอเคนะคะ” เพียงเท่านั้นก็ชัดเจน หล่อนรู้ว่าเขาชอบต้มข่าไก่มาก “โอเคสิคะ แค่แปลกใจที่เขามา” หญิงสาวพึมพำเบาๆ ขณะหยิบเอาเนื้อไก่ออกมาจากตู้เย็น นางอำภาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สบตาน้าเทียนแวบหนึ่งก่อนหันไปมองร่างระหง “เมื่อก่อนตอนยังไม่ไปฮ่องกง คุณสองมาหาคุณนุ่มบ่อยค่ะ มาค้างด้วยเป็นประจำ ไม่แน่ว่าวันนี้อาจอยู่ค้างที่นี่ก็ได้นะคะ” นางออกความเห็นอย่างพอมองออก เพราะสองป้าหลานคู่นี้สนิทกันมาแต่ไหนแต่ไร แต่สิ่งที่กล่าวออกมากลับทำให้คนฟังรู้สึกหนักใจ ซึ่งแม่บ้านเก่าแก่ก็เข้าใจความรู้สึกของสาวรุ่นลูกเช่นกัน “อย่าคิดมากไปเลยคุณอร ถ้าหลีกเลี่ยงก็ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ” อรจิรายิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยเช่นนั้น “ถ้าอรเลี่ยงแล้ว แต่เขายังตามรังควานอยู่ล่ะคะ จะให้ทำยังไง” หญิงสาวเอ่ยถามขณะคิดถึงเหตุการณ์ในช่วงเที่ยงของวัน “อุ๊ย คุณสองไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ” นางเอ่ยอย่างมั่นใจเกินร้อย ทำให้อรจิราคร้านจะถกเถียง “เอาเป็นว่าอรจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ปะทะก็แล้วกันนะคะป้า” หญิงสาวยิ้มอ่อนให้นางอำภา ฝ่ายนั้นจึงยิ้มตอบออกมาอย่างพอใจ เพราะต่อให้รู้สึกสนิทใจหรือเอ็นดูอรจิรามากแค่ไหน แต่หากเทียบกับคงไคยกลับยังน้อยกว่ามากทีเดียว เมื่อถึงเวลาตั้งโต๊ะอาหาร ทั้งคงไคยและอรจิราจึงต้องเผชิญหน้ากันอย่างไม่อาจเลี่ยงโดยมีคุณนิรมลคั่นกลางระหว่างคนทั้งสอง แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ต้องนั่งประจันหน้ากันอยู่ดี “กินสิลูก ต้มข่าไก่ ของโปรดสองไม่ใช่เหรอ” คนนั่งหัวโต๊ะมองหลานชายยิ้มๆ พลางตวัดสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งข้างท่านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคงไคย “ผมจะไม่ท้องเสียใช่ไหมครับ” เขากระเซ้าคุณป้า แต่สายตาตวัดมองคนทำอย่างดูแคลนนิดๆ ทำให้อรจิราเม้มปากเข้าหากัน ก่อนสบตาคนที่พยายามยั่วยุอารมณ์ของหล่อนให้คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลาที่เจอหน้า “คุณป้าลองทานอันนี้ก่อนนะคะ” หญิงสาวตักกับรสเลิศให้กับคุณนิรมล เลิกสนใจคนตัวโตที่ทำตาวับวาบใส่ หล่อนจะไม่สนใจคำยั่วยุของเขาหรือสายตาวาวโรจน์และรอยยิ้มหมิ่นแคลนสักนิดเดียวคอยดูสิ! คุณนิรมลยิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยขอบใจเมื่อหญิงสาวตักกับใส่จานให้ท่าน ก่อนจะหันไปมองหลานชายที่ตอนนี้ทำหน้าตึงนิดๆ มองคนตัวบางตาขวาง พอสบตาท่านเขาก็ถอนหายใจยาวแล้วตักกับข้าวใส่จานตนเอง อรจิราเหลือบตามองเขาแล้วยกยิ้มราวจะยั่วเย้ยเขากลายๆ แต่เมื่ออีกฝ่ายตวัดสายตามองมาคิ้วโก่งงามก็เลิกขึ้นก่อนหันไปยิ้มแย้มอ่อนหวานกับคุณนิรมลอีกครา คงไคยเก็บความแค้นเอาไว้ในใจ บอกตนเองว่าเขาไม่ใช่เด็กๆ ที่จะคล้อยตามไปกับการปลุกปั่นยั่วยุอารมณ์ของหล่อน แต่ผู้ใหญ่อย่างเขามีวิธีที่จะสั่งสอนหล่อนได้ดีกว่าการส่งสายตายุแหย่แบบที่หล่อนกำลังทำอยู่ตอนนี้! พลันสายตาของเขาก็กวาดมองคนตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน หล่อนเป็นสาวสวยเต็มวัย ดูเต็มไม้เต็มมือกว่าเมื่อสิบปีก่อนมากโข บางที ถ้าหล่อนนึกอยากจะยั่วเขาอีกสักครั้ง คราวนี้หล่อนอาจไม่ต้องลงแรงมากนัก อรจิราหัวใจกระตุกวาบพร้อมความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ที่เกิดขึ้นสลับกันไปมาเมื่อสบสายตาวาววามชอบพิกล จากที่จะทำยั่วโมโหให้เขาอกแตกตายเล่นๆ ตอนนี้หล่อนกลับมาเป็นฝ่ายหวาดระแวงเขาอีกครั้ง คงไคยไม่ใช่คนที่จะรับมือง่ายนัก เขามักมีวิธีทำให้หล่อนหวาดกลัวได้เสมอ เวลานี้ก็เช่นกัน หญิงสาวเกิดอาการอิ่มตื้อขึ้นมาดื้อๆ เมื่อเห็นสายตาคมกริบที่ลูบโลมลงมาบนเนื้อตัวหล่อนแบบนั้น พลันขนกายลุกชัน เกิดความรู้สึกอยากลุกหนีออกจากโต๊ะอาหารในทันทีหากทำได้ คุณนิรมลผ่อนลมหายใจเมื่อเห็นว่าหลานชายกำลังเล่นสงครามประสาทกับเด็กของท่าน “อิ่มแล้วหรืออร” คุณนิรมลเอ่ยถาม หญิงสาวจึงหันไปยิ้มให้ท่าน “ค่ะ” “ถ้าอิ่มแล้วก็ไปเถอะ ตรงนี้ปล่อยเอาไว้ให้เป็นหน้าที่ของเทียนก็แล้วกัน เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่นะ ไปพักผ่อนเถอะจ้ะ” เมื่อได้ไฟเขียวจากคุณนิรมล หญิงสาวก็รู้สึกโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก “ขอบคุณค่ะ” พูดจบร่างระหงก็ลุกขึ้นยืน แต่ก่อนไปยังตวัดตามองไปยังคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม และหากมองไม่ผิด หล่อนเห็นแววตาวาววามและมุมปากที่ยกยิ้มราวจะสื่อบางอย่างแก่หล่อนออกมากลายๆ นั่นทำให้หญิงสาวรีบออกไปจากโต๊ะอาหารอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังคงเงียบเชียบและเรียบร้อยเช่นเดิม เมื่ออรจิราออกไปแล้วชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาเมื่อถูกคุณป้าค้อนคม “ไปแกล้งน้องทำไมตาสอง” ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง แสร้งทำหน้าตาไร้เดียงสา “ผมเปล่านะครับ คุณป้าคิดมากไปเอง คุณป้ากินอันนี้ดีกว่านะครับ ผมว่าอร่อยดี” เขาว่าแล้วก็ตักกับข้าวใส่จานคุณนิรมลอย่างเอาใจ ฝ่ายเจ้าบ้านยิ้มอย่างระอา “นี่ก็ฝีมืออรเหมือนกัน ชอบก็กินเยอะๆ นะลูก” ท่านว่าพลางตักกับข้าวชนิดเดียวกันใส่จานหลานชายบ้าง ชายหนุ่มหลุบตามองด้วยสีหน้าเจือยิ้ม แม้จะบอกตนเองว่าเขาเกลียดหล่อนอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ยอมรับว่ารสมือของหล่อนพัฒนาไปไกลทีเดียว ลิ้นของเขาบอกเช่นนั้น... ก็ไม่รู้ว่าตัวหล่อนเอง...จะรสเลิศเหมือนอาหารที่ตั้งใจปรุงมาทั้งหมดนี้หรือเปล่า คุณนิรมลหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าอ่อนโยนของหลานชาย บางทีเขาอาจคงยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนนับแต่กลับมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม