bc

สุดที่รักฉบับแฟนเก่า

book_age18+
91
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
ผู้สืบทอด
หวาน
ชายจีบหญิง
ลึกลับ
ขี้แพ้
มัธยมปลาย
สตรีนิยม
passionate
like
intro-logo
คำนิยม

'เปเปอร์' แฟนเด็กที่คบกันมาตั้งแต่สมัย ม.ปลาย

อยู่ ๆ ก็มาบอกเลิก 'เรนเดียร์' แล้วหายไปเป็นปี

จนกระทั่งวันหนึ่งเขากลับมาขอจีบเธอใหม่อีกครั้ง

ในเวลาที่เธอกำลังจะเริ่มสานสัมพันธ์กับคนใหม่

********************

เรนเดียร์ นักศึกษานิเทศศาสตร์ปี 4

ดีกรีดาวมหาวิทยาลัย

x

เปเปอร์ นักศึกษาวิศวะคอมปี 2

หล่อตี๋ อยากเป็นเด็กดีของเรนเดียร์

อดีตได้เป็นคนรัก ปัจจุบันกำลังตามจีบอีกครั้ง

********************

'เปอร์มองฉันด้วยแววตาเรียบนิ่ง ฉันไม่รู้เลยว่าสายตาคู่นั้นกำลังจะบอกความรู้สึกอะไร เขาเป็นคนที่เก็บซ่อนไว้ได้เก่ง ผิดกับฉันที่ตอนนี้คงแสดงความตกใจจนแทบช็อกผ่านทางสีหน้าและแววตาออกมาหมดแล้ว'

..........................................................

'เราสบตากันอีกครั้งเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ มีคำพูดมากมายที่ผมอยากจะพูดกับเธอ แต่ยังไม่ทันได้ทักทายกันเลยสักคำ พี่เดียร์ก็วิ่งหนีผมออกไปซะแล้ว'

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทที่ 1คนคุย
มหาวิทยาลัย [บทบรรยายเรนเดียร์] เช้าวันจันทร์รถติดแน่นยิ่งกว่าทุกวัน ฉันชินกับการเดินทางในกรุงเทพฯ แล้ว ถึงได้เผื่อเวลาในการเดินทางเอาไว้ทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นก็คงมาสายเหมือนเมื่อก่อนที่ยังปรับตัวไม่ได้ ที่ผ่านมาทำให้รู้แล้วว่าเช้าวันจันทร์ต้องออกเดินทางไวกว่าปกติสักครึ่งชั่วโมง ขนาดว่าคอนโดไม่ได้อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากสักเท่าไหร่ก็ยังต้องเผื่อเวลาแบบนี้เลย รถของฉันติดไฟแดงตรงแยกนี้มานานหลายนาที พอไฟเขียวแล้วก็ไม่ทันได้ไปถึงสัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ฉันต้องจอดรอสัญญาณไฟหมุนวนระหว่างเขียวกับแดงอยู่ถึงสามรอบ เสียงเพลงในรถที่เปิดคลอเบา ๆ พอให้ช่วยคลายความหงุดหงิดไปได้บ้าง เพลงรักที่เปิดนั้นทำให้หวนนึกถึงวันออกเดต เรื่องที่ฉันอยากจะเม้าท์กับเพื่อนมาก เมื่อวานก็คิดว่าจะไลน์คุยกับมันไปเลยแต่ก็รู้สึกว่าจะเม้าท์ไม่สนุกเหมือนเวลาคุยกันต่อหน้า ถึงได้รอให้ถึงวันนี้ซะก่อน ผ่านแยกนี้ไปได้สักที คราวนี้รถได้วิ่งต่อไปได้เรื่อย ๆ ด้วยความเร็วที่ไม่มาก แต่หลุดแยกนั้นมาได้แล้วก็โล่งไปเยอะ เพราะขับต่อมาอีกไม่เท่าไหร่เลี้ยวซ้ายข้างหน้าไปก็ถึงจะมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนแล้ว เมื่อมาถึงฉันก็จอดรถแล้วรีบเดินไปที่หน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์แล้วกวาดตามองหายัยแฟร์เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน แขนที่ชูสูงโบกเรียกอยู่นั้นทำให้ฉันคลี่ยิ้มทักทายแล้วเดินเข้าไปนั่งด้วย “เล่ามาเลยจ้ะเดียร์” ยัยแฟร์เองก็มีท่าทีอยากรู้เหมือนกับฉันที่อยากเล่าจะแย่ เมื่อวานฉันไลน์ไปบอกว่ามีเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง “กูไปเดทกับพี่แต๊งมา” สีหน้าของฉันเคลิ้มขึ้นมาในตอนที่พูดถึงเรื่องที่อยากเม้าท์ ยัยแฟร์ยังไม่รู้เรื่องของฉันกับพี่แต๊งเลยเพราะฉันปิดปากเงียบ อยากให้ได้ออกเดทกันสักครั้งก่อนแล้วค่อยเปิดเผยให้เพื่อนรักฟัง “แต๊งไหน หล่อปะ อายุเท่าไหร่ เรียนหรือทำงาน” แฟร์ส่งคำถามรัว ๆ ฉันทำหน้าเอือมใส่มันแล้วรีบปรามก่อนที่มันจะถามไปมากกว่านี้จนฉันจะตอบไม่ทัน “ถามช้า ๆ หน่อยสิ กูก็กำลังจะเล่าอยู่นี่” “ว่ามา” “คืองี้นะ...” 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา งานแต่ง @ โรงแรมหรู อาหารมากมายที่จัดวางเรียงให้แขกเหรื่อได้หยิบกินตามต้องการ ฉันมองเห็นแก้วใสขนาดเล็กที่มีกุ้งราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดและมีไม้แหลมเสียบไว้ให้จิ้มกินอย่างง่ายเหลืออยู่แค่สองแก้ว ฉันหยิบไปกินก่อนหน้านี้แล้วติดใจก็เลยจะมาเอาไปกินอีก เห็นว่าเหลืออยู่น้อยจึงรีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไป ทว่าส้นแหลมของรองเท้าดันพลิกในตอนที่กำลังจะถึงบาร์อาหารพอดี ใบหน้าของฉันคงเหวอมากเพราะร่างกายที่เซถลาไปด้านข้างและกำลังจะล้มลง แต่มีอ้อมแขนแกร่งที่รับตัวฉันไว้ทำให้ร่างเล็กของฉันไม่กระแทกเข้ากับพื้น “ว้าย !” เสียงร้องด้วยความตกใจของฉันทำให้แขกเหรื่อในงานต่างพากันมองมา พอรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ได้เจ็บตรงไหนและยังซุกอยู่ในอ้อมแขนของใครสักคนเลยรีบเงยหน้าขึ้นมองคนที่ช่วยเอาไว้ หล่อจัง ฉันกะพริบตาปริบ ๆ และเหมือนกับตกอยู่ในภวังค์ ตะลึงงันในความหล่อเหลาของเขาจนเขายิ้มเขินและคลายอ้อมกอด ตอนนั้นฉันถึงรู้สึกตัวว่าตัวเองมองหน้าเขานานเกินไป ฉันหลบสายตาของอีกฝ่ายด้วยความเขินอาย พอได้เห็นคนหล่อก็มองซะจนลืมไปเลยว่ามีคนอื่นอีกมากมายที่อยู่ภายในห้องแกรนด์ของโรงแรมแห่งนี้ด้วย ฉันก้มศีรษะขอโทษผู้คนที่ทำให้ตกใจจากเสียงกรี๊ดของตัวเอง และยิ้มเจื่อนไปให้พวกเขา หันกลับมามองคนที่ช่วยเอาไว้แล้วยกมือไหว้อย่างสุภาพ “ขอบคุณที่ช่วยนะคะ” “ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่อยากกินอะไรเหรอ ผมเห็นคุณรีบเดินมาเลย” เหมือนเขากำลังแซวที่ฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่บาร์อาหาร กำลังคิดว่าฉันกลัวจะไม่ได้กินล่ะสิ กุ้งของฉัน! พอเขาถามขึ้นมาก็ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าจะมาเอากุ้งเพิ่ม ฉันหันขวับมาที่บาร์อาหารและเพ่งมองไปยังจุดที่วาง ไม่มี! กรี๊ดดดด กุ้งหมดเหรอ “มีอะไรเหรอ” คนข้าง ๆ เห็นฉันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก็ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เจือความห่วงใย ฉันหันไปมองเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อยและเบะปากราวจะร้องไห้งอแงเหมือนเด็กที่ถูกแย่งขนมไป ฉันชี้นิ้วไปยังจุดที่ว่างไม่มีอาหารวางตรงนั้น “กุ้งหมด” ฉันบอกกับเขาด้วยความเสียดาย ถ้าเมื่อกี้ไม่มัวแต่มองหน้าเขาราวกับถูกสะกด ฉันคงรีบพุ่งมาเอากุ้งไปได้ก่อน ถึงได้อยู่ในอ้อมแขนของคนหล่อแต่อดกินกุ้งแบบนี้ ฉันว่าไม่คุ้มเลย “กำลังจะมาเติมค่ะ” พนักงานที่ยืนจัดวางอาหารเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม เธอคงได้ยินที่ฉันพูดคุยกับผู้ชายคนนี้แล้ว “นั่นไงมาแล้ว” คนข้างฉันมองไปยังพนักงานชายที่เข็นรถเข็นและมีอาหารวางเรียงเป็นชั้นเข้ามา ฉันยิ้มด้วยความดีใจแล้วรอให้เขาเอาถาดมาวาง ฉันหยิบมาหนึ่งแก้วแล้วจิ้มกุ้งตัวโตเนื้อเด้งที่ผ่านการลวกมาแล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ เข้าปากไปเคี้ยว อร่อยซะจนฉันต้องรีบหยิบมาอีกแก้ว ลืมผู้ชายที่ยืนอยู่ด้วยไปชั่วขณะ พอนึกขึ้นได้ก็เงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มเขินขึ้นมา “คงอร่อยมากเลยนะเนี่ย” เขาแซวฉันอีกแล้ว “อร่อยค่ะ พี่ลองชิมดูสิคะ” ฉันไม่แน่ใจว่าเขาอายุเท่าไหร่ แต่เท่าที่ดูจากภายนอกเขาน่าจะพ้นวัยเรียนไปแล้ว ท่าทางของเขาสุขุมมากทีเดียว ฉันหยิบให้เขาหนึ่งแก้ว เขารับแล้วลองจิ้มกิน แววตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาแต่ฉันดูออกว่าเขาแกล้งทำให้เกินจริงไปสักหน่อย “เวอร์ไปค่ะ” ฉันเหล่ตามองเขาแล้วมองบาร์อาหารพลางคิดว่าจะกินอะไรอีกดี อาหารแต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้น “ข้าวผัดปูหน่อยไหม เนื้อปูเยอะ สด ๆ หวาน ๆ” พี่เขาแนะนำ ฉันเลยหยิบจานที่วางเรียงมาตักข้าวผัดตามคำแนะนำของเขา “เดี๋ยวพี่ตักให้” เขาเสนอแล้วคว้าจากในมือของฉันไปถือเองก่อนจะเดินไปตักข้าวผัด เขาคงเห็นว่าฉันไม่ถนัดเพราะอีกมือก็มีแก้วกุ้งอยู่ด้วย “ขอบคุณนะคะ” ฉันยื่นมือไปรับรับจานมาเมื่อเขาตักเสร็จแล้ว แต่ว่าพี่เขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากจาน สายตาที่เขามองฉันอยู่ก็เหมือนกับว่ามีอะไรที่อยากจะพูด อีกทั้งพวงแก้มของเขายังแดงระเรื่อ คงเป็นเพราะเขาผิวขาวเลยเห็นได้ชัด “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันเลยถามออกไป “เรายังไม่รู้จักกันเลย พี่ชื่อแต๊งนะครับ เป็นญาติของมาติน” พี่มาตินเป็นเจ้าบ่าวของงานนี้ “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่แต๊ง เรนเดียร์ค่ะแต่จะเรียกแค่เดียร์ก็ได้ เดียร์เป็นญาติของพี่ผึ้งค่ะ” ส่วนฉันเป็นญาติของเจ้าสาว “พี่เดาว่าน้องเดียร์ยังเรียนอยู่แน่ ๆ เรียนปีไหนเหรอครับ” “เดียร์เรียนปีสี่ค่ะ พี่แต๊งคงทำงานแล้วใช่ไหมคะ” ฉันถามเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ทึกทักไปเองว่าเขาอายุเยอะกว่า “ใช่ครับ ตอนนี้พี่ทำร้านอาหารแถวเอกมัยน่ะครับ” “ค่ะ” ฉันยิ้มให้เขาก่อนจะดึงจานเบา ๆ เพื่อให้เขาปล่อยมือ ทว่าเขายังรั้งจานไว้ไม่ยอมปล่อยให้ฉันอยู่ดี “น้องเดียร์สะดวกให้ไลน์ไหมครับ” เขาพูดด้วยท่าทางเขิน ๆ และยังมองไปทางอื่นราวกับไม่กล้าสบตาด้วย ฉันแทบจะกรี๊ดออกมาอีกครั้งที่คนตรงหน้าขอไลน์ และฉันก็ไม่ลังเลเลยที่จะตอบออกไป “สะดวกมากค่ะ คิก ๆ” ฉันหัวเราะกลบเกลื่อนความเขิน พี่แต๊งก็หัวเราะตาม เราสองคนเลยได้แลกไลน์กันไว้แล้วคุยกันมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ โดยที่ฉันให้สถานะกับพี่เขาเป็นคนคุยยังไม่ได้มีอะไรที่พิเศษไปมากกว่านั้น ค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไปก่อน ส่วนความสัมพันธ์ของเราจะพัฒนาไปในทางไหนนั่นก็อีกเรื่อง ปัจจุบัน “นี่ถ้ามึงไม่อยากกินกุ้งมากขนาดนั้นก็อดได้รู้จักกันเลยนะ” แฟร์พูดขึ้นมาหลังจากที่ฉันเล่าจบ ฉันเหล่ตามองเพราะประโยคที่เพื่อนเอ่ยออกมานั้นเหมือนกำลังบอกว่าฉันเห็นแก่กินแน่ ๆ “ตอนนี้กูก็อยากกินกุ้งบ้างเลย เขาสั่งอาหารมาจากไหนวะ อาหารของโรงแรมปะ” แฟร์พูดต่ออีก ฉันกลอกตามองบนแล้วเบ้ปากใส่ แฟร์ก็เลยหัวเราะออกมาเสียงดัง “สนใจเรื่องพี่แต๊งก่อน” ฉันพูดเสียงระอา แต่ยัยเพื่อนบ้าก็ยังหัวเราะอยู่อีก “ก็มึงพูดถึงกุ้งแซ่บ ๆ จนกูหิวเลยอะ” แฟร์ทำท่าเช็ดน้ำลายที่มุมปาก หากฉันบีบคอเพื่อนตอนนี้จะดีหรือเปล่า กวนจังเลย! “มึงเลิกกวนก่อน” ฉันแกล้งทำหน้างอ ยัยแฟร์ก็เลยหยุดหัวเราะแล้วเลิกกวนฉัน “แล้วไงต่ออะ คุยกันแล้วโอเคปะ” แฟร์ถาม “ไม่รู้สิ ก็เพิ่งเริ่มคุยกันได้สองอาทิตย์เอง แต่จากที่คุยกันอยู่พี่แต๊งก็น่ารักดีนะ เมื่อวานที่ไปเดทกันมายิ่งรู้สึกว่าเขาน่ารักมาก เขาแทบไม่ให้กูลุกไปตักอาหารเองเลย พี่เขาเทคแคร์ดีเวอร์อะ” เมื่อวานนี้ฉันไปเดทกับพี่แต๊งมาที่ห้องอาหารบุฟเฟต์ของโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา พี่แต๊งตักกุ้งเนื้อเด้งตัวอวบใสมาให้ฉันเยอะมาก แววตาของฉันเป็นประกายและรีบจิ้มกินอย่างเอร็ดอร่อย และเขาก็คอยไปตักของอร่อย ๆ มาให้ฉันกินอีกหลายอย่าง จนฉันต้องบอกให้เขานั่งกินของตัวเองบ้างเพราะฉันก็เกรงใจเขาอยู่เหมือนกันนั่นแหละ แต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้ฉันยิ้มไม่หุบ ‘พี่ชอบเวลาน้องเดียร์กิน หน้าตาน้องเดียร์ดูมีความสุขกับของอร่อย ๆ มาก’ ฉันเลยยิ้มเขินจนหน้าร้อนไปหมด ต้องรีบยกแก้วน้ำผลไม้ที่เขาสั่งมาให้ดื่มอย่างรวดเร็ว เผื่อว่าจะลดความร้อนบนพวงแก้มได้ “ที่เขาพูดแบบนั้นเพราะเห็นว่ามึงเห็นแก่กินหรือเปล่าเดียร์” แฟร์ออกความเห็น ฉันยกกระเป๋าขึ้นทำท่าจะเหวี่ยงใส่เพื่อนรักที่ชอบช็อตฟีลให้ฉันหายฟิน คนกำลังเคลิ้มไปกับใบหน้าหล่อ ๆ ที่คอยยิ้มและเอาใจฉันตลอดการเดท แต่ยัยเพื่อนบ้าดันดับความฟินของฉันซะงั้น “มึงก็มีแฟนสักทีเถอะแฟร์ จะได้เข้าใจว่ามันฟินยังไง” ฉันย้อนกลับไปเพราะเพื่อนรักคนนี้ยังโสดสนิททั้งที่หน้าตาก็สะสวย หุ่นก็เป๊ะ ดูยังไงก็ไม่น่าหาแฟนได้ยากเลย แต่ฉันก็ยังไม่เห็นว่ามันจะมีแฟนสักที “หาอยู่ไง แต่มันก็หายากนะมึง” “หายากตรงไหน กูเห็นน้องฟร้องเขาคอยมาเมนต์ไอจีมึงบ่อยขนาดนั้น น้องเขาต้องมีใจชัวร์” “หยุดเลย พูดเรื่องมึงต่อ นอกจากกินข้าวกลางวันแล้วกินอะไรอีกปะ” ยัยแฟร์ไม่อยากพูดเรื่องตัวเองเลยกลับมาที่เรื่องของฉันต่อ หน้าตาของนางที่ถามฉันเชิงล้อเลียนแสดงออกถึงความหื่นกามขนาดนั้น กับคำว่า‘กินอะไรอีก’ ที่นางถามคงจะหมายถึงกินกันบนเตียง! ฉันส่ายหน้าแทนคำตอบ “ไปดูหนังกันต่อย่ะ” ฉันตอบไปแล้วเพื่อนรักก็ยู่หน้าเหมือนกับเสียดายว่าไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตัวเองคิดเอาไว้ “กูเพิ่งจะเปิดใจคุยเอง จะให้รีบกินกันเลยหรือไง” ฉันทำท่าจะเขกหัวเพื่อนรัก นางก็หัวเราะคิกคักไปตามประสา ฉันเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาขึ้นเรียนแล้วก็เลยลุกเดินหนีออกมาซะเลย แต่ยัยแฟร์ก็รีบลุกแล้ววิ่งตามมากอดแขนฉันไว้ “ตอนนั่งดูหนังกัน กอดแขนกันแบบนี้ปะ” แฟร์ถามเสียงทะเล้น และก็ทำให้ใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง มันยังจะตามมาถามต่ออีก “ก็มีจับมือบ้าง ไม่ได้กอดแขนย่ะ” หนังที่ดูเป็นหนังรักโรแมนติก เวลาที่มีฉากฟิน ๆ พี่แต๊งก็หันมามองหน้าฉันแล้วคว้ามือไปจับไว้ แล้วเขาก็เลื่อนสายตาไปดูหน้าจอเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น “ฟินเวอร์” แฟร์พูดแซวขึ้นมา แล้วเราก็เดินมาถึงห้องเรียนพอดี เลยหยุดคุยกันไว้แค่นี้ เลิกเรียน “มึง ไปกินเค้กกัน วันนี้กูอยากกินของหวานอีกแล้วอะ”ฉันชวนยัยแฟร์ไปร้านประจำที่อยู่หลังมหา’ลัย “กับพี่แต๊งนี่ยังหวานไม่พอใช่ปะ” “ทำไมเพื่อนแซวเก่งงี้อะ” “ก็เห็นมึงกลับมาหัวใจสดใสได้อีกครั้ง กูก็ยินดีกับมึงด้วยไง” “จ้ะเพื่อน ขอบใจมึงมากนะ แต่กูก็อยากเห็นมึงมีกับเขาบ้างเหมือนกันนะ” “รอไปก่อน” พูดจบเราก็พากันหัวเราะคิกคักไปตามประสา ฉันเดินกอดคอยัยแฟร์ที่สูงน้อยกว่าฉันเล็กน้อยไปด้วยความอารมณ์ดี ก็คงจริงอย่างที่แฟร์ว่า เพราะตั้งแต่ที่ฉันเลิกกับเขา ฉันก็เป็นโสดมาได้ 1 ปีเต็ม ๆ ไม่ได้คุยกับใครจริงจังอย่างพี่แต๊งมาก่อน เพราะฉันเองก็ไม่อยากผิดหวังอีกแล้ว

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

My Frist Lover พิชิตรักอันตรายผู้ชายพันธุ์เถื่อน

read
1.5K
bc

My Cruel Guy รักอันตรายผู้ชายพันธุ์เถื่อน

read
1.3K
bc

BAD BROTHER พันธะร้ายพี่ชายตัวแสบ

read
35.9K
bc

มาเฟียเลี้ยงต้อย MAFIA DEMON

read
9.9K
bc

ขุนพลหวงรัก

read
30.4K
bc

เกิดใหม่ทั้งทีดันมาอยู่ในร่างตุ้ยนุ้ยที่คู่หมั้นรังเกียจ

read
1.8K
bc

ADORE YOU ยัยตัวป่วน

read
7.4K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook