ตอนที่ 14 เกมที่เธอไม่อาจถอนตัวได้

1364 คำ
สองวันถัดมา… ญาดารีบตรงไปโรงพยาบาลทันทีหลังเลิกงานเหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อเธอก้าวไปถึงห้องพักผู้ป่วยของแม่ กลับเห็นพยาบาลหญิงวัยกลางคนในชุดยูนิฟอร์มใหม่ นั่งเฝ้าอย่างเรียบร้อย “เอ่อ…ขอโทษนะคะ ดิฉันเป็นลูกคนไข้” ญาดาทักขึ้นทันที พยาบาลลุกขึ้นยิ้มสุภาพ “คุณญาดาใช่ไหมคะ? ดิฉันถูกว่าจ้างให้ดูแลคุณแม่ของคุณเป็นพิเศษค่ะ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง” ญาดาชะงัก หัวใจสะดุ้งวาบ “ใคร…เป็นคนว่าจ้างคะ?” พยาบาลเพียงยิ้ม ไม่ตอบ เพียงยื่นเอกสารสัญญาการดูแลให้เธอไม่มีชื่อผู้ว่าจ้างระบุ มีเพียงโลโก้บริษัทดูแลผู้ป่วยเอกชนระดับสูง ญาดาหยิบขึ้นมาอ่าน ลมหายใจสะดุดอีกครั้ง เพราะท้ายเอกสารมีหมายเหตุสั้น ๆ ตัวอักษรเดียว V.H. หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา ในจังหวะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือสั่นขึ้นเบา ๆ อีเมลใหม่ปรากฏบนหน้าจอ From: Dinner for One เรื่อง: การนัดหมายครั้งถัดไป เวลา 20:00 น. / LUNA Tower / ชั้นสูงสุด ญาดากำโทรศัพท์ไว้แน่น เธอรู้แล้วนี่ไม่ใช่การบังเอิญ ไม่ใช่เพียงเกมที่เล่นเพื่อความหรูหราชั่วคืน “เขา…จัดการทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตจริงของฉัน” เธอกัดริมฝีปากแน่น มองแม่ที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ความโล่งใจที่มีคนดูแลเพิ่มเติมปนกับความสั่นไหวในอก โล่งใจ…แต่ก็หวาดหวั่น เพราะรู้ดีว่าทุกสิ่งนี้มีราคาที่เธอต้องจ่าย และราคานั้น…คือการก้าวเข้าสู่เกมดินเนอร์อีกครั้ง ห้องกระจกบนชั้นสูงสุดของ LUNA Tower โต๊ะเล็กสำหรับสองคนถูกจัดไว้อย่างเรียบหรู เทียนเล่มยาวสองแท่งส่องประกายพริ้วไหวเหนือแก้วไวน์สีแดง ญาดาก้าวเข้ามาช้า ๆ หัวใจยังสั่นไหวไม่ต่างจากครั้งแรก แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เพราะเธอไม่อาจปฏิเสธได้แล้วว่า ผู้ชายที่รออยู่ตรงนี้ กำลังซ้อนทับเข้ามาในชีวิตจริงของเธอ เวหาลุกขึ้นต้อนรับ ร่างสูงในสูทสีดำขับกับบรรยากาศรอบตัว เขาเลื่อนเก้าอี้ให้อย่างสุภาพ แต่สายตาที่จ้องเธอ…กลับแน่นิ่งจนเธอแทบลืมหายใจ “คืนนี้คุณมาสาย” เสียงทุ้มเรียบ แต่แฝงแววรู้ทันบางอย่าง ญาดาชะงักเล็กน้อย ก่อนตอบเบา ๆ “มีธุระที่โรงพยาบาลค่ะ” เวหาไม่ถามต่อเพียงยกแก้วไวน์ขึ้น หมุนช้า ๆ สายตาคมยังตรึงอยู่กับเธอไม่วาง ราวกับเขารู้หมดแล้วว่าเธอเพิ่งผ่านอะไรมาบ้าง ญาดาหลบตา รีบยกแก้วขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อน แต่หัวใจกลับยิ่งเต้นแรง… เพราะในแววตาเขา ไม่ได้มีแค่ความลึกลับ แต่ยังมีบางอย่างที่เหมือน การรับรู้ทุกความลับของเธอ แสงเทียนที่สั่นไหวสะท้อนบนแก้วไวน์ บรรยากาศในห้องกระจกเงียบเกินไป จนญาดาได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจของตัวเอง เวหานั่งตรงข้าม ไม่พูด ไม่ถาม ไม่เร่งรัด เพียงแค่นั่งมองเธอ…สายตาคมกริบที่ไม่ยอมหลบ ญาดาพยายามยกส้อมขึ้น แต่มือกลับสั่นเล็กน้อย เธอจิ้มอาหารตรงหน้า แต่กลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารสชาติเป็นอย่างไร เพราะสายตาของเขายังคงกดดันอยู่ตลอดเวลา เธอทนอยู่ได้ไม่กี่วินาที สุดท้ายต้องก้มหน้าลง หลุบตาหลบจากการจ้องตรง ๆ นั้น ปลายนิ้วกำส้อมแน่นราวกับหาที่ยึด เวหายกคิ้วเล็กน้อย มุมปากโค้งขึ้นน้อย ๆ ไม่ใช่รอยยิ้มอ่อนโยน แต่เป็นรอยยิ้มของคนที่ “รู้” ว่าอีกฝ่ายเริ่มพ่ายแพ้ในเกมเงียบ เขาวางแก้วไวน์ลงเบา ๆ เสียง กริ๊ก ดังสะท้อน ก่อนเอ่ยช้า ๆ น้ำเสียงทุ้มลึก “คุณรู้หรือเปล่า ว่าสายตาคุณ…มันบอกอะไรกับผม” ญาดาเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าตอบ เธอรู้เพียงว่าใจเธอกำลังเต้นแรงจนแทบระเบิด เวหาก้มตัวเล็กน้อย สายตายังตรึงอยู่ที่เธอ “มันบอกว่าคุณกำลังหนี…แต่หนีไม่พ้น” คำพูดของเวหายังคงลอยอ้อยอิ่งในอากาศ “มันบอกว่าคุณกำลังหนี…แต่หนีไม่พ้น” ญาดากัดริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นโครมคราม เธอพยายามควบคุมสีหน้า ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเพื่อบังความสั่นไหว แต่กลับรู้สึกได้ชัดมือของเธอสั่นจนแก้วแทบจะกระทบฟัน เวหามองทุกการเคลื่อนไหวนั้นนิ่ง ๆ ก่อนจะวางผ้าเช็ดปากลง ลุกขึ้นช้า ๆ เก้าอี้หนังหรูเลื่อนออกเสียงเบา ๆ แต่กลับสะท้อนก้องในห้องเงียบ ญาดาชะงัก สบตาเขาเพียงเสี้ยววินาทีแล้วรีบหลบ แต่ไม่ทันแล้ว…เวหาก้าวเข้ามาหา ก้าวยาวและมั่นคง จนเธอรู้สึกว่าทุกอณูอากาศถูกกลืนไปกับเงาของเขา ร่างสูงหยุดอยู่ข้างเก้าอี้เธอ สายตาคมกริบกดลงมาจนเธอต้องหลุบตาต่ำ มือใหญ่เอื้อมมาวางเบา ๆ บนพนักเก้าอี้ด้านหลังเธอ ท่าทางเหมือนกักพื้นที่โดยไม่แตะต้องร่างกาย “ญาดา…” เขาเอ่ยชื่อเธอเบา ๆ เป็นครั้งแรกในค่ำคืนนี้ เสียงทุ้มต่ำใกล้หูจนเธอสะดุ้งเธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แสงเทียนสะท้อนบนดวงตาคมคู่นั้น…ที่จ้องเธอแน่นิ่งเหมือนจะอ่านทะลุใจ ลมหายใจเธอสะดุดวูบ ทั้งโต๊ะ ทั้งห้อง ตอนนี้เหมือนเหลือเพียงเขากับเธอ เวหาก้มลงใกล้ช้า ๆ แขนแข็งแรงยังวางพาดพนักเก้าอี้ กักเธอไว้ในวงแขนโดยไม่ต้องสัมผัสตรง ๆ กลิ่นน้ำหอมอุ่นเข้มลอยมาแตะจมูก…กลิ่นเดียวกับคืนนั้น “ทำไมไม่กล้าสบตาผม” เสียงเขาทุ้มต่ำ กระซิบใกล้หูญาดากัดริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นแรงจนเจ็บอก แต่เธอพยายามตอบเสียงสั่น “เพราะ…สายตาคุณมันทำให้ฉันหายใจไม่ออก” เวหายกคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากโค้งขึ้นช้า ๆ “งั้นก็อย่าหนี” สิ้นคำ ร่างสูงโน้มเข้ามา ริมฝีปากแข็งแรงกดลงบนริมฝีปากเธออย่างมั่นคง ไม่รุนแรง…แต่ลึกซึ้งจนเธออ่อนระทวยในวินาทีเดียว ส้อมที่เธอถืออยู่ร่วงลงบนจาน เสียง กริ๊ง ก้องสะท้อนในความเงียบ มือเธอสั่นไหว ยกขึ้นเกาะสูทเขาไว้แน่น ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสนั้นอย่างไม่ทันคิด เวหากดจูบหนักขึ้นเล็กน้อย แผ่วลึก แต่วาบหวามราวกับจะดูดวิญญาณเธอไปทั้งดวง จนญาดาหลับตาลง ปล่อยให้ความสั่นสะท้านแล่นไปทั่วร่าง เขาผละออกเพียงเสี้ยววินาที สายตาคมยังตรึงแน่นอยู่ที่ใบหน้าแดงซ่านของเธอ เสียงทุ้มเอ่ยต่ำใกล้ริมฝีปากที่ยังสั่นไหว “ผมบอกแล้ว…คุณหนีไม่พ้น” เสียงหัวใจเธอยังดังสะท้อนในอก ริมฝีปากที่เพิ่งถูกช่วงชิงยังร้อนวาบ ญาดานั่งนิ่ง หายใจไม่เป็นจังหวะ เวหามองเธอไม่วางตา ก่อนจะยื่นมือออกมาช้า ๆ จับข้อมือเรียวแล้วดึงให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างบางเซถลาเข้าหาอกกว้างอย่างไม่ทันตั้งตัว แขนแข็งแรงโอบรัดแน่น ใบหน้าคมโน้มลงชิด เสียงทุ้มกระซิบใกล้ข้างหู “ผมไม่เคยปล่อยสิ่งที่ผมเลือก…และคุณรู้ดีว่าคุณถูกเลือกแล้ว” ญาดาหลับตาแน่น หัวใจสั่นไหวระคนสับสน โล่งใจเพราะแม่มีคนดูแล แต่ก็หวาดหวั่นกับอำนาจที่กำลังกักเธอไว้ ปลายนิ้วเธอสั่น ยกขึ้นเกาะแขนเขาเบา ๆ ไม่รู้ว่าคือแรงต้าน หรือการยอมจำนน เวหากดจูบสั้น ๆ อีกครั้งที่ขมับ ก่อนจะคลายอ้อมแขนอย่างช้า ๆ ร่างสูงหันกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ของตนเอง ราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น สายตาคมเพียงกวาดมองเธออย่างมั่นคง “นั่งลงสิ ดินเนอร์ของเรายังไม่จบ” เขาเอ่ยเรียบ ๆ น้ำเสียงไม่เปิดช่องปฏิเสธ ญาดากัดริมฝีปากแน่น หัวใจยังสั่นสะท้าน เธอก้าวกลับไปนั่งตามคำสั่ง แต่รู้ดีว่า…ตั้งแต่วินาทีนั้นไป เธอไม่ได้เป็นแค่แขกในเกมนี้อีกแล้ว เธอคือคนที่กำลังถูกคุม…โดยชายที่ชื่อเวหา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม