ตอนที่ 2 ซาลาเปาขาวนุ่มร่วงจากฟ้า2

1505 คำ
ตลอดเส้นทางของการหลบหนีจากคุกสูงชัน หวงหมิงแบกเยี่ยจื้อหลงไว้บนบ่าข้างหนึ่ง ปลายโซ่ถูกตวัดรัดหลักยึดที่มองหาได้ในปราดเดียว ปลายเท้าเตะส่งตัวคนทั้งสองเหวี่ยงไปพร้อมโซ่เหล็กไหล ทุกทิศทางที่โรยตัวเกิดขึ้นอย่างฉับไวแม่นยำ โซ่นี้ดีมาก หากเป็นโซ่ธรรมดาคงขาดสะบั้นนานแล้ว เสียงโซ่กระทบต้นเสาที่รัดรึงและลากถูพื้นหินกรวดดังเสียดหูไปตามทาง ส่งผลให้กลุ่มทหารวิ่งตามเป็นพรวน ขบวนทัพจับทิศทางได้แม่นยำไม่มีพลาดสักก้าว หวงหมิงเห็นเช่นนั้นก็เร่งส่งตัวจนพ้นกำแพงสูงให้เร็วยิ่งขึ้น ครั้นฝ่าเท้าแตะพื้นดินนอกคุกมืดอันเหี้ยมโหด เยี่ยจื้อหลงที่กลายร่างเป็นหุ่นฟางจึงได้จังหวะลงมายืนเอง เขารีบดึงผ้าคลุมมาผูกกับลำคอของหวงหมิง หมายปกปิดท่อนบนที่เปล่าเปลือยเต็มไปด้วยบาดแผลน่ากลัวจนมิด “เลือดเจ้าออกเยอะมาก” “กระหม่อมไม่เป็นไร” “แต่...” เยี่ยจื้อหลงมีทักษะรักษาจึงเอ่ยอย่างห่วงใย “ให้ข้าห้ามเลือด...” “ไม่จำเป็น” หวงหมิงสั่งเสียงขรึม “รีบไป!” หวงหมิงแตะไหล่รัชทายาทหนุ่มให้ออกตัววิ่งนำหน้า ส่วนตัวเองวิ่งคุมเชิงและคุ้มกันด้านหลัง กลุ่มทหารต้าไห่ยังคงไล่ล่าไม่หยุดยั้ง ทุกครั้งที่มีคนพยายามจับปลายโซ่ มันกลับคล้ายงูดิ้นหนีอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาจึงใช้วิธีสกัดด้วยมีดดาบพุ่งใส่ ทหารนอกวิถีโซ่เหล็กไหลรีบยิงธนูใส่ไม่ยั้ง ทั้งหมดต่างโรมรันด้วยการสะบัดมีดสั้นคมกริชและยิงธนูใส่หวงหมิงอย่างบ้าคลั่ง ทว่าน่าเสียดาย ที่เสื้อคลุมกลับมิใช่เสื้อคลุมอีกต่อไป เพียงหวงหมิงสะบัดผ้าสีดำที่ลำคอตนนั้น มันพลันกลายเป็นโล่กำบังที่แม่นยำและคืนอาวุธสาดใส่ผู้คนไปเสียได้ สุดท้าย กำแพงชีวิตของนักโทษหลบหนีก็บังเกิด เมื่อเส้นสายปลายทางของเยี่ยจื้อหลงกับหวงหมิงตรงหน้าเป็นหน้าผา เบื้องล่างแม้ไม่ลึกจนยากหยั่งถึงก้นบึ้งแต่กลับไม่มีน้ำสักหยด มีแต่หินขรุขระแหลมคม หมดสิ้นหนทางหนี คำว่ากำแพงชีวิตไม่เกินไปจริงๆ เพราะมิอาจไปต่อได้อีก “ว่ะฮ่าๆ เสร็จข้าล่ะ” มือสังหารในชุดเกราะผู้หนึ่งพากองกำลังของตนวิ่งตามมาจนทัน เขาหยุดยืนและหัวเราะเย้ยหยันเสียงห้าว “ต่อให้มีปีกก็หนีไม่รอด” หวงหมิงสีหน้าเยียบเย็น “เข้ามา...” เสื้อคลุมสีดำโบกสะบัดกลมกลืนกับเส้นผมสีดำที่สยายเต็มแผ่นหลัง ท่ามกลางสายลมโชยแรงเหนือหน้าผา บุรุษตัวใหญ่ยืนเบื้องหน้าว่าที่จักรพรรดิของเขา แม้เลือดท่วมกายแต่ท่วงท่าทระนงองอาจปานนั้น ไหล่กว้าง อกผาย เพียงยืนหยัดนิ่งๆ อย่างเย็นชา ทุกส่วนคล้ายกำจายกลิ่นอายมรณะออกมาได้อย่างน่ากลัว หวงหมิงคือนักรบปีศาจผู้ปกป้องเทพมังกรของตน ทหารต้าไห่ถึงกับชะงักเล็กน้อยกับภาพน่าพรั่นพรึง อีกฝ่ายเสมือนเทพเจ้าแห่งความตายในตำนานโดยแท้ แต่เพียงครู่ก็เหยียดยิ้ม สืบเท้ารุกคืบ อาวุธครบมือ ครั้นปิดหนทางหนีของศัตรูจนสิ้นก็รุกฆาตทันที “ย๊า...” ขณะที่เสียงฮึกเหิมของทหารต้าไห่ดังลั่นเซ็งแซ่ หวงหมิงเพียงเค้นพลังปราณสะบัดโซ่เหล็กไปทางฝั่งหนึ่ง ฟาดใส่ศัตรูไม่ยั้ง ทหารพลันล้มระเนระนาดเสียกระบวนทัพจนเปิดทางในเสี้ยวเวลา ทว่ายังไม่หมด ทหารกลุ่มใหญ่พุ่งตัวเหิมเกริมประชิดเข้ามาแทนที่ได้ทันท่วงที “ล่วงเกินแล้ว” สิ้นเสียง หวงหมิงจับสาบเสื้อคอเยี่ยจื้อหลงกระโดดม้วนตัวข้ามหัวทหารต้าไห่แล้วลงมายืนขวางเบื้องหน้า สะบัดโซ่ตรวนปิดกั้น มิยอมให้ทหารออกจากหน้าผาไล่ตามรัชทายาทของตน ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้รัชทายาททางสายตา “ไป!” เยี่ยจื้อหลงเวลานี้ย่อมรู้ว่าไม่ควรทำตัวเป็นภาระ ทางหนีชั่วแล่นที่ถูกเปิดนี้มีเวลาแค่เสี้ยวลมหายใจ จึงรีบหมุนตัววิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต ครั้นหันหลังกลับไปมองอีกครั้งก็เห็นหวงหมิงกำลังใช้โซ่เป็นอาวุธสังหาร จนเหล่าทหารต้าไห่ร่วงลงสู่ก้นผาราวสายมุกขาดสะบั้น นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายต้องการล่อพวกต้าไห่มาที่นี่ แล้วใช้หน้าผาสูงชันนั้นช่วยขจัดศัตรู! หวงหมิงมีแผนการรบที่ปราดเปรื่องและน่าทึ่งเสมอ รัชทายาทให้รู้สึกสบายใจจึงวิ่งต่อไปไม่หยุดเท้า เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตนเองวิ่งมานานเท่าใด เบื้องหน้าสายตาของเขาในที่สุดก็เห็นชายป่า พลันเห็นคนชุดดำยืนอยู่หลังพุ่มไม้สี่คน คนผู้หนึ่งตรงนั้นรีบเปิดผ้าคลุมหน้าสีดำออก จงซานโหว! รัชทายาทหนุ่มเรียกขานนามคนคุ้นเคยในใจ รีบวิ่งเข้าไปในกลุ่มคนนั้นทันที “ถวายบังคมรัชทายาท” ทุกคนรีบทำความเคารพ “ไม่ต้องมากพิธี” เยี่ยจื้อหลงหายใจหอบเหนื่อย “เหตุใดมีกันเท่านี้ ไฉนไม่พาคนมามากหน่อยเล่า” จงซานโหวรีบตอบ “พวกเราทำได้แค่ปลอมตัวเข้ามาจึงมิอาจกระทำการเอิกเกริกพาคนมาเยอะพ่ะย่ะค่ะ” “ทุกอย่างเป็นแผนการของหวงหมิงกระมัง” “พ่ะย่ะค่ะ” จงซานโหวปิดผ้าคลุมหน้าดุจเดิม นำเสื้อผ้าสีดำมาสวมให้เยี่ยจื้อหลง “พวกเราต้องทำตามคำสั่งของหวงหมิงอย่างเคร่งครัด หากชักช้าอาจผิดพลาดได้ ตอนนี้ที่เยี่ยเป่ยกำลังเผชิญคลื่นใต้น้ำที่เริ่มทวีความรุนแรง มีเพียงรัชทายาทที่จะทรงหยุดยั้งคลื่นลมผันผวนนี้ได้ พระองค์ทรงรีบไปขึ้นเรือที่เตรียมไว้โดยไวเถิด พวกเราจะอารักขาพระองค์เอง” เยี่ยจื้อหลงนึกถึงฝีมือของหวงหมิงพบว่าไม่น่าห่วง จึงพยักหน้า รีบออกตัววิ่งจนกลืนหายไปในป่าทึบทันที ทางฝั่งหวงหมิง แม้เขาจะมีฝีมือเก่งกาจชำนาญกลการศึกปานใด แต่สิบเท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอันใดกับนักรบที่อยู่ท่ามกลางคมกระบี่ไร้ตา การทะลวงคุกมืดที่แข็งแกร่ง มีการคุ้มกันแน่นหนาและฝ่าด่านเข้าไปถึงคุกชั้นในนั้นไม่ง่าย ทั้งยังถูกคุมขัง กระทั่งถูกทรมานหลายวัน กว่าจะได้พบหน้าองค์รัชทายาทตามแผนการนั้น ทำเอาหวงหมิงสูญสิ้นกำลังวังชาไปมากโข อาการบาดเจ็บที่กลืนกินยามนี้เรียกว่าสาหัสพอควร หลังจากล่อลวงกลุ่มมือสังหารและทหารชุดดำให้เพลี่ยงพล้ำตกหน้าผาไปหลายต่อหลายคน แต่สุนัขต้าไห่ยังคงไม่หมดโดยง่าย พวกมันวิ่งกรูเข้ามากลุ่มแล้วกลุ่มเล่า กลุ่มเก่าตายตกก็มีกลุ่มใหม่พุ่งทะยานเข้ามาแทนที่พริบตา หวงหมิงจึงวิ่งหนีมาอีกทางซึ่งแน่นอนว่าอยู่ตรงข้ามกับฝั่งที่รัชทายาทหนีหาย โซ่ตรวนที่ทั้งหนาทั้งหนักซึ่งใช้แทนอาวุธฆ่าคนและใช้แทนโล่กำบัง บัดนี้ขาดวิ่นสั้นกุดไปหมดแล้ว ชายหนุ่มกัดฟันขบกราม ใบหน้าคมคายเครียดขรึม เขาลอบสบถในใจ อาวุธของต้าไห่ช่างดีเลิศสมคำร่ำลือ คมกริบยิ่ง ร่างสูงกำยำวิ่งมาหยุดใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อใช้กำบังหมายยื้อเวลาปราชัย หวงหมิงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าหนทางชนะเริ่มริบหรี่รำไร เขาเสียเลือดมากเกินไป ไม่มีเวลาฟื้นฟูกำลัง ดวงตาคมปลาบจึงเริ่มพล่าเลือนทีละน้อย กลุ่มค**ำทะมึนทยอยตามมารุมล้อม ทหารต้าไห่ให้รู้สึกฮึกเหิมลำพองใจยิ่ง แม่ทัพคนหนึ่งกล่าวเสียงหยัน “อย่าเพิ่งตายเล่า ข้าจะแล่เนื้อเถือหนังเจ้าเองกับมือ” “ฮ่าๆ” กลุ่มคนด้านหลังรับวาจาด้วยการหัวเราะร่า คนหนึ่งหันไปส่งสัญญาณบางอย่างทางท้องฟ้า พลุถูกจุดส่งแสงสว่างวาบ ความหมายคือพิชิตศัตรูได้แล้ว ไม่นานก็มีสัญญาณตอบกลับมา นี่คือข่าวดีที่สุดในใต้หล้าสำหรับชาวต้าไห่ หวงหมิงแค่นยิ้มเย็นชา ท่าทางของเขาสุขุมเยือกเย็น หาได้นำพาต่อการข่มขวัญ อย่างไรเสียการตายอนาถกลางสมรภูมิรบยังดีกว่าตายสงบในคุกมืด เขามาที่นี่ก็เพียงให้รัชทายาทได้กลับออกไปทำสิ่งที่ควรทำเท่านั้น เพื่อเยี่ยเป่ย หลังจากนี้จะตายย่อมไม่เสียดาย จังหวะที่ภยันตรายจากศัตรูกำลังคืบคลานทีละนิด กลุ่มมือสังหารหมายเอาชีวิต ตรงหน้าหวงหมิงพลันมีเสียงสิ่งหนึ่งตกกระแทกพื้นดินดังตุ้บ เมื่อหรี่ตามองกลับเห็นเป็นซาลาเปาขาวนุ่มก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเสมือนหล่นมาจากฟ้า ซาลาเปาก้อนนี้คือสตรีตัวขาว ทั้งร่างเปลือยเปล่า นางไม่ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว... ผืนพิภพไร้เมตตา ทว่าฟ้ากลับยื่นไมตรี ส่งซาลาเปาขาวนุ่มชวนร้อนรุ่มผู้นี้ สตรีซึ่งไม่มีดีอันใดให้รื่นรมย์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม