เซียวอี้ถง อยู่ที่หอฟู่หรงฮวา วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว และวันนี้ เป็นวันที่ เธอจะต้องแสดงการร่ายรำ ให้กับ โหวเล่อฉวน ได้ชม
“ซูซู นี่ข้าจะต้องแสดงจริง ๆ เหรอ “ เซียวอี้ถงเอ่ยถามสาวใช้คนสนิท อีกครั้ง ด้วยความไม่มั่นใจ
“เจ้าค่ะ คุณหนู เพราะ ท่านโหวมาที่นี่เมื่อใด มาม่าหลี่จะต้องให้ขึ้นแสดงทุกครั้ง เพราะเป็นความต้องการของท่านโหว เจ้าค่ะ “
“แล้วท่านโหวนี่คือใครหนุ่มหรือแก่ นิสัยเป็นยังไง “เซียวอี้ถงถามเป็นชุด
“นี่คุณอย่าบอกว่าท่านก็จำท่านโหวไม่ได้ด้วย “ซูซูถามด้วยความสงสัย
“อือ น่าบอกมาเถอะว่าท่านโหว เป็นยังไง “
“ท่านโหว เป็น เชื้อพระวงศ์ หน้าตาหล่อเหลา เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาว ทั่วทั้งเมืองเจ้าค่ะ แต่ท่านโหวก็ไม่สนใจใคร นอกจาก “
“หือ นอกจากอะไร “
“นอกจากคุณหนูเฟยฮวาคนเดียวที่ท่านโหวให้ความสนใจ เจ้าค่ะ “ซูซูเอ่ย และฟังจากน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือน นางจะชอบท่านโหวนี้แน่ ๆ
“อย่างนั้นเหรอ แล้วข้าชอบเขาไหม “
“ไม่เจ้าค่ะ คุณหนูเฉย ๆ คุณหนูไม่ได้คิดอะไรกับท่านโหว นอกจาก สหายคนหนึ่งเจ้าค่ะแต่ว่าใคร ๆ ก็คิดว่าท่านโหวจะรับคุณหนูเป็นอนุนะเจ้าคะ “
“อ้ออย่างนั้นเหรอ “
“เจ้าค่ะ เอาละเสร็จแล้วเจ้าค่ะ คุณหนู หืมวันนี้คุณหนูงดงามมากเจ้าค่ะ ชุดสีฟ้า นี้สวยจริง ๆ เจ้าค่ะ “ซูซูเอ่ยชมนายสาว
“ไอ้สวยก็สวยหรอกนะ แต่ข้าว่ามันโป้ไปหน่อยไหม แถมยังต้องใส่ชุดนี้เต้นโชว์ให้คนอื่นดูอีกนะ “เซียวอี้ถงบ่นอิดออด ขณะที่ก้มดูตัวเอง
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ ทุกคนก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้น เจ้าค่ะ คุณหนู แต่ว่าคุณหนูใส่แล้วงดงามที่สุดเจ้าค่ะ “
“ปากหวานจริง ๆ เลย เจ้านี่ “
“จริงเจ้าค่ะ ได้เวลาแล้วเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ คุณหนู “
“อือ ไปก็ไป “เซียวอี้ถง พูดเนือย ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
.........................................................
วันนี้เป็นวันที่หอฟู่หรงฮวาดูคึกคัก มากเป็นพิเศษ เพราะว่า โหวเล่อฉวน มาเยี่ยมเยือน ที่นี่อีกแล้ว และที่คึกคักเพราะส่วนมากจะเป็น สาว ๆ ที่ต่างรอคอย ได้พบกับท่านโหว นั่นเอง
“ทำไมวันนี้ที่นี่ดูคึกคักจริง ๆ นะโม่เฉิน “ หรูอันฉี เอ่ยลูกน้องคนสนิท ขณะที่กำลังเดินออกมาที่ระเบียง
“ได้ยินว่า มีเชื้อพระวงศ์จะมาเยี่ยมเยือน ที่ฟู่หรงฮวาขอรับ “
“แค่เชื่อพระวงศ์ ทำไมจะต้อง ตื่นเต้นขนาดนั้นกันละ “หรูอันฉี เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ข้าได้ยินเขาพูดกันว่า ท่านโหวคนนี้ หน้าตาหล่อเหลา สาว ๆ ทั่วทั้งเมืองต่างอยากให้ท่านโหวต้องตาต้องใจ ไงละ เผื่อว่าจะได้เลื่อนฐานะ เป็นอนุของท่านโหว บ้าง “
“หือ ทุกคนอย่างนั้นเหรอ “
“และมีอีกอย่างที่ทำให้หนุ่ม ต่าง มาร่วมกันที่คือ วันนี้ เฟยฮวา หญิงงามอันดับหนึ่งของหอ ฟู่หรงฮวาแห่งนี้จะทำการแสดงร่ายรำในวันนี้ ขอรับ “
“เฟยฮวาอย่างนั้นเหรอ”หรูอันฉีเอ่ยทวนชื่อนี้ เขาจำชื่อนี้ได้ดี ต้องเป็นนางแน่ ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าขอรับนายท่าน “โม่เฉินเอ่ยถามผู้เป็นนาย
“เราไปดูกัน “
“ดูอะไรหรือขอรับนายท่าน “โม่เฉินถาม แต่ก็เดินตามเจ้านายไม่ห่าง
“ไปดูของสวย ๆ งาม ๆ โม่เฉิน “หรูอันฉี ตอบยิ้ม และเดินไปชั้นล่างและหาที่นั่ง ตรงด้านหน้าเวที
สักพัก เสียงอื้ออึง ดังขึ้นเมื่อตอนนี่ โหวเล่อฉวนเดินเข้ามากับกับ ลูกน้องคนสนิท 2 คน
“คารวะท่านโหวเจ้าคะ หอฟู่หรงฮวา ยินดีต้อนรับท่านโหวเจ้าค่ะ”มาม่าหลี่ เอ่ยเสียงหวาน พร้อมกับเดินมาทำความเคารพท่านโหว
“ตามสบาย ม่ามาหลี่ ที่นี่ยังคงคึกคักเหมือนเดิมนะ “โหวเล่อ ฉวน เอ่ยทักทาย
“แหมเพราะ วันนี้ทุกคนต่างมาชื่นชม ท่านโหวมากกว่าเจ้าค่ะ เชิญท่านโหวทางนี้ดีกว่าเจ้าค่ะ “มาม่าหลี่เดินนำท่านโหวไปที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้ เป็นพิเศษ
“ มาม่าหลี่ แล้วแม่นางเฟยฮวาละอยู่ไหน “โหวเล่อฉวนเอ่ยถามถึง เฟยฮวาทันทีด้วยความคิดถึง และวันนี้เขามีแผนที่จะต้องทำให้ นางยอมเป็นอนุของเขาให้ได้
“อ้อ ตอนนี้เฟยฮวานางกำลังเตรียมจะแสดงร่ายรำให้กับท่านโหวได้ชมเจ้าค่ะ “
“อย่างนั้นเหรอ ข้าจะอดใจรอไม่ไหวแล้วสิ มาม่าหลี่ เริ่มเถอะ “โหวเล่อฉวน เอ่ยทันที
“เจ้าค่ะ ท่านโหว รอสักครู่เจ้าค่ะ การแสดงจะเริ่มเดี๋ยวนี่เจ้าค่ะ”มาม่าหลี่เอ่ยและเดินไปด้านในทันที
เมื่อถึง ห้อง ด้านใน มาม่าหลี่ก็เห็น เฟยฮวากำลังนั่งนิ่ง เหมือนกำลังตื่นเต้น แปลก ๆ
“เฟนฮวาเจ้าเป็นอะไร ดูเหมือนเจ้าจะตื่นเต้นอย่างนั้นเหรอ ทำไมต้องตื่นเต้น ละ”มาม่าหลี่เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“เอ่อ นิดหน่อย เจ้าค่ะมาม่าหลี่ “เซียวอี้ถงตอบเสียงกังวล
“เอาละ เจ้าออกไปแสดง ได้แล้ว เฟยฮวา ท่านโหวรออยู่ ไปเถอะ อย่าให้ท่านโหวต้องรอนาน “
“เจ้าค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ มาม่าหลี่ “ ซูซูเป็นคนตอบคำถาม
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเร็ว ๆ เข้า “
“เจ้าค่ะ “
จากนั้นมาม่าหลี่ก็เดินจากไป ส่วนเซียวอี้ถงและ ซูซูก็เดินตามไป ติด เช่นกัน
“ทำไมคนเยอะอย่างนี้ละ ซูซู ๆ “เซียวอี้ถงเอ่ยพึมพำ และสายตาก็มองผู้คนตรงหน้า ทุกสายตากำลังมองไปที่เวที ที่เธอจะต้องขึ้นแสดง
“คุณหนูไปเถอะเจ้าค่ะ “ ซูซู เอ่ยบอก
เซียวอี้ถง ก้าวขึ้นไปบนเวทีที่อยู่ตรงกลาง และแค่เท้าเล็กก้าวขึ้นไปบนเวที ก็มีเสียงดังอื้ออึง พร้อมกับทุกสายตาก็มองมาที่ร่างสวยเย้ายวนของนาง รวมถึง สายตาคมของ หรูอันฉี ผู้นำกองคารวาน และท่านโหวเล่อฉวนที่จ้องมองร่างเล็กไม่วางตา
“เป็นนางจริง ๆ ด้วย เฟยฮวา” หรูอันฉีเอ่ยเสียงเบา และสายตาจับจ้องอยู่ร่างเล็กที่ยืนอยู่ตรงกลางเวที และวันนี้นางยิ่งงดงามมากว่าวันที่เขาได้เจอกับนางคราแรกนั่นซะอีก
“นายท่านรู้จักกับนางแล้วหรือขอรับ”โม่เฉิน เอ่ยถามเจ้านายด้วยความสงสัย เพราะดูจากสายตาของผู้เป็นนายตอนนี้ ก็รู้ว่า ต้องตาต้องใจ หญิงงามเข้าให้แล้ว
“อือ เจอเมื่อวันก่อน โดยบังเอิญ นะ”
“นายท่านถูกตาต้องใจนางเข้าแล้วใช่หรือไม่ขอรับ”โม่เฉินเอ่ยแซวผู้เป็นนาย
“เป็นธรรมดา ของสวยงามก็ย่อมเป็นที่สนใจของทุกคน”หรูอันฉีตอบ
“ให้ข้าบอกมาม่าหลี่ ให้นางเข้าไปปรนนิบัตินายท่านคืนนี้ดีหรือไม่ขอรับ”โม่เฉิน เสนอทันที
“ไม่ละ เรารีบจัดการเรื่อง สินค้าที่ส่งไปขายให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน อ้อแล้ว ก็เตรียมตัวเลยเมื่อเสร็จธุระ เราจะออกเดินทางกันเลย “หรูอันฉีเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม
“แต่ว่า นายท่านไม่กลัวว่าจะมีคนอื่นแย่งนางไปก่อนหรือขอรับ เพราะดูแล้ว ทุกคนที่ต่างหมายปองนาง นะขอรับ “ โม่เฉินพูดอีกครั้ง
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงอยู่ที่ตัวนางเองแล้วละ ว่านางต้องการแบบไหน “หรูอันฉีตอบเสียงเรียบ แต่สายตายังคงจ้องที่ร่างเล็กไม่วางตา
“ขอรับนายท่าน”
จากนั้นบทสนทนาของทั้งคู่ก็หยุดแค่นั้นและสายตาคมกริบก็จ้องมองที่ร่างสวยที่กำลับร่ายรำอย่างอ่อนช้อยอยู่บนเวที ถึงแม้เขาจะต้องตาต้องใจนางแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็ต้องรีบไปจากที่นี่เพื่อจัดการเรื่องสำคัญ ซะก่อน และถ้าเขามีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งคงจะได้พบนาง ถ้ายังมีวาสนาต่อกัน หรูอันฉีได้แต่ บอกตัวเอง และสายก็จ้องมองไม่วางตา
เซียวอี้ถง ต้องรื้อฟื้น ท่วงท่าการเต้นบัลเล่ย์ของนางมาใช้ในงานนี้ เธอ วาดรวดลายยกแขนยกข้า อย่างอ่อนช้อย ขณะที่นางกำลังแสดงก็จะได้ยินเสียงของหลาย ๆ คนที่ เอ่ยพึมพำด้วยความแปลกใจในท่าทางการร่ายรำของนางด้วย แต่ที่แน่ ๆ คือ ทุกคนต่างตกอยู่ในภวังค์ ความสวยของนางนั่นเอง
เซียวอี้ถง ร่ายตามจังหวะของนาง ได้อย่างสวยงาม จนกระทั่งมาถึงช่วงสุดท้าย นางก็จบการแสดงของนางด้วยท่าที่สวยงาม จากนั้นนางก็ได้รับเสียงปรบมือดัง รัวจากผู้คนที่อยู่ที่นี่
“แม่นาง เฟยฮวา ได้โปรด รับของ หมั้นจากข้าด้วยเถิดแม่นาง “เสียงตะโกนจากชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือ เอ่ยกับนาง ทำให้นางต้องหันไปมอง
“แม่นางเฟยฮวา ท่านยินดีจะแต่งงานกับข้าหรือไม่ ข้าจะให้เจ้าเป็นฮูหยินเพียงคนเดียวของข้า แม่นาง “ ชายอีกคนตะโกนขึ้นมาเช่นกัน
“เอ่อ ทุกท่าน การแสดงของ แม่นางเฟยฮวาได้จบลงแล้ว ต่อไปก็เป็นการแสดงชุดอื่น ขอให้ทุกท่านมีความสุขและเพลิดเพลินกับการแสดงชุดอื่นต่อไป”มาม่าหลี่เอ่ยบอกเสียงดังให้ทุกคนทราบก่อนจะเดินลงเวทีไป
................................................
เซียวอี้ถง ได้แต่รีบก้าวเท้าลงจากเวที อย่างรวดเร็ว ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“ซูซู นี่มันอะไรกัน “นางเอ่ยกระซิบกับสาวใช้คนสนิท
“เป็นเรื่องปกติเจ้าค่ะที่ บรรดาหนุ่ม ๆ ต่างก็อยากจะแต่งท่านไปเป็นภรรยา เพราะชื่นชมในความงามของคุณหนูเจ้าค่ะ”
“ แค่เห็นว่าสวยแค่นี้ถึงกับขอแต่งงานเลยอย่างนั้นเหรอ”เซียวอี้ถงเอ่ยด้วยความแปลกใจ และไม่อยากจะเชื่อ
“แม่นาง เฟยฮวา ท่านโหวเชิญที่โต๊ะขอรับ” ชายชุดดำเดินมาหาทั้งสองคนที่กำลังจะเดินไปที่ห้องพักของนาง
“อะไรนะ เชิญข้าอย่างนั้นเหรอ “ เซียวอี้ถงเอ่ยถามกลับไปทันที
“ขอรับเชิญขอรับ “
“ไปเถอะเจ้าค่ะ คุณหนู ท่านโหว คงจะรออยู่ “ซูซูเอ่ยบอก และดันร่างเล็กให้เดินไป แต่ขณะที่นางเดินตามชายคนดังกล่าวไป จะต้องผ่าน โต๊ะที่หรูอันฉีและโม่เฉินนั่งอยู่ สายตาของเขาได้แต่มองใบหน้าสวยนิ่ง ยิ่งเมื่อนางเดินผ่าน หน้าเขาไป เขานี้แทบอยากจะดึงรั้งแขนเรียวให้นั่งกับเขาเสียจริง ๆ
“นี่ เจ้าว่าท่านโหวมีอะไรหรือเปล่า “ เซียวอี้ถงเอ่ยถามขณะที่เดินตามหลัง ชายคนดังกล่าวไป และคำถามของนาง หรูอันฉีก็ได้ยินเช่นกัน เขาจึงได้แต่ขมวดคิ้ว
“ไปถึงท่านก็จะรู้เองขอรับ เชิญตามข้ามาเถอะ “ ชายคนดังกล่าวก็ตอบสั้น ๆ แบบเดิม
“แล้วเจ้าจะพาข้าไปที่ใดอย่างนั้นเหรอ แล้วท่านโหวอยู่ที่ไหนกัน “เซียวอี้ถง เอ่ยถามไม่หยุดขณะที่เดินตามหลังไป
“เชิญ ท่านโหวรอแม่นางอยู่ในห้องนี้ขอรับ “ชายคนดังกล่าวเอ่ยบอก และเซียวอี้ถงได้แต่มองด้วยความไม่ไว้ใจ
“ทำไมต้องคุยที่ลับตาคนด้วยละ “ เซียวอี้ถงถามอีกครั้ง
“เชิญเถอะแม่นางท่านโหวรอนานแล้ว”
เซียวอี้ถงได้แต่ ถอนหายใจก่อนที่มือบางจะผลักประตูเข้าไปด้านใน เมื่อเดินเข้ามาแล้ว นางก็เห็น ผู้ชาย หน้าตาดีแต่งตัวภูมิฐานนั่งอยู่ที่ เก้าอี้ และบนโต๊ะก็มีอาหารมากมายวางอยู่
“มาแล้วเหรอเฟยฮวา”เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับลุกเดินมาหานางและโอบไปที่ไหล่บางของนาง
“เอ๊ะนี่ท่าน “ เซียวอี้ถุง อุทานด้วยความไม่พอใจ และเบี่ยงตัวออกจากการเกาะกุมของมือหนา
“ทำไมละเฟยฮวา ข้าคิดถึงเจ้ามากแค่ไหนเจ้าน่าจะรู้ “ โหวเล่อ ฉวนเอ่ยบอกและเดินเข้าไปหมายจะดึงร่างเล็กมากอด แต่เซียวอี้ถงก็ไม่ยอมง่าย ๆ นางเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงไปยืนห่าง ๆ ทันทีและมองใบหน้าหล่อของเขาด้วยสายตาดุ
โหวเล่อฉวน เองก็รู้สึกสงสัยกับท่าทางของนางมากในตอนนี้ นางเฉยเมย และท่าทางที่หวาดระแวงของนางด้วย มันดูผิดปกติ เหมือนกับว่าไม่ใช่นาง และดวงตาคมดุที่มองมาที่เขาเช่นกัน มันไม่เหมือนเฟยฮวาคนเดิม เพราะเมื่อก่อนสายตาของนางสุกสกาว ราวตากวาง ดูไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก แต่ว่าวันนี้ไม่ใช่ สายตาที่มองเขาอยู่ตอนนี้นั้น ดู คมวาว น่าค้นหาดูมีเสน่ห์ ไปอีกแบบ และดูท่าทางจะดื้อรั้นพอสมควร ความอ่อนโยนอ่อนหวานที่เคยเห็น ไม่เหลือเค้า ในสายตาของโหวเล่อฉวนเลยในตอนนี้ แต่เขาก็ชอบ นางในแบบนี้เช่นกัน
“ท่านมีธุระอะไรจะคุยกับข้าอย่างนั้นเหรอ ท่านโหว”เซียวอี้ถงเอ่ยถาม ด้วยความไม่ไว้วางใจ
และท่าทางของนางทำให้โหวเล่อฉวนได้แต่ยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ และตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาชอบเฟยฮวาที่เป็นในตอนนี้มากกว่าแต่ก่อนซะอีก