EP03 ‘ผู้ปกครอง’
Special interview with Double K
“ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณคุณเคมากๆ ที่ให้เกียรตินิตยสารของเราได้มาสัมภาษณ์นะคะ การสัมภาษณ์วันนี้จะเป็นการถามเร็วๆ เพื่อจะได้ไม่รบกวนเวลาคุณเคมากเกินไปนะคะ”
“ยินดีครับ”
“มาเริ่มที่คำถามแรกที่คนอยากรู้มากที่สุดกันเลยค่ะ”
Q: จะเป็นไรมั้ยคะถ้าจะขอถามชื่อจริงของคุณเค
A: ชื่อ ขุนเขา นิธิโภคิน ครับ ชื่อในวงการ double K หรือ K
Q: คุณเคชอบให้เรียกชื่อจริงหรือชื่อในวงการมากกว่าคะ
A: ชื่อในวงการครับ (ยิ้ม)
Q: ที่จี้พอจะทราบมาคือคุณเคไม่ได้เป็นคนกรุงเทพ?
A: คุณพ่อเป็นคนกรุงเทพคุณแม่เป็นคนเชียงใหม่ครับแต่ผมเกิดและโตที่เชียงใหม่
Q: ว้าว หนุ่มเหนือนี่เอง อู้คำเมืองได้มั้ยคะเนี่ย
A: ก็ ได้นิดหน่อยครับ
Q: คำถามต่อไป ทำไมคุณเคถึงเลือกมาเป็นผู้กำกับคะ
A: ชอบครับ แค่นั้นเลย
Q: รู้ตัวมั้ยว่าตัวเองหน้าตาดีมากสามารถเป็นนักแสดงได้เลยอยากทราบว่าคุณเคเคยมีความคิดอยากเปลี่ยนไปเป็นนักแสดงบ้างมั้ยคะ
A: ไม่ครับ ผมชอบทำงานเบื้องหลังมากกว่า
Q: คุณเคถือว่าเป็นผู้กำกับที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยมีเคล็ดลับความสำเร็จมั้ยคะ
A: Passion and money ครับ ผมมีแพสชันที่อยากทำงานตรงนี้และครอบครัวก็มีเงินในการสนับสนุนทำให้ทุกอย่างมันโฟลว์และเป็นไปตามที่ต้องการ
“ฟังดูเหมือนจะได้มาง่ายๆ เลยนะคะแต่จี้ขอเสริมอีกนิดค่ะ ถึงคุณเคจะบอกอย่างนั้นแต่ต้องยอมรับเลยว่าฝีมือการกำกับของคุณเคก็ไม่ธรรมจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ เก่งมากๆ เลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
Q: ปกติคุณเคไม่ได้อยู่ไทยเสร็จงานนี้แล้วมีแพลนจะอยู่ต่อมั้ยคะ
A: ตอนนี้ยังไม่มีครับ ถ้าเสร็จงานแล้วก็คงกลับ LA
“น่าเสียดายจังเลยค่ะอยากให้คุณเคอยู่ที่นี่นานๆ เอาล่ะเราเปลี่ยนมาเรื่องหัวใจที่สาวๆ หลายคนอยากรู้กันบ้างดีกว่าค่ะ”
Q: ทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้คุณเคมีหวานใจหรือยังน้า
A: ยังไม่มีครับ
Q: แล้วมีสเปกที่ชอบมั้ยคะ?
A: ไม่มีครับ ชอบก็คือชอบ
Q: แล้วคุณเคชอบคนเด็กกว่าหรือโตกว่าคะ
A: ผมไม่ชอบเด็กครับ
“สาวๆ หลายคนที่อ่านอยู่อกหักกันเป็นแถบเลยนะคะเนี่ย (หัวเราะ)
ต่อไปเป็นคำถามจากทางบ้านนะคะ”
Q: คุณเคมีรอยสักตรงไหปลาร้าด้วยอยากรู้ว่าคำนั้นอ่านว่าอะไรมีความหมายกับคุณเคยังไงคะ โห ถามยาวมากเลยนะคะ (แซว)
A: อ่า ผมสักคำว่า Valentine ครับ ความหมายก็ไม่มีอะไรมากแค่หมายถึง... (เว้นช่วงคิดไปครู่หนึ่ง) วันเกิดของผมครับ
คลิกเพื่ออ่านต่อ...
Comments
xxx: เค้าคือสเต๊กชั้นเลยอ่า ชอบมากผู้ชายแบบนี้
xxx: ชื่อจริงเท่มากเลยอะ อยากใช้นามสกุลด้วยเลอ อิอิ
xxx: โยนเข้าแท็ก #ผกกหล่อบอกต่อ เลยค่ะ
xxx: เบ้าหน้าแบบ หล่อยิ่งกว่าดาราอีก
Xxx: หล่อ รวย เก่ง ครบเว่อ แต่งค่ะ!
xxx: เป็นครั้งแรกเลยนะที่ชั้นติ่งผกก อยากดูหนังเพราะคุณเคเลยอะ
xxx: วอนคุณเคในหนังที่คุณกำกับช่วยแวบๆ เข้าสักฉากให้เราเห็นหน้าได้มั้ยคะจะได้มีกำลังใจในการดู
xxx: ใจผมสลายฮะมุง มาแค่รูปเดียวแต่หล่อทำลายล้างมาก TT
xxx: จบแล้วเค้าไม่ชอบเด็ก
.
.
Khunkhao’ s Part
ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟากลางห้องด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่กลับมาจากประชุมเกี่ยวกับหนังที่จะเริ่มถ่ายทำในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว กำลังจะถอดเสื้อออกด้วยความเคยชินแต่นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่ผมที่อาศัยอยู่ในห้องนี้จึงรีบดึงมันกลับมาไว้ตามเดิม
หลังจากที่ตกลงว่าจะให้วาเลนมาอยู่ด้วย (ชั่วคราว) วันต่อมาเธอก็ย้ายของเข้ามาเลย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาสามวันแล้วที่เธอย้ายมาอยู่กับผม ผมแอบคิดว่าเราจะอึดอัดกันจนเธอไม่กล้าทำอะไรแต่ผมน่าจะคิดผิดเพราะตั้งแต่ย้ายเข้ามาวาเลนก็สั่งของมาลงที่คอนโดผมไม่หยุดเลยพอผมถามก็บอกว่าของแต่งห้อง ผ่านไปสามวันแล้วยัยตัวแสบยังแต่งห้องไม่เสร็จเลยพักอยู่แค่ชั่วคราวแต่แต่งห้องอย่างกับจะอยู่ถาวร
มองดูกล่องที่กองอยู่บนพื้นก็ได้แต่ถอนหายใจถ้าแม่บ้านไม่มาทำความสะอาดทุกๆ สองวันผมได้โดนกล่องทับตายแน่ บ่นคนตัวเล็กอยู่ในใจจนสายตาไปสะดุดกับกล่องใบใหญ่ตรงมุมห้องที่ยังไม่ได้รับการแกะด้วยความแปลกใจ
กล่องขนาดมหึมาใหญ่กว่าทุกกล่องในห้องรวมกันทำผมขมวดคิ้ว
สั่งอะไรมาอีกวะ
ตัดสินใจไปเคาะห้องคนตัวเล็กเพราะคิดว่าเธอน่าจะอยู่ข้างในไม่นานร่างบางก็มาเปิดประตู
“คะ?”
“กล่องที่อยู่ข้างนอกนี่อะไร” ผมชี้ไปที่กล่องเจ้าปัญหา
“อ้อ กล่องลู่วิ่งออกกำลังกายของวาเองค่ะ เอ่อ คุณช่วยหามุมติดตั้งให้หน่อยได้มั้ยคะวาไม่รู้ว่าวางตรงไหนได้บ้างก็เลยยังไม่ได้ให้ช่างติดตั้งให้”
“ลู่วิ่ง? ซื้อมาทำไม”
“ก็ที่คอนโดคุณไม่มีวาก็เลยสั่งซื้อมา”
“ยิมที่คอนโดก็มีทำไมไม่ไปใช้”
“ไม่ได้ค่ะ ถ้าวาไปใช้ก็มีคนรู้สิว่าวาอยู่ที่นี่อยากเป็นข่าวกับวาหรือไง”
ผมส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ลืมไปว่าตอนนี้ผมอยู่กับดาราดังที่มีข่าวไม่เว้นแต่ละวันแต่เธอจะซื้อทุกอย่างมาไว้ในห้องผมแบบนี้ไม่ได้มั้ยวะ
“นะคะพี่ขุนทำให้วาหน่อยน้า”
เด็กแสบที่เรียกผมว่า ‘คุณ’ มาตลอดหลายวันแต่พอจะอ้อนขออะไรก็เรียกพี่ขุนอย่างนั้นพี่ขุนอย่างนี้ขึ้นมาทันที
“อืม” แล้วทำไมผมต้องแพ้ลูกอ้อนของเธอทุกทีเลยด้วยวะ
“เย้! น่ารักที่สุดเลยค่ะ”
พอได้คำตอบที่พอใจคนตัวเล็กก็กระโดดหอมแก้มผมฟอดใหญ่จนผมตกใจพอรู้ตัวว่าเผลอทำอะไรลงไปวาเลนก็รีบขอโทษผมทันที
“อะ เอ่อ ขอโทษค่ะ วะ วาลืมตัว”
อยู่ๆ บรรยากาศรอบตัวเราก็กระอักกระอ่วนขึ้นมา ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติแล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“เย็นนี้จะทานอะไรจะได้สั่งทีเดียว”
“ไม่ต้องสั่งเผื่อวาหรอกค่ะวันนี้วาจะออกไปทานข้างนอก”
“ไปกับใคร?” ผมถามเสียงเข้มอย่างลืมตัว
“ก็...กับเพื่อนค่ะ”
“จะกลับกี่โมง” วาเลนมองหน้าผมอย่างมีคำถาม เธอคงไม่ค่อยชอบใจที่ผมซักไซ้เรื่องส่วนตัวแต่ที่ผมถามไม่ใช่เพื่อตัวผมเองหรอกนะ
“อาเจษกับอาอีฟฝากให้ดูแลเธอพี่จำเป็นต้องรู้ ต่อไปนี้จะไปไหนทำอะไรต้องรายงานพี่ด้วย”
ใช่ เพราะพ่อกับแม่ของเธอฝากให้ผมดูแลเธอผมถึงได้ถามอีกอย่างเธอมาอยู่กับผมแล้วเวลาจะไปไหนหรือจะกลับเมื่อไหร่ผมก็ควรต้องรู้หรือเปล่า
“อ่า ก็คงดึกแหละค่ะแต่วาสัญญาว่ากลับมาแล้ววาจะไม่ทำเสียงดังรบกวน”
“ต้องกลับไม่เกินเที่ยงคืน”
“คะ?”
“พี่ให้เธอกลับได้ไม่เกินเที่ยงคืน อาเจษสั่งไว้”
ผมไม่ได้พูดเองนะอาเจษสั่งไว้จริงๆ ว่าห้ามตามใจถึงจะออกมาอยู่ข้างนอกแล้วแต่ท่านก็ยังไม่ปล่อยให้วาเลนทำอะไรตามใจตัวเองซะทีเดียวซึ่งผมเองก็เห็นด้วยถ้าปล่อยมากไปเดี๋ยวยัยตัวแสบก็ไปก่อเรื่องอีก
ตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่กับผมเรายังไม่ได้มีข้อตกลงอะไรกันชัดเจนเพราะสามวันที่ผ่านมาวาเลนยังไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากไปเรียนกลับมาก็อยู่แต่ในห้องของตัวเองเท่านั้น
“อย่าคิดว่าออกมาอยู่ข้างนอกแล้วจะกลับตอนไหนก็ได้ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ต่อก็ทำตามที่พี่บอกด้วย”
“เข้าใจแล้วค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับเสียงหงอยก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวส่วนผมก็ออกมาจัดการลู่วิ่งหาที่ติดตั้งให้ดาราสาวได้เอาไว้ใช้ออกกำลังกายได้อย่างสะดวก โชคดีที่ยังคอนโดของผมกว้างพอมีพื้นที่ให้วางลู่วิ่งอันใหญ่ได้สบายๆ
“วาไปนะคะ”
ในขณะที่ผมกำลังทดสอบลู่วิ่งอันใหม่ก็ได้ยินเสียงวาเลนดังขึ้นจากด้านหลังหันไปมองก็ทำเอาผมถึงกับขมวดคิ้ว
นี่คือชุดที่เธอจะใส่ไปทานข้าวกับเพื่อน?
โป๊ไปหรือเปล่าวะ ร่างบางสวมเพียงเดรสเกาะอกสีดำสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเกือบคืบโชว์เนินอกและแผ่นหลังขาวเนียน ชุดแนบลู่ไปกับร่างกายจนเห็นสัดส่วนชัดเจนผมยาวสวยถูกปล่อยลงดัดเป็นลอนแต่งหน้าจัดกว่าปกติยิ่งทำให้เธอดูโดดเด่นขึ้นไปอีก สภาพนี้ไม่น่าจะไปทานข้าวกับเพื่อนเฉยๆ แล้วล่ะผมว่าเด็กแสบจะแอบไปเที่ยวกลางคืนชัวร์
“เดี๋ยววาเลน!”
“คะ?”
“ไปใส่เสื้อคลุม” คนตัวเล็กที่กำลังจะเปิดประตูห้องออกไปหันมามองผมอย่างไม่เข้าใจเมื่อโดนผมสั่ง ไม่ได้อยากจะจู้จี้หรอกนะแต่ผมว่าผมไม่ควรปล่อยให้เธอออกไปในสภาพนี้
“ชุดมันโป๊”
“แต่ปกติวาก็ใส่แบบนี้...”
“ไปใส่เสื้อคลุม” กดเสียงดุเมื่อคนตัวเล็กตั้งท่าจะเถียงแต่สุดท้ายก็ยอมเดินฟึดฟัดกลับเข้าไปในห้องก่อนจะออกมาพร้อมเสื้อคุมตัวบาง ไม่ได้ดีขึ้นเลยแต่ก็เอาเถอะก็ยังดีกว่าไม่ใส่
“วาไปได้แล้วใช่มั้ยคะ”
ผมพยักหน้าให้เธอแล้วหันกลับมาสนใจทำลู่วิ่งต่อ
ในช่วงสองปีที่เราไม่ได้เจอกันผมก็เห็นวาเลนผ่านตามาบ้างตามโซเชียลหรือบางทีพ่อกับแม่ผมก็ส่งรูปมาให้ดู ไม่คิดเหมือนกันว่าเด็กแสบเมื่อสองปีก่อนโตขึ้นมาจะขนาดนี้ ยอมรับว่ายังไม่ชินแต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่
ก็สมกับเป็นวาเลนดี
10PM @pick me bar
“เอ้าๆ รีบกระดกไปไหนวาเดี๋ยวก็เมาหรอก”
‘คาร่า’ ทักเพื่อนตัวเล็กที่ตั้งแต่มาถึงก็กระดกเครื่องดื่มไม่พักเลยในขณะที่เพื่อนคนอื่นค่อยๆ จิบอย่างชิลๆ
“ต้องรีบเมาสิกูต้องกลับก่อนเที่ยงคืนไง”
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าออกมาอยู่คอนโดแล้วไงทำไมยังต้องรีบกลับอีก”
“นั่นสิ”
‘ขนม’ กับ ‘เอลลี่’ เพื่อนสาวอีกสองคนถามอย่างแปลกใจ อุตส่าห์ดีใจที่เพื่อนได้ออกมาใช้ชีวิตแต่ทำไมวาเลนถึงพูดเหมือนยังไม่มีอิสระขนาดนั้นก็ไม่รู้
ร่างบางที่ตั้งใจออกมาสนุกกับเพื่อนในรอบหลายสัปดาห์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเซ็งๆ นึกถึงหน้าดุๆ ของคนที่สั่งให้เธอกลับคอนโดก่อนเที่ยงคืนแล้วก็ยิ่งเซ็งเข้าไปใหญ่ ผ่านด่านพ่อเธอมาได้แล้วก็คิดว่าจะสบายแต่แบบนี้มันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ
ขุนเขาทำตัวเหมือนเป็นผู้ปกครองอีกคนของเธอเข้าไปทุกวัน
คนตัวเล็กตัดสินใจบ่นให้เพื่อนฟังถึงสาเหตุที่เธอยังต้องกลับบ้านเร็ว พอรู้ว่าเรื่องสามสาวก็แซววาเลนกันยกใหญ่ไม่ได้เห็นถึงความลำบากของเพื่อนเลย
“อู้วว ชีแซ่บนะอยู่คอนโดกับผู้ชายแต่มุบมิบไว้ไม่ยอมบอกเพื่อน!” ขนมแซว
“เอาไรมาแซ่บก่อน ดุยิ่งกว่าป๊ากูอีก!”
“แต่เดี๋ยวก่อนนะวา ‘ขุนเขา’ ทำไมชื่อคุ้นๆ เหมือนกูเคยได้ยินเลยวะ”
“จะไม่คุ้นได้ไงคาร่าก็ชื่อผู้ชายที่หักอกมันช่วงซัมเมอร์ก่อนเราขึ้นปีหนึ่งไง” เอลลี่ที่จำเรื่องนั้นได้ดีเฉลย เธอสี่คนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนไฮสกูลแล้วล่ะพอเข้ามหาลัยก็เรียนคณะเดียวกันอีกเป็นแก๊งเพื่อนซี้ที่คบกันมานานสุดๆ เลยล่ะ เรื่องราวความรักของวาเลนในวัยสิบแปดปีพวกเธอก็รู้ดีเพราะเป็นคนช่วยให้วาเลนผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
“เออ ตอนนั้นชีเฮิร์ตกลับมาร้องไห้อยู่เป็นเดือนๆ”
“อ๋าา ก็คือพี่ขุนเขารักครั้งเก่าของมึงคือคุณเคผู้กำกับหนังที่มึงกำลังจะเล่นแล้วก็ยังเป็นผู้ชายที่มึงอาศัยอยู่ด้วย ‘สองต่อสอง’ ในตอนนี้ใช่มั้ย” คาร่าทวนอีกครั้ง
“อืม”
“กรี๊ดดด แซ่บ!! แบบนี้ถ่านไฟเก่าจะปะทุหรือเปล่าเนี่ยวา” พอได้ข้อสรุปก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ไม่ได้มีใครห่วงเพื่อนเลยสนใจแต่เรื่องแซ่บๆ (?)
“ถ่านไฟเก่าอะไรกูไม่เคยคบกับเค้า” ก็แค่รักข้างเดียวที่ไม่สมหวัง
“แล้วกลับมาอยู่ด้วยกันแบบนี้มึงไม่หวั่นไหวแย่เหรอ”
“ไม่! กูไม่ได้ชอบเค้าแล้ว”
“จริงหราาา” สามสาวหรี่ตาถามเป็นเสียงเดียวกันเหมือนไม่เชื่อ ตั้งแต่อกหักมาคราวนั้นวาเลนก็เทิร์นแซ่บเปลี่ยนคู่เดตเป็นว่าเล่นแต่ยังไม่เคยเห็นเธอคบใครจริงจังเลยสักคน ถ้าไม่ฝังใจกับรักครั้งเก่าก็คงเป็นคนที่เลือกเยอะน่าดู
“เออ เลิกพูดถึงเค้าได้แล้วน่าเบื่อ!”
คนตัวเล็กที่โดนรุมแซวอยู่เปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากพูดถึงเขาแล้วยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด!
ผ่านไปเกือบชั่วโมงจุดจบของสายกระดกไม่พักตอนนี้ก็คือเมาคอพับไปแล้วทิ้งความกลุ้มใจไว้ให้เพื่อนว่าจะเอายังไงต่อเพราะไม่มีใครรู้จักที่อยู่ใหม่ของวาเลนเลยสักคน
“เอางี้ให้มันไปนอนคอนโดกูก่อน กูถามพี่เคทแล้วพรุ่งนี้มันไม่มีงาน”
“เอางั้นเหรอ”
“ถ้าไม่เอางี้แล้วจะเอาไง เราไม่รู้ที่อยู่มันสักคน”
สามสาวตกลงกันว่าคืนนี้จะพาดาราคออ่อนที่เมาไม่ได้สติไปค้างที่คอนโดของคาร่าก่อนถ้าจะพาไปส่งที่บ้านก็กลัวเพื่อนโดนป๊าดุที่กลับบ้านในสภาพเมาจนคอพับแบบนี้ แต่ในขณะที่กำลังพยุงคนเมาไปที่รถมือถือในกระเป๋าของวาเลนก็สั่นเพราะมีคนโทรเข้ามาซะก่อน ขนมที่รับหน้าที่ถือกระเป๋าให้เพื่อนหยิบออกมาดูก็เห็นคนที่วาเลนเมมชื่อว่า
‘ผู้ปกครองคนที่3’
โทรเข้ามา
ไม่รู้เพราะเซนส์หรือเพราะอะไรทำให้ขนมตัดสินใจรับสาย หลังจากนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็อย่าโกรธกันเลยนะวาเลน T.T
.
.
1AM
“อื้ออ”
“อย่าดิ้นเดี๋ยวตก”
ขุนเขาดุคนเมาที่เขาอุ้มอยู่เมื่อเธอเริ่มดิ้นไปมา คนตัวสูงรีบหาคีย์การ์ดมาเปิดประตูเข้าห้องก่อนที่วาเลนจะดิ้นจนตกจากอ้อมแขนของเขา
ใช่อ่านไม่ผิดหรอก คนที่เขาอุ้มอยู่ตอนนี้คือวาเลนเด็กแสบที่ไปเที่ยวกับเพื่อนจนลืมเวลากลับทั้งๆ ที่เขาบอกไว้ตั้งแต่ก่อนไปแล้วว่าให้กลับก่อนเที่ยงคืน ขุนเขารอจนถึงเที่ยงคืนเธอไม่กลับมาสักทีจึงโทรตามแต่เป็นเพื่อนเธอที่รับสายแทน ถามจนรู้เรื่องว่าวาเลนเมาไม่ได้สติเดือดร้อนเขาที่ต้องขับรถไปรับเธอกลับห้องด้วยตัวเอง
สามวันที่ผ่านมาวาเลนยังไม่ออกลายแต่นี่สินะคือตัวจริงของเธอที่เขาต้องรับมือไปอีกหลายเดือน
ขุนเขาวางคนเมาลงบนเตียงในห้องนอนของเธอที่เขาเพิ่งเคยเข้ามาเป็นครั้งแรก จัดการถอดรองเท้าส้นสูงสองนิ้วออกให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เธอ จะปล่อยให้นอนทั้งแบบนี้ก็กลัวคนตัวเล็กจะไม่สบายตัว
“อื้อ เย็นๆ ไม่อาวว”
พอโดนความเย็นปะทะผิวกายร่างบางก็ดิ้นปัดมือเขาออกจนขุนเขาต้องรวบมือเธอไว้
“เช็ดตัวก่อนเดี๋ยวนอนไม่สบาย”
“น้องวาเย็น : (” คนเมาลืมตาขึ้นมามองเขาน้ำตาคลอ ขุนเขาชะงักไปเล็กน้อยเขาไม่เคยเจอวาเลนในโหมดนี้มาก่อนไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง
“นิดเดียว อดทนนะ” ลูบหัวเธออย่างปลอบโยนจนวาเลนยอมอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เขาเช็ดตัวให้แต่โดยดี คนเมาเหมือนเริ่มได้สติก็เลิกโวยวายนอนลืมตามองหน้าเขาตาแป๋วจนคนพี่ทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกคนตัวเล็กจ้องอยู่แบบนั้น
“พี่ขุน...”
อยู่ๆ คนตัวเล็กก็เรียกชื่อเขาพร้อมกับส่งมือทั้งสองข้างมาจับเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลาแล้วลูบไปมาก่อนจะดันตัวลุกขึ้นมานั่งมองหน้าเขาชัดๆ
“พี่ขุนจริงๆ ด้วย”
“อืม พี่เอง”
ขุนเขาตอบกลับพยายามจับมือเล็กออกจากหน้าของตัวเองไปด้วยแต่ก็ไม่เป็นผล วาเลนขยับเข้ามาใกล้จนเขาได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ จากลมหายใจของเธอ ดวงตากลมโตที่ฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์วูบไหวและเปล่งประกายด้วยความดีใจจนเขาใจกระตุก
“พี่ขุนกลับมาหาน้องวาแล้วใช่มั้ยคะ”
“…”
“น้องวาคิดถึง...”
ตั้งแต่กลับมาเจอกันวาเลนไม่เคยพูดอะไรแบบนี้กับเขาเลยสักครั้งและท่าทีที่เธอแสดงออกก็ทำให้เขาเผลอคิดไปว่าเธอไม่อยากเจอเขาแล้วซะอีกแต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบที่เขาคิดเมื่อคนเมาหลุดพูดออกมาว่าคิดถึงกันทำเอาขุนเขาใจกระตุกจนทำอะไรไม่ถูก
“คิดถึงพี่ขุนที่สุด”
“น้องวา…”
“ฮึก อย่าทิ้งน้องวาไปอีกนะคะ”