ตอนที่ 3 ความเชื่อใจ [3]

1564 คำ
“พรุ่งนี้ผมจะส่งทนายมาจัดการ พวกคุณเตรียมตัวเอาไว้ก็แล้วกัน!” เสียงเขาเย็นจัด พูดจบก็เดินออกมาจากห้องนั้น ก้าวผ่านหญิงสาวที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น คนที่เขารักมากแต่ในเมื่อเธอเลือกจะไม่เชื่อใจเขา เขาก็ไม่คิดจะแก้ตัวอะไรอีก เมื่อก้าวพ้นประตูห้องนั้นมาได้ วิศรุตก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาทนายส่วนตัวทันที วิศรุต เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลภักดีกานต์ บิดาของเขาเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่มีทั้งอสังหาริมทรัพย์ การส่งออก-นำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้าง และเครือข่ายการค้าอีกมากมาย เขาเรียนจบและเข้ามาบริหารงานที่บริษัท ตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่สอง ส่วนแพรพรรณเป็นลูกสาวของคุณวิชัยเพิ่งเรียนจบหมาด ๆ พ่อของเธอก็เป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกอุปกรณ์ก่อสร้างรายใหญ่เช่นกัน นับได้ว่าทั้งสองครอบครัวเป็นคู่แข่งกันมาตลอด วิศรุตรีบเดินออกมาจนถึงลานจอดรถอย่างหัวเสีย แต่แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองไม่ได้ขับรถมาที่นี่ด้วยซ้ำ ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นกุมขมับ ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ อย่างเหนื่อยหน่าย ชายหนุ่มก้มมองโทรศัพท์ในมือ ที่เพิ่งวางสายจากทนายส่วนตัว เขากดโทรออกอีกครั้งทันทีคราวนี้เป็นเบอร์ของเพื่อนสนิท “ฮัลโหลไอ้วุฒิ มารับกูที่โรงแรมดุสิตหน่อย มีเรื่องว่ะ เรื่องใหญ่ รีบมาเร็ว ๆ ด้วยล่ะ” วิศรุตวางหูก่อนจะยืนรอด้วยความโมโห เขามานึกย้อนดูเรื่องเมื่อคืน เป็นไปไม่ได้ที่ตัวเองจะไปนั่งดื่มกับน้องสาวของคนที่ตัวเองรักได้ เพราะรู้จักกันเพียงแค่ฉาบฉวยไม่ได้สนิทสักหน่อย เขาเคยเห็นศศิเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ความสงสัยยังคงติดอยู่ในใจ เวลานี้ฤทธิ์ของยากล่อมประสาทเริ่มหมดฤทธิ์ไปบ้างแล้ว เพียงไม่นานคนที่เขาโทรหาก็ขับรถมาจอดเทียบ วิศรุตรีบก้าวเท้าขึ้นไปบนรถอย่างรีบเร่ง จัดการคาดสายนิรภัยก่อนจะพยักหน้าให้สารถีจำเป็นเคลื่อนล้อรถออกไป “ไงวะ เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ธีรวุฒิเอ่ยถามทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกจากโรงแรม ดวงตาคมกริบหันไปมองเพื่อนที่สีหน้าเครียดจัด วิศรุตพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ “ถูกหิ้วว่ะ” จากนั้นเรื่องราวก็ถูกถ่ายทอดออกมาจนหมด "เมื่อคืนกูนั่งอยู่คนเดียวจริง ๆ สาบานได้เลยแต่ไม่รู้ทำไมเช้ามาถึงได้อยู่บนเตียงกับยัยศศินั่นได้ แล้วแพรแม่งก็เข้ามาเห็นในจังหวะนรกนั่นอีก แม่งเอ๊ย!!" วิศรุตสบถออกมาอย่างหัวเสีย ธีรวุฒิเงียบไปพักหนึ่ง ฟังเพื่อนเล่าจนจบ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ อย่างเข้าใจ “อืม...เอาจริงนะ มึงก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันถูกจัดฉาก” แววตาเพื่อนสนิทสะท้อนความจริงใจ เขาไม่ได้พูดเพื่อปลอบใจ แต่เพราะเขาเองก็รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ วิศรุตหันขวับมามองเพื่อน ดวงตาแดงก่ำของเขาเบิกเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยแรงอัดอั้น “มึงก็คิดเหมือนกูใช่มั้ยวะ!” “อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ" ธีรวุฒิพูดพลางมองเพื่อนที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ “แต่ตอนนี้ มึงควรไปตรวจร่างกายก่อนเลย จะได้มีหลักฐานไว้เรื่องมันจะง่ายขึ้นเยอะ” "อืม" วิศรุตเห็นด้วยกับที่เพื่อนพูด ไม่นานรถยนต์หรูแล่นเข้าสู่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ธีรวุฒิจอดรถที่ลาน VIP ด้านใน ซึ่งมีระบบความปลอดภัยสูงสุด เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้มีคุณพ่อของเขาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนหน้านั้นได้มีการโทรแจ้งเลขาพ่อตนเองเอาไว้แล้ว เรื่องนี้นับเป็นเรื่องใหญ่มาก ยิ่งคนรับรู้น้อยก็ยิ่งดี ห้องตรวจ “เรื่องนี้มันบ้าเกินไปจริง ๆ” วิศรุตพูดพลางส่ายหน้า “กูไม่เข้าใจเลย ว่าสองคนนั่นมันคิดอะไรอยู่ถึงทำอะไรต่ำ ๆ แบบนี้” “อีกอย่างกูรักแพร ไม่ใช่น้องสาวเธอสักหน่อย” เขาพ่นลมหายใจหนัก ๆ ขณะที่ทีมแพทย์เดินออกจากห้องพร้อมกับหลอดเลือดที่เพิ่งเจาะออกไปเพื่อส่งตรวจหาสิ่งปนเปื้อน ธีรวุฒิมองเพื่อนอย่างเข้าใจ “ตอนนี้มึงต้องอยู่เฉย ๆ ก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรโฉ่งฉ่าง อีกฝ่ายกล้าลงมือขนาดนี้ มันต้องคิดมาแล้วว่าเรื่องจะไปถึงสื่อหรือสังคมให้สังคมช่วยตัดสิน ในเมื่ออีกฝ่ายเล่นแบบนี้ มึงต้องคิดแก้เกม อีกอย่างกูสั่งให้คนไปสืบที่ร้านที่มึงไปเมื่อวานแล้ว รอดูผลก่อน ใจเย็น ๆ เก็บหลักฐานให้ครบแล้วค่อยกลับไป ‘จัดหนัก’ ทีเดียว” ธีรวุฒิตบไหล่เพื่อนอย่างให้กำลังใจ “อีกอย่าง สองแม่ลูกก็ทำอะไรมึงไม่ได้หรอก เชื่อกู” วิศรุตพยักหน้าก่อนจะนึกไปถึงคนรักที่ไม่รู้เป็นยังไงบ้างในตอนนี้ ตอนที่เขาเดินออกมานั้นมันเป็นไปด้วยความโกรธและความน้อยใจ ไม่ได้หันกลับไปมองเธอด้วยซ้ำ ในความทรงจำ วิศรุตกับแพรพรรณเติบโตมาด้วยกัน ตั้งแต่เด็ก เขาทั้งคู่เรียนโรงเรียนเดียวกัน โตในสังคมเดียวกัน แต่กลับไม่รู้เลยว่าครอบครัวของพวกเขา เป็นศัตรูทางธุรกิจกันมาตลอด เด็กทั้งสองเริ่มรู้ตัวว่าทางบ้านกีดกันเมื่อย่างเข้าสู่วัยมัธยม จะว่ากีดกันก็ไม่ถูกนักมีเพียงทางฝ่ายของหญิงสาวเท่านั้นที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนักที่ทั้งสองคนสนิทกัน ส่วนทางบ้านของวิศรุตยิ่งแล้วใหญ่เพราะพ่อกับแม่ของเขายังไม่รู้เรื่องนี้ลึกซึ้งเท่าไหร่นัก แต่ถ้าจะห้ามปรามตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว เพราะความรักของทั้งสองคนมันถลำลึกเกินกว่าจะถอนตัว เมื่อเรียนจบวิศรุตก็ยังยืนยันเสมอว่า วันหนึ่งเขากับแพรพรรณจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เขาเคยสัญญากับเธอด้วยซ้ำหลังเรียนจบ พวกเขาจะสร้างอนาคตไปด้วยกัน แต่ทว่าไม่เป็นแบบนั้นเมื่อมีศศิจันทร์ก้าวเข้ามาในชีวิต จนทำให้ความสัมพันธ์ทุกอย่างเริ่มแย่ลง เรื่องที่แพรพรรณเคยพูดเขายังจำได้ไม่ลืม “หลังจากแม่เสีย พ่อก็พาสองคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้าน บอกว่าเป็นภรรยาใหม่ กับน้องสาว แต่ว่าน้องสาวที่พ่อบอกอายุห่างกับแพรแค่สองปีเองรุต” เธอพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วพ่อที่ตนเองรักมากมีผู้หญิงอีกคนแล้วยังมีลูกสาวด้วยกันอีกด้วย หลังจากแม่แพรพรรณเสียไปด้วยอุบัติเหตุไปไม่นาน พ่อของเธอก็พาผู้หญิงคนหนึ่งพร้อมกับเด็กผู้หญิงอีกคนมาอยู่ที่บ้าน นั่นแหละเธอจึงรู้ว่าพ่อมีภรรยาอีกคนที่เลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาตลอด แพรพรรณในวัยสิบหกปีนั้นเจ็บปวดเกินจะทนไหว ไหนจะเพิ่งเสียแม่ไปไม่นานทุกอย่างถาโถมเข้ามาจนเธอแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ พ่อที่เธอรักและเชื่อใจกับทำร้ายเธอกับแม่อย่างเลือดเย็น “ใจเย็น ๆ นะแพร อย่างน้อยก็มีรุตอยู่ตรงนี้ รุตจะอยู่ข้างแพรไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้นึกถึงรุตนะคนดี” เขายังจำได้ว่าตนเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกับหญิงสาว ยิ่งเห็นเธอร้องไห้เสียใจ เขาเองก็เจ็บปวดตามไปด้วย วันนั้นทั้งวันเขาปลอบโยนคนรักในอ้อมกอด ส่งมอบความรัก ความห่วงใยและต้องการเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำ และมันเป็นแบบนี้ทุกครั้งไม่ว่าพวกเขาจะมีเรื่องราวทุกข์สุขพวกเขามักจะแบ่งปันกันเสมอ ในขณะที่วิศรุตคอยปลอบประโลมช่วยเยียวยาจิตใจที่อ่อนล้าของแพรพรรณส่งมอบความรักให้แก่กัน เขาไม่รู้เลยว่ามันอยู่ในสายตาของใครบางคนอยู่ตลอด ศศิจันทร์ เด็กหญิงที่เพิ่งเข้ามาเรียน หลังจากที่พ่อตกลงรับเธอกับแม่มาอยู่ด้วยและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตอนนี้เธอมีพ่อเหมือนกับคนอื่น ๆ แล้ว แต่นั่นมันก็ไม่หักล้างในเรื่องก่อนหน้านั้นได้เธอไม่เคยลืมสิบสี่ปีแห่งการถูกเลี้ยงดูอยู่ข้างนอก สิบสี่ปีที่ต้องอยู่กับแม่ตามลำพัง ในขณะที่อีกคนได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ ได้ใช้ชีวิตอย่างลูกสาวคนเดียวของเจ้าของบ้านได้เรียกคุณวิชัยว่า “พ่อ” อย่างภาคภูมิใจต่อหน้าทุกคน ในขณะที่เธอ แม้กระทั่งการเดินเคียงข้างพ่อยังไม่มีสิทธิ์ ความรู้สึกด้อยค่าเกาะกินใจเธอมาตั้งแต่เด็ก จนมันแปรเปลี่ยนเป็น 'ความเกลียดชัง' และคนที่เธอเกลียดมากที่สุด ก็คือแพรพรรณพี่สาวต่างแม่ที่ดูสวยสดใสราวกับคนไม่เคยมีความทุกข์ ผิดกับเธอที่ทุกข์ระทมเรื่อยมา เธอสาบานกับตัวเองว่า จะทำทุกทางเพื่อทำลายความสุขของผู้หญิงคนนั้น มันต้องไม่มีความสุขตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม