1.นางร้ายป้ายแดง (1)
“คิดจะแย่งนายหัวไปจากฉัน ไม่ง่ายหรอก”
มือบางบีบคางของคนที่ใบหน้าฟกช้ำจนปลายเล็บยาวจิกลงบนเนื้อแก้ม ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง พร้อมมืออีกข้างค่อยๆ เลื่อนมีดคัตเตอร์ขึ้น แววตาที่จ้องอีกฝ่ายฉายแววดุร้าย
“ต่อให้ฉันตาย นายหัวก็ไม่หันไปสนใจผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอ”
คนที่ตกเป็นรองกัดฟันพูด ทว่าในดวงตามีแววของความหวาดหวั่น
“หึ กลัวแต่ยังทำปากดีอีก ฉันจะไม่ให้แกตายง่ายๆ หรอก”
เสียงหวานเค้นจนเข้มน่ากลัว มือเปลี่ยนไปจิกผมอีกฝ่ายดึงให้หน้าเชิดขึ้น
“ในเมื่อมั่นใจนักว่ายังไงนายหัวก็รักฝังใจอยู่กับแก แทนที่จะฆ่าแก ฉันจะทำให้แกมีชีวิตอยู่กับใบหน้าที่ไม่ต่างจากผีนรก เพราะทำให้แกตายนายหัวก็ยิ่งลืมแกได้ยาก ฉันจะทำให้เขารังเกียจหน้าตาน่าเกลียดของแก แม้แต่กอดก็กอดไม่ลง”
เห็นชัดว่าคนที่ถูกทำร้ายน้ำตาเอ่อคลอขึ้น คนมองยิ่งสะใจ ค่อยๆ เคลื่อนมีดไปชิดใบหน้าเนียนใสที่มีรอยช้ำ ราวช่วงเวลาวัดใจ
“ถึงจะน่าเกลียดยังไง ความรักของนายหัวก็ไม่มีวันแบ่งปันไปที่เธอ”
คนตกเป็นรองยังท้าทาย
“นังนี่”
พร้อมกับเข่นเขี้ยว ปลายมีดในมือก็ขยับไปใกล้ใบหน้าอีกฝ่ายเพิ่มขึ้น ในจังหวะนั้นเองเสียงสั่งก็ดังขึ้น
“คัต!”
มือที่ถือมีดคัตเตอร์เลื่อนออกห่างแก้มของคนตรงหน้าอย่างระมัดระวัง พลางปล่อยมือจากผมที่จิกไว้
“เยี่ยมมากครับน้องโบ แววตาแบบนี้แหละที่พี่ต้องการ ส่งอารมณ์ดีมาก พี่นี่ขนลุกเลย น้องไอมี่ด้วย เก่งมาก”
เสียงผู้กำกับเอ่ยชม
โบ บราลี คือนางเอกที่เพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลละครแห่งปีที่ผ่านมา หลังจากผันตัวมารับบทนางร้ายเรื่องแรกแล้วตีบทบาทแนบเนียนขึ้นแท่นนางร้ายป้ายแดง ทำเอาคนดูแทบลืมภาพนางเอกที่เจ้าตัวเคยแสดงไว้ ทั้งละครเรื่องนี้ยังดังเป็นพลุแตก ทำให้มีบทนางร้ายเสนอเข้ามาให้เลือกเป็นแถว จนเจ้าตัวรับแสดงบทร้ายเป็นเรื่องที่สอง ประกบนางเอกใหม่แกะกล่องอย่าง เอมิกา หรือ ไอมี่ ซึ่งผู้ใหญ่จากช่องต้องการผลักดันขึ้นมา
ขณะนั้นมีคนก้าวเข้ามาสองคน หนึ่งคนยื่นมือมาช่วยถือมีดคัตเตอร์ ส่วนอีกคนมาเพื่อช่วยแกะเชือกที่มัดมือคนที่ถูกทำร้ายไว้ แต่แล้วคนที่ถูกมัดและนั่งบนบนพื้นพักหนึ่งก็ขยับอย่างเมื่อยขบ ทำให้ไหล่ไปชนมือของทีมงานที่กำลังจะเลื่อนมีดลงจนยื่นไปมาหาเจ้าของร่างโปร่งทว่าอรชรที่ยังไม่ได้ถอยไปไหน
“โอ๊ย...”
แขนเรียวยกขึ้นมากันตามสัญชาตญาณเพราะหลบเลี่ยงไม่ทัน ทว่านั่นทำให้ปลายแหลมของมีคัตเตอร์แทงเข้าที่ท่อนแขน
“พี่โบ!”
“อุ๊ย พี่โบ!”
เสียงหวานของหญิงสาวใกล้ๆ ดังขึ้น พร้อมเสียงอุทานของทีมงานที่ถือมีด อารามตกใจจึงรีบชักมีดกลับ ทว่าคนเจ็บเองก็ดึงแขนตนออกด้วย ปลายมีดเฉือนเป็นทางยาวต่อไปอีกเกือบสองนิ้วทีเดียว
“กรี๊ด!!”
คนที่กรีดร้องคือคนที่เห็น เพราะเลือดถึงกับกระเซ็น ส่วนทีมงานหน้าซีดเผือด
“เฮ้ย ทำไมไม่ระวังวะ”
ผู้ช่วยผู้กำกับพร้อมหัวหน้าทีมดูแลอุปกรณ์ประกอบฉากวิ่งเข้ามาเพราะอยู่ใกล้ที่สุด ขณะที่ผู้กำกับกำลังเช็กเทป ได้ยินเสียงก็ลุกขึ้นมองมาอย่างสนใจ หลายคนเริ่มเอะอะ รุมเข้ามาดู
“ผมไม่ได้ตั้งใจพี่ พอดีน้องไอมี่ชนผม”
ผู้ถือมีดเป็นคนดูแลอุปกรณ์อธิบายเสียงสั่น
“ไอมี่ขอโทษค่ะ ไอมี่เองก็ไม่ได้ตั้งใจนะคะ”
นางเอกสาวเองก็ถึงกับน้ำตาคลอ ขณะที่คนเจ็บปราดสายตามองพร้อมผู้ช่วยผู้กำกับ
“ไม่มีใครคิดว่าเธอตั้งใจหรอก”
นางร้ายรุ่นพี่พูดเสียงเรียบ ทว่าเห็นชัดว่าแววตาไม่พอใจ มือบางจับแขนที่เป็นแผลของตนไว้มั่นห้ามเลือด เจ็บมากทว่าไม่ร้องสักคำ
“ไอมี่ขอโทษจริงๆ ค่ะพี่โบ”
“เอาล่ะ เรื่องตั้งใจไม่ตั้งใจ ไม่สำคัญเท่าต้องรีบพาน้องโบไปโรงพยาบาล เอาไงดี วันนี้พี่วิไม่มาด้วย”
“มีอะไรกันค้า”
เสียงคิตตี้ซึ่งเป็นช่างแต่งหน้าในกองถ่ายและสนิทสนมกับบราลีเป็นอย่างดี รีบวิ่งมาหน้าเซตพร้อมกับโปรดิวเซอร์ รวมทั้งผู้กำกับด้วย
“ว้าย! ตายแล้วน้องโบ ทำไมเลือดเต็มแขนอย่างนั้นคะ”
เจ้าตัวอุทานเสียงดังพร้อมรีบเอาทิชชูในกระเป๋าใบเล็กซึ่งติดไว้ซับหน้านักแสดงมาช่วยซับเลือดอย่างตระหนก
ส่วนผู้กำกับรีบออกคำสั่งทันที
“หาผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าขนหนูเล็กๆ มาซับสิวะ เปิ้ลพาน้องโบไปโรงพยาบาลนะ...ประสานงานบอกคนในกองอย่าเพิ่งโพสต์อะไรนะเว้ย”
“ค่ะพี่ชาย”
ปัทมาซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์รับคำ พลางเข้ามาประคองนางร้ายสาว
“คิตตี้ไปด้วยนะคะ พี่วิฝากให้ช่วยดูแลน้องโบน่ะค่ะ”
“เออ เอา จะไปก็ไป เกิดเรื่องในกองอย่างนี้ ยังไงก็ไม่มีอารมณ์ถ่ายกันแล้ว”
ชาติชายผู้กำกับละครของเรื่องบอกเสียงห้วน เขาไม่อยากโทษใครก็แต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้
จากนั้นร่างอรชรก็ถูกโปรดิวเซอร์กับช่างแต่งหน้าประคองพาไปขึ้นรถตู้ของเจ้าตัว คนที่เหลือในกองถ่ายต่างใจไม่ดี
เอมิกาเองก็ตัวสั่นจนผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเป็นผู้ช่วยของวิมาดา ผู้จัดการส่วนตัวของบราลีต้องเข้ามาโอบไหล่ปลอบใจ ขณะที่ทุกคนเก็บของตามคำสั่งยกกองของผู้กำกับ
======