ปี พ.ศ. 2567
เสียงนักศึกษาปี 1 ดังเซ็งแซ่แข่งกับเสียงเครื่องดนตรีที่เปิดกระหึ่มอยู่ ภาพบรรยากาศในฮอลล์เต็มไปด้วยความตื่นเต้นถึงแม้ว่าพวกเธอที่เป็นนักศึกษาใหม่จะเหน็ดเหนื่อยกับการรับน้องมาทั้งวันแล้วก็ตาม
นักดนตรีและนักร้องนำที่กำลังจัดเครื่องไฟอยู่กลางเวทีเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวๆได้เป็นอย่างดี นักศึกษาแต่ละคนพยายามชูไม้ชูมือเพื่อให้เป็นจุดสนใจแต่กระนั้นด้วยจำนวนคนที่มากเกินไปและตำแหน่งที่อยู่ไกลพอสมควรก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาแยกแยะพวกเธอได้อย่างชัดเจนอยู่ดี
ทรงอัปสรใช้นิ้วดันกรอบแว่นเข้าใบหน้า ผมยาวสลวยที่มัดแกละไว้ทั้งสองข้างเปื้อนไปด้วยผงแป้งและสีผสมอาหารที่บรรดารุ่นพี่ใช้รับน้อง แม้กระทั่งเสื้อยืดสีขาวสะอาดที่เธอสวมใส่อยู่บัดนี้ก็เลอะไปด้วยคราบสีและฝุ่นจนสภาพดูไม่ได้ไปทั้งตัว นักศึกษาหญิงคนอื่นๆต่างพยายามขยับตัวออกให้ห่างด้วยความรังเกียจไม่อยากให้ความสกปรกของผู้หญิงคนนี้มาแปดเปื้อนเสื้อผ้าของพวกเธอ
ยัยเฉิ่ม! นอกจากจะไม่สวยแล้วยังสกปรกอีกต่างหาก
ความในใจของคนอื่นๆที่มีต่อหญิงสาวก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก
ทรงอัปสรเป็นหญิงสาววัย 19 ปี ที่เพิ่งกำลังเข้ามาเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย HS ได้เพียงไม่นาน แม้พื้นฐานทางบ้านจะอยู่ในฐานะปานกลาง แต่ด้วยความที่เป็นคนฉลาดระดับหัวกะทิและเป็นถึงแชมป์ฟิสิกส์ระดับประเทศ 2 สมัยซ้อนทำให้เธอสามารถคว้าทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้มาได้อย่างง่ายดาย
เรื่องความเก่งและขยันนั้นพ่อแม่ของเธอไม่จำเป็นต้องห่วง ห่วงเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมคณะและคนอื่นๆ เนื่องจากทรงอัปสรนั้นเป็นคนพูดน้อย รักสันโดษไม่ชอบสุงสิงกับใคร จึงทำให้การคบหากับเพื่อนเป็นไปได้ยาก แต่สิ่งที่พ่อแม่ของเธอไม่รู้ก็คือไม่ใช่ว่าทรงอัปสรไม่อยากเข้าหาคนอื่นๆ แต่เป็นเพราะว่าพวกเธอไม่อยากเข้าใกล้กับทรงอัปสรต่างหาก
" ยัยเฉิ่ม! ขยับไป! ฉันจะนั่งตรงนี้ " หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมคณะ ร่างบางที่ยืนจ้องเธออยู่มีใบหน้าสวยเฉี่ยว เสื้อคลุมที่ใส่รวมถึงกระเป๋ารองเท้าต่างก็เป็นแบรนด์หรูชื่อดัง
" .... " ทรงอัปสรมองด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่พูดอะไรแต่ก็ค่อยๆขยับออกห่างให้ตามที่ขอ พอเธอขยับหนึ่งครั้งก็ทำให้เพื่อนคนอื่นๆที่นั่งอยู่ก่อนพากับขยับตามจนเป็นโดมิโน
ก็ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนี้สกปรกกันล่ะ
" สกปรกจริงๆเลย " ถึงแม้จะบ่นแต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดบริเวณที่ทรงอัปสรเคยนั่งแล้วทรุดตัวลงแทนที่
" ยัยนั่นสกปรกขนาดนี้เธอนั่งลงไปได้ยังไงมินนี่ " เพื่อนที่มาด้วยกันถามขึ้น เพราะแม้แต่พวกเธอยังทำใจที่จะอยู่ใกล้ๆกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลย พวกเธอไม่นึกว่าลูกนักการเมืองชื่อดังอย่าง มินนี่ มินตรา จะกล้านั่งต่อยัยเฉิ่มสกปรกได้ลงคอ
" ฉันก็ไม่ได้อยากจะนั่งที่บ้าๆนี่หรอก แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะก็ในเมื่อตรงนี้มันเป็นเซ็นเตอร์ ถ้าฉันไปนั่งที่อื่นเรย์จะมองเห็นฉันได้ยังไง "
เรย์ ชื่อของอีกคนที่ออกจากปากมินตราก็คือ เรย์มอนด์ ฐานัส กิตติธรรม ลูกชายคนเล็กของรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ว่าที่เดือนมหาวิทยาลัยประจำปี พ.ศ. 2567 และเป็นเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ของปีนี้
นอกจากความโด่งดังในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ชายหนุ่มยังได้สร้างชื่อเสียงในโลกโซลเชียล ทำให้สาวๆครึ่งค่อนประเทศคลั่งไคล้ในความหล่อเหลาของชายหนุ่มกันเป็นทิวแถว ซึ่งแน่นอนว่ามินตราก็หนีไม่พ้นเช่นกัน
" แต่ก็จริงแหละถ้าไปนั่งที่อื่นก็ไม่ได้เห็นเรย์แบบชัดๆน่ะสิ ถ้าอย่างนั้นฉันนั่งด้วย " พูดจบหญิงสาวก็ทรุดตัวลงนั่งบ้างทำให้มินตราต้องขยับเข้าไปใกล้ทรงอัปสรมากขึ้น
" อี๋~ แกไปนั่งที่อื่นได้ไหมแพรี่ ฉันขยับไปโดนตัวยัยเฉิ่มแล้วเนี้ย น่าขยะแขยงชะมัด " มินตราเบ้หน้าบ่งบอกถึงความรังเกียจอย่างชัดเจน ก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาถูตามเนื้อตัวเหมือนหญิงสาวเป็นโรคร้ายก็ไม่ปาน
" แกก็บอกให้ยัยสกปรกไปนั่งที่อื่นสิ แทนที่จะกลับไปอาบน้ำก่อนนี่อะไรมาทั้งชุดเลอะๆแถมยังมีแต่กลิ่นเหงื่อไคล โสโครกสิ้นดี "
ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากกลับไปอาบน้ำที่หอเสียหน่อย แต่รุ่นพี่ประจำฐานรับน้องน่ะสิแกล้งเธอไม่หยุด กว่าจะปล่อยตัวออกมาอีกทีก็ถึงเวลาที่นักศึกษาปี 1 ต้องมารวมตัวกันที่ฮอลล์เสียแล้ว
" ฉันย้ายไปนั่งที่อื่นให้ก็ได้นะ " ทรงอัปสรถอนหายใจไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดด้วย ถ้าขืนเธอยังนั่งอยู่ตรงนี้ต่อไปคาดว่าชีวิตคงไม่สงบสุขแน่ๆ ฉะนั้นยอมย้ายออกไปเองจะดีกับสุขภาพจิตของเธอมากกว่า
" ไม่ต้องแล้วๆ เรย์มอนด์เดินออกมาแล้ว "
แต่จู่ๆความหวังดีก็ถูกทำลายลงเพราะการประกวดที่ทุกคนตั้งตารอคอยกำลังจะมาถึง
ทรงอัปสรผินหน้าไปมองบ้าง เพื่อนนักศึกษาทั้งชายและหญิงต่างพากันเดินออกมาโชว์ตัวเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี ทั้งรูปร่างและหน้าตาต่างกินกันไม่ลงเลยทีเดียว แต่เมื่อมีชายหนุ่มร่างสูงที่เป็นเจ้าของตำแหน่งเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ออกมาโชว์ตัวพร้อมกันดาวคณะของปีนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที
" กรี๊ดดดดด! "
" เรย์มอนด์หล่อมากกก "
" น้องเรย์หล่อที่สุดเลยค่าาา "
เสียงกรีดร้องที่ดังกระหึ่มฮอลล์เรียกรอยยิ้มทรงเสน่ห์จากเจ้าของชื่อได้ดีทีเดียว
ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่อยู่ในลิสต์สาวๆทั้งมหาวิทยาลัยทำเอาทรงอัปสรใจกระตุกวูบ ไม่ได้กระตุกเพราะความเสน่หาแต่เป็นเพราะเขาคือผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้เธอต้องปีนขึ้นไปช่วยลูกแมวจนเกือบตกต้นไม้
ผู้ชายบ้า! ไอ้คนใจดำ!
เป็นเดือนวิศวะนี่เองมิน่านิสัยถึงได้เฮงซวยขนาดนี้! ไม่รู้ผู้หญิงคณะนี้ตาบอดหรือไงถึงได้หลงชอบไปได้
ทรงอัปสรบ่นในใจได้ไม่เท่าไหร่หญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อมินตราลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของเธอพร้อมกับชูป้ายไฟที่เตรียมมาไปด้วย
" เรย์ เรย์ มินนี่อยู่ตรงนี้ค่า ยู้ฮู้~ "
พรึบ!
เธอโบกไม้โบกมือให้ชายหนุ่มมองมาที่ตัวเอง แต่ไม่ใช่เพียงแค่ฐานัสคนเดียวเท่านั้น ดาวเดือนประจำคณะอื่น ตลอดจนเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันก็พากันมองเธอเป็นทิวแถว
ฐานัสคลี่ยิ้มโชว์ฟันขาวเรียงสวยส่งให้มินตราเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากหน้าเวทีได้ดีทีเดียว จะโทษก็ต้องโทษเสน่ห์ของเขาที่มีมากเกินไปทำเอาหญิงสาวอ่อนระทวยกันทั่วหน้า
ชายหนุ่มกำลังชื่นชมในความหล่อเหลาของตัวเองแต่จังหวะที่กำลังจะมองไปทางอื่นนั้นสายตาก็ได้ปะทะเข้ากับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งพอดี เขาจำไม่ได้ว่าเป็นใครรู้เพียงว่าเธอทั้งสกปรกและขี้เหร่ที่สุดที่เขาเคยเจอมา
ไม่คิดว่าที่มหา'ลัยจะมีคนเฉิ่มแบบนี้อยู่ด้วย
ทรงอัปสรกรอกตามองบนให้กับการบริหารเสน่ห์ของฐานัส นั่นเป็นการจุดเชื้อเพลิงอย่างดีทีเดียว
' ยัยเฉิ่ม! กล้าดียังไงมาทำสายตาแบบนี้ใส่! '
ชายหนุ่มไม่ถูกชะตากับทรงอัปสรทันทีเพราะรู้สึกเหมือนถูกเธอสบประมาท ความหล่อเหลาประดุจลูกรักพระเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ใครจะเมินก็เมินได้ ทุกคนต้องก้มหัวให้แก่เขาเท่านั้น👿
" กล้าดียังไงมาเมินใส่ฉัน ยัยป้าเฉิ่ม! "
" อะไรนะเรย์มอนด์ " หญิงที่เป็นคู่ควงในวันนี้ถึงกับทำหน้างง ที่อยู่ๆฐานัสก็สบถถ้อยคำแปลกๆออกมา
" เปล่าครับ เรย์แค่พูดว่าวันนี้นีน่าสวยจังเลย "
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้กับดาวคณะคนสวยที่ตกเป็นของเขาไปตั้งนานแล้ว ด้วยความหล่อเหลาและเสน่ห์อันเปี่ยมล้นทำให้เธอตกหลุมพรางอย่างง่ายดายทันที ยินยอมมอบทั้งตัวและใจไปให้โดยไม่รู้ว่าอีกไม่กี่วันก็คงจะถูกทิ้งไม่ต่างจากคนอื่น
ขนาดดาวคณะยังหลงเสน่ห์แล้วยัยเฉิ่มนี่เป็นใครถึงได้กล้าเมินใส่เขาแบบนี้ ไม่รู้จักอิทธิพลของ 'เรย์มอนด์ ฐานัส' ซะแล้ว