พีทเดินออกมาไปตามถนนเรื่อยๆ ก่อนจะเจอแสงไฟรถที่วิ่งสวนทางไปมา ชายหนุ่มโบกมือขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีคันไหนจอด จนมาเจอกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก
"มีอะไรให้ช่วยไหมครับพี่"
ฮ่าๆๆ พวกมันแซวสนุกสนาน แต่มีอีกคนที่นั่งจ้องผมนิ่งไม่วางตาท่าทางเงียบขรึม น่าจะเป็นลูกพี่ของพวกมัน
กึก!!
ชายหนุ่มหยุดชะงักที่จะก้าวขาเพื่อเข้าไปขอความช่วยเหลือทันที ตอนนี้ฝนเริ่มซาบ้างแล้ว เขาจึงตัดสินใจเดินออกไปที่ถนนใหญ่เอง เพราะมองไปเห็นลางๆ บ้างแล้วว่าอีกไม่ไกลนักคงจะถึงถนนใหญ่
"อ้าว..พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย อย่างนี้เขาเรียกหยิ่งนะครับน้อง" ผู้ชายร่างใหญ่อีกคนเอ่ยขึ้น ครั้งนี้สีหน้ามันเรียบตึง
"เอาไงลูกพี่ "
".............."
คนที่มันเรียกลูกพี่หน้าตาหล่อ เข้ม รูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับอคิณ แต่คนนี้ดูบึกบึนมากกว่า ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่เขาคิดไว้ไม่ผิด เมื่อลูกพี่มันไม่พูดพวกมันจึงเดินมาดักหน้าทันที อย่างต้องการที่จะหาเรื่อง
“เนื้อชิ้นหวานหลงเข้ามาใครจะปล่อยไปวะ” หนึ่งในนั้นพูดอย่างอารมณ์ดี
"ไปไหนครับน้อง หน้าตาดี น่ารักอย่างนี้ พี่ชอบวะ" มันเอื้อมมือมาจับตรงหน้าชายหนุ่มเบาๆ แต่พีทรีบสะบัดมือมันออกอย่างแรง
"อุบ๊ะ!! มีสู้ด้วย ไอ้หน้าอ่อนนี่คงอยากลองของใหญ่ๆของกูวะ" ฮ่าๆๆ พวกมันพากันหัวเราะชอบใจ ส่วนคนที่เป็นลูกพี่ได้แค่เงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่งก่อนจะสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ
เสียงแตรดังสนั่นอยู่ข้างหลังพร้อมแสงไฟสาดส่องมาเต็มลำ
ร่างสูงคุ้นตาเดินลงมาจากรถคันหรู มายืนหยุดตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง พวกเด็กวัยรุ่นเดินกรูเข้ามาหมายจะรุมผู้ที่มาใหม่ที่มาเป็นก้างตัวใหญ่ แต่อคิณเอาปืนที่พกไว้ประจำรถลงมาด้วย
กริ๊ก !!
"กูพร้อมมาก...ถ้าพวกมึงเข้ามา" คนตัวโตผลักชายหนุ่มไปอยู่ด้านหลัง ก่อนจะพูดเสียงห้วนกับพวกนั้น พวกมันจึงดึงมีดที่พกออกมาถือ ดูด้วยสายตามีประมาณแปดคน
"ใจเย็น เด็กพวกนี้ก็แค่จะแกล้งเฉยๆ" อคิณหันไปตามเสียงทุ้มกังวาน ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งพวกนี้ คนที่เป็นลูกพี่ยืนเต็มความสูงก้าวมาข้างหน้าอย่างไม่กลัวเช่นกัน
"แต่ลูกพี่"
"หุบปากพวกมึง"
"หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับ จำไว้นะ ผมชื่อเมฆ" มันพูดก่อนจะมองมาที่พีทด้วยสายตาคมกริบ ถึงแม้จะมองเห็นหน้าไม่ชัดเท่าไรนักแต่ดูเหมือนจะเป็นคนคุ้นหน้า อคิณจ้องสบตาอยู่นานก่อนจะหันไปบอกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง
"มึงไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้เลย"
อคิณหันไปสั่งคนที่ยืนหลบด้านหลังเสียงห้วน แต่สายตาของร่างสูงใหญ่สบตานิ่งกับเมฆ ชายหนุ่มก้าวขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็วดีนะที่เขาตัดสินใจกลับมารับมัน จริงๆแล้วเขาคิดจะแกล้งเล่นปล่อยมันเดินซะบ้าง แต่ด้วยความหมั่นไส้ก็เลยปล่อยทิ้งไว้นานไปหน่อย ไม่ได้ใจดำถึงขนาดที่ให้มันหาทางกลับเองทั้งที่ฝนก็ตกถนนก็เปลี่ยวแบบนี้ ระหว่างทางทั้งคู่นั่งเงียบกริบ ไม่มีใครได้เอ่ยอะไร
คนร่างเล็กก้าวลงจากรถโดยมีไอ้กรยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว
"คุณพีทเป็นอะไรไหมครับ เปียกหมดเลย"
"ไม่มีอะไรหรอก" พีทตอบออกไปไม่อยากจะพูดถึงมันอีก
"เอารถไปเก็บ วันนี้กูไม่ไปไหน ขี้เกียจ เบื่อ" คำว่าเบื่อหันมามองที่อีกคนแล้วกระแทกเสียงแรงๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปทันที โดยไม่ออกมาอีกเลย
ส่วนพีทเองก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจึงรีบกินยาแล้วเข้านอนทันทีเช่นกัน
เช้าวันต่อมา
PeetTalk
วันนี้ผมทำข้าวต้มกุ้งของโปรดของเขาวางพร้อมเสิร์ฟ โดยมีไอ้กรยืนรอให้บริการเจ้านายของมันอยู่ไม่ไกล ผมสวนทางกับอคิณตรงโต๊ะกินข้าว กำลังจะขึ้นไปอาบน้ำ เพื่อแต่งตัวไปเรียน หลังจากที่ดูแลความเรียบร้อยต่างๆในบ้าน และทำอาหารเช้าไว้ให้ก่อนไปเรียนทุกครั้ง
"กูจะกินอเมริกัน เบรคฟาสต์ ไม่เอาข้าวต้มกุ้ง มึงไปบอกมันให้ไปทำมาใหม่" เขาพูดและมองหน้าผมหน้าตายียวนที่สุด ก่อนจะเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารที่นั่งประจำ
"ไอ้กรมึงเอาข้าวต้มกุ้งไปแดก กูจะรอกินอเมริกันเบรคฟาสต์"
พูดพลางนั่งกอดอกมองผมเชิงสั่งกรายๆ ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดต้องหยุดชะงัก ผมหันไปมองหน้าอีกคนที่กำลังยียวนกวนประสาทอย่างเป็นต่อ เขาเป็นแบบนี้ทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่หาเรื่อง เมื่อคืนคงไม่หนำใจ
อคิณกลับมาค้างที่นี่ทุกคืน อันที่จริงแล้วผมไม่อยากให้มาเลย ถ้าเกลียดผมนักก็ไม่รู้จะมาทำไม บางคืนก็กลับดึก บางครั้งก็กลับเช้า จนผมต้องถ่างตารอทุกวันกลายเป็นความเคยชิน ถ้าวันไหนเขาตื่นสาย ก็จะมาโวยวายที่ผมหาว่าไม่ปลุกบ้าง แล้วมันใช่เรื่องของกูไหมล่ะครับ ผมโคตรงงและโคตรหงุดหงิด วันนี้ก็เหมือนกัน
ไอ้กรได้แต่มองหน้าเจ้านายของมันและผมสลับกันไปมา ผมพยักหน้าให้ไอ้กรเป็นเชิงอนุญาต มันจึงรีบยกชามข้าวต้มกุ้งออกไป
"ทีหลังถ้าอยากจะกินอะไรก็บอกล่วงหน้า จะได้ไม่เสียเวลาแบบนี้ " ผมบ่นใส่สีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะลากขาเดินเข้าครัวไปทำมาให้คนเรื่องมากใหม่ ไม่กี่นาทีก็ออกมาพร้อมอเมริกันเบรคฟาสที่เขาต้องการ
พรึ่บ!!
ผมวางจานอาหารตรงหน้า แต่อคิณเลื่อนออกไปทันที พิงพนักเก้าอี้มองหน้าหาเรื่องอีกแล้ว ตามแบบฉบับของเขา รอบนี้อีกคนยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปากทำหน้ากวนตีนยียวนมากกว่าเดิม
"กูเปลี่ยนใจจะกินข้าวต้มกุ้ง "
"นี่คุณ!! ผมไม่มีเวลามาเล่นสนุกแบบเด็กๆแล้วนะ ตอนนี้มันก็สายมากแล้ว ถ้าคุณไม่กินก็ไม่ต้องกิน" ผมหงุดหงิดกระแทกเสียงใส่ มันจะมากเกินไปแล้วนะ
"มึงกล้าขึ้นเสียงกับกูเหรอ ห๊ะ!!กูบอกมึงแล้วไงว่ากูอยากได้อะไรมึงต้องทำเข้าใจไหม!!" ครั้งนี้เขากระชากคอเสื้อยืดสีขาวผมอย่างแรง ก่อนจะผลักผมจนล้มลง
ผมรีบลุกขึ้นยืนมองหน้าเขานิ่ง แล้วเดินขึ้นห้องไม่สนใจอีก ไม่อย่างนั้นผมคงหักห้ามใจไม่ให้มีเรื่องไม่ได้แน่ แม่ง!หาเรื่องผมทุกวันจริงๆ
"หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ" ผมเบื่อนิสัยเด็กที่เอาแต่ใจตัวเองของอคิณ แต่ผมต้องทำตัวให้ชินกับอารมณ์แปรปรวนของอีกคนให้ได้
"หูแตกหรือไง"
"ถ้าคุณอยากกินก็ไปทำเอง"
ปัง!!
ผมปิดประตูใส่หน้าแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำ วันนี้มีเรียนวิชาที่ผมไม่ถนัดด้วย ผมเองก็ไม่อยากจะไปสาย
"ไอ้เชี้ยพีท"
“ไอ้พีท”
เสียงเรียกอยู่ด้านนอกพร้อมเสียงเคาะประตูอย่างแรง สักพักเสียงก็เงียบไป ผมจึงอาบน้ำโดยไม่ได้สนใจอีก ความเย็นของสายน้ำทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น อารมณ์เย็นลงจากที่คุกรุ่นเมื่อครู่ ผมฟอกสบู่อาบน้ำด้วยความเร็ว ก่อนจะปล่อยสายน้ำจากฝักบัวลงมาชะล้างตัวอีกครั้ง
พรึบๆๆ
เอี๊ยดๆ เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมา
ไอ้เชี้ย!!
อคิณยืนพิงประตูมองผมอาบน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผมหันไปมองด้วยความตกใจ
"นี่คุณผมกำลังอาบน้ำ คุณจะเข้ามาทำไม "
สายตามองมาที่ผมแล้วเลื่อนมาหยุดนิ่งที่ตรงกลางลำตัว ผมรีบเอามือปิดไว้ทันที ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้ อคิณมองมาเขม็ง สายตาที่มองมาเปิดเผยความรู้สึกตอนนี้ว่าต้องการอะไร
" ....."
เขาเดินมาประชิดตัวน้ำจากฝักบัวก็เปียกชุดนักศึกษาของเขา
"ที่มึงหนีกูมาอาบน้ำ เพราะมึงอยากให้กูตามมาใช่ไหม ก็ไม่บอกดีๆ"
เชี้ยแล้ว!! เสียงอีกคนเริ่มแหบพร่าบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวตอนนี้ อคิณก้มลงมองมาแล้วหยุดอยู่ตรงริมฝีปากผมพอดี ผมรีบเม้มปากแน่นโดยอัตโนมัติ
"หรือว่ามึงอยากให้กูทำแบบนี้ แบบเมื่อสามปีที่แล้ว"
"หยุดเลยนะ!!" ผมรีบตะคอกเขาทันที ก่อนที่จะพูดเชี้ยๆอะไรออกมา เพราะผมไม่อยากจะได้ยินหรือรื้อฟื้นเหตุการณ์คืนนั้น
"หรือมึงลืมสัมผัสของผัวคนนี้ไปแล้ว ที่มึงกลับมาอีกก็เพราะอยากจะมารื้อความทรงจำกับกูใช่ไหม"