หลังจากที่อาจารย์เดินออกไปแล้ว อคิณก็เดินออกไปนอกห้องพร้อมกลุ่มเพื่อน ปลายตามองคนที่เป็นคู่อริ ซึ่งกำลังนั่งเก็บของเงียบๆ เขานึกสนุกอยากจะรับน้องใหม่
"มึงทำให้มันอายที"
ชายหนุ่มหันไปบอกไอ้กายเพื่อนสนิท ก่อนจะเดินไปนั่งรอไม่ห่างจากตรงนั้น พร้อมยกโทรศัพท์หรูขึ้นมาเพื่อเก็บช็อตเด็ด พีทเดินออกมารั้งท้ายเพื่อน ไม่ทันระวังจนสะดุดขาใครบางคนที่ยื่นออกมาอย่างตั้งใจ
พลั่ก! ตุ้บ!!
เสียงล้มลงอย่างแรงของพีท ทำให้นักศึกษาที่กำลังทยอยเดินออกมาหยุดมองดู และหัวเราะกันอย่างขบขันที่เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีล้มลงไม่เป็นท่า บางคนก็เห็นใจจะเดินเข้ามาช่วย แต่โดนอคิณปรามไว้เสียก่อน พีทหันไปดูโดยรอบแล้วลุกขึ้นยืน เห็นอคิณนั่งอยู่ไม่ไกล นั่งไขว่ห้างกระดิกขามองมาที่ตนอย่างสะใจ ในมือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อดัง ก็รู้ว่าน่าจะเป็นตัวต้นคิด เจ็บตัวไม่เท่าไรหรอก แต่เจ็บใจและอายนี่สิ เขาแทบไม่กล้าเงยหน้าสบตากับใครเลย แม่งเอ้ย!!
"อาจารย์บอกให้กูดูมึงให้ดี" อคิณมองร่างบางพลางยิ้มหยันมุมปาก และเดินมาใกล้
"เสร็จภารกิจก็แยกย้ายกันกลับบ้าน"
หลังจากนั้นอคิณและเพื่อนก็แยกย้ายกันกลับ โดยไม่หันมาสนใจคนที่ยืนเจ็บเลยสักนิดเดียว
"มึงเป็นไรอะไรมากไหมพีท"
ร่างเล็กหันกลับไปมองด้านหลัง ชายหนุ่มตกใจระคนดีใจที่เจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยม
"ว่าน ดีใจที่เจอมึง"
ว่านคือเพื่อนสมัยที่เรียนมัธยมเดียวกันและอยู่กลุ่มเดียวกับพีท ว่านนิสัยดี เป็นลูกคนมีเงินแต่ไม่เคยดูถูกหรือเหยียดหยามเพื่อนร่วมชั้นเรียน ส่วนพีทเองก็เจียมตัวเองอยู่เสมอไม่เคยทำตัวเสมอใคร หลังจากจบมัธยมปลายทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย พีทเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และไม่ติดต่อใครเลยตั้งแต่ตอนนั้น ว่านรู้ดีว่าอคิณไม่ชอบหน้าเพื่อนของเขาคนนี้ เพราะพีทเป็นเด็กที่เรียนเก่ง กิจกรรมเด่น หน้าตาดี จึงดูเหมือนเป็นคู่แข่งกับอคิณในทุกเรื่อง พวกผู้หญิงจึงชอบพีทมากกว่ากว่าอคิณ รวมถึงเด็กผู้หญิงที่อคิณเคยแอบชอบด้วย
ตอนนั้นทุกคนต่างก็เป็นเด็กวัยรุ่น puppy love แต่อคิณกลับจำฝังใจที่ถูกสาวเมินทั้งที่เขาเหนือกว่าพีททุกอย่าง เป็นลูกคนรวย หน้าตาหล่อ เท่ห์ ทุกคนต่างก็ยำเกรง ผู้หญิงทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้องต่างห้อมล้อมแต่กลับถูกพีทที่มีฐานะยากจน ไม่มีอะไรที่จะเทียบเขาได้เลยด้วยซ้ำแย่งไป จึงเป็นเหมือนปมที่ถูกหยามมาโดยตลอด
หลังจากวันสุดท้ายของปีการศึกษาทุกคนในห้องได้ไปเลี้ยงฉลองกัน ไอ้พีทก็หายไปในคืนนั้นเลย ไม่บอกกล่าวหรือล่ำลาเพื่อนๆ จนมาวันนี้ที่มันกลับมาอีกครั้ง หลังจากหายไปเกือบสามปีเต็ม
"กูนึกไว้แล้วว่ามึงต้องโดน"
"ช่างแม่ง!! กูรู้ตัวดี มึงเรียนห้องเดียวกับกูเหรอ ดีจังเลยอย่างน้อยกูก็ยังมีมึง"
"อืม แล้วมึงทำไมได้มาเรียนที่นี่ มึงกลับไปเรียนที่ต่างจังหวัดแล้วไม่ใช่เหรอ"
"กูมีความจำเป็นนิดหน่อยไว้ค่อยคุยกันวันหลัง วันนี้กูต้องรีบกลับ"
"อืม ถ้าอย่างนั้นแลกเบอร์กันไว้ก่อน" ว่านเอ่ยขึ้น
หลังจากแลกเบอร์โทรศัพท์เสร็จแล้วพีทก็ขอตัวออกไปขึ้นรถเมล์ทันที
บรื๊น!! บรื๊น!! บรื๊น!!
ระหว่างทางที่เดินไปขึ้นรถเมล์ มีรถสปอร์ตหรูวิ่งเบียดมาด้วยความเร็วสูง เสียงบีบแตรดังสนั่น ทำให้ชายหนุ่มกระโดดหนีแทบไม่ทันจนแทบจะสิงพุ่มไม้บริเวณข้างถนน พีทมองไม่เห็นหน้าคนขับ เหมือนจงใจบีบแตรเสียงดังไล่เขาไม่หยุด ทั้งๆที่เขาก็ขึ้นไปเดินริมฟุตบาทแล้ว
"แม่ง!! บีบแตรทำเชี้ยไรของมันหนักหนาวะ"
ชายหนุ่มสบถเบาๆ ก่อนจะวิ่งข้ามถนนไปยืนรอรถกลับบ้านตรงป้ายรถเมล์ โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองตามจนอีกคนขึ้นรถเมล์ออกไป
"มึงจะกลับมาอีกทำไม กูจะลืมมึงได้อยู่แล้วเชียว"
รถเก๋งคันหรูสีดำวิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ โรงจอดรถมีรถหรูจอดไว้เกือบสิบคัน เจ้าของรถร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา สวมแว่นกันแดดราคาแพง ก้าวขาลงจากรถ ช่วงขาเรียวยาวเหมือนนายแบบในนิตยสาร ถอดแว่นตาออก เปิดประตูเดินลงมา ใครเห็นต้องอึ้งในความหล่อเท่ของคนตรงหน้า ชายหนุ่มโยนกุญแจให้ลูกน้องรุ่นราวคราวเดียวกันที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน
"เก็บให้ด้วย คืนนี้กูจะนอนที่นี่"
"ครับคุณหนู" กรยิ้มหน้าบาน จะมีใครหล่อและดูดีเท่าคุณหนูของเขาอีกไหมน๊า ไอ้กรคนขับรถและคนรับใช้คนสนิทของอคิณมองอย่างชื่นชม ก่อนจะเอารถเจ้านายเข้าไปเก็บให้อย่างเรียบร้อย
ร่างชายหนุ่มเดินเข้าบ้าน ถลกแขนเสื้อพร้อมแกะกระดุมชุดนักศึกษา เผยให้เห็นแผงอกแกร่งแข็งแรง ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกง เดินไปนั่งที่โซฟาหรูกลางห้องรับแขกที่มีชายวัยกลางคนนั่งจิบกาแฟรออยู่ก่อนหน้าแล้ว
"พ่อมีอะไรด่วน ถึงให้ผมต้องถ่อมาถึงนี่"
อคิณบ่นไม่สบอารมณ์เท่าไรนักก่อนจะนั่งพิงโซฟามองหน้าบิดาที่จิบกาแฟสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้สนใจหันมามองบุตรชายหรือใส่ใจที่จะตอบคำถามเลย ผู้สูงวัยค่อยๆละเลียดจิบกาแฟช้าๆ ส่วนคนถามได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งหน้าบูดเมื่อผู้เป็นบิดาทำเมิน
อคิณเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลวนารมย์ เขารู้สึกหงุดหงิดหลังจากได้รับสายด่วนจากผู้เป็นบิดาให้กลับมาบ้านเย็นนี้ อคิณไม่เคยกลับมานอนที่บ้านเพราะไม่มีอิสระ เขาจึงนอนที่คอนโดหรูที่ซื้อไว้กลางใจเมือง ยกเว้นมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนจากผู้เป็นบิดา
ส่วนมารดาของเขาจากไปตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนูที่ถูกตามใจ ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยในการเปย์หญิงและเที่ยวกลางคืน และไม่เคยจะเข้าไปช่วยงานที่บริษัท แต่บิดาของเขาได้ยื่นคำขาดไว้แล้วหากเรียนจบเมื่อไหร่ เขาจะต้องเข้ามาบริหารงานดูแลธุรกิจของครอบครัว จึงเป็นข้ออ้างที่ชายหนุ่มขอใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนจะมารับช่วงต่อจากบิดา
หลายเดือนแล้วที่เขาไม่เคยกลับมาบ้าน อคิณมองไปรอบๆตัวบ้านคิ้วดกหนาขมวดมุ่น
"แกมองหาใคร"
ผู้สูงวัยถามจ้องหน้าลูกชายนิ่ง เป็นครั้งแรกตั้งแต่ลูกชายมานั่งได้สักพัก ชายสูงวัยจึงถามลูกชายคนเดียวเมื่อเห็นท่าทางสอดส่องเหมือนมองหาใคร
"ป้านิ่ม ผมไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว คิดถึงอาหารอร่อยๆของแก"
ชายหนุ่มคิดถึงคนที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังจำความได้ ชายหนุ่มรักป้านิ่มมาก ป้านิ่มคือคนที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก รักตามใจเขาทุกอย่าง ใจดีมาก
ป้ามีหลานชายหนึ่งคนอายุไล่เลี่ยกัน แต่ทะเลาะกับเขาเป็นประจำ จนพ่อบอกให้ป้านิ่มส่งไปโรงเรียนประจำที่ต่างจังหวัด อายุน่าจะประมาณสิบขวบ แต่เขาจำอะไรไม่ได้เหมือนความทรงจำของเขาช่วงเวลานั้นมันเลือนลางจนแทบจะทำเหตุการณ์ในอดีตไม่ได้ เพราะแม้แต่ชื่อเขาก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ และไม่เคยคิดจะสนใจเด็กคนนั้นอีกเลย
"แกไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวก่อนแล้วมากินข้าว แล้วเราค่อยคุยกัน"
บิดาเอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปสนใจหนังสือต่อโดยไม่ได้สนใจบุตรชายอีก
อคิณขอตัวแล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องของตน ห้องนอนของอคิณอยู่ทางปีกขวาเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน ภายในห้องนอนตกแต่งด้วยโทนสีดำและสีขาวเป็นโซลูชันที่สร้างสรรค์ในแบบคลาสสิก สีตัดกันทั้งสองแบบเป็นความคลาสสิกและพอดี มีการผสมผสานกันอย่างลงตัว ทุกอย่างถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกออกแบบมาโดยเจ้าของห้อง ดูทันสมัยและกลมกลืน
อคิณเป็นคนที่มีรสนิยมดี และรู้จักในการเลือกใช้ของอย่างคุ้มค่า ผิดกับนิสัยของเจ้าตัวที่เป็นคนที่อารมณ์ร้อน โมโหง่าย เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ และหงุดหงิดง่าย ใครทำอะไรไม่ได้ดั่งใจจะโวยวาย ทุกอย่างสำหรับเขาต้องจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะฟุ่มเฟือยกับการเที่ยวกลางคืนและเปย์หญิงที่เป็นคู่ควงซะมากกว่า
ชายหนุ่มได้ยินเสียงกุกกักในห้องทางปีกซ้าย ฝั่งนั้นจะมีห้องของบิดาเขาและห้องสำหรับรับรองแขก หรือจะมีแขก ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ ไม่นานชายหนุ่มก็เดินลงมาที่โต๊ะอาหาร มองดูบนโต๊ะมีอาหารมากมายหลายชนิด และที่สำคัญเป็นของโปรดของเขาทั้งนั้น
"โอ้โฮ! วันนี้มีพิเศษอะไรหรือเปล่าครับพ่อ "
"ก็ต้อนรับแกกลับมาไง" ชายสูงวัยพูดอย่างอารมณ์ดี
"พ่อมีแขกเหรอครับ"
อคิณถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นสาวใช้ตักข้าวเพิ่มอีกหนึ่งที่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเขา
"จะว่าแขกก็ใช่ แกเคยรู้จักกันตอนเป็นเด็ก พีทก็เคยมาพักที่นี่ก่อนจะย้ายออกไปเรียนโรงเรียนประจำ"
"ใครครับพ่อ"
"พิชญะ"
"....?"
"ฉันจะให้เขามาพักกับเราที่นี่หนึ่งปี จนกว่าเขาจะเรียนจบ และจะให้เขามาช่วยงานที่บริษัทหลังจากเรียนจบด้วย จะเริ่มสอนงานเขาไปพร้อมๆ กับแกนั้นแหละ"
"ใครคือพิชญะ?"
"ก็หลานชายแม่นิ่มไง นี่อย่าบอกนะว่าแกจำไม่ได้เลย เขาจะมาทำงานแทนป้านิ่มและจะมาพักอยู่กับเราด้วย แม่นิ่มขอกลับไปต่างจังหวัด ช่วงนี้ไม่ค่อยสบายเจ็บออดๆแอดๆ และที่สำคัญแกคิดถึงบ้านเกิดอยากจะกลับไปอยู่กับสามีแกที่นั่น ฉันห้ามแล้วแต่แกไม่ฟัง ก็เลยขอให้หลานชายมาทำงานแทน แม่นิ่มเป็นเหมือนคนในครอบครัวเรา และเลี้ยงดูแกมาจนโต เราเองก็ต้องตอบแทนแกด้วย อะไรที่ช่วยแกได้ เราก็ต้องช่วย "
ผู้เป็นบิดาพร่ำบอกเขาเสมอเรื่องการตอบแทนป้านิ่ม ซึ่งเขาเองก็รู้ดีว่าป้านิ่มเปรียบเสมือนคนในครอบครัวของเขา
ผู้สูงวัยมองบุตรชายคนเดียว จริงๆ เขาเองไม่อยากจะบอกรายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะอยากดูท่าทีของบุตรชายจอมโมโหก่อนว่าจะโวยวายหนักสักแค่ไหน เพราะตอนเป็นเด็กสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไรนัก
"นั่นไง มานั่นแล้ว"
อคิณมองตามสายตาของผู้เป็นบิดา
"ไอ้เชี้ยพีท"
อคิณยืนขึ้นเต็มความสูง มองหน้าคู่อริ สีหน้าแววตาเกรี้ยวกราด เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นมัน คนที่เขาเกลียดที่สุด พีทเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้า ในมือถือจานอาหารออกมาด้วย อคิณมองหน้าคนที่ยืนนิ่ง จากชุดที่ใส่มีผ้ากันเปื้อนที่ผูกตรงเอวไว้หลวมๆ ดูก็รู้ว่ามันเป็นคนทำอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแน่นอน พีทเดินออกมาหน้าตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ไม่พูดหรือทักทาย ได้แต่มองหน้าเขานิ่ง
"ฉันอยากให้พวกเราสนิทกันไว้นะ ยังไงซะทั้งสองก็เรียนที่เดียวกัน ห้องเดียวกัน ที่สำคัญเราทั้งคู่จะต้องมาช่วยงานบริษัทของพ่อ " ผู้เป็นบิดามองไปที่มัน ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะหันมาที่ผม
"อคิณฉันรู้นะว่าแกไม่ชอบพีท แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาตั้งนานแล้ว"
".........." อคิณยังคงยืนนิ่ง มองหน้าอีกคนไม่วางตา
"ช่วงนี้ฉันต้องไปดูงานที่ต่างประเทศมีการเปิดฐานการผลิตใหม่อาจไปหลายเดือน ฉันอยากให้พวกแกอยู่กันที่นี่อย่างสันติ นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันจึงต้องให้แกกลับมา เข้าใจไหม? " ผู้เป็นบิดาหันไปทางลูกชาย ส่วนอีกคนเขาไม่ห่วงอะไร เพราะรู้นิสัยดี แต่บุตรชายนี่สิ มันดื้อด้าน ขี้โมโหและไม่เคยยอมใคร
"กูไม่ยอม และกูไม่ให้มึงอยู่ชายคาเดียวกับกู"
อคิณหันไปพูดเสียงดังใส่คนร่างบาง ขบกรามแน่นกัดฟันกรอด แล้วหันมาพูดกับบิดา
"ทำไมพ่อต้องให้มันมาช่วยงานที่บริษัท พ่อมีผมอยู่แล้ว เงินเราก็มีมากมายจ้างคนเก่งๆเป็นร้อย เป็นพันคนยังได้ ทำไมต้องเป็นมัน"
"เอ๊ะ!! ไอ้ลูกเวร ฉันก็มีเหตุผลของฉัน แกมีหน้าที่ทำตามที่บอกก็พอ อย่าทำตัวมีปัญหา ถ้าแกไม่อยากเห็นหน้าพีท แกก็ไปนอนที่คอนโดเหมือนเดิม ให้พีทมันอยู่ที่นี่แหละ"
ผู้สูงวัยเริ่มหงุดหงิดที่ลูกชายไม่ได้ดั่งใจ ดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป
"ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เดี๋ยวมันจะเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน" อคิณพูดอย่างดูถูกแววตาดูแคลนอีกคนอย่างไม่ปิดบัง
"อคิณ!! " ผู้เป็นบิดาปรามลูกชายเสียงขุ่น
"ผมอยู่ที่หอเหมือนเดิมก็ได้ครับ"
พีทเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฟังพ่อลูกโต้กันไปมาอยู่นาน เขารู้สถานะตอนนี้ดี และเขาก็ไม่ได้อยากจะมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่นี้เท่าไรนัก
"ผมรักและเคารพป้านิ่ม แต่นั่น! ไม่ได้หมายความว่ากูต้องเป็นมิตรกับมึง" อคิณปัดจานอาหารที่อยู่บนมืออีกคนร่วงลงพื้นอย่างแรง และเดินหนีขึ้นห้องไปทันที เพราะยังไงเขาก็จะไม่มีวันญาติดีกับมันง่ายๆแน่ ในเมื่อมันเองที่เป็นคนอยากหายไปจากชีวิตเขาเองแล้วตอนนี้มันเสือกจะกลับมาอีกทำไม
ปัง!!โครม!! เสียงปิดประตูและเสียงข้าวหล่นเสียงดังอยู่ด้านบน ป่านนี้ข้าวของคงแตกกระจายเกลื่อนห้อง
"เฮ้อ!! เมื่อไหร่ไอ้ลูกเวรของฉันมันจะโตเป็นผู้ใหญ่เหมือนพีทสักที" ผู้เป็นบิดาได้แต่ถอนหายใจยืดยาว
พีทมองขึ้นไปด้านบนสีหน้าเป็นกังวล แล้วหันไปบอกให้เด็กในบ้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มาเก็บเศษอาหารที่หกเรี่ยราดบนพื้นให้สะอาด