1204 คำ
๖ ในที่สุดจอมทัพก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ภรรยาของเขาเป็นอัมพาตช่วงล่าง ส่งผลร้ายต่อจิตใจของปภาวดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเศร้าโศกเรื่องไม่อาจมีบุตรได้ยังไม่พอ สวรรค์ยังลงโทษหล่อนต่อไปด้วยการให้หล่อนเป็นคนพิการ หญิงสาวจึงไม่ยอมพบหน้าใคร ไม่พูดคุยเพราะจิตใจแหลกสลายไม่มีชิ้นดี... ปภาพินท์พูดไม่ออกเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด เฝ้าถามตนเองว่าเหตุใดปภาวดีจึงต้องมาพบเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหตุใดจึงไม่เป็นหล่อนเสียเอง สาวน้อยร้องไห้กับสิ่งที่พี่สาวต้องพานพบ ก่อนขอให้วรรณาพาไปพบพี่สาวเพราะอย่างน้อยในช่วงเวลาที่เศร้าเสียใจเช่นนี้ปภาวดียังมีหล่อน “พี่ปูน” เสียงเรียกของน้องสาวทำให้ปภาวดีน้ำตาซึมออกมาอีก ทว่ายังไม่ยอมพูดอะไร ปภาพินท์จึงกุมมือพี่สาวเอาไว้ขณะที่วรรณาไปนั่งรอที่โซฟา “พี่ปูน มันต้องมีทางแก้สิคะ ถ้าพี่ปูนหายดี เรามาช่วยกันทำกายภาพบำบัด อาจจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่มีอีกหลายคนที่เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง พี่ปูนแข็งแรง น่าจะฟื้นตัวได้ดีแน่ๆ” คนที่เอาแต่นอนเงียบปล่อยให้น้ำตาไหลริน ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันสั่นระริก มือกำแน่นด้วยความเสียใจ ยังทำใจไม่ได้ รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ทำใจไม่ได้ อยู่ๆ ก็ต้องมาพิการแบบนี้พี่รับไม่ได้” ปภาวดีกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา น้ำตาไหลพราก “พี่ปูน แป้งจะไม่ทิ้งพี่ปูน พวกเราทุกคนจะอยู่ข้างๆ พี่ปูน พี่จอมจะคอยดูแลพี่ปูนไม่ไปไหน คิดถึงพี่จอมสิคะ พี่ปูนรู้ไหม ว่าพี่จอมเป็นห่วงพี่ปูนมากแค่ไหน เขาไม่เคยห่างพี่ปูนเลยสักนาทีเดียว” ปภาพินท์พยายามพูดให้พี่สาวคิดถึงคนรัก ทว่ายิ่งฟัง คนที่นอนแบ็บบนเตียงก็ยิ่งเจ็บปวด “พี่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงชีวิตจอม ไม่อยากให้เขาต้องลำบากเพราะพี่” “ไม่มีใครลำบากเพราะปูนทั้งนั้นนั่นแหละจ้ะ” วรรณาทนฟังต่อไปไม่ไหวและกำลังจะร้องไห้ตามเอ่ยแทรกขึ้น ทำให้ปภาวดีสะอื้นพลางมองมารดาของสามีด้วยสายตาที่ร้าวราน “แต่แม่คะ ปูนไม่เหมือนเดิมแล้ว ปูนกลายเป็นคนพิการ” “แต่ก็ยังคงเป็นเมียที่จอมรักเสมอ อย่าเสียใจ อย่าร้องไห้ให้จอมเห็น ถ้าไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดมากไปกว่านี้ และจำเอาไว้ว่าพวกเราทุกคนรักปูน จะไม่มีวันทอดทิ้งปูนเด็ดขาด ไม่ว่าปูนจะหายหรือไม่หายก็ตาม เพราะฉะนั้น ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปปูนจะต้องเข้มแข็งให้มาก เพื่อคนที่ปูนรักและเพื่อตัวปูนเองอย่างไรล่ะ” ปภาวดีสบตาแม่สามีด้วยความตื้นตันใจ พลางบีบมือน้องสาวที่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างแนบแน่น “ไม่ว่าจะยังไงแป้งจะอยู่เคียงข้างพี่ปูนเสมอ ไม่ว่าอะไรที่พี่ปูนต้องการแป้งจะทำให้ค่ะ ขออย่างเดียว กลับมาเป็นพี่สาวที่สดใสคนเดิมของแป้งเถอะนะคะ อย่าท้อนะคะ” ปภาวดีน้ำตาไหลอีกระลอก ก่อนจะยิ้มให้น้องสาวและวรรณาทั้งน้ำตา เกิดแรงฮึดสู้ขึ้นอีกครั้ง... หลังจากแพทย์อนุญาตให้จอมทัพกลับบ้านได้ ชายหนุ่มก็ต้องกลับไปทำงาน จึงขอย้ายภรรยาและปภาพินท์กลับไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยมีมารดาตามมาช่วยดูคนแลป่วยแทนตัวเขาที่ต้องกลับไปทำงาน ส่วนบิดาต้องอยู่ดูแลบ้านตามลำพัง... “จอมไปทำงานเถอะ อยู่ทางนี้แม่จะดูแลปูนกับแป้งให้” วรรณากล่าวกับบุตรชายที่มีทีท่าละล้าละลังอย่างเห็นได้ชัด “ผมฝากด้วยนะครับ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมา” ชายหนุ่มหลุบตามองภรรยา ฝ่ายนั้นยิ้มให้สามีพลางบอก “ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงปูนหรอก” ปภาวดีเอ่ยพลางยิ้มให้กำลังใจเขา “พักผ่อนเยอะๆ นะ” สบตาพลางกำชับภรรยา “ผมไปแล้วนะครับ” บอกมารดาแล้วหมุนตัวออกจากห้อง แต่ก่อนไปเขาแวะเข้าห้องของปภาพินท์ เห็นว่าสาวน้อยตื่นอยู่เช่นกัน “เป็นไงบ้างแป้ง” ร่างสูงเข้ามาหยุดอยู่ริมเตียง มองใบหน้าที่มีรอยฟกช้ำทว่าจางลงบ้างแล้ว “ดีขึ้นเยอะค่ะ พี่จอมไปทำงานใช่ไหมคะ” สาวน้อยมองแขนที่ยังอยู่ในเฝือกของเขาด้วยสายตาเป็นห่วง ชายหนุ่มมองตามสายตาแล้วพยักหน้ายิ้มๆ “ใช่ พี่แวะมาดูแป้งก่อนแล้วจะออกไปเลย” “ขอบคุณค่ะ พี่ปูนเป็นยังไงบ้างคะ” เอ่ยถามถึงพี่สาว ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นเช่นไร ยังร้องไห้อีกไหม เพราะถึงแม้จะพยายามทำใจแต่ปภาวดีก็ยังร้องไห้ทุกวัน จนมารดาของจอมทัพต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวว่าสะใภ้จะคิดสั้น ชายหนุ่มเองก็เป็นห่วงและเสียใจไม่แพ้ภรรยา “ดีขึ้นแล้ว คงพอทำใจได้บ้างแล้วล่ะ แป้งพักผ่อนมากๆ นะ พี่ไปทำงานก่อน ว่าแต่อยากกินอะไรไหมเย็นนี้พี่จะได้ซื้อมาฝาก” ปภาพินท์ยิ้มให้พี่เขยพลางส่ายหน้า เขาเหนื่อยมามากแล้ว ต้องดูแลทั้งภรรยาและน้องภรรยา หล่อนจะไม่รบกวนและทำตัวให้เป็นภาระของเขามากไปกว่านี้อีก “ไม่เป็นไรค่ะ แป้งยังไม่อยากกินอะไรเท่าไร พี่จอมไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสาย” ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มแล้วเอ่ยลา ก่อนจะหมุนตัวออกจากห้อง ชายหนุ่มนั่งแท็กซี่ไปถึงที่ทำงาน ทั้งลูกน้องและเพื่อนร่วมงานที่รู้ข่าวและไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลต่างเข้ามาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “ปูนกับน้องสาวเป็นยังไงบ้างจอม ใกล้กลับบ้านได้หรือยัง พรุ่งนี้พวกเราจะไปเยี่ยม” มารุตเอ่ยถาม พลางมองอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องจอมทัพดูทรุดโทรมลงไปมาก อาจเป็นเพราะพักผ่อนน้อย ต้องคอยดูแลทั้งภรรยาและน้องสาวทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่หายดีแบบนี้ ที่สำคัญเรื่องการเป็นอัมพาตของปภาวดีทำให้จอมทัพสะเทือนใจเสียยิ่งกว่าการไม่สามารถมีลูกได้ตลอดชีวิตเสียอีก “ขอบใจพวกนายมาก อีกสองสามวันหมอก็ให้แป้งออกจากโรงพยาบาลได้ ส่วนปูนต้องรอดูอีกที แต่อีกไม่นานหมอคงให้เริ่มทำกายภาพ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เอื้อมมือที่ยังใช้การได้เลื่อนแฟ้มออกมาเปิด มารุตพยักหน้าพร้อมถอนหายใจ นึกเห็นใจ คงเป็นคราวเคราะห์ของเพื่อน “ถือเสียว่าฟาดเคราะห์ ต่อไปนี้เรื่องดีๆ จะเข้ามาเอง” จอมทัพยิ้มให้และมองจนร่างสูงของมารุตออกจากห้องทำงานของตนจึงได้ถอนหายใจยาว รู้สึกอ่อนล้าไม่น้อยกับสิ่งที่ต้องเผชิญ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม