ตอนที่4 ไม่มีคำว่าเลิก

1505 คำ
ฟาร์ม วันนี้เป็นวันที่วิกกี้ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งสองวันที่วิกกี้อยู่ที่นี่ก็เป็นผมที่เฝ้าเธอเอง อย่างน้อยเธอก็สายรหัสผม ส่วนเรื่องขาของเธอก็ไม่แค่แพลง แต่ว่ากระดูกข้อเท้าร้าวเลยนอนดูอาการอีกคืน “พี่ฟาร์มมาเฝ้ากี้แบบนี้แล้วพี่ไพลินจะคิดยังไงคะ” วิกกี้ถามผมออกมาระหว่างที่ผมขับรถไปส่งเธอที่คอนโด ซึ่งมันเป็นคำถามที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบยังไง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมก็ยังไมได้เจอและคุยกับไพลินเลย “ไม่ต้องห่วง ลินเข้าใจ” ถึงแม้ว่าผมจะไม่มั่นใจว่าเธอจะเข้าใจ แต่ผมก็เลือกที่จะตอบออกไปแบบนั้น “กี้ขอโทษนะคะ ที่ทำให้พี่ฟาร์มเสียเวลา” “มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก” ผมบอกวิกกี้ไปไม่ให้เธอคิดมาก ผมขับรถต่อจนมาถึงคอนโดของเธอ ผมพาวิกกี้มาส่งบนห้องเตรียมของให้เธอนิดหน่อยจะได้ไม่ต้องเดิน “จะเรียกให้คนที่บ้านมาอยู่เป็นเพื่อนไหม” ผมถามเธอออกไป “ไม่ดีกว่าค่ะ ถ้าพ่อแม่รู้เรื่องเดี๋ยวก็เป็นเรื่องใหญ่อีก” วิกกี้ตอบกลับมา ผมก็พอรู้จักครอบครัววิกกี้ผ่านๆบ้าง “งั้นเดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ มีอะไรโทรหาฉันทันที แล้วจะมาเยี่ยมใหม่” ถึงแม้ว่าผมจะเป็นห่วงวิกกี้อยู่ แต่ผมก็เป็นห่วงไพลินไม่น้อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอเป็นยังไงบ้าง ยังไงก็ต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อนเพื่อความสบายใจ “ค่ะ พี่ฟาร์มไปเถอะไม่ต้องห่วงกี้” วิกกี้บอกผมอย่างเข้าใจ เมื่อผมเห็นว่าไม่มีอะไรหน้าห่วงแล้วผมก็เลยออกจากห้องเธอมา มุ่งหน้าไปที่คอนโดตัวเองเพราะคิดว่าไพลินคงจะอยู่ที่นั่น คอนโด... พอมาถึงผมก็รีบขึ้นห้องมาอย่างรีบร้อน อีกทั้งเตรียมคำอธิบายที่ฟังขึ้นให้ไพลินได้ฟัง เพราะผมรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องชวนผมทะเลาะเรื่องนี้แน่นอน แอดดด พอเปิดประตูห้องเข้ามากลับกลายเป็นห้องที่เงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ “ลิน” ผมเรียกเธอออกมาก่อนจะเดินเข้าออกตามห้องต่างๆแต่กลับไร้เสียงตอบรับและไม่เห็นไพลิน แล้วเธอไปไหนกัน หรือจะออกไปหาเพื่อนแต่คงไม่ใช่ไอ้ก้องภพหรอกนะ เมื่อผมคิดได้แบบนั้นมันก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นก่อนจะเดินไปรินน้ำในครัวมากินแล้วเดินมานั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น แต่สายตาผมกลับไปโฟกัสกับการ์ดแผ่นสีเหลี่ยมบนโต๊ะหน้าโซฟา “หมายความว่ายังไง” ผมหยิบคีร์การ์ดห้องตัวเองที่ปกติใบนี้มันเป็นของไพลินขึ้นมาดูอย่างร้อนใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้งแล้วเปิดตู้เสื้อผ้าดู ชัดเจนครับ ในตู้ตอนนี้ไม่มีเสื้อผ้าและของใช้ของไพลินอยู่เลยแม้แต่ชุดเดียว ไม่สิ ยังเหลือชุดที่ผมเป็นคนซื้อให้เธอที่เธอไม่ได้เอาไปรวมถึงของทุกอย่างที่เป็นของเธอ เธอเอาไปหมดยกเว้นของที่ผมซื้อให้ เธอไม่เอาอะไรไปสักอย่าง “หึ เธอคิดจะหนีฉันไปจริงๆหรอ” ไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจหรือว่าเสียใจกับการกระทำนี้ของไพลิน ถ้าพูดตามตรงผมก็รู้สึกหดหู่ใจและเสียใจเพราะผมรักเธอ ถึงไพลินจะงี่เง่าไปบ้างแต่เธอไม่เคยหนีปัญหา เธอพร้อมจะพุ่งชนตลอด มันเลยทำให้ผมรู้ว่าครั้งนี้เธอจะไปจากผมจริงๆ แต่อีกใจหนึ่งผมกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาที่ผมจะได้ทำตามใจตัวเอง คือเล่นสนุกกับใครก็ได้โดยไม่ต้องทะเลาะกับไพลิน และเพื่อความสบายใจของไพลินเธอจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกับการกระทำของผม แล้วเมื่อถึงเวลาที่ผมพอใจเมื่อไหร่ก็ค่อยไปตามเธอกลับมา เพราะถึงยังไงผมก็ปล่อยไพลินไปง่ายๆแบบนี้ไม่ได้ อย่าลืมว่าเธอเป็นเมียผมและเธอท้องด้วย ผมเป็นห่วงทั้งสองคนเหมือนกันนั่นแหละ (เออ ว่าไง) เสียงไอ้เติ้ลถามผมออกมาทันทีที่รับสายจากผม เพราะผมโทรหามันเองแหละ เพื่อความสบายใจ อย่างน้อยผมก็ต้องรู้เรื่องของไพลินก่อนว่าเธอสบายดี “มึงพอจะรู้ไหมว่าลินอยู่ไหน” ที่ผมถามมันไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะไอ้เติ้ลเป็นสายรหัสไอ้ก้องภพ ถึงผมจะไม่ชอบขี้หน้าไอ้ก้องภพ แต่ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบของรุ่นพี่ทำให้ไอ้เติ้ลมันก็รักสายรหัสของมัน ไม่ได้เกลียดเหมือนที่ผมเป็นและผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน (มึงโทรมาถามเรื่องเมียตัวเองกับกูนี่หรอ) ไอ้เติ้ลถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ “ลินหนีกูไป” ผมตัดสินใจบอกมันถึงเหตุผลที่ผมต้องไปถามมัน ซึ่งพูดแค่นี้มันก็พอจะเดาได้แหละว่าผมคงหมายถึงว่ามันรู้เรื่องอะไรจากไอ้ก้องภพบ้าง ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องรู้ไม่มากก็น้อย (สมควรที่ลินจะหนีมึงไป มึงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา มึงไม่รู้เรื่องเลยหรอว่าลินแท้ง!) ไอ้เติ้ลบอกผมออกมาด้วยอารมณ์โกรธ ถึงแม้ว่ามันไม่ได้สนิทกับลินมาก แต่มันก็รู้จักลินพอสมควร และมันก็ไม่ได้ชอบการกระทำของผมด้วย “มึง ว่าอะไรนะ” สิ่งที่ไอ้เติ้ลมันบอกผมเมื่อกี้ มันทำให้ผมหูอื้อไปชั่วขณะ เลยต้องถามมันกลับไปใหม่อีกครั้งให้แน่ใจ (หึ สมใจมึงแล้วสิที่จะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป) ไอ้เติ้ลพูดจบก็วางสายผมทันที ถึงมันจะเป็นเพื่อนผมแต่ใช่ว่ามันจะเข้าข้างผมทุกเรื่อง อีกอย่างถึงได้เติ้ลมันจะเลวไม่ต่างจากผม แต่มันเป็นพวกไม่ชอบทำให้ผู้หญิงร้องไห้ จนมันเป็นคนที่เตือนผมมากที่สุดเรื่องการทำเลวกับคนรัก แต่เรื่องนั้นช่างเถอะ สิ่งที่ทำให้ผมสนใจมากที่สุดตอนนี้ก็คือ ไพลินแท้งลูกของผมงั้นหรอ วันนั้นเธอหลบไม่ทัน หรือว่าเพราะอะไรทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมรู้ว่ามันเป็นความผิดของผมเต็มๆที่ผมไม่ได้ช่วยเธอไว้ เป็นความผิดของผมที่ตอนนั้นไม่ได้ยั้งคิด เลือกจะไปช่วยผู้หญิงอีกคนที่กำลังต้องการตอบสนองตัวเอง แต่กลับทิ้งให้เมียที่ท้องอยู่ได้รับบาดเจ็บ “ลูกพ่อ” ถึงแม้ว่าผมจะเลว แต่ผมก็รักลูกของผมนะ ถึงแม้ว่าแกยังไม่ได้เกิดมา แต่ผมก็รู้ว่าแกเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผม มันจะแปลกอะไรที่เราจะรักลูกตั้งแต่รู้ว่ามีแก แต่ตอนนี้ อย่าว่าแต่แกยังไม่ได้ลืมตาดูโลกเลย แต่แกกลับไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกใบนี้แล้วด้วยซ้ำ “พ่อขอโทษ” ผมสงสารลูกจริงๆ มันเป็นความผิดของผมที่ผมไม่ได้เลือกช่วยไพลิน ความผิดของผมที่ผมลืมเธอไปตอนนั้นแล้วไปช่วยคนอื่น จนเธอได้รับอุบัติเหตุและสูญเสียลูกแบบนี้ และผมก็ไม่แปลกใจเลยที่เธอหนีผมไปในครั้งนี้ นอกจากที่เธอจะโกรธผมเรื่องที่ผมเลือกช่วยคนอื่นที่ไม่ใช่เธอแล้ว เธอคงจะเสียใจที่ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องเสียลูกไป แล้วไหนจะคำพูดนั้นของเธอในวันที่เราทะเลาะกันครั้งล่าสุด “ถ้าตอนนี้ลินไม่ท้องลินก็จะไม่สนใจเหมือนกันว่าพี่จะทำอะไรหรือเอากับใคร!” เพราะตอนนี้เธอไม่มีลูกแล้ว และต้นเหตุมาจากผมสินะ เธอเลยเลือกจะไม่สนใจผมอีกต่อไปและหนีผมไปแบบนี้ แม้แต่คำบอกเลิกยังไม่มีสักคำ “เหอะ” ผมสบทออกมาอย่างสมน้ำหน้าตัวเอง ช่างเถอะ ตอนนี้ผมคงต้องปล่อยให้เธอไปพักใจให้สบายใจขึ้นก่อนแล้วกัน ส่วนผมระหว่างนี้ก็ขอทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำอย่างเปิดเผยให้เต็มที่แล้วกัน ไพลินไม่อยู่แบบนี้อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจเพิ่มด้วย "ไม่นานพี่จะไปพาเธอกลับมานะ ไพลิน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม