มือใหญ่ขยับเนกไทให้คลายออกจากระหว่างลำคอ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งวันนั้นมันไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรกับคนเนี้ยบเจ้าระเบียบเช่นเขา หากแต่เป็นเพราะในระหว่างที่กำลังจะก้าวเดินผ่านโซฟาตัวใหญ่ไปยังชั้นบนนั้นนัยน์ตาคมก็สะดุดเข้ากับภรรยาที่หลับใหลไปพร้อมมื้ออาหารและเค้กหน้าประณีตที่ถูกแต่งแต้มเขียนเป็นวันครบรอบแต่งงานเข้าปีที่สาม
เธอจำและทำแบบนี้ให้ตลอดมา ผิดกับเขาที่ไม่คิดจะใส่ใจให้มันรกสมอง
แน่นอนว่าเปรมปวีณ์ไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ตามที่บอกกล่าวออกไปในสาย ทั้งชีวิตหลังจากตกแต่งกับลูกคุณหนูอายุห่างกันเป็นรอบเขาก็เลือกจะทุ่มเทเวลาให้งานไปเสียหมด เรียกได้ว่ากลับมาบ้านที่เป็นเรือนหอต่อเดือนนั้นแทบจะนับครั้งได้
วันนี้ต้องกลับมานอนที่นี่เป็นเพราะเลขาตัวดีดันได้ฟังที่เขาคุยกับภรรยาเด็กแล้วคงจะนึกสงสาร หลอกว่าจะไปส่งเขาที่คอนโดอย่างเคยแต่กลับกลายเป็นว่ามาจอดรถยนต์ที่หน้าเรือนหอหลักสิบล้านแทน นั่นทำเอาคนที่นั่งพักสายตาระหว่างอยู่บนรถจำต้องถีบเบาะคนขับแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิดใจ ถ้าไม่ติดว่าเหนื่อยจากงานมาทั้งวันแล้วเขาคงจะกดเรียกรถบริการกลับไปนอนที่คอนโดใจกลางเมืองเอง
“มานอนอะไรตรงนี้”
“คุณเปรม...” คนเด็กกว่าที่เพิ่งสะลึมสะลือตื่นขึ้นมากลางดึกจากการรอสามีกลับมาฉลองวันครบรอบแต่งงานด้วยกันรีบพุ่งตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายคล้ายกับว่าไม่อยากที่จะเสียเขาไป
เพชรชมพูที่เผลอหลับไปก่อนหน้ามีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้าจิ้มลิ้ม เธอสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมอกแกร่งของสามีขณะโผเข้ากอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ตอบรับอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ก็ยังดีที่คนเป็นพี่นั้นไม่ได้ผลักไสอะไร
เขาก็เป็นเช่นนี้ มีแต่เธอที่รู้สึกไปเองมากขึ้นทุกวัน กว่าจะหลับไปทั้งแบบนั้นก็มองเวลาแล้วภาวนาในใจตลอดว่าให้ประโยคที่ตัวเองได้ยินจากโทรศัพท์นั้นไม่ใช่ความจริง
ตลอดสามปีที่อยู่กันมาเปรมปวีณ์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอจริง ๆ หรือ แม้แต่ความผูกพันก็จะไม่มีให้กันหรืออย่างไร
“ปล่อยฉันแล้วกลับขึ้นไปนอนดี ๆ”
“หนูอยากนอนกับคุณค่ะ ก็เลยรอ...”
“เพชรชมพู”
“ทำไมคะ ที่คุณเปรมกลับมาไม่ใช่เพราะแบบนี้เหรอ ทิ้งหนูเอาไว้ให้โดดเดี่ยวอยู่ข้างหลัง มองหาแค่ตอนเอาไว้สำเร็จความใคร่”
“ประชดฉัน?”
“หนูพูดความจริงค่ะ”
“ถึงแบบนั้นเธอก็ยินดีไม่ใช่เหรอ”
ร่างบอบบางสั่นระริกยามเขากอดตอบแล้วโน้มใบหน้ามากระซิบที่ใบหูขาว เธอรู้ว่าเรื่องเช่นนี้มันเป็นปกติของสามีภรรยา แต่ก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่ายอมให้เขาตักตวงความสุขทางกายจากตนเองมานานเท่าไหร่
เนื่องจากจำได้ดีว่าในวันเข้าหอของเราเขาก็ไม่อยู่รอ เดือนแรกแทบจะไม่ได้เห็นหน้าสามีแต่งเลยด้วยซ้ำ ที่ชายหนุ่มยอมกลับมานอนเรือนหอบ้างบางครั้งคราวก็คงจะเป็นมารดาอีกฝ่ายขอร้องหรืออย่างไรหญิงสาวเองก็ไม่ได้ก้าวก่ายขนาดนั้น
จนมีวันหนึ่งที่เขากลับมาทั้งที่มีกลิ่นเหล้าติดตามตัวเช่นวันนี้แล้วเราก็เผลอปล่อยใจมีความสัมพันธ์ทางกายลึกซึ้งต่อกันแบบที่เปรมปวีณ์ไม่ได้สึกรู้อะไรกับเธอในเชิงนั้น เป็นเพชรชมพูซึ่งหลงรักชายหนุ่มมานานรู้สึกลิงโลดราวกับเด็กน้อยที่กำลังได้ใจ
และมันก็เป็นแบบนั้น ความโลภมากทำให้เธอไม่อยากที่จะเสียเขาไป
แน่นอนว่าการแต่งงานของเราเป็นแค่ฉากเบื้องหน้าของธุรกิจทางบ้านเพื่อความอยู่รอด แล้วถ้าหากไม่มีทางบ้านเขาเข้ามาเพื่อช่วยพยุงธุรกิจที่เหลือ เพียงตนเองกับแม่ซึ่งเป็นคนดูแลต่อมันก็คงจะมาไม่ได้ไกลขนาดนี้ในตอนที่บิดานั้นเสียชีวิตไปกะทันหัน
อีกทั้งคำฝากฝั่งของคนที่ตายไปแล้วจึงเป็นบ่วงคล้องคอเราเอาไว้อยู่ในตอนนี้
ปัจจุบันธุรกิจทางบ้านเพชรชมพูสามารถกลับมามั่นคงได้มันก็เพราะเขา แม้ว่าจะเป็นเรื่องดี แต่ก็เลวร้ายในความรู้สึกของเธออยู่ไม่น้อย นั่นเพราะเปรมปวีณ์สามารถทิ้งเธอไปได้ทุกเมื่อในตอนที่ทำตามคำขอเสร็จสิ้นแล้ว ที่เขายังใจเย็นไม่ทำอะไรอยู่แบบนี้ส่วนหนึ่งคงจะเป็นเพราะไว้หน้าครอบครัวเราที่เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันมาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น
รู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอตั้งแต่แรก ทว่าอะไรทำให้คนที่ไม่ได้นึกสนใจเรื่องคู่ครองถึงกล้าเอ่ยปากแบบนั้นออกมา ทราบดีว่ามันไร้ค่ากับการอยู่แบบนี้ แต่ขอแค่มีเขา เธอก็ไม่ต้องการอะไรอีก
“ค่ะ หนูยินดี ถึงคุณเปรมจะต้องการแค่ร่างกายของหนูก็ตาม”
“โธ่ เด็กดีของฉัน ฉันก็อุตส่าห์ใช้ไม้อ่อนกับเธอแล้วแท้ ๆ อย่าให้ฉันต้องใจร้ายไปมากกว่านี้เลยนะ”
“ไม่เอาค่ะ เราไม่คุยเรื่องนี้กันแล้วได้ไหมคะ”
“สามปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยขออะไรเธอเลย มีแค่เรื่องนี้ที่ฉันอยากจะขอ”
“ไม่เอาค่ะ ไม่เอาเด็ดขาด ที่ผ่านมาคุณเปรม ฮึก... ไม่คิดจะเปิดใจรักหนูเลยเหรอคะ” เพชรชมพูหลับตาลง ใช้เรียวแขนโอบรอบลำคอของสามีเอาไว้แน่นยามเรียวลิ้นสากนั้นไล้ตั้งแต่ใบหูขาวลงมาถึงลำคอ อีกทั้งมือหนาก็ขยำก้อนกลมนุ่มเด้งจนร่างกายเธอไร้ทางสู้ไปเสียหมด ก่อนเขาจะผละออกมาเช็ดน้ำตาให้เธอแผ่วเบา
“ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว”
“หนูรู้ว่าที่ผ่านมาคุณช่วยครอบครัวเราเอาไว้มาก แต่หนูก็ยังเป็นคนเห็นแก่ตัว ถึงแม้ว่าจะโดดเดี่ยว แต่ก็อยากที่จะรัก อ๊ะ! คุณเปรมอยู่ตรงนี้”
เพชรชมพูเปล่งเสียงตกใจออกมาเมื่อถูกดันให้นอนลงที่โซฟา ถึงพอจะรับรู้ได้ว่าต่อจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่อาจทราบได้เลยว่าจะสามารถรั้งเปรมปวีณ์เอาไว้กับตัวเองได้อีกนานเท่าใด
“นอกจากให้ฉันเอาแล้วเธอก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรแล้วนะเด็กดี”
“แต่คืนนี้ก็สามารถรั้งคุณเปรมเอาไว้ได้ใช่ไหมล่ะคะ”
“แน่นอน เพราะเธอทำมันตื่นแล้ว”
“คุณเปรม ฮึก… ใจร้ายที่สุดเลย”
คนแก่กว่าที่กำลังถอดเสื้อสูทตัวออกอยู่ชะงักไปชั่วขณะ ยามต้องมาเห็นนัยน์ตาแวววาวสะท้อนแสงไฟอีกครั้งทั้งที่ก็เช็ดน้ำตาไปให้แล้วแท้ ๆ ก่อนจะระบายยิ้มให้แก่ผู้เป็นภรรยาแทนคำตอบ ต่อให้เด็กคนนี้จะต้องเสียน้ำตาเพราะเขาอีกเป็นร้อย ๆ ครั้ง
ความจริงที่ว่าเปรมปวีณ์ไม่ได้รักเพชรชมพูก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลง
TBC.
ช่วยกันจำนะคะ ว่ามันไม่รัก