หลังจากที่กินข้าวเสร็จออสตินก็พาฉันเดินซื้อของที่ห้างต่ออีกนิดหน่อย ซื้อพวกของใช้ที่จำเป็นก่อนที่จะพาฉันกลับมาอยู่ที่คอนโดของเขา ฉันอยากปฏิเสธเขาไปแต่ก็อย่างที่รู้ว่าเขาคงไม่ยอม
“เป็นไง พออยู่ได้ไหม” เขาถามฉันขึ้นในขณะที่ฉันกำลังเก็บของอยู่
“อยู่ได้” ฉันตอบกลับไป คอนโดของออสตินมันดูดีกว่าบ้านฉันตั้งหลายร้อยเท่า ทำไมจะอยู่ไม่ได้
“แล้วนี่คิดไว้หรือยังว่าถ้าเรียนจบจะไปเรียนต่อที่ไหน?” ออสตินนั่งลงบนเตียงพลางส่งสายตามามองฉันที่นั่งพับเพียบเก็บของจัดของอยู่ที่พื้น
“นิตาว่าจะขอดร็อปเรียนไว้ก่อนสักปีสองปี” ฉันตอบกลับไป
“.....” เขามองฉันอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ทำงานไง ทำงานส่งตัวเองเรียน”
“แต่ตินบอกหลายครั้งแล้วนะว่า...”
“ไม่เอาน่าติน นิตาอยากทำด้วยตัวเอง” ตินพูดไม่ทันจบ ฉันก็รีบพูดแทรกขึ้นเพื่อดักทางเขาไว้
“จะทำด้วยตัวเองทำไม นิตามีตินอยู่ทั้งคน” เขาร้องโวยขึ้น ออสตินก็เป็นแบบนี้แหละขี้โวยวาย เอาแต่ใจ
“.....”
“แค่เมียคนเดียวตินเลี้ยงได้”
“เลี้ยงได้ที่ไหน ตินยังขอตังค์พ่ออยู่เลย” ฉันเลยตอบกลับไป เป็นอย่างที่ฉันพูดออสตินยังใช้เงินของที่บ้านอยู่เลย แถมเขายังมาส่งเสียเลี้ยงดูฉันอีก ฉันน่ะไม่อยากเอาเปรียบเขาเกินไป
“.....” ออสตินเงียบไม่พูดอะไรออกมา
“ตินให้นิตามาเยอะแล้ว นิตาไม่อยากได้แล้ว”
“ถ้าเรียนจบตินจะเป็นคนเลี้ยงนิตาเองตกลงมั้ย?” เขาดึงมือฉันไปจับก่อนที่จะส่งสายตาจริงจังมาให้
“เหลืออีกตั้งหลายปี อย่าเพิ่งรีบพูดเลย”
“ตินพูดจริงๆ นะนิตา”
“เดี๋ยวพอไปเจอสาวๆ สวยๆ ที่มหาลัย เดี๋ยวตินก็ลืมนิตาแล้ว” ฉันยิ้มกว้างพูดแซวเขาไป เราทั้งคู่อายุยังไม่เท่าไหร่เลย เขายังมีโอกาสเจอคนอีกมาก ออสตินเขาทั้งหล่อแล้วก็รวย เดี๋ยวผู้หญิงก็คงพากันเข้ามาหาเขาเองนั่นแหละ
“ไม่เลย ตินรักนิตาคนเดียว” เขาทำเสียงงุบงิบแล้วขยับตัวมากอดฉันไว้จากด้านหลังพลางเอาใบหน้ามาถูไถที่ไหล่ฉัน
“.....” ฉันได้แต่ยิ้มให้กับความขี้อ้อนของเขา
ก๊อก!! ก๊อก!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ออสตินกำลังนัวเนียกับลำคอฉันอยู่ เขาหยุดการกระทำทุกอย่างด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนที่จะลุกขึ้นไปเปิดประตู
แกร่ก!!! เสียงออสตินที่เปิดประตูก่อนที่ฉันจะเห็นพี่เอลี่ พี่สาวออสตินที่เดินเข้ามา พี่เอลี่เป็นพี่สาวต่างพ่อของออสติน อายุมากกว่าฉันประมาณสี่ปีได้
“สวัสดีค่ะพี่เอลี่” ฉันเดินไปยกมือไหว้สวัสดีพี่เอลี่ที่เดินเข้ามา
“สวัสดีนิตา ไม่เจอกันนานเลยนะ” พี่เอลี่ยิ้มหวานให้ฉัน พี่เอลี่เป็นผู้หญิงที่ออกแนวสวยหวาน พูดเพราะ หน้าตาก็สะสวย กริยามารยาทบุคลิกพี่เขาก็ดูดีมากๆ ดูเป็นแม่ศรีเรือน
“เจ๊มาทำไม?” ออสตินถามขึ้น
“พ่อให้พี่เอาของมาให้” พี่เอลี่ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ออสติน ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“พี่วางไว้ตรงนั้นแหละ” ออสตินชี้ไปที่โต๊ะอ่านหนังสือ
“แล้ววันนี้จะกลับบ้านมั้ย?” พี่เอลี่ถามขึ้นอีก
“งั้นฝากไปบอกพ่อด้วยว่าช่วงนี้ผมนอนคอนโด” ออสตินตอบแบบไม่ใส่ใจมากนัก
“อยู่กับนิตาเหรอ?” พี่เอลี่พูดแซวออสตินที่นั่งทำหน้าขรึมอยู่
“อืม”
“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ไปบอกพ่อให้แล้วกัน” พี่เอลี่พูดขึ้นก่อนที่จะยิ้มบางๆ ให้ฉันก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
“พ่อแม่ตินจะว่ามั้ย ถ้ารู้ว่านิตามาอยู่ที่นี่?” ฉันขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ เขามากกว่าเดิม
“ไม่ว่าหรอก อย่าคิดมาก”
ตินตอบแค่นั้นก่อนที่จะดึงฉันให้ไปนั่งบนตักแกร่งของเขา จมูกโด่งของตินถูไถไปมาที่แก้มของฉันหลายที ก่อนที่ตินจะหอมแก้มฉันแบบหนักๆ แล้วยื่นอะไรบางอย่างให้
“พรุ่งนี้วันอะไร นิตาจำได้มั้ย?”
“จะ...จำได้”
“วันอะไร?” เขามองหน้าฉันก่อนที่จะยิ้มบางๆ ออกมาให้
“วันครบรอบหนึ่งปีที่คบกัน” ฉันตอบกลับไป พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่ฉันกับออสตินคบกัน
“.....” ตินยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่จะยื่นกล่องของขวัญสีชมพูหวานแหววกล่องเล็กให้กับฉัน
“ขอบคุณนะ” ฉันฉีกยิ้มกว้างพร้อมใช้แขนคอคอออสตินเอาไว้หลวมๆ ก่อนที่จะระดมจูบไปที่แก้มของเขา
“นิตาไม่มีของขวัญให้ตินเลย ตินโกรธนิตามั้ย?” ฉันถามเขา ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้ความสำคัญกับตินนะ แต่ก็อย่างที่รู้ ฉันไม่มีเงินเลย พอเก็บเงินได้ทีไร พ่อกับแม่ก็เอาไปหมดทุกที
“ไม่โกรธ แค่นิตามาอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว ปีหน้าค่อยให้ตินก็ได้”
“แล้วถ้าเราเลิกกันก่อนล่ะ?” ฉันถามคนตรงหน้าก่อนที่จะยิ้มให้
“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากเลิกกันเลย นิตาอย่าทิ้งตินได้ไหม” ตินมองหน้าฉันพร้อมพูดด้วยเสียงที่จริงจัง
“นิตามากกว่าที่ต้องพูดคำนี้” ฉันยิ้มกว้างพร้อมเอานิ้วจิ้มแก้มของเขาที่กำลังทำหน้างออยู่ตอนนี้
วันต่อมา...
ฉันตื่นเช้าอาบน้ำไปโรงเรียนตามปกติโดยที่อาศัยรถมากับติน เพราะฉันกับเขาเรียนที่เดียวกัน มันเป็นโรงเรียนเอกชนแต่พอดีว่าฉันสอบชิงทุนมาได้ เลยได้มาเรียนฟรีจนจบมัธยมปลาย วันนี้ฉันคิดไว้แล้วล่ะว่าตอนเย็นหลังเลิกเรียนฉันจะลองไปสมัครงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ยังไม่ได้บอกตินเพราะยังหาจังหวะบอกเขาไม่ได้
“เดี๋ยวตอนพักกลางวันมาหานะ” หลังจากที่มาส่งที่อาคารเรียน ตินบอกฉันก่อนที่จะเดินออกไป
“นิตาทางนี้” เสียงกอหญ้าดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังมองหาเธออยู่พอดี
“กำลังมองหาอยู่พอดี”
“วันนี้ว่างมั้ย เลิกเรียนไปกินไอติมกัน เดี๋ยวหญ้าเลี้ยงเอง” กอหญ้าถามขึ้น
กอหญ้าเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่ฉันมี เธอเป็นลูกคนรวยที่มีจิตใจดี หน้าตาก็น่ารักแถมยังไม่ถือตัวอีกด้วย กอหญ้าไม่เคยรังเกียจที่ฉันจน ต่างจากเพื่อนคนอื่น ๆ
พอพักกลางวันฉันกับตินก็มาทานข้าวที่โรงอาหารด้วยกันเหมือนปกติ แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน เพราะเวลาพักของตินกับฉันไม่ตรงกัน จะได้มาทานข้าวด้วยกันก็อาทิตย์ละสองวัน ส่วนอีกสามวันออสตินก็ไปอยู่กับเพื่อนเขา
“เป็นใครจะไม่เอาวะ ทั้งหล่อทั้งรวย”
“ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละว่ายัยนิตาคบกับออสตินก็เพราะเงิน!!”
เพื่อนต่างห้องที่พากันซุบซิบเมื่อเห็นฉันกับออสตินเดินเข้าโรงอาหารมาพร้อมกัน ฉันได้ยินมันทั้งหมดแต่เลือกที่จะเงียบไม่ตอบโต้อะไร
หมับ!!! พลั่ก!! จู่ๆ ออสตินก็เดินเข้าไปผลักหัวผู้หญิงคนนั้นอย่างแรงพร้อมทำท่าทางเอียงคอสงสัยมองหน้าเธอคนนั้น
“ออสตินมาตบหัวเราทำไม?” เธอคนนั้นร้องโวยวายขึ้น
“เอ้า!! ก็คิดว่าเงินฉันมันไปติดอยู่ที่หัวเธอก็เลยตบ เอ้ย!! ผลักออกให้” ออสตินตอบกลับไป
“????” เธอคนนั้นทำหน้างงก่อนที่จะมองมาทางฉันที่ยืนอยู่ข้างออสติน
“เงินก็เงินฉัน เเต่มันไปหนักบนหัวเธอ!!” ออสตินพูดแค่นั้นก่อนที่จะดึงแขนฉันให้เดินตาม
“.....” ฉันเดินตามออสตินก้มหน้าเม้มปากเงียบ
“หยุด!! ไม่ต้องร้อง ถ้าเธอร้องไห้ ฉันจะจับเธอกระแทกแรงๆ คาโรงอาหารโง่ๆ นี้ซะ!!” เขาชี้หน้าฉันอย่างรู้ทันว่าฉันกำลังคิดจะทำอะไร พอได้ยินคำพูดของเขา ฉันก็เม้มปากกลั้นน้ำตาเอาไว้
ฉันเดินตามออสตินมานั่งที่โต๊ะแบบเงียบๆ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ ที่มองมา ฉันจะถูกมองแบบนี้เป็นประจำเวลาที่อยู่กับออสติน
เพราะออสตินเขาเป็นถึงคิงของโรงเรียน คิงที่ฉันพูดถึงหมายความว่า เขาเทียบเท่ากับเดือนของโรงเรียนแต่แค่ไม่ได้เป็นเดือนก็แค่นั้น
“เดี๋ยวไปซื้อข้าวมาให้ รออยู่ตรงนี้นะ” ออสตินพูดขึ้นก่อนที่จะลุกเดินออกไปซื้อข้าวมาให้เหมือนทุกครั้ง
“อืม” ฉันพยักหน้ารับรู้
ครืดดดดด ครืดดดดด โทรศัพท์ฉันดังขึ้นในขณะที่ฉันกำลังนั่งรอตินอยู่ ฉันรีบกดรับทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาเป็นแม่ของฉัน
“ฮัลโหลค่ะแม่”
(นะ....นิตาช่วยแม่แกด้วย) มันไม่ใช่เสียงแม่ แต่เป็นเสียงพ่อเลี้ยงของฉัน
“มะ....แม่เป็นอะไรคะ?” ฉันถามออกไปอย่างร้อนรน
“ตอนนี้แม่แกป่วย ล้มหัวฟาดพื้น” พ่อตอบกลับมา
“แล้วตอนนี้แม่เป็นยังไงบ้างคะ แม่อยู่ที่ไหน?”
“แม่แกนอนพักอยู่ที่บ้านอาการหนักมากเลือดคะ....”
พรึ่บ!!! โทรศัพท์ฉันถูกกระชากออกจากมืออย่างแรงโดยฝีมือของออสตินในขณะที่พ่อกำลังจะบอกฉันว่าแม่เป็นอะไร แต่ทำไมพ่อถึงไม่พาแม่ไปโรงพยาบาล
“เอาโทรศัพท์มานะติน” ฉันร้องโวยวายขึ้นเมื่อถูกแย่งโทรศัพท์ ฉันเป็นห่วงแม่
“คุยกับใคร?” ออสตินถามเสียงเรียบ
“คุยกับพ่อ” ฉันตอบตามความเป็นจริง
“......”
“พ่อโทรมาบอกว่าแม่ล้มหัวฟาดพื้น นิตาขอไปเยี่ยมแม่ที่บ้านได้มั้ย”
“ไม่ต้องไป”
“แต่นั้นมันแม่นิตานะ” ฉันร้องโวยวายออกมาแบบไม่พอใจ ตินเขาคิดอะไรอยู่ นั่นมันแม่ฉันทั้งคนนะ เขาจะไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอ
“เดี๋ยวฉันส่งคนไปดูให้เอง ถ้าพ่อเลี้ยงเธอโกหก ฉันตามไปกระทืบมันอีกรอบแน่!!”