5

2274 คำ
            “เจนเป็นเพื่อนเล่นเหรอ?”                 “ม—ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่เพื่อน” หลังถูกจี้ถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงดุ ๆ จุ๊บจิ๊บจึงต้องตอบกลับไปเสียงแผ่วและเริ่มนิ่งไปพักหนึ่ง เพราะไม่รู้จะพูดอะไรอีก                 “จิ๊บอยากเห็นหน้ากันไม่ใช่เหรอ งั้นก็พลิกตัวหันกลับมามองกันสิ” คุณเจนที่กำลังนอนซ้อนหลังกันอยู่พูดขึ้น                 “แล้วทำไมพี่เจนต้องออกมาตอนนี้ด้วยครับ ทำไมถึงไม่ออกมาตอนกลางวันล่ะ เพราะจิ๊บก็อุตส่าห์เรียกตั้งนาน” จุ๊บจิ๊บที่ยังคงนอนตัวแข็งทื่อและยังไม่กล้าหันกลับไปหาเอ่ยถาม                 “ก็ตอนกลางวันมันต้องใช้พลังงานเยอะ”                 “….”                 “แต่ตอนนี้ไม่ต้องใช้อะไรมากมายแล้ว เพราะงั้นก็หันกลับมามองกันสิจิ๊บ ไหนคุณบอกว่าอยากเห็นหน้าผัวตัวเอง”                 “นั่นสิ…” หลังเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะถามคุณเจน นั่นจึงทำให้จุ๊บจิ๊บรีบพลิกตัวหันกลับไปหาอีกฝ่ายทันที ซึ่งมันก็เป็นอีกครั้งที่ปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน แต่ในคราวนี้คุณเจนไม่ได้หายไปอีกแล้วและก็กลายเป็นจุ๊บจิ๊บเสียเองที่ต้องเป็นฝ่ายขยับหน้าหนี                 “คุณ…ดูไม่เหมือนคนตายเลยครับ” เมื่อได้มีโอกาสสังเกตเครื่องหน้าของคุณเจนอย่างชัด ๆ โดยที่ไม่ได้ผ่านรูปภาพ จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นอีกครั้งพลางสังเกตคิ้ว ตา จมูกและปากของอีกฝ่ายไปด้วย ซึ่งเขาก็ยังยืนยันคำเดิมว่าลูกชายของคุณนายเอื้องหน้าตาดีมาก เผลอ ๆ ดูดีกว่าในภาพถ่ายด้วยซ้ำ แต่ก็น่าเสียดายที่เสียไปตั้งแต่อายุยังน้อย                 “แล้วแบบไหนที่เหมือนคนตายล่ะ ต้องเป็นแบบนี้หรือเปล่า?” ว่าจบ ใบหน้าหล่อ ๆ ของคุณเจนก็เริ่มมีแผลที่น่าสยดสยองขึ้นมา ทำเอาจุ๊บจิ๊บต้องรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นโดยพลัน เนื่องจากมันเป็นภาพที่น่ากลัวเกินกว่าที่เขาจะรับไหว โดยนี่ก็น่าจะเป็นสภาพของคุณเจนตอนที่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต                 “พ—พี่เจนไม่เอาครับ ไม่เอาแบบนี้” จุ๊บจิ๊บบอกอีกฝ่าย ขณะที่เขาก็กำลังหลับตาปี๋เพราะความตื่นกลัว                 “ไม่เอาก็ไม่เอา”                 “พี่เจนกลับไปเป็นสภาพเดิมหรือยังครับ?”                 “สภาพไหน?”                 “แบบที่ไม่มีแผลน่ะ”                 “ครับ กลับมาแล้ว” เมื่อคุณเจนตอบกลับมาเช่นนั้น จุ๊บจิ๊บถึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะต้องส่งเสียงร้องโวยวายออกมา เมื่อถูกผีหลอก                 “พี่เจนไม่แกล้ง!”                 “ฮ่า ๆ กลับมาแล้ว ลองมองใหม่” คุณเจนเอ่ยพลางกลั้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอและในหลังจากนั้นจุ๊บจิ๊บก็ค่อย ๆ แอบขยับเปลือกตาขึ้นอีกรอบด้วยอาการหวาดระแวง ซึ่งพอเขาเห็นว่าคุณเจนกลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้ว จุ๊บจิ๊บถึงค่อยกลับมาจ้องคุณเจนแบบเต็มตาอีกครั้ง                 “เอ่อ เมื่อคืนนี้เรามีอะไรกันจริง ๆ เหรอครับ?” จุ๊บจิ๊บเข้าประเด็นของตัวเองทันที แล้วเพราะเรื่องนี้แหละถึงทำให้ตลอดทั้งวันนี้เขาเอาแต่ตะโกนเรียกหาคุณเจน                 “ก็มีอะไรกันจริง ๆ สิ รอยต่าง ๆ ตั้งแต่แผ่นอกไปจนถึงซอกขาของจิ๊บ มันยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง” คุณเจนถามกลับมา โดยนั่นก็ทำเอาจุ๊บจิ๊บถึงกับคิ้วขมวด                 “แล้วทำไมผมถึงไม่เจ็บสะโพกล่ะ หรือว่าคุณเจนเป็นฝ่ายรับ?” จุ๊บจิ๊บถามต่อ ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้รับรางวัลเป็นการดีดหน้าผากหนึ่งที                 “โอ๊ย!”                 “ถามอะไรไม่รู้เรื่อง”                 “อ้าว ก็คุณนายเอื้องบอกว่าพี่เจนเป็นเกย์เฉย ๆ แต่เธอไม่ได้บอกผมเรื่องนี้นี่” จุ๊บจิ๊บพูดเสียงดัง แล้วเพราะสาเหตุนั้นนั่นแหละหน้าที่แต่งงานกับผีจึงตกเป็นของเขา แทนที่จะเป็นผู้หญิง                 “….”                 “เอ่อ พี่เจนครับ” จุ๊บจิ๊บเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงแผ่ว เมื่อเขาเห็นว่าแววตาของคุณเจนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันก็เป็นแววตาที่ดูเหมือนกำลังอาลัยอาวรณ์กับบางอย่างอยู่                 “ตอนนี้แม่ของฉันสบายดีไหม?” นานเกือบนาทีกว่าที่คุณเจนจะพูดขึ้น และพอจุ๊บจิ๊บสังเกตท่าทีของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าคุณเจนคงเป็นห่วงคุณแม่ของตัวเองน่าดู             ก็แน่สิ… ในเมื่อครอบครัวนี้มีกันแค่สองแม่ลูก                 “คุณนายเอื้องสบายดีครับ พี่เจนไม่ต้องเป็นห่วงแม่ของตัวเองนะ”                 “จิ๊บคงจะแปลกใจใช่ไหมว่าทำไมเจนถึงถามเรื่องแม่ของตัวเอง ทำไมถึงไม่โผล่ไปดูเอง ในเมื่อสามารถโผล่แวบไปแวบมาได้”                 “….”                 “ทุกอย่างมันต้องใช้พลังงาน แล้วยิ่งแม่อยู่ต่างจังหวัดและอยู่ไกลจากจุดที่เจนตายมากเท่าไร มันก็ยิ่งต้องใช้พลังงานเยอะ”                 “ถ้าอย่างนั้นพี่เจนอยากให้คุณนายเอื้องมาอยู่ที่นี่ไหมครับ พี่เจนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” จุ๊บจิ๊บว่า แต่เพราะเขาอาจจะคิดตื้นไปเสียหน่อย นั่นจึงทำให้คุณเจนถึงกับระบายยิ้มออกมา                 “อย่าเลย เพราะแม่เจนเป็นคนกลัวผี”                 “….”                 “แล้วอีกอย่าง…ตอนนี้แม่เจนก็ทุกข์มากแล้ว ถ้าแม่รู้ว่าเจนอยู่ใกล้ ๆ แต่เธอมองไม่เห็น สัมผัสไม่ได้ แม่ก็น่าจะเป็นทุกข์ยิ่งกว่าเดิม”                 พอได้ยินคุณเจนพูดเช่นนั้นจุ๊บจิ๊บก็ได้แต่นิ่งไป เนื่องจากมันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ แค่รู้ว่าลูกชายของตัวเองยังไม่ไปเกิด คุณนายเอื้องก็น่าจะทุกข์มากอยู่แล้วและถ้ามารู้ว่าลูกชายยังเป็นห่วงตัวเองแบบนี้ เธอก็น่าจะเป็นทุกข์มากกว่าเดิม                 “พอเราพูดถึงเรื่องนี้กันแล้ว งั้นผมขอถามอะไรอีกอย่างสิครับ…ทำไมพี่เจนถึงไม่ไปเกิดล่ะ”                 “เพราะเจนทิ้งเรื่องทางนี้ไปไม่ได้”                 “แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องที่พี่เจนยังไม่ได้แต่งงานไหมครับ?” จุ๊บจิ๊บซักไซ้ต่อ หลังเขาคิดว่าคุณนายเอื้องอาจจะเข้าใจเรื่องนี้ผิดไป แล้วคิดไปว่าสาเหตุที่ลูกชายของตัวเองยังไม่ไปไหนแบบนี้ ก็เป็นเพราะยังเป็นโสดและไม่ได้แต่งงาน                 “ก็…ส่วนหนึ่ง”                 “ส่วนหนึ่ง?”                 “ใช่ มันมีบางอย่างที่เจนต้องการ”                 “แล้วเรื่องบางอย่างที่ว่านั้นคืออะไรครับ แล้วจิ๊บสามารถจัดการแทนพี่ได้หรือเปล่า?” จุ๊บจิ๊บถามอีก เพราะถ้ามันเป็นเรื่องที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงและมันจะทำให้คุณเจนไปเกิดได้ เขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ                 “น่าจะจัดการได้แหละมั้ง” คุณเจนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก                 “แล้วจะให้จิ๊บจัดการเรื่องอะไรครับ?”                 “ความลับ”                 “ฮะ?” คราวนี้จุ๊บจิ๊บถึงกับทำหน้างงทันที                 “ตอนนี้จุ๊บจิ๊บยังดูไม่น่าไว้ใจเท่าไร เพราะงั้นเจนจะยังไม่บอกอะไรทั้งนั้น”               “แต่ว่าจุ๊บจิ๊บอยากจะช่วยพี่เจนนะ” จุ๊บจิ๊บพูด               “ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่เจนยังไม่กล้าไว้ใจหรอก”               “แล้วพี่เจนไม่อยากไปเกิดเร็ว ๆ เหรอ”               “การที่จะได้ไปเกิดใหม่มันมีหลายปัจจัยมาก เผลอ ๆ หลังจากที่จัดการเรื่องนั้นไปแล้ว เจนอาจจะยังไม่ได้ไปเกิดด้วยซ้ำ เพราะเจนตายตอนที่ยังไม่ถึงอายุขัยของตัวเอง”               “งั้นก็แย่เลยสิ แล้วจุ๊บจิ๊บไม่สามารถช่วยอะไรพี่เจนได้เลยเหรอ”               “….”               “นี่พี่เจนรู้ไหมว่าคุณนายเอื้องจ้างจุ๊บจิ๊บหลักล้านเลยนะ พี่เจนไม่อยากให้จิ๊บทำงานคุ้มกับเงินล้านหน่อยหรือไง” จุ๊บจิ๊บพูดขึ้นอีกครั้ง               “จิ๊บทำหน้าที่เป็นเมียที่ดีก็พอแล้ว ข้อหนึ่ง รักษาความสะอาดในบ้านหลังนี้ให้ดี เพราะเจนรักบ้านหลังนี้มาก ข้อสอง ห้ามพาเพื่อนหรือคนอื่นที่ไม่ใช่คนของแม่เข้ามาเด็ดขาด เพราะเจนไม่ชอบ” คุณเจนร่ายยาวด้วยสายตาจริงจัง ทำเอาจุ๊บจิ๊บไม่กล้าแย้งอะไรทั้งนั้น เพราะกลัวคุณเจนจะโกรธแล้วทำหน้าสยดสยองใส่กันอีกรอบ               “อ้อ แล้วก็มีเรื่องหนึ่งที่เจนอยากจะบอกเอาไว้ด้วย”               “เรื่องอะไรเหรอครับ?” จุ๊บจิ๊บถามอย่างนึกสงสัย            “ในทุกวันพระ เจนจะเฮี้ยนมาก” เมื่อคุณเจนพูดเช่นนั้น จุ๊บจิ๊บก็ต้องนิ่งไปอีกยก เมื่อมันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขา เพราะทุกวันนี้ผีอย่างคุณเจนที่คอยตามหลอกคนตัดหญ้า คอยแกล้งเหล่าแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดให้ มันยังไม่เรียกว่าเป็นผีเฮี้ยนอีกหรือไง               “พี่เจนยังเฮี้ยนได้มากกว่านี้อีกเหรอครับ” จุ๊บจิ๊บเอ่ยถามอย่างที่ใจนึก               “ใช่ เจนจะเฮี้ยนจนจุ๊บจิ๊บคิดไม่ถึงเชียวล่ะ”               “….”               “แล้วที่คอยปรากฏตัวให้คนตื่นตกใจ นั่นก็แค่หยอก”               “แค่หยอกงั้นเหรอ? แต่นั่นทำให้คนเขาเกือบหัวใจวายเลยนะครับ โดยเฉพาะคนที่กลัวผีจนขึ้นสมองน่ะ” จุ๊บจิ๊บพูด เพราะอันที่จริงก่อนที่เขาจะตัดสินใจรับงานของคุณนายเอื้อง จุ๊บจิ๊บก็พอจะรู้กิตติศัพท์ของคุณเจนมาบ้างแล้ว ยิ่งตอนที่คุณเจนเพิ่งเสียใหม่ ๆ ในช่วงหนึ่งเดือนแรก ถนนเส้นหน้าบ้านเหล่าหมาจรจัดพากันหอนระงมทุกคืน พระสงฆ์มาสวดตรงที่เกิดเหตุอีกรอบก็ยังไม่ดีขึ้น ทำเอาคนที่มักจะใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรไปมา ต่างพากันไม่กล้าใช้ถนนเส้นนี้ในตอนกลางคืนกัน               “เกือบหัวใจวายเลยเหรอ ขี้ตกใจจังเลยนะ” คุณเจนพึมพำ               “….”               “เอาเป็นว่าในทุกวันพระ ถ้าจิ๊บออกไปไหนได้ก็ออกไปเถอะ ออกไปจากบ้านหลังนี้ก่อนหกโมงเย็น เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจิ๊บก็อาจจะจับไข้เพราะความเฮี้ยนของเจนก็ได้”               “แต่ว่าจิ๊บเป็นคนไม่กลัวผีนะครับ” จุ๊บจิ๊บเอ่ย               “จุ๊บจิ๊บรับกับความเฮี้ยนของเจนในวันนั้นไม่ไหวหรอก”               “แล้วถ้าอย่างนั้น…จิ๊บสามารถเข้ามาในบ้านได้อีกทีตอนไหนเหรอครับ หลังจากที่พ้นวันพระไปแล้วน่ะ”               “หกโมงเช้าของวันต่อมา”               “….”               “ห้ามอยู่ในบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็นของวันพระจนถึงตีห้าห้าสิบเก้าของวันถัดไป”               “แล้วถ้าสมมติจุ๊บจิ๊บอยากทดสอบความเฮี้ยนของพี่เจนล่ะครับ” จุ๊บจิ๊บยังคงซักไซ้ต่อ เนื่องจากในตอนนี้เขามีความสงสัยอยู่เต็มไปหมด               “ยังไง” คุณเจนถามกลับมา               “ก็สมมติว่าจุ๊บจิ๊บอยากทดสอบความเฮี้ยนของพี่เจนสักสองชั่วโมงอะไรแบบนี้อะครับ พอรับไม่ไหวจุ๊บจิ๊บถึงค่อยออกจากบ้านไป ออกจากบ้านไป…ตอนสองทุ่มอะไรแบบนี้ จิ๊บสามารถทำได้ไหม”               “ถ้าอยากทดสอบแบบนั้น มันจะมีอยู่สองอย่างให้เลือก”               “….”               “หนึ่ง…ไม่สามารถออกไปได้เพราะประตูจะถูกล็อกเอาไว้ทุกทาง แล้วก็จะถูกเจนแกล้งตลอดทั้งคืน สอง…จุ๊บจิ๊บออกจากบ้านไปได้นะ แต่เจนก็จะตามไปด้วยแล้วคราวนี้ไม่ว่าจุ๊บจิ๊บจะออกต่างจังหวัด หรือขับรถไปไกลแค่ไหน เจนก็สามารถตามไปได้อยู่ดี เพราะในวันพระ…เจนจะมีพลังมากกว่าปกติ”               “ไม่มีตัวเลือกไหนที่มันน่าเลือกเลยแฮะ” จุ๊บจิ๊บได้แต่พึมพำเสียงแผ่ว               “ใช่ มันไม่มีตัวเลือกไหนที่น่าเลือกเลย เพราะงั้นจุ๊บจิ๊บอย่าทดสอบเลยน่าจะดีกว่า”               “….”               “ที่เจนเตือนก็เพราะหวังดีนะ เจนไม่อยากให้เมียของตัวเองต้องมาเป็นผีเหมือนกัน”               “คำก็เมีย… สองคำก็เมีย… งั้นจิ๊บขอถามอีกรอบ เราได้กันแล้วจริง ๆ เหรอ” จุ๊บจิ๊บวกกลับมาที่ประเด็นแรกอีกครั้ง เพราะเขายังสงสัยเรื่องนี้ไม่หาย               “ก็ได้กันแล้วสิ เพราะคืนนั้นจิ๊บเป็นคนชวนเจนเองนะ”               “ฮะ จิ๊บเป็นคนชวนเองเลยเหรอ”               “ใช่ จิ๊บชวนเจนเล่นผีผ้าห่มกัน ชวนปฏิบัติตัวต่อกันเหมือนผัวเมียจริง ๆ”               “แล้วทำไมจิ๊บถึงไม่เจ็บสะโพกล่ะ”               “นี่น่าจะเป็นข้อดีแหละมั้ง”               “….”               “มีผัวเป็นผี เวลามีอะไรจะไม่เจ็บสะโพก แต่ยังฟินเหมือนเดิมนะ”               “พี่เจนมั่วแล้ว!” จุ๊บจิ๊บพูดขึ้นทันที โดยในขณะเดียวกันนั้นเขาก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างบอกไม่ถูก               “เจนพูดจริง ๆ ก่อนที่จิ๊บจะหลับไป จิ๊บยังละเมอพูดกับเจนเลยว่ารู้สึกฟินจัง วันหน้าเอาใหม่”               “จ—จิ๊บพูดอย่างนั้นจริงเหรอ”               “ไม่ครับ เจนโกหก”               “พี่เจน!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม