7

2767 คำ
                    “พี่เจนเรียกจิ๊บขึ้นมาทำไมเหรอครับ?” หลังเดินขึ้นมาประจันหน้ากับผีเจ้าของบ้านแล้ว จุ๊บจิ๊บก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใสทันที แม้ในตอนนี้คุณเจนจะกำลังมองเขาด้วยสายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งก็ตาม               “….”               “อ้าว ทำไมถึงไม่พูดล่ะครับ พี่เจนกวักมือเรียกให้จิ๊บขึ้นมาหาไม่ใช่เหรอ”               “….”               “โอ๊ย พี่เจน! จิ๊บเจ็บนะ” เมื่อถูกอีกคนจับเข้าที่ต้นแขนอย่างแรง จุ๊บจิ๊บก็ถึงกับส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับเริ่มทำหน้านิ่ว เนื่องจากแรงบีบจากคุณเจน มันกำลังทำให้เขารู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งยังไม่ทันที่จุ๊บจิ๊บจะได้พูดอะไรต่อ จู่ ๆ คุณเจนก็จับจุ๊บจิ๊บอุ้มเข้าเอวแล้วพาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านทันที               “นี่พี่เจนจะพาจิ๊บไปเล่นผีผ้าห่มเหรอ แล้วทำไมเมื่อกี้ต้องบีบแขนแรงขนาดนั้นด้วยล่ะ” ขณะที่จุ๊บจิ๊บกำลังถูกคุณเจนอุ้มอยู่นั้น เขาก็ได้เอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยเสียงงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา หลังในระหว่างที่คุณเจนกำลังอุ้มอยู่นั้น ผีหนุ่มก็คอยใช้จมูกโด่งของเจ้าตัวถูไถไปตามข้างแก้มของจุ๊บจิ๊บ โดยไร้ซึ่งการพูดจา               “จิ๊บชอบไหม”               “ครับ?”               “ชอบให้เจนทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า” คุณเจนถาม และนั่นก็ทำให้จุ๊บจิ๊บรู้สึกหน้าร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม               “ก—ก็ชอบสิครับ ถึงมันจะดูแปลก ๆ ไปก็เถอะ แต่ก็โอเคนะ” จุ๊บจิ๊บตอบไปตามตรงแล้วเริ่มทำหน้างงต่อ เมื่อคุณเจนพาเขาเดินผ่านห้องนอนไป               “อ้าว ทำไมพี่เจนถึงไม่พาเข้าไปในห้องนอนล่ะครับ?”               “….”               “พี่เจนจะพาจิ๊บมาที่ระเบียงทำไมครับ เราจะไม่เอาต์ดอร์กันนะ” หลังเห็นว่าคุณเจนกำลังพาจุ๊บจิ๊บมายังระเบียงชั้นสองของบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง จุ๊บจิ๊บก็รีบส่งเสียงโวยวายออกมาด้วยความตกใจ โดยในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกกลัวคุณเจนขึ้นมา เพราะในตอนนี้แววตาของผีหนุ่มเริ่มฉายความแข็งกระด้างยิ่งกว่าที่เคย ไหนจะใบหน้านิ่ง ๆ ดูไม่ยินดียินร้ายกับอะไรทั้งสิ้น               “พ—พี่เจน ไม่เอาครับ”               “ทำไมล่ะ เพื่อความตื่นเต้นไง” คุณเจนเอ่ย พลางวางร่างของจุ๊บจิ๊บไว้ตรงขอบระเบียงอย่างหมิ่นเหม่ ซึ่งถ้าหากคุณเจนนึกคึกผลักจุ๊บจิ๊บให้ตกลงไป หากเขาไม่กระดูกหัก จุ๊บจิ๊บก็ต้องเจ็บหนักแน่ เพราะด้านหลังนั้นมันเป็นโพรงป่าไมยราบรกทึบ               “พี่เจน…”               “ทำไมหน้าซีดจัง ไม่ยิ้มแล้วเหรอ” คุณเจนถามจุ๊บจิ๊บด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ โดยในขณะเดียวกันนั้นอีกฝ่ายก็จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขา               “พี่เจน อย่าทำ!” คราวนี้จุ๊บจิ๊บถึงกับร้องเสียงหลงและรีบยึดเหนี่ยวร่างของคุณเจนเอาไว้โดยพลัน เมื่อจู่ ๆ คุณเจนก็แกล้งผลักให้จุ๊บจิ๊บหงายหลังลงไป แต่ก็ยังประคองกันเอาไว้อยู่               “พี่เจนครับ จิ๊บไม่เล่นแล้ว” หลังกลับมาทรงตัวอยู่ที่ขอบระเบียงได้แล้ว จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมพยายามจะดันร่างของคุณเจนออกให้พ้นทาง เพื่อที่เขาจะได้เดินกลับเข้าไปในบ้านได้ แต่ทว่าในจังหวะนั้นคุณเจนก็ได้ผลักร่างของจุ๊บจิ๊บให้หงายหลังตกระเบียงอย่างแรง               ….และไม่มีการรั้งร่างของเขาเอาไว้อีกแล้ว               “มือเหนียวจัง จะไม่ยอมตกลงไปงั้นเหรอ?” เมื่อคุณเจนเห็นว่าจุ๊บจิ๊บกำลังใช้มือข้างหนึ่งเกาะขอบระเบียงเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไปในป่าไมยราบที่เต็มไปด้วยหนาม อีกฝ่ายก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะย่อตัวลงนั่งแล้วจัดการงัดมือของจุ๊บจิ๊บออกจากขอบระเบียงที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวเพียงหนึ่งเดียว               “พี่เจน ไม่!”                 เฮือก!               “อ๊ะ…” ในจังหวะที่จุ๊บจิ๊บกำลังจะร่วงลงสู่โพรงป่าไมยราบ จู่ ๆ ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างก็ถูกตัดไปกะทันหัน และเขาก็ได้มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงทั้งเหงื่อซมเต็มร่าง               ซึ่งยังไม่ทันที่จุ๊บจิ๊บจะได้หายงง เขาก็ต้องหันมองไปที่ปลายเตียงเสียก่อน เมื่อในตอนนี้คุณเจนกำลังนั่งแทรกอยู่กลางหว่างขาของเขา               “พี่เจน…” ขณะที่กำลังมึนงงกับทุกอย่าง เพราะไม่รู้ว่าอันนี้เป็นความจริงหรือความฝัน จุ๊บจิ๊บก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง เมื่อความรู้สึกบางอย่างกำลังเล่นงานเขา เพราะคุณเจนไม่ได้แค่นั่งแทรกอยู่กลางหว่างขาเท่านั้น แต่อีกฝ่ายยังสอดใส่บางอย่างเข้ามาในร่างของจุ๊บจิ๊บด้วย               “รู้สึกดีไหม”               “….”               “จิ๊บรู้สึกดีไหมครับ?” ระหว่างที่คุณเจนกำลังกระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างของจุ๊บจิ๊บอย่างเป็นจังหวะ อีกฝ่ายก็เอ่ยถามกันเสียงหวาน ดูไม่เหมือนคุณเจนในตอนแรกเลยแม้แต่นิด               “จิ๊บกำลังงงอยู่ ตกลงตอนนี้มันเป็น อ๊ะ! ม—มันเป็นความจริงหรือความฝันกันแน่” จุ๊บจิ๊บถามทั้งคิ้วขมวด พร้อมเริ่มหันมองซ้ายขวาด้วยความหวาดกลัว หลังบรรยากาศในตอนนี้มันดูน่ากลัวมาก เพราะจู่ ๆ เสียงของหมาจรจัดก็ต่างพากันหอนระงมขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งพอจุ๊บจิ๊บเลื่อนสายตากลับมามองคุณเจนอีกครั้ง เขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ            เพราะคุณเจนกำลังไม่มีหัว               “ม—ไม่เอา ไม่เอาแล้ว!” เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเอากับผีจริง ๆ และไม่ใช่คุณเจนอีกแล้ว จุ๊บจิ๊บก็รีบขยับตัวหนีให้หลุดพ้นจากการสอดใส่ทันที โดยนอกจากนั้นเขาก็ยังพยายามถีบเข้าที่กลางอกของผีด้วย แต่ทว่าในจังหวะที่จุ๊บจิ๊บกำลังจะออกแรงยันแผ่นอกของผีนั้น ผีหนุ่มก็คว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าของเขาราวกับรู้จังหวะ               “เชี่ย! ปล่อย” หลังถูกผีกระตุกข้อเท้าอย่างแรง เพื่อให้ร่างของจุ๊บจิ๊บถลาเข้าไปหาอีกฝ่าย จุ๊บจิ๊บก็ถึงกับต้องอุทานคำหยาบออกมา ก่อนที่เขาจะรวบรวมเรี่ยวแรงของตัวเองถีบเข้าที่ร่างผีอีกครั้งชนิดแบบสุดแรงเกิด แล้วก็รีบวิ่งลงเตียงเพื่อเข้าไปยังห้องพระทันที ตามประสาคนที่มีความเชื่อว่าพระกันผีได้               “พระ พระอยู่ไหน!” เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องพระได้แล้ว จุ๊บจิ๊บก็มองหาพระพุทธรูปที่เข้าท่ามากที่สุดขึ้นมาถือเอาไว้โดยพลัน และในจังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังวิ่งตามมาด้วย แล้วพอจุ๊บจิ๊บคว้าพระได้แล้ว เสียงเปิดประตูห้องพระก็ดังขึ้นทันที               “ม—มีพระนะเว้ย!” หลังหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับผีเรียบร้อยแล้ว จุ๊บจิ๊บที่กำลังยืนหลับตาปี๋เพราะไม่อยากเห็นผีหัวขาดก็รีบขู่ฟ่อทันที โดยเขาก็ไม่ได้พูดเปล่าแต่ยังนำองค์พระขึ้นโชว์ผีด้วย เนื่องจากเขาต้องการจะให้ผีกลัว ซึ่งหลังจากที่จุ๊บจิ๊บชูพระขึ้นแล้ว ความเงียบก็เข้าปกคลุมเขาจนจุ๊บจิ๊บเริ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย               ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เริ่มดีใจ มันก็มีเสียงกระซิบที่ข้างใบหูเสียก่อน และนั่นก็ทำให้จุ๊บจิ๊บถึงกับตัวแข็งทื่อ            “รู้ไหม พระไม่ได้กันผีนะ”              เพราะตลอดทั้งคืนวันพระที่คุณเจนคอยเตือนนักเตือนหนา จุ๊บจิ๊บมีการวิ่งหนีผีอยู่ตลอดเวลา นั่นจึงทำให้เขาจำรายละเอียดยิบย่อยไม่ค่อยได้นัก ยกเว้นเหตุการณ์ที่ระทึกขวัญจริง ๆ ทั้งการถูกผลักให้ตกลงไปในโพรงป่า เสียงกระซิบจากคุณเจน และการวิ่งรอบบ้านเพื่อหนีผีหัวขาด               “ซ—ซี๊ดดด” ช่วงเช้าของวันถัดมา หลังจากที่จุ๊บจิ๊บรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ต้องส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ พร้อมกับใช้มือคลึงข้อเท้าของตัวเองไปด้วย เมื่อในจังหวะที่เขาได้เดินลงมาจากเตียง เขาก็เกิดอาการแข้งขาอ่อนแรงกะทันหัน จนทำให้ในที่สุดจุ๊บจิ๊บต้องทิ้งร่างลงกับพื้นอย่างสิ้นสภาพ               “อ้าว นี่พี่เจนใส่เสื้อผ้าให้แล้วเหรอ” หลังก้มมองร่างกายของตัวเอง จุ๊บจิ๊บก็พูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มรู้สึกใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นมา เพราะตลอดทั้งคืนที่เขาเอาแต่วิ่งหนีคุณเจนนั้น จุ๊บจิ๊บไม่ได้สวมใส่กางเกงท่อนล่างเอาไว้ เนื่องจากทุกอย่างมันวุ่นวายมาก คุณเจนตามติดเขาแจราวกับวิญญาณ แถมยังโผล่ไปโผล่มาอย่างกับผีอีก            แต่เอ๊ะ… ก็อีกฝ่ายเป็นผีนี่นา เมื่อนึกได้เช่นนั้น จุ๊บจิ๊บก็ถึงกับตบเข้าที่หน้าผากของตัวเองเบา ๆ โทษฐานที่เขาลืมไปว่าคุณเจนเป็นผี               โดยหลังจากที่จุ๊บจิ๊บคลึงข้อเท้าของตัวเองเสร็จแล้ว เขาก็ค่อย ๆ พยุงร่างของตัวเองขึ้น เพื่อเดินไปปิดม่านกรองแสง และตะโกนเรียกหาคุณเจนทันที เนื่องจากจุ๊บจิ๊บอยากจะคุยเรื่องเมื่อคืนกับอีกฝ่ายตั้งแต่ตอนนี้เลย               “พี่เจน พี่เจนอยู่ไหนครับ? เราออกมาคุยกันหน่อยสิ” เมื่อจุ๊บจิ๊บจัดการปิดม่านกรองแสงเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตะโกนเรียกหาคุณเจนทันที ก่อนจะค่อย ๆ ระบายยิ้มออกมา เมื่อคุณเจนยอมปรากฎตัวตามเสียงเรียกของจุ๊บจิ๊บ               “เป็นยังไงบ้าง?” หลังคุณเจนปรากฏตัวขึ้นแล้ว อีกฝ่ายก็รีบเดินเข้ามาถามไถ่จุ๊บจิ๊บด้วยอารมณ์เป็นห่วง ซึ่งในตอนนี้ผมเผ้าของคุณเจนก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิมแล้ว ไม่ได้มีการเอาผมขึ้นเหมือนอย่างเมื่อคืนนี้               “เมื่อคืนนี้จิ๊บเหนื่อยมากเลยครับ พี่เจนทำจิ๊บเหนื่อย” ว่าจบ จุ๊บจิ๊บก็สบตากับคุณเจนด้วยท่าทีออดอ้อน เพราะในระหว่างที่คุณเจนกำลังถามไถ่จุ๊บจิ๊บอยู่นั้น อีกฝ่ายก็คอยลูบหัวลูบหางเขาไปด้วย ทำเอาจุ๊บจิ๊บรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายตัวเล็กตัวน้อย               ทั้งที่ในความจริงจุ๊บจิ๊บสูงถึงร้อยเจ็ดสิบกว่า ตามมาตรฐานของชายไทย               “เจนขอโทษ…เมื่อคืนนี้ทุกอย่างมันเป็นไปเอง เจนควบคุมตัวเองไม่ได้” คุณเจนเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ทำเอาจุ๊บจิ๊บต้องรีบพูดขึ้นทันที เนื่องจากมันไม่ใช่ความผิดของอีกฝ่ายเลย มันเป็นความผิดของเขาเองที่หาเรื่องอยากอยู่บ้านต่อ ทั้งที่คุณเจนคอยย้ำนักย้ำหนาแล้วว่าอีกฝ่ายจะเฮี้ยนมากในคืนวันพระ               “จิ๊บผิดเองครับที่ไม่ยอมไปนอนค้างที่อื่น”               “….”               “จริง ๆ เมื่อคืนนี้มันเกือบจะดีแล้วนะครับ ถ้าพี่เจนไม่มาสภาพผีหัวขาดน่ะ” จุ๊บจิ๊บว่าต่อ โดยเขาก็กำลังพูดถึงเหตุการณ์ตอนที่กำลังเล่นผีผ้าห่มอยู่กับคุณเจน ซึ่งมันก็เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว หากคุณเจนไม่กลายสภาพเป็นผีหัวขาดเสียก่อน               “พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ทำไมสภาพพี่เจนตอนกลายเป็นผีน่ากลัว มันถึงเกี่ยวกับช่วงคอหมดเลยล่ะครับ” จุ๊บจิ๊บเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย               “ก็ตอนที่ประสบอุบัติเหตุ เจนคอหัก”               “อ—อ๋อ แบบนี้นี่เอง” จุ๊บจิ๊บพูดเสียงแผ่ว แล้วถามต่อ “เมื่อคืนนี้จิ๊บจำได้ว่ามันมีฉากตอนที่พี่เจนผลักจิ๊บลงไปในโพรงป่าด้วย นั่นมันเป็นความจริงหรือความฝันครับ”               “ฝันครับ เจนทำให้จุ๊บจิ๊บฝัน”               “แล้วตอนที่เรามีอะไรกัน….”               “อันนี้เป็นความจริงครับ” คุณเจนตอบกลับมา โดยนั่นก็ทำเอาจุ๊บจิ๊บอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะจิ๊ปากเบา ๆ เพราะตอนนั้นมันฟินไม่สุด               “ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น” คุณเจนถามขึ้นทั้งคิ้วขมวด เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าจุ๊บจิ๊บกำลังอมยิ้มแล้วเริ่มทำหน้าหงุดหงิดต่อ คล้ายกับกำลังถูกขัดใจ               “ป—เปล่าครับ ไม่มีอะไร อ้อ! แล้วก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งนะครับที่จิ๊บสงสัย”               “ครับ จิ๊บถามมาสิ”               “ผีกันพระไม่ได้จริง ๆ เหรอครับ เอ๊ย! พระกันผีไม่ได้จริง ๆ เหรอ”               “ก็นี่ไง เรากำลังนั่งคุยกันในบ้านที่มีห้องพระ”               “….”               “จริง ๆ จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ค่อยถูกเท่าไร แต่ถ้าจุ๊บจิ๊บคิดว่าการเอาพระขึ้นมาชูแล้วมันจะหยุดยั้งทุกอย่างได้ จุ๊บจิ๊บคิดผิดนะ” คุณเจนเอ่ยพร้อมระบายยิ้มออกมาจาง ๆ               “อ้าว แล้วจิ๊บต้องทำยังไงล่ะครับ ถ้าเจอผีหลอกที่ไม่ใช่พี่เจนอะ”               “ก็…ทำเป็นไม่สนใจ ทำเป็นไม่ให้ค่า น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ”                 หลังจากที่คุยกับคุณเจนเสร็จ จุ๊บจิ๊บก็ได้พาตัวเองลงไปทานข้าวเช้าที่ชั้นล่างของบ้านต่อ แล้วค่อยกลับขึ้นมาบนห้องนอนอีกครั้ง เพื่อที่เขาจะได้อาบน้ำแต่งตัวอยู่ในชุดใหม่ ซึ่งในจังหวะที่จุ๊บจิ๊บกำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก เครื่องประดับที่อยู่บนนิ้วของเขาก็ได้หลุดออกมาด้วย และกลิ้งเข้าไปที่ใต้เตียงราวกับสั่งได้               “เฮ้อ ให้มันได้แบบนี้สิ” เมื่อถอดเสื้อเสร็จ และเห็นว่าแหวนของตัวเองได้กลิ้งเข้าไปอยู่ใต้เตียงแล้ว จุ๊บจิ๊บก็พึมพำเบา ๆ ก่อนที่เขาจะนอนลงกับพื้น พร้อมยื่นมือไปหยิบเอาแหวนกลับคืนมา โดยในจังหวะที่จุ๊บจิ๊บกำลังจะหยิบเอาของของตัวเองอยู่นั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้าพอดี               ราวกับมีบางอย่างดลใจให้เขาเห็นมัน               “อะไรเนี่ย” เมื่อมองเห็นสิ่งนั้น จุ๊บจิ๊บก็ได้พูดออกมาเสียงแผ่ว ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ยื่นมือเข้าไปหยิบสิ่งนั้นออกมาดูด้วย ซึ่งมันก็เป็นภาพโพลารอยด์ของคุณเจนกับใครก็ไม่รู้                “นี่แฟนของคุณเจนเหรอ?”                เพราะมันเป็นภาพนั่งคู่กันของคนสองคน ประกอบกับจุ๊บจิ๊บรับรู้ได้ถึงรังสีบางอย่างที่แผ่ออกมาจากรูปภาพ นั่นจึงทำให้เขาคิดว่ารูปนี้คือรูปถ่ายของคู่รัก ซึ่งจุ๊บจิ๊บก็พยายามเพ่งสายตามองอย่างชัด ๆ  เนื่องจากใบหน้าของผู้ชายที่นั่งข้าง คุณเจนได้ถูกปากกาเมจิกสีดำขีดคาดเอาไว้ คล้ายกับไม่อยากเห็นใบหน้านี้อีกต่อไป            มันต้องมีอะไรแน่ ๆ หลังจุ๊บจิ๊บนั่งจ้องรูปนั้นนานเกือบนาที เขาก็นึกในใจและเลือกที่จะหยิบมันขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงแทน เพราะบางทีรูปนี้มันอาจจะเกี่ยวกับความลับของคุณเจนที่ยังไม่ยอมบอกกันก็ได้                 “โอ๊ย! นี่ก็โง่จริง รูปแค่นี้ก็ทำให้ตัวเองเลือดออกได้” ในจังหวะที่จุ๊บจิ๊บกำลังจะวางรูปนั้นไว้ตรงหน้ากรอบรูปของคุณเจน เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมือไปหยิบทิชชูมาเช็ดเลือดตรงบริเวณปลายนิ้วออกอย่างไม่ใส่ใจ หลังจุ๊บจิ๊บเพิ่งจะถูกขอบรูปโพลารอยด์บาดเข้าที่นิ้วชี้ของเขา สกรีมแท็ก #แต่งกับผี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม