หญิงสาวหันมองคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่เธออยู่มาตั้งแต่อายุสี่ขวบ บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นบ้านของพ่อเลี้ยงที่แม่แต่งงานใหม่ เมื่อเพียงใจได้ห้าขวบ พ่อเลี้ยงก็จากไปด้วยโรงมะเร็ง
ธุรกิจที่เติบโตเต็มที่ค่อยๆ ดิ่งตกลงมาเรื่อยๆ คุณหญิงเอื้อมจันทร์ที่ไม่เคยทำงานด้านบริหารมาก่อน กลุ้มใจเป็นอย่างมากแต่สุดท้ายก็ผ่านวิกฤตมาได้อย่างเฉียดฉิว
บ้านหลังใหญ่ที่เจ้าเอยไม่เคยได้สัมผัสกับความอบอุ่นที่แท้จริง ในความรู้สึกของเธอเจ้าอิงเป็นเพียงที่พึ่งเดียวของเธอไม่ว่าจะเป็นตอนไหน แม่ให้ความสำคัญกับเพียงใจเป็นอย่างมาก
แม่มักจะให้เหตุผลเสมอว่า “น้องยังเด็ก แม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ” เธอชินแล้วถ้าหากแม่จะบอกว่าน้องดีกว่าเธอ จนบางครั้งเจ้าเอยก็คิดว่า…ถ้าไม่มีเธอคงดีกว่า
“เอยเป็นไงบ้าง” เจ้าอิงที่มองเห็นน้องสาวเดินลงมาจากรถยนต์ที่คุ้นตา รีบตรงปรี่เข้าหาด้วยความห่วงใย ก่อนที่เธอนั้นจะอุ้มหลานชายสุดที่รัก “ว่าไงครับ ลูกแม่อิง” เธอหอมแก้วรอยส์ซ้ายขวาด้วยความรัก
“หึ..พวกแกสองคนขึ้นไปหาฉันที่ห้อง” มารดาเอ่ยพร้อมกับเดินกระแทกส้นเท้าขึ้นมาบนห้อง
พายุลูกใหญ่กำลังพักกระหน่ำเข้าใส่เจ้าเอยและเจ้าอิง มารดากริ้วโกรธเป็นอย่างมาก เมื่อมองจากสีหน้าในตอนนี้ แต่ทุกถ้อยคำเจ้าอิงจะออกตัวปกป้องน้องตลอด
“แม่คะ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้ว แม่จะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไมคะ น้องก็บอกแล้วว่าไม่อยากให้พ่อเด็กมารับผิดชอบ อิงจะเลี้ยงหลานเอง แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินหรอกค่ะ”
“ไม่ได้! แม่พูดจนปากจะฉีกแล้วนะ ไม่ได้ก็คือไม่ได้! พรุ่งนี้แม่จะพาเอยกับลูกไปหามันถึงที่บ้าน มันต้องรับผิดชอบ”
“ถ้าไปแล้วเขาไม่รับผิดชอบละคะ ไม่เท่ากับเอาน้องไปประจานหรอกเหรอ” เจ้าอิงเอ่ยแย้งอีกครั้ง
“ไม่มีทาง! เรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิด แม่ไม่ให้เกิดขึ้นหรอก” เอื้อมจันทร์ตอบรับเสียงหนักแน่น
เจ้าอิงและเจ้าเอยเดินคอตกกลับมาที่ห้อง แต่ทั้งสองก็ยิ้มออกมาได้เพราะมีรอยส์ที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ที่พื้นพร้อมกับเด็กรับใช้ในบ้าน ที่รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กชั่วคราว
“ม๊ามี๊ หม่ำๆ” รอยส์เดินตรงมาหาแม่ทันที พร้อมกับทิ้งของเล่นในมือ “หม่ำๆ”
“ได้จ้ะ อยู่กับแม่อิงไปก่อนนะครับ เดี๋ยวม๊ามี๊ไปชงนมมาให้” เจ้าเอยพูดพร้อมกับอุ้มลูกชายขึ้นแนบอก ก่อนที่จะส่งต่อให้กับเจ้าอิง
“ไปด้วยกันดีกว่า แม่เอยเร็วๆ สิครับ รอยส์หิวแล้วครับ” เจ้าอิงอุ้มหลานชายเดินตามหลังของน้องสาวมายังห้องครัวใหญ่ของบ้าน ก่อนที่สายตาจะมองเลยไปยังห้องนั่งเล่น
“เพียงคิดไม่ถึงเลยนะคะ ว่าพี่เอยจะมีลูก ตอนที่เพียงได้ยินจากปากของแม่ เพียงนี้แทบไม่เชื่อเลย” เพียงใจเดินเข้าหาทันทีเมื่อเจอพี่สาวทั้งสองคน “หน้าตาน่ารักจังนะคะ แต่ไม่รู้ว่าพ่อของเด็กจะรับไหม”
“หุบปากของแกไปเลย ไม่พูดไม่มีใครบอกว่าแกเป็นใบ้หรอก ปากแกนี่พูดสิ่งดีๆ ไม่ได้ใช่ไหม” เจ้าอิงดุเสียงใส่ ก่อนที่หลานชายจะร้องไห้ออกมา “ไม่ร้องนะคนเก่งของแม่” เธอปลอบเด็กชายอย่างอ่อนโยน
“หึ…ก็เพียงพูดจริง ผู้ชายแบบนั้น จะมาเป็นพ่อคนได้เหรอ” เพียงใจสะบัดใบหน้าที่แต่งเอาไว้อย่างสวยงามเชิดใส่พี่สาวคนโต ก่อนที่เธอนั้นจะเดินขึ้นไปบนห้อง
“ที่มาบ้าน เพราะทะเลาะกับผัวมาสินะ” เจ้าอิงตะโกนไล่หลัง “ผัวแกดีตายแหละ แม่นี่ก็ภูมิใจจังนะ ไม่ดูสภาพแกเลย ทนให้มันทำร้ายอยู่ทำไม บ้านก็มีให้กลับ รีบๆ หย่าๆ ไปซะเถอะ ไม่ตายก็หายใหม่ได้ผัวนะ”
“พี่หาผัวให้ได้ก่อนเถอะ ค่อยมาสอนฉัน” เพียงใจหันหน้ามาตอกกลับ ก่อนที่จะได้ยินเสียงกระแทกเท้าขึ้นไปด้านบน
“พี่ก็นะ เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” เจ้าเอยเอ่ยขึ้น พร้อมกับเขย่าขวดนมในมือของตัวเอง “เพียงก็พูดถูก เราไม่รู้ว่าเขาจะรับรอยส์หรือเปล่า เพราะแบบนี้เอยถึงไม่อยากให้เขามาเจอลูก บางครั้งการที่ไม่ต้องเจอกันมันอาจสร้างบาดแผลให้เอยกับลูกน้อยลงหน่อย”
“เอยไม่อยากเจอเขาจริงๆ ใช่ไหม” เจ้าอิงถามน้องสาวขึ้น พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของหลานชาย “เราหนีกันไหม ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ พี่จะช่วยเอยเลี้ยงลูกเอง พี่จะเป็นพ่อให้รอยส์เอง”
“เอยกลับไทยมาแล้ว ไม่อยากทำให้พี่อิงต้องมาลำบากด้วย อะไรมันจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะค่ะ นี้จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เอยจะทำตามที่แม่บอก ถ้าต้องแต่งกันจริงๆ เอยเชื่อว่าเขาคงทนอยู่กับเอยและลูกได้ไม่นานหรอกค่ะ ค่อยหย่าหลังจากนั้นก็ได้”
“เอย….” พี่สาวจ้องมองด้วยความเป็นห่วง ความรู้สึกแบบนี้เธอเข้าใจน้องสาวเป็นอย่างดี “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ก็จะอยู่ข้างเอยนะ”
“ค่ะ”
คลับ
ร่างสูงใหญ่ของเพทายก้าวเดินเข้ามาภายในคลับแห่งหนึ่ง บัตรสีทองวีวีไอพี ถูกยื่นไปด้านหน้าให้การ์ดที่ยืนอยู่ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี พร้อมกับนำทางมายังห้องโถงใหญ่ ที่กำลังครึกครื้นไปด้วยเสียงเพลงดังที่เข้าจังหวะ
หญิงสาวมากมายไม่น้อยไปกว่าชายหนุ่มที่เป็นนักท่องราตรี ร่างอรชรที่นุ่งน้อยห่มน้อยกำลังออกลวดลายอยู่กับเสาเหล็กอันแข็งแรงสามารถดึงดูสายตาของแขกที่มาเที่ยวในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี
“คุณทอยสวัสดีครับ วันนี้จะรับบริการพิเศษไหมครับ” เสียงผู้จัดการหนุ่มที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น พร้อมกับยื่นไอแพดมาตรงหน้าของเขา
“บริการพิเศษอะไร ผมลองมาหมดแล้ว มีแบบใหม่บ้างไหม?”
“มีครับ แต่ผมไม่แน่ใจ รอผมสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มเดินหายไปไม่นาน เขาเดินเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มประจำที่เพทายชอบดื่ม พร้อมกับหญิงสาวใบหน้าสวยที่แววตาดูใสซื่อไม่เหมือนหญิงสาวที่จะทำงานทางด้านหนี้
เพทายมองเธอด้วยสายตาสนใจ เขาอยากรู้เหลือเกินว่าสิ่งที่ตามองเห็นอยู่ตอนนี้ จะแตกต่างกันมากเพียงใดถ้าหากได้เชยชมเธอ แล้วภายในห้องเหลือเพียงเขาและเธอเพียงเท่านั้น
หญิงสาวเดินเข้ามานั่งด้านข้างของชายหนุ่ม เธอเทเหล้าราคาแพงลงไปในแก้วของเขา ก่อนที่จะหยิบมันส่งให้ด้วยความเอาอกเอาใจ
“เท่าไหร่” เสียงทุ้มต่ำถามขึ้น มือข้างหนึ่งบีบลงที่ปลายคางของเธอ
“แล้วแต่คุณชายจะให้หนูค่ะ”
เพทายเอามืออีกข้างบีบลงที่หน้าอกอวบใหญ่คู่งามที่อยู่ตรงหน้า แต่เสียดายว่ามันไม่ได้มาจากธรรมชาติ แต่ก็ถือว่าดึงดูดใจผู้ชายที่ได้มองเห็น แรงบีบเคล้นเริ่มหนักมากยิ่งขึ้น
หญิงสาวตรงหน้าค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาหาเขาช้าๆ แววตาที่ใสซื่อในตอนแรก กำลังเปลี่ยนเป็นแม่เสือสาวที่กำลังหิวกระหายเหยื่อตรงหน้า เธอจะรู้ไหมว่าสายตาที่มองมาที่เขา เพทายไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด
“สดได้นะคะ แต่หนูขอเพิ่มอีกหน่อย” เธอเอ่ยเสียงหวานหวังจะแนบริมฝีปากลงมาหาเขา แต่เพทายกลับเบือนหน้าหนี
เขาไม่ชอบสัมผัสแบบนี้ มันดูลึกซึ้งเกินไป และเขาก็ไม่ได้มอบจูบให้ใครพร่ำเพรื่อการมีเซ็กส์กับหญิงสาวขายบริการ ไม่จำเป็นต้องใช้ริมฝีปากให้เสียเปล่า เหมือนว่าเธอจะรู้ว่าเขาไม่อยากให้สัมผัส จึงทำได้เพียงเอามือลูบไปที่เป้ากางเกงสีดำที่มันตึงแน่นเพราะความใหญ่โตที่อยู่ด้านใน
“ฉันไม่ชอบเสียบสด แต่ถ้าของสดก็ว่าไปอีกอย่าง” เขาเอ่ยพร้อมยิ้มมุมปาก ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกผลักลงไปนอนที่โซฟา
ห้องวีวีไอพีที่แยกออกมาเป็นห้องส่วนตัว จะไม่มีพนักงานคนใดเดินเข้ามาภายในห้องนี้ ถ้าหากว่าแขกไม่ได้เรียกใช้บริการ เพทายจะทำอะไรก็ได้ เพราะเขาจ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อมาใช้บริการนี้โดยเฉพาะ
“ชอบแบบไหนคะ” เธอยิ้มหวานพร้อมกับปลดเข็มขัดหนังสีดำ ออกจากเอวของเขา
เพทายลุกขึ้นนั่งในท่าเดิม ร่างกายช่วงล่างไร้ซึ่งสิ่งปกปิด เขาเอามือทั้งสองข้างพาดยาวไปตามโซฟาพร้อมกับใช้สายตาออกคำสั่งให้เธอ ทำตามสิ่งที่ต้องการในทันที
...............,,,,,
ซีรี่ย์เล่ห์รักร้าย มาครบทุกภาคแล้วนะคะ
ไปตามอ่านกันได้นะคะ
??????????